ขออนุญาตเปลี่ยนชื่อกระทู้นะคะ พอดีมีคนแนะนำเข้ามา น่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่ได้เข้ามาอ่านมากกว่า
   
       เปลี่ยนจาก " ชีวิตกู ก็แบบนี้แหละ"  มาเป็น

        "แรงงานไทยในเกาหลีผ่านระบบ eps thailand"

       ปกติแล้วการทำงานเกษตร
ตามสัญญาจ้าง จะทำงานวันละ 8 ชม. ปกติคือเข้างาน 08.00-17.00น และหยุดสัปดาห์ละ 1 วัน แต่กฎหมายสามารถยืดหยุ่นได้ตามสภาพอากาศ ฤดูกาล และการเจริญเติบโตของผลผลิต

       ก็คือ เราอาจจะได้ทำงานมากกว่าวันละ 
8 ชม. โดยที่ไม่ได้รับโอที แต่ถ้าหากทำงานในวันหยุด หรือวันหยุดราชการก็จะได้รับเงิน แต่จะได้รับเงินเท่ากับค่าแรงในวันปกติ ไม่มีบวกเพิ่ม 

      ถ้าเปรียบเทียบงานเกษตร กับงานโรงงาน
อุตสาหกรรม งานโรงงานจะค่อนข้างดีกว่า ทั้งที่พัก สวัสดิการต่างๆ เงินสะสม วันหยุด มีเงินOT  ดังนั้นการทำงานโรงงานอุตสาหกรรมการเเข่งขันเลยสูง รอคิวนานกว่า การสมัครมาทำงานเกษตรจึงได้บินไวกว่า

      การทำงานสวนใหม่ เข้างานตั้งแต่ หกโมงเช้า เลิกหกโมงเย็น ไม่มีOT ให้ ทำงานทุกอย่างที่ไม่ใช่แค่เก็บผัก มีวันหยุดแค่ เดือนละ 2 วัน หรือบางเดือนได้หยุดแค่ วันเดียว

      ทำงานทุกอย่าง ตั้งแต่รื้อแปลง ขุดดิน ปั่นฟางข้าว รื้อโรงเรือน ซ่อมโรงเรือน โรยปุ๋ยหมัก (มูลวัว, มูลไก่) ตากฝน คลุกขี้โคลน ชวิตมีรสชาติ!! เหมาะกับคำว่าใช้แรงงาน ที่สุดในชีวิตเลย ณ ตอนนั้น
 
      ปกติเวลาทำงานเหนื่อย เรากับเพื่อนจะวางแพลน หาที่เที่ยวในวันหยุด พอเติมพลังได้บ้าง
แต่ช่วงนั้นมีโควิดระบาด นายจ้างเลยสั่งห้ามออกไปข้างนอกถ้าไม่จำเป็น 
  
     ช่วงนั้นค่อนข้างเครียดมาก เพราะใช้แรงงานเกินเงินเดือน แถมมีโควิด ออกไปเที่ยวไหนก็ไม่ได้ ผัวเมีย ผีน้อย ก็จะย้ายงาน เพื่อนที่สอบมาด้วยกันก็จะย้ายออกไปอยู่กับแฟนเกาหลี
 
     ตัวเองก็เลยต้องหาทางไป เพราะถ้าเหลือผู้หญิงตัวคนเดียว ค่อนข้างอันตราย รอบข้างไม่มีบ้านคน บ้านพักมีประตูแต่ล็อกไม่ได้ ล็อกได้แค่เฉพาะห้องนอน ซึ่งกุญแจก็อยู่กับนายจ้าง

     แต่ก็มีเรื่องหนึ่งที่น่ายินดีนะ คือเพื่อนได้แฟนเกาหลี!!! เจอกันจากแอพ kakao talk จริงๆนางก็เล่นมาสักพักแล้วแหละ และก็คุยกับหลายคนแต่พอเขานัดเจอ ก็ไม่กล้าไปเจอเพราะกลัวโดนหลอก แล้วก็อยู่ต่างประเทศด้วย ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะลำบาก

     นายจ้างที่สวนเก่าก็เตือนให้ระวัง บอกว่าคนเกาหลีก็มีทั้งดี และก็ไม่ดี ส่วนใหญ่ไม่ดีก็เยอะ
คุยได้แต่อย่าออกไปเจอดีกว่า ก็โอเคจบแค่คุยๆ

      พอย้ายมาทำงานสวนใหม่ เวลากินข้าวพร้อมกันก็จะมีการเม้าท์มอยแลกเปลี่ยนข่าวสารกัน อ่อ ที่บังเอิญอย่างหนึ่งคือ พวกเราผู้หญิงสามคน อายุ เท่ากันหมดเลย เลยทำให้เราสนิทกันไว

     คุยกันไปมา มาจบที่ เพื่อนปรึกษาว่าตอนนี้คุยกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ ท่าทางไว้ใจได้ เขานัดออกไปเจอ ควรจะไปดีไหม กลัวก็กลัวอยากไปก็อยากไป 

     เพื่อนอีกคน ที่เป็นผีน้อย ออกความคิดเห็นว่า ลองออกไปเจอดูสิ นัดเจอสถานที่คนเยอะๆ ไปกันทั้งสามคนเลย ยังไงเขามาคนเดียวเราก็เยอะกว่า เจอกัน กินข้าวเสร็จ ไม่ไปต่อ เราแยกย้ายกลับบ้านรับรองปลอดภัย 

      ทุกคน ครุ่นคิดอยู่สักพัก ก็ได้ข้อสรุปว่า
โอเคตกลงตามนั้น ส่วนเพื่อนเราก็ไปดิวกับผู้ชาย นัดวันเวลาเรียบร้อย

      และแล้ววันนัดก็มาถึง เป็นวันหยุดของพวกเราเอง แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น!! นางผีน้อย ผัวนางไม่ให้ไป เรากับเพื่อนเลยจำใจต้องไปกันแค่ 2 คน จริงๆเราก็ไม่อยากไปหรอก แต่เพื่อนมันดันทุรัง จะไป ก็ไม่กล้าปล่อยมันไปคนเดียว

      เรากลัวเลยย้ำกับมันว่าแค่กินข้าวแล้วกลับเลยนะ เขาชวนไปไหนก็ห้ามไปต่อ ห้ามขึ้นรถกับเขา ให้นั่งรถเมล์กลับ มันก็ตกลงตามนั้น

      เรานัดเจอกันที่ถนนคนเดิน ย่านช็อปปิ้ง
วัยรุ่น มีทั้งเกาหลีแหละต่างชาติ คนพลุกพล่าน ไม่น่ากลัว นัดเจอ บ่าย 2 ที่ร้านอาหารไทย ที่เลือกร้านไทย เพราะมีแต่คนไทย เผื่อฉุกเฉินจะได้ขอความช่วยเหลือ

      เจอกันครั้งแรก ก็ดูโอเคไม่แย่ เขาขับรถมา การแต่งตัวก็สะอาดสะอ้านดี เขาอายุ สี่สิบกว่า แต่เพื่อนเราอายุ 27 อายุค่อนข้างห่าง เขายังไม่เคยแต่งงาน มีบ้าน มีรถ ทำงานในบริษัทรับเหมาก่อสร้าง

      ไม่ได้รวย ระดับกลางๆพอกินพอใช้ เขาอยากได้แฟนคนไทย ชอบอาหารไทย วัฒนธรรมไทย เคยไปเที่ยวไทยหลายที่ คือชอบทุกอย่างที่เป็นไทย

       คุยกันลงรายละเอียดได้ไม่เยอะ เพราะภาษาเกาหลีพวกเราไม่แข็งแรง เท่าๆที่คุยก็ดีไม่มีพิษภัย แต่จะตัดสินตั้งแต่ครั้งแรกไม่ได้
ต้องดูๆกันไปก่อน  กินข้าวเสร็จก็จะแยกย้ายกลับ ผู้ชายเลยอาสา จะขับรถไปส่ง

      กูตอบตกลงก่อนเลยจ้า ทั้งๆที่ย้ำเพื่อนนักหนาว่าให้นั่งรถเมล์กลับ ระหว่างทาง ฝนตกลงมาหนักมาก!! เป็นการนั่งรถที่เกรงที่สุด กลัวเขาพาออกนอกเส้นทาง ตอนนั้นนึกถึง
หน้าพ่อ หน้าแม่ ภาวนา หาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ถึงบ้านปลอดภัย
  
      สรุปก็ถึงบ้านอย่างปลอดภัย แถมผู้ชายยังรู้ที่อยู่แล้วด้วย และบอกว่าครั้งหน้าจะมารับถึงที่ 
พอถึงบ้านก็ประชุมเม้าท์มอยกัน 3 คน ทั้งด่าทั้งบ่นให้นางผีน้อย นางก็ขอโทษ ยกใหญ่
   
      ดูๆแล้วก็น่าจะได้ไปต่อ ดูเพื่อนเราก็เปิดใจ
ผู้ชายก็ดูจะถูกใจเพื่อนเราเหมือนกัน เพราะจะได้แฟนเด็ก เพื่อนก็สเปกไม่สูงเพราะเคยหย่า มาแล้ว โชคดีที่ยังไม่มีลูกด้วยกัน
    
     การทำความรู้จักกัน ของเพื่อนเรา ผู้ชายเกาหลี เรา ผัวเมียผีน้อย และครอบครัวฝั่งผู้ชาย จะสนุกและวุ่นวายแค่ไหน เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังต่อใน ตอนหน้า
     https://ppantip.com/topic/42397137?sc=VwWYYt9