ทริปฉุกเฉินของเรา เราว่าง แต่เพื่อนจะว่างไหม??? อุทัยธานี เมืองนี้อยู่ในใจมานาน แต่ด้วยความที่เราไม่มีรถ การไปเที่ยวอุทัยธานีอาจจะไม่สะดวกนัก ดังนั้นต้องหาเพื่อนที่ขับรถได้ ส่งสัญญาณไป 1 ราย ok แล้ว มีมาเพิ่มอีก 3 ราย ซ่ะงั้น รวมตัวกันได้ 5 คน แต่มีเวลาแค่เสาร์-อาทิตย์ เพราะหน้าที่การงานที่หลากหลายบังคับให้ว่างตรงกันได้เท่านี้

นัดเจอกันแถวรังสิต ล้อหมุน 9 โมง แวะโน่น นี่ นั่น ทำธุระตามทาง กว่าจะถึงจุดหมายแรก “หุบป่าตาด” ก็เกือบบ่าย ที่นั่นมีเจ้าหน้าที่ดูแลตั้งแต่ลานจอดรถ ก่อนจะเข้าเขตชื่นชมป่าเขาเสียค่าธรรมเนียมก่อนคนละ 30 บาท ก่อนเข้าเราสอยกล้วยปิ้งที่ชาวบ้านมาขายเป็นร้านอยู่ด้านหน้าทางเข้า ทางอุทยานจัดที่ทางไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาดมาก ห้องน้ำก็สะอาด  

เข้าหุบเขาเลย ขึ้นบันไดไปไม่ไกล เดินผ่านถ้ำมืดๆ ได้อารมณ์ แล้วเดินออกมาเจอความสว่าง กับสีเขียวของต้นไม้จัดๆ ต้นไม้ที่แปลกตา เหมือนหลุดมาอีกมิติหนึ่ง ชมภาพไปจุกๆ ที่นี่หันไปทางไหนถ่ายภาพสวยหมด แสงสวย 

ถ้ำนี้ถูกค้นพบเมื่อปี 2522 โดยหลวงพ่อทองหยด เจ้าอาวาสวัดถ้ำทอง หลวงพ่อได้ปีนลงไปในหุบเขา พบว่ามีต้นตาดซึ่งเป็นไม้ดึกดำบรรพ์ตระกูลเดียวกับปาล์มอยู่เต็มไปหมด หุบป่าตาดที่เราเดินผ่านถ้ำมืดๆ เข้าไปคือโถงถ้ำขนาดใหญ่ ที่ด้านบนของโถงถ้ำได้ยุบตัวลงมา ทำให้พื้นที่ด้านในมีระบบนิเวศน์ค่อนข้างปิด มีความชุ่มชื้นตลอดทั้งปี ทำให้ต้นตาดเติบโตได้ดี มีพันธุ์ไม้หายากหลายชนิด เช่น เต่าร้าง เปล้า คัดค้าวเล็ก ขนุนดิน เห็ดหลากชนิด เราเดินเข้าไปหุบ อากาศไม่ร้อน ภายในร่มรื่น 

เราเจอ “กิ้งกือมังกรสีชมพู (Shocking Pink Millipede)” ด้วย กิ้งกือสีชมพูเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ของโลกที่ค้นพบในปี 2550 และพบในไทยเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ซึ่งหลังจากได้ประกาศการค้นพบอย่างเป็นทางการ  2551 สถาบัน IISE (International Institute for Species Exploration) ได้ประกาศให้การค้นพบกิ้งกือมังกรสีชมพูดังกล่าวเป็นสุดยอดการค้นพบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่อันดับที่ 3 ของโลก ในปี 2551  (อันดับ 1 เป็นการค้นพบปลากระเบนไฟฟ้าในแอฟริกา อันดับ 2 เป็นการค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์ปากเป็ดอายุ 75 ล้านปี ในสหรัฐฯ) 

ก่อนออกจากหุบป่าตาดเราได้เดินไปให้กำลังใจผู้ประกอบการซื้อของกินติดไม้ติดมือ มาหุบป่าตาด อย่าลืมซื้อลูกตาด (ลูกต๋าว) อบแห้งกลับมาชิมด้วยนะจ๊ะ