สวยจนลืมเวลา Wurzburg

ในวันที่ 3 ของการเดินทางในเยอรมัน ก่อนที่ผมจะเดินทางไปกรีซในวันที่ 16 พ.ย. 66 ผมยังมีเวลาอีก 1 วันในการเที่ยวในเยอรมันและเมืองที่ผมจะไปคือเมือง Wurzburg  ตามคำแนะนำของคุณอากิตติซึ่งบอกว่าต้องไปนะเมืองสวยมาก ผมตื่นแต่เช้าเพราะก่อนนอนได้ดูพยากรอากาศ และดวงยังเข้าข้างผมเพราะตลอด 2 วันที่ผ่านมานั้นเจอแต่เมฆครึ้มและในตกตลอดไม่มีแดดเลย พยาการณ์อากาศบอกว่าที่นั่นจะมีแดดอกตั้งแต่ 9.00 - 15.00 น. หลังจากนั้นจะมีเมฆฝนและฝนตกในเวลา 16.00 น. ผมรีบเดินทางไปตั้งแต่เช้าเพราะอยากจะถ่ายรูปสวยๆกะเขาบ้าง เมือง wurzburg อยู่ห่างจากแฟร้งเฟิร์ต ประมาณ 120 กิโลเมตร เดินทางเพียงชั่วโมงนิดๆเท่านั้น เป็นเมืองที่สวยมากจริงๆ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไมน์  มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญคือ อัลเทอไมน์บรึค (AlteMainbruecke) เป็นสะพานเก่าข้ามแม่น้ำไมน์ สวยงามจนได้ฉายาว่า สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) แห่งเยอรมันนี เป็นสะพานหินทอดข้ามแม่น้ำไมน์ไปยังอีกฝั่ง มีรูปปั้นนักบุญตามราวสะพานเหมือน สะพานชาร์ล ในกรุงปราก เมืองเวิร์ซบวร์กหรือวูร์ซบวร์กตั้งอยู่เรียบแม่น้ำและเนินเขาแห่งนี้ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งในเยอรมนี ด้วยลักษณะของเมืองที่เต็มไปด้วยอาคารและบ้านเรือนในสไตล์บาโร้ก เมื่อเดินข้ามสะพานจะพบกับป้อมมาเรียนแบร์ก (Marienberg Fortress) เดินเลาะไปเรื่อยบนป้อมก็จะไปเจอส่วนที่เรียกว่า Furstengarten Marienberg สวนหลังบ้านของ Earl  ที่ตั้งอยู่บนเชิงเขา ระยะทางจากสะพานอัลเทอไมน์บรึคจนถึงป้อมก็ประมาณ กิโลกว่าๆเป็นทางเดินขึ้นตลอดเดินขึ้นไปก็เรียกได้ว่าหลายเมื้อยเลนทีเดียว แต่บรรยากาศห็สวยจนลืมหนาว ลืมเหนื่อย ลืมเมื่อยเลยทีเดียว เพราะบรรยากาศ สวยมาก มองลงมาจะเห็นเมืองและแม่น้ำสวยมากๆจริงๆ ผมใช้เวลานานพอสมควรเพราะชอบวิว บรรยากาศมากๆ วันนี้เป็นวันที่ฟ้าใสและเมฆสวยที่สุดตั้งแต่เดินทางถึงเยอรมนี เพราะที่ผ่านมาทุกวันฝนตก ผมดูพย่กรณ์อากาศและพบว่าที่นี่จะมีแดดออก ถึงช่วงบ่าย 3 ก็รีบเดินถ่ายรูปเก็บไว้ และก็เป็นไปตามพยากรณ์ คือ พอถึง้วชา 15.00 ฝนก็ตก เลยต้องหาที่หลบฝรเป็นร้านกาแฟ พานแอปเปิ้ลอร่อยมาก บรรยากาศในร้นน่านั่งสบายๆ ผมใช้เวลาคาเฟ่ประมาณ 1 ชั่วโมงรอฝนหยุดก็กลับแฟร้งเฟิร์ต
ปล.ใครไปแฟร้งเฟิร์ต ต้องไปพลาดเมืองนี้นะครับ