ชีวิตของกู ก็แบบนี้แหละ 3

" ไปต่างประเทศครั้งแรกในชีวิต!! ไปทำงานเกาหลีใต้ visa เกษตร ณ ตอนนั้นน่าจะอายุประมาณ 24 ปี  ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเกาหลีเลย และก็ไม่ได้สนใจที่จะออกนอกประเทศด้วย

      แต่ด้วยจังหวะชีวิตทำให้จับพลัดจับผลูมาโผล่ที่เกาหลี   

     กรุ๊ปที่ไปพร้อมกันมีประมาณ 200 กว่าคน ต่างคนต่างมาจากคนล่ะที่ ไม่มีใครรู้จักกัน 
   
     จะมีเจ้าหน้าที่คนไทยพาเดินทางมาเกาหลี พอถึงเกาหลีก็ส่งมอบต่อให้ทางเจ้าหน้าที่ฝั่งเกาหลีดูแลต่อ แล้วเขาก็พาไปที่ศูนย์อบรม และทำการอบรมทั้งหมด 3 วัน มีที่พักและอาหารฟรี

      อบรมเกี่ยวกับ วัฒนธรรมการใช้ชีวิต การเปิดบัญชีธนาคาร, การเสียค่าประกัน, การซื้อซิม, การหักภาษี ประกันสังคม เงินเดือนขั้นต่ำ การทำโอที, และตรวจสุขภาพ

      ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คนไทยคอยแปลให้ วันแรกที่อบรม หิมะตก!! หิมะแรกในชีวิต ตื่นเต้นมากกก และหนาวมากกก   

       วันสุดท้ายของการอบรม นายจ้างจะมารับต้ว โดยเจ้าหน้าที่จะเรียกชื่อ แล้วให้เดินออกมา นายจ้างก็พาขึ้นรถไปเลย ไม่มีพิธีรีตองใดๆทั้งสิ้น

     เราได้ไปกับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง ตอนแรกในหัวคิดว่าที่ฟาร์มคงมีคนเก่าที่เป็นคนไทยคอยสอนงานแหละก็เลยชิวๆไม่กังวลเรื่องภาษา เรากับนายจ้างก็ไม่ได้คุยอะไรกัน

     นอกจากทักทายแนะนำตัว เพราะไม่ได้ภาษา พอมาถึงฟาร์ม พึ่งรู้ว่าคนงานมีแค่เราสองคน กับนายจ้างสองผัวเมีย ซึ่งเป็นเกาหลีแท้ไม่มีเลือดผสม เพราะเป็นธุรกิจเล็กๆแบบครอบครัว

     ในหัวตอนนั้นคือ  "ชิปหายแหละ ภาษาไม่ได้ จะทำงานยังไง" เราเรียนและสอบภาษา มาก็จริง แต่พอมาเจอของจริงคือฟังไม่ออกเลย!!

      กลายเป็นว่าภาษาคือเท่ากับศูนย์ หวังจะพึ่งภาษาอังกฤษแบบ งูๆปลาๆ ของตัวเอง เขาก็ฟังเราไม่ออก อาจจะด้วยสำเนียงไทยจ๋า เจอเกาหลีจ๋า เลยฟังกันไม่รู้เรื่อง

      เลยจบด้วยการใช้แอพแปลภาษา ที่อาจจะแปลออกมามั่วๆบ้าง แต่ก็ต้องขอบคุณเทคโนโลยี ณ ตอนนั้นมาก     
      หลังจากได้พักหนึ่งวัน เราก็ได้เริ่มงาน ก่อนเริ่มงานเขาพาไปซื้อชุดทำงาน เราจ่ายเงินเอง แต่อุปกรณ์การทำงานเขาซื้อให้หมด    

     สวัสดิการเราคือ อุปกรณ์การทำงานฟรี ข้าวฟรี แต่ค่าบ้าน น้ำ ไฟ ไวไฟ ประกันสุขภาพ หักจากเงินเดือน

      บ้านพักเป็นอพาร์ทเม้นท์ มี2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 รับแขก 1ครัว 1 ห้องเก็บของ 1 ระเบียง เรากับเพื่อนพักห้องหนึ่ง นายจ้างพักห้องหนึ่ง ส่วนกลางใช้ด้วยกัน

      ดูดีสะอาดสะอ้าน เราชอบเลยแหละ แต่จะเกรงๆหน่อย เพราะอยู่ด้วยกันกับนายจ้างฝ

      พาทการทำงาน เรากับเพื่อนมี
หน้าที่ เก็บผักใส่กล่อง ผักก็จะมีแบบตัด ถอนทั้งราก และแบบเด็ดใบ มีอยู่ประมาณ 5-6 ชนิด ปลูกวนสลับกันไป ตามสภาพอากาศ

       ส่วนการปลูก ให้น้ำ ให้ปุ๋ย การดูแลรักษา แพ็คกล่องและนำไปขาย  นายจ้างผู้ชายจะเป็นคนรับผิดชอบ เขามีอุปกรณ์เครื่องทุ่นแรงเยอะ เลยสามารถทำคนเดียวได้

     ส่วนหน้าที่เก็บผัก ก็มีเรากับเพื่อน และเมียนายจ้างทำด้วยกัน เขาก็จะทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ฟังดูเหมือนจะไม่มีปัญหา

      แต่!!วุ่นวายมากกว่าจะปรับตัวได้   เขาสั่งซ้าย เราไปขวา เขาสั่งให้ทำแบบนี้ ก็ไปทำอีกแบบหนึ่ง คือยอมรับเลยว่าช่วงแรกๆใช้หลักการเดาอย่างเดียว เพราะจะมานั่งกดแปลภาษาตลอดมันก็ไม่ได้ไง 

      นายจ้างก็ปวดหัวเหมือนกัน เราว่าพวกเขาต้องด่าพวกเราไว้เยอะแน่ๆเลย เดาจากกิริยาท่าทาง แต่โชคดีที่ฟังไม่รู้เรื่อง 

     ตอนนั้นผักมีปัญหาแมลงและโรค จึงต้องใช้ความละเอียดในการคัดมาก งานเรายังทำได้ไม่คล่อง ภาษาก็ฟังไม่รู้เรื่อง เลยจบที่นายจ้างโมโห เทผักเราทิ้งหมดทุกกล่อง แล้วให้คัดใหม่

     ในหัวตอนนั้นคือ "กูมาทำอะไรว่ะเนี่ย ชีวิตกูต้องลำบากขนาดนี้เลยหรือ ศักดิ์ศรีแหละเกียรติ กูอยู่ตรงไหน" ตอนนั้นคิดแบบนี้เลย

   คือการทำงานในเกาหลีค่อนข้างเครียดและกดดัน ต้องเร็วและดี
อยู่ตลอดเวลา เหนื่อยแค่ไหนก็ห้ามดร็อป  

      ข้อดีของการทำงานที่เกาหลีคือ ได้เงินเยอะ ไม่ต้องใช้วุฒิการศึกษา ค่าครองชีพต่ำเมื่อเทียบกับรายรับ หลายๆคนจึงมีเงินเก็บ มีเงินก้อน

     แต่เป็นงานที่ใช้แรงงาน ชั่วโมงการทำงานเยอะ งานหนักถึงหนักมาก สภาพอากาศ หนาวจัด และร้อนจัด เป็นงานที่ไม่มียศ ไม่มีเกียรติ บางคนก็อาจจะโดนดูถูก โดนโกง

      คนเกาหลีก็มีทั้งดี ไม่ดี มีทั้งคนที่ให้เกียรติเเหละคนที่ไม่ให้เกียรติ

      ผู้ชาติเกาหลีที่เหมือนในซีรี่ "บ่มีเด้อหญิง" แต่เท่าที่เราอยู่มาก็เคยเจอมาทุกประเภทแหละ แต่โชคดีที่เราเจอนายจ้างดี เพื่อนร่วมงานก็ดี 

      เรามีลูกพี่ลูกน้องที่ทำงานอยู่ที่นู้น แต่อยู่คนล่ะที่ คอยให้คำปรึกษาการใช้ชีวิต ก็เลยปรับตัวง่ายหน่อย

      ภายใน 3 เดือนเรากับเพื่อนสามารถเดินทางไปเที่ยวเองด้วยรถไฟ รถเมล์ ซื้อของ และเช่าโรงแรมนอนเองได้

     เราทำงานอยู่ต่างจังหวัด ห่างจากกรุงโซล (เมืองหลวง) นั่งรถเมล์ประมาณชั่วโมงกว่า เรากับเพื่อนชอบเที่ยวเหมือนกัน วันหยุดและเทศการต่างๆเราจะแพลน ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ

      เมียนายจ้างเราก็ชอบเที่ยว เขาเลยพาพวกเราไปเที่ยวบ่อยๆ ข้อดีของการเที่ยวกับนายจ้าง คือทุกอย่างฟรี เดินทางด้วยรถส่วนตัว ได้เที่ยวแบบ local กินอาหารพื้นเมือง ได้รู้วัฒธรรมเกาหลีเยอะมาก

      เขาดูแลเหมือนเราเป็นลูกหลานคนหนึ่ง ที่ไหนดีดีเขาพาไป อะไรอร่อย เขาก็พาไปกิน สอนวัฒนธรรมต่างๆ ภาษาเราก็เริ่มพ้ฒนา ขึ้นเรื่อยๆ 

      ทำงานเกษตร ฤดูหนาว จะไม่ได้ทำงานประมาณ 2-3 เดือน เพราะอากาศเย็นจัด ผักเลยไม่โต 

         เรากับเพื่อนเลยขอกลับมาพักที่ไทย 1 เดือน  นายจ้างก็โอเค พวกเราเลยจองตั๋วเครื่องบินผ่านแอพ วันที่กลับไทยนายจ้างก็ไปส่งที่สนามบิน วันกลับจากไทย ก็ไปรอรับที่สนามบิน คือดีมาก

        แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ไว้เราไปต่อกันตอนที่ 4

https://ppantip.com/topic/42393381?sc=iFxs1w1
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่