กินส้มตำ กินยำ เพื่อสุขภาพกันดีกว่า

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ยำเป็นอาหารไทยประเภทเครื่องจิ้มหรืออาหารจานเดียว 

มีลักษณะเป็นอาหารที่มีผักและเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบหลัก ปรุงรสด้วยน้ำยำที่มีรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวาน ยำเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย เพราะมีรสชาติที่อร่อย กลมกล่อม ครบรส อีกทั้งยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูงอีกด้วย
ประโยชน์ของยำ มีดังนี้
ได้รับสารอาหารครบถ้วน ยำเป็นอาหารที่ประกอบไปด้วยผักและเนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นแหล่งของสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น โปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ เป็นต้น
ช่วยเจริญอาหาร ยำมีรสชาติที่อร่อย กลมกล่อม ครบรส จึงช่วยกระตุ้นให้เกิดการหลั่งน้ำย่อย ทำให้เจริญอาหารมากขึ้น
ช่วยย่อยอาหาร ยำมีส่วนผสมของผักและผลไม้ ซึ่งเป็นใยอาหารสูง ช่วยในการย่อยอาหารและขับถ่าย
ช่วยป้องกันโรค ยำมีส่วนผสมของผักและสมุนไพร ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ เป็นต้น

สำหรับข้อควรระวังในการกินยำ คือ ควรเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่และสะอาด ไม่ควรใส่น้ำตาลมากเกินไป เพราะอาจทำให้อ้วนได้ และควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากจนเกินไป
ตัวอย่างประโยชน์ของยำจากส่วนประกอบต่างๆ
ผัก เป็นแหล่งของวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร ที่ช่วยบำรุงร่างกายและระบบต่างๆ ของร่างกาย เช่น ผักคะน้า มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ผักกะหล่ำปลี มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ผักบุ้ง มีวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงสายตา เป็นต้น
เนื้อสัตว์ เป็นแหล่งของโปรตีนที่จำเป็นต่อการสร้างและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย เช่น เนื้อไก่ มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ ปลา มีโอเมก้า 3 สูง ช่วยบำรุงสมองและหัวใจ เป็นต้น
สมุนไพร มีคุณสมบัติทางยา ช่วยรักษาโรคต่างๆ เช่น พริกขี้หนู มีสารแคปไซซิน ช่วยกระตุ้นการหลั่งสารแห่งความสุข ช่วยลดอาการอักเสบ แก้หวัด แก้ปวด เป็นต้น มะนาว มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคหวัด เป็นต้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่