สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ ขั้นตอนการไปเป็นพยาบาลที่ประเทศเยอรมันนีกับเอเจนซี่หนึ่งให้ฟังค่ะ ซึ่งตอนนี้เรามาถึงขั้นตอนที่กำลังจะบินไปทำงานเยอรมันนีค่ะ เดิมทีเราอยากมีโอกาสไปใช้ชีวิตที่เมืองนอกอยู่แล้ว เราก็หาแนวทางที่จะได้ไปทำงานเป็นพยาบาลในต่างประเทศอยู่ ตอนนั้นก็ดูพวกประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก แต่ก็พบว่าราคาที่ต้องจ่ายไปมันแพงซะเหลือเกิน ไม่น่าจะมีเงินพอได้ พ่อแม่ก็ไม่ได้อยากให้ไปซะด้วย เราเลยต้องหาทางที่มันประหยัดค่าใช้จ่ายลง ก็มาเจอเอเจนซี่นำเข้าพยาบาลไทยไปประเทศเยอรมัน ซึ่งแทบจะฟรีเลยแหละ เพราะทางนายจ้างเค้าซัพพอร์ตให้เราตลอดเลย ไม่ว่าจะเป็นค่าเรียนภาษาตั้งแต่A1-B2คือฟรีนะ แต่สำหรับเอเจนซี่นี้ เอาครูเยอรมันมาสอนตั้งแน่B1 แต่ถ้าเราไม่อยากเรียนกับครูของเอเจ้นก็ต้องหาคอร์สเรียนเอง เสียตังค์เองค่ะ แต่ต้องเเจ้งเอเจ้นท์ให้ทราบด้วย ไม่งั้นเค้าจะตามยิกๆๆ กลัวเราไม่เรียนให้ และสำหรับการสอบA1-B1ต้องสอบที่ไทย หรือบางเอเจนซี่บังคับสอบB2ไปเลย เกณฑ์ในการสอบผ่านคือ A1,A2 ฟัง,พูด,อ่าน,เขียน รวมกันต้องเกิน60% และส่วนของB1ขึ้นไปต้อง ผ่าน60%ทุกพาท ค่าสอบก็ฟรีในกรณีสอบครั้งแรก แต่ถ้าสอบตกก็เสียตังค์เองนะคะ นี่แหละคือค่าใช้จ่ายที่เราจะต้องจ่ายเพิ่มเอง และถ้าเราตกB1อยู่บ้างบางทักษะ ก็จะต้องเสียไป ทักษะละ2,700บาท ฟัง,พูด,อ่าน,เขียน ซึ่งเปิดสอบที่สถาบันเกอเธ่ทุกเดือนค่ะ และหลังจากที่เราสอบA2ผ่านทางเอเจนซี่ก็จะขอเอกสารพวกใบปริญญา,ใบประกอบ,ทรานสคริป,ใบรับรองการทำงาน และเอกสารส่วนตัวอื่นๆของเราไปแปลให้ และส่งไปเทียบคุณวุฒิที่เยอรมันนี แล้วเอกสารทุกอย่างรวมถึงเอกสารที่ถูกแปลจะถูกส่งคืนเราหลังจากยื่นวีซ่าเรียบร้อยค่ะ หลังจากนั้นก็เอเจ้นท์ก็เริ่มหารพ.ให้เราเตรียมสัมกับทางโรงพยาบาลซึ่งจะมีทั้งเอกชน รัฐ บ้านพักคนชรา ทั้งนี้เราไม่สามารถเลือกได้ค่ะ ทางเอเจ้นจะบอกเราไว้ตั้งแต่เเรกเราต้องยอมรับไปก่อน ทางนายจ้างจะเป็นคนเลือกเราเอง แล้วก็นัดสัมภาษณ์ทางวิดีโอซูมกันกับเพื่อนๆที่จะไปด้วยกัน ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าเตรียมตัวกันมาดีๆก็ไม่มีปัญหานะคะ หลังจากนั้นเราก็มีหน้าที่ไปสอบภาษาเยอรมันกับเกอเท่ ให้ได้B1เพื่อนำมาใช้ขอวีซ่า +ผลเทียบคุณวุฒิจากกรมแรงงานของทางเยอรมันนี ในส่วนของเราซึ่งเราทำงานมาประมาณ6ปี ผลคือต้องฝึกงานอีก5เดือนค่ะ พอไปถึงที่นู่นต้องสอบผ่านระดับภาษาให้ได้B2 และเมื่อฝึกงานเสร็จก็ไปสอบใบประกอบกับทางคณะกรรมการที่โรงพยาบาลจัดให้มาสอบ ซึ่งจะมีสิทธิ์สอบได้ไม่เกิน2ครั้งค่ะ
และในระหว่างฝึกงานนี้ เราจะได้เงินเดือน ประมาณ2,300-2,500ยูโร ทำในตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาลไปก่อนนะคะ เพราะยังไม่มีใบประกอบวิชาชีพ วีซ่าตอนนี้จะเป็นวีซ่าประเภทDมีอายุให้1ปี แต่ถ้าหลังจากสอบB2+ฝึกงาน5เดือน+สอบใบประกอบผ่าน=พยาบาลวิชาชีพ เราก็ได้ว่าวีซ่าถาวรค่ะ และต้องติดสัญญาทำงานให้กับทางโรงพยาบาลเจ้าของทุนอีก2ปี เงินเดือนก็จะได้ประมาณ3,000ยูโรค่ะ
#และในที่ผ่านมาบางกระทู้บอกว่ามีเอเจนซี่รับตั้งแต่A2สำหรับพยาบาลนั้น ก็เป็นเรื่องจริงค่ะ แต่รับในช่วงโควิด-19 ระบาดหนักในเยอรมนี พยาบาลที่นั่นขาดคนมาก จนต้องลดมาตรฐานการรับพยาบาลลง จากขั้นต้นขอวีซ่าทำงานB1 เหลือA2 และจากต้องสอบใบประกอบ+B2 เหลือB1บางรัฐ
แต่ในปัจจุบันนี้ทางเยอรมันปรับเกณฑ์กลับเข้าสู่มาตรฐานเดิมแล้วนะคะ ตั้งแต่ ปี2566เป็นต้นมาแล้วค่ะ
ซึ่งจากขั้นตอนทั้งหมดทั้งมวลมีนี้ ไม่มีเสียค่าใช้จ่ายนะคะ รวมถึงตั๋วเดินทางไปเยอรมัน ทางนายจ้างจะซัพพอร์ทเราเองค่ะ ค่าฉีดวัคซีนMeasleค่าตรวจภูมิก็เช่นกัน ต้องฉีดก่อนเข้าประเทศเยอรมันนี ก็ออกค่าใช้จ่ายให้ค่ะ
แชร์ประสบการณ์การไปเป็นพยาบาลจากไทยไปเยอรมนี ผ่านเอเจนซี่หนึ่ง
และในระหว่างฝึกงานนี้ เราจะได้เงินเดือน ประมาณ2,300-2,500ยูโร ทำในตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาลไปก่อนนะคะ เพราะยังไม่มีใบประกอบวิชาชีพ วีซ่าตอนนี้จะเป็นวีซ่าประเภทDมีอายุให้1ปี แต่ถ้าหลังจากสอบB2+ฝึกงาน5เดือน+สอบใบประกอบผ่าน=พยาบาลวิชาชีพ เราก็ได้ว่าวีซ่าถาวรค่ะ และต้องติดสัญญาทำงานให้กับทางโรงพยาบาลเจ้าของทุนอีก2ปี เงินเดือนก็จะได้ประมาณ3,000ยูโรค่ะ
#และในที่ผ่านมาบางกระทู้บอกว่ามีเอเจนซี่รับตั้งแต่A2สำหรับพยาบาลนั้น ก็เป็นเรื่องจริงค่ะ แต่รับในช่วงโควิด-19 ระบาดหนักในเยอรมนี พยาบาลที่นั่นขาดคนมาก จนต้องลดมาตรฐานการรับพยาบาลลง จากขั้นต้นขอวีซ่าทำงานB1 เหลือA2 และจากต้องสอบใบประกอบ+B2 เหลือB1บางรัฐ
แต่ในปัจจุบันนี้ทางเยอรมันปรับเกณฑ์กลับเข้าสู่มาตรฐานเดิมแล้วนะคะ ตั้งแต่ ปี2566เป็นต้นมาแล้วค่ะ
ซึ่งจากขั้นตอนทั้งหมดทั้งมวลมีนี้ ไม่มีเสียค่าใช้จ่ายนะคะ รวมถึงตั๋วเดินทางไปเยอรมัน ทางนายจ้างจะซัพพอร์ทเราเองค่ะ ค่าฉีดวัคซีนMeasleค่าตรวจภูมิก็เช่นกัน ต้องฉีดก่อนเข้าประเทศเยอรมันนี ก็ออกค่าใช้จ่ายให้ค่ะ