ไปเดินมอเตอร์โชว์กับเพื่อนในวันเสาร์หลังจากไม่ได้ไปมาหลายปี ในปีนี้กระแสรถจีนในงานร้อนแรงทุกยี่ห้อคนแน่นแทบทุกบูทโดยเฉพาะ Changan เซลคุยว่ายอดจองรถ DEEPAL ที่ราคาล้านกว่าๆนำมาเป็นอันดับ 1 รถญี่ปุ่นที่ยังมีคนสนใจคือ Toyota และ Honda นอกนั้นเรียกว่าเซลยืนเหงา
เท่าที่ดูต้องบอกว่ารถจีนออกแบบรถทั้งภายนอกภายในมาได้สวยจริงๆ แถมให้ออปชั่นมาเต็มๆ รถราคาล้านนึงมีทอนให้มาทั้งซันรูฟแบบเปิดได้พร้อมม่านบังแดด เบาะคนขับแบบเวลคัมซีท เลื่อนเองให้คนขับเข้าได้สะดวก แถมที่นั่งตอนหลังกว้างขวางนั่งสบายยังกับนั่งอัลพาร์ด ไม่แปลกใจเลยที่จะขายดี
(รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ไทยยี่ห้อ Vapor จาก i-motor )
หลังเดินมอเตอร์โชว์ผมไปกินข้าวกับเพื่อนที่ร้าน The jar ย่านวังหิน ได้คุยกับเพื่อนคนนึงซึ่งทำงานกับบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นได้ความว่า ญี่ปุ่นกว่าจะผลิตรถคันนึงต้องทดสอบความน่าเชื่อถือ ความทนทานของชิ้นส่วนทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ ทดสอบแล้วทดสอบอีกให้แน่ใจ ซึ่งต้องใช้เวลาและต้นทุน เทียบกับคู่แข่งแล้วมันช้า แพง ดูเหมือนว่าไม่ทันกิน เมื่อเทียบกับรถจีนที่เน้นความรวดเร็วและสวยงาม แต่เท่าที่สัมผัสชิ้นส่วนที่ผลิตจากจีนก็มีปัญหาด้านความน่าเชื่อถือและความทนทาน ซึ่งเราจะได้คำตอบชัดเจนก็ต้องใช้เวลาอีกสัก 3-4 ปี
หลังคุยกับเพื่อนส่วนตัวผมมีข้อสรุปดังนี้
1. คงรอดูผลการใช้รถไฟฟ้าและการบริการของศูนย์อีกสัก 3-4 ปี ถึงเวลานั้นค่อยคิดเรื่องซื้อรถไฟฟ้าอีกที
2. ถ้าจะแนะให้ใครซื้อรถไฟฟ้า คงแนะนำให้ซื้อแบรนด์ใหญ่ๆ ที่เน้นทำตลาดจริงจังอย่าง Tesla Benz BM Volvo BYD Changun และ MG
3. อยากให้ตีมูลค่ารถไฟฟ้าเมื่อผ่านไป 10 ปีเป็น 0 ถ้ารับได้ก็ซัอได้
4. รถไฟฟ้าอย่าง Neta V และ Wuling ราคาเท่าอีโคคาร์ ถ้าใช้รถในเมืองเยอะ ก็น่าซื้อใช้ เพราะประหยัดน้ำมันจนเอามาผ่อนรถได้ ใช้ 8 ปีแล้วทิ้งก็คิดว่าคุ้มอยู่นะ ยิ่งช่วงนี้น้องสาวบอกว่า จองรถ Neta V 4,900 บาท ก็ได้รถไปผ่อนได้เลย โดยไม่ต้องมีเงินดาวน์ โปรร้อนแรงจริงๆ
ปล. ส่วนตัวชอบไอเดียรถ Hilux Champ ที่ทำมาให้ดัดแปลงกระบะหลังได้ง่าย แม้ราคาจะสูงกว่าที่คิด แต่ก็พอเข้าใจได้เพราะใช้พื้นฐานเดียวกับ Revo ลดชิ้นส่วนไม่จำเป็นยังไงมันก็ลดได้แต่ชิ้นเล็กไม่สำคัญมาก ก็คงกดราคาลงได้แค่นี้
ยังคุยกับแฟนเล่นๆว่า ตอนเราแก่ลูกทำงานแล้วออกรถ Champ ต่อตู้ 2 ฝั่ง ฝั่งนึงขายกาแฟ น้ำ อีกฝั่งเป็นห้องทำงาน ห้องนอน ทำงานไปเที่ยวไปน่าจะดีนะ
ร้านอาหารต้นเรื่อง The jar
แผนที่ร้าน The jar
#MotorExpo2023
#motorshowthailand
#Motorshow2023
#มอเตอร์โชว์2566
บันทึก #มอเตอร์โชว์2566 #MotorExpo2023
เท่าที่ดูต้องบอกว่ารถจีนออกแบบรถทั้งภายนอกภายในมาได้สวยจริงๆ แถมให้ออปชั่นมาเต็มๆ รถราคาล้านนึงมีทอนให้มาทั้งซันรูฟแบบเปิดได้พร้อมม่านบังแดด เบาะคนขับแบบเวลคัมซีท เลื่อนเองให้คนขับเข้าได้สะดวก แถมที่นั่งตอนหลังกว้างขวางนั่งสบายยังกับนั่งอัลพาร์ด ไม่แปลกใจเลยที่จะขายดี
(รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ไทยยี่ห้อ Vapor จาก i-motor )
หลังเดินมอเตอร์โชว์ผมไปกินข้าวกับเพื่อนที่ร้าน The jar ย่านวังหิน ได้คุยกับเพื่อนคนนึงซึ่งทำงานกับบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นได้ความว่า ญี่ปุ่นกว่าจะผลิตรถคันนึงต้องทดสอบความน่าเชื่อถือ ความทนทานของชิ้นส่วนทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ ทดสอบแล้วทดสอบอีกให้แน่ใจ ซึ่งต้องใช้เวลาและต้นทุน เทียบกับคู่แข่งแล้วมันช้า แพง ดูเหมือนว่าไม่ทันกิน เมื่อเทียบกับรถจีนที่เน้นความรวดเร็วและสวยงาม แต่เท่าที่สัมผัสชิ้นส่วนที่ผลิตจากจีนก็มีปัญหาด้านความน่าเชื่อถือและความทนทาน ซึ่งเราจะได้คำตอบชัดเจนก็ต้องใช้เวลาอีกสัก 3-4 ปี
หลังคุยกับเพื่อนส่วนตัวผมมีข้อสรุปดังนี้
1. คงรอดูผลการใช้รถไฟฟ้าและการบริการของศูนย์อีกสัก 3-4 ปี ถึงเวลานั้นค่อยคิดเรื่องซื้อรถไฟฟ้าอีกที
2. ถ้าจะแนะให้ใครซื้อรถไฟฟ้า คงแนะนำให้ซื้อแบรนด์ใหญ่ๆ ที่เน้นทำตลาดจริงจังอย่าง Tesla Benz BM Volvo BYD Changun และ MG
3. อยากให้ตีมูลค่ารถไฟฟ้าเมื่อผ่านไป 10 ปีเป็น 0 ถ้ารับได้ก็ซัอได้
4. รถไฟฟ้าอย่าง Neta V และ Wuling ราคาเท่าอีโคคาร์ ถ้าใช้รถในเมืองเยอะ ก็น่าซื้อใช้ เพราะประหยัดน้ำมันจนเอามาผ่อนรถได้ ใช้ 8 ปีแล้วทิ้งก็คิดว่าคุ้มอยู่นะ ยิ่งช่วงนี้น้องสาวบอกว่า จองรถ Neta V 4,900 บาท ก็ได้รถไปผ่อนได้เลย โดยไม่ต้องมีเงินดาวน์ โปรร้อนแรงจริงๆ
ปล. ส่วนตัวชอบไอเดียรถ Hilux Champ ที่ทำมาให้ดัดแปลงกระบะหลังได้ง่าย แม้ราคาจะสูงกว่าที่คิด แต่ก็พอเข้าใจได้เพราะใช้พื้นฐานเดียวกับ Revo ลดชิ้นส่วนไม่จำเป็นยังไงมันก็ลดได้แต่ชิ้นเล็กไม่สำคัญมาก ก็คงกดราคาลงได้แค่นี้
ยังคุยกับแฟนเล่นๆว่า ตอนเราแก่ลูกทำงานแล้วออกรถ Champ ต่อตู้ 2 ฝั่ง ฝั่งนึงขายกาแฟ น้ำ อีกฝั่งเป็นห้องทำงาน ห้องนอน ทำงานไปเที่ยวไปน่าจะดีนะ
ร้านอาหารต้นเรื่อง The jar แผนที่ร้าน The jar
#MotorExpo2023
#motorshowthailand
#Motorshow2023
#มอเตอร์โชว์2566