ถือว่าอ่านเรื่องราวของเราพอจอยๆ ก็ได้นะคะ หรือใครจะมารวมตัวกันแชร์ความรู้สึกหรือประสบการณ์แอบชอบคนเก็บตัวกันก็ได้นะคะ
เกริ่นก่อนเลยช่วงนี้เราค่อนข้างสนิทกับเพื่อนคนนึงนามสมมติ ก. ค่ะ เพราะเทอมนี้ได้เรียนด้วยกันหลายวิชา ซึ่งก.มีเพื่อนสนิทคือ ข.  ก่อนหน้านี้ก็เคยเรียนวิชาเดียวกับ ข. นะคะ ได้ทำงานกลุ่มด้วยกันบ่อยๆ ด้วย เราชอบหยอก ข. เล่นค่ะให้เขาบ่นกลับมาเบาๆ จะได้รู้สึกเด็กน้อยนิดหน่อย และใช่แล้วค่ะเราชอบ ข. ค่ะ (⁠≧⁠▽⁠≦⁠) ก็ไม่มีใครรู้เลยค่ะ เพื่อนสนิทเราก็ไม่รู้ ก. ก็ไม่รู้ แต่ชาวพันทิปรู้ซะแล้ว ว้ายยยย ซึ่งเทอมนี้ก็ได้เรียนทั้งกับ ก. และ ข. นั่นแหละค่ะ แต่จะได้เรียนและคุยกับ ก. เยอะกว่า ก็จะได้ถามถึง ข. แล้วสนิทกันขึ้นมาจากเดิมอยู่บ้าง พอดีโรงเรียนเราแบ่งห้องเรียนเยอะมาก แทบจะได้เจอกันทั้งรุ่นนั่นแหละ

ถ้าให้ท้าวความว่าเราชอบ ข. ได้ไงก็คงเริ่มจากตอนที่ได้คุยกับ ข. บ่อยๆ เมื่อสองปีก่อนนั่นแหละค่ะ เรามักจะลงชมรมเดียวกันตลอด ซึ่งก็เป็นชมรมที่อินดี้มากๆ คนในชมรมมีไม่เคยเกิน 5 คน เพราะคือชมรมเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์โลก และพวกก้อนหินประมาณนั้นค่ะ ก็คือมีความชอบอะไรคล้ายๆ กันนั่นแหละ ก็เลยเริ่มสนใจขึ้นมาแรกๆ ก็อยากจะรู้จักเป็นเพื่อนนั่นแหละค่ะ เพราะเขาเก่งมาก แยกประเภทหินได้แม่นสุดๆ เรียกได้ว่าเบียว เขามักจะพูดตรงๆ ค่ะ คิดอะไรก็พูดแบบนั้น ดูเย็นชามาก ขี้บ่น อะไรนิดนิดๆ หน่อยๆ ก็บ่น ไม่ใช่ว่าทำงานหนักแล้วบ่นนะคะ เป็นบ่นแบบเห็นคนทิ้งขยะผิดถังเลยบ่น555 แบบ "เด็กสมัยนี้นี่มัน..." เหมือนคุณแม่เลย ชอบอยู่ตามมุมมืดๆ ตามหลังห้อง เป็นคนหัวดีไม่พอ เล่นกีฬาได้อีก (ตรงนี้แอบอิจฉานางหน่อยๆ แหละ) แต่พอเวลาเพื่อนเขาเป็นอะไรเขาก็เป็นห่วงเพื่อนดีนะคะ อันนี้แอบถาม ก. มา ก็บอก ข. เป็นแบบนี้ปกติเลย (เหมือนคุณแม่จริงๆ 5555) เราก็มักจะแอบถามจาก ก. นั่นแหละว่าเขาเป็นยังไงบ้าง วันนี้ ข. ไปไหนเหรอทำไมไม่เห็นอยู่ด้วยกัน อันนี้ไม่รู้ ก. จะจับสังเกตไหม แต่คงไม่คิดอะไรหรอก (มั้งนะ) เพราะอยู่ๆ วันนี้ ก. ก็เชียร์ให้เข้าไปทัก ข. ที่นั่งอยู่คนเดียว(อีกแล้ว) หรือแกจะรู้แล้วอะ ก. อ้ากกก ไม่เป็นไรนะ อย่าบอก ข. ก็พอ(⁠*⁠﹏⁠*⁠;⁠)

ถ้าถามว่าหน้าตาเขาพอจะตรงสเปกเราบ้างไหมก็ตรงแหละ ไม่มีไรมากก็แค่ขอหน้าตาไปวัดไปวาได้ ใส่แว่น เนิ้ดๆ สูง ผิวแทน นอกจากเรื่องขี้บ่นก็ถือว่าเป็นคนนุ่มนๆ นิ่มๆ เล่นกับตุ๊กตาเราน่ารักมาก จิ้มๆ เบาๆ (เพราะคนอื่นต่อยเลย5555) และมีข้อดีหลายอย่างเลยค่ะ ถ้าขอให้ช่วยอะไร รับปากแล้วก็ทำได้หมด ตอนเขาไปรด. เรารู้ว่าข้างศูนย์ฝึกมี 7-11 (รร. เราเป็น รร.ประจำที่อยู่ในป่า ไม่มี 7-11ล่ะ 😭 ของกินหมดก็คือต้องรอรอบซื้อของที่ต้องแย่งกันลงชื่อไปครั้งละไม่กี่คน) ตอนไปรับของหลังจากเขากลับมาจากรด.เขาบอกให้หยิบจากกระเป๋าเขาเองได้เลย ซึ่งในกระเป๋านั้นก็มีแต่ของที่เราฝาก รู้สึกผิดเลยอ่าาาา เหมือน ข. ไม่ได้กินขนม แต่เขาก็ยังอุตส่าห์ซื้อมาให้ตามคำรับปาก แล้วไม่มีของๆ เขาเลย (หรือเขาไม่กินขนมนะ สงสัยต้องแอบถาม ก. อีก 5555) เขาเคยช่วยเรื่องเล่นกีฬาด้วย โดยรวมก็ถือว่าเขาใจดีมากเลยล่ะ เหมือนขอความช่วยเหลือจากเขาอยู่ฝ่ายเดียวเลยอะ

ครูมักจะให้ทำกิจกรรมนั่งล้อมวงคุยกันตามหัวข้อที่ครูหามาให้ ซึ่งตอนนั้นตรงกับสัปดาห์วาเลนไทน์ เลยคุยกันเรื่องความรัก โดยครูจะสุ่มคนขึ้นมาหน้าห้องแล้ว ให้เพื่อนทั้งห้องถามได้คนละ 2 คำถาม โดยมีกฏว่าห้ามพาดพิงถึงบุคคลที่ 3 (ทุกคนจะให้ความร่วมมือกันดีมากไม่มีการพาดพิงคนเก่าหรือเซ้าซี้ถามสถานะกับคนใหม่ของใครทั้งสิ้น เรียกว่าเป็นการเปิดอกคุยกันแบบน่ารักมาก อยากให้ทุกโรงเรียนมีการหาหัวข้อมาสนทนากันแบบบ้างนะคะ) คนอื่นๆ ก็มักจะตอบกันตามตรงนั่นแหละค่ะ ใครเคยมีแฟนก็จะได้คำถามแบบว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการที่เคยมีแฟนประมาณนั่น พอถึงตา ข. โดนถามบ้าง มีเพื่อนถามว่าคนนิ่งๆ แบบ ข. เคยชอบใครบ้างไหม ข. ก็ตอบว่าไม่เคยชอบใครเลย มองว่าการมีแฟนตอน ม.ปลายเนี่ย มันไร้สาระสำหรับเขา (เฮือก! พ่อคนเย็นชา พี่แกก็ความคิดโตเกิ๊น)

นั่นแหละค่ะเลยเป็นที่มาว่าอยากรู้ว่าถ้าชอบคนเก็บตัวขนาดนี้ ต้องทำยังไงคะ และเราก็ไม่กล้าบอกให้เพื่อนรู้ด้วย ไม่กล้าปรึกษาเพื่อน หันมาปรึกษาชาวพันทิป ก็คิดว่าจะเป็นเพื่อนกันแบบนี้ไปก่อนค่ะ มันต้องมีสักวันแหละที่เขาเปิดใจบ้าง หรืออาจจะเป็นตอนมหาลัยไปเลยนะ พยายามไม่ให้ติดเฟรนโซน เพราะมันออกยากแหละ แต่ก็หวงนะไม่อยากให้ใครเจอมุมน่ารักของเขาเยอะเลย ฟังดูเห็นแก่ตัวจัง ว้าวุ่นอยู่ค่ะ ก็เราชอบเขานี่ ชอบคิดไปเองฝ่ายเดียวด้วยสิ🥺 ช่วยกันปลอบๆ ก็ได้น้า แต่อย่าบอกให้ตัดใจล่ะ ยังไม่ยอมตัดใจง่ายๆ หรอกนะ