รู้สึกว่าชีวิตไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลยไม่ทะเยอทะยาน แก้ความคิดนี้ยังไงดีคะ

เราหมดแพชชั่นในชีวิตมากค่ะ รู้สึกไม่ทะเยอทะยาน ไม่อยากพยายามอะไรต่อ เพราะรู้สึกชีวิตก็มีความสุขดีอยู่แล้ว อย่างนี้ควรปรับความคิดไหมคะ?

ตอนนี้เราเรียนอยู่ปีหนึ่งค่ะ แล้วล่าสุดเพิ่งไปค้นเจอสมุดโน้ตที่เขียนไว้ตอนมัธยมต้น เป็นสมุดที่เขียนความปรารถนาต่างๆในชีวิตไว้ แล้วพอมาตอนนี้ เราก็เห็นว่าความปรารถนาทุกอย่างที่เราเคยต้องการมันเกิดขึ้นจริงแล้ว ขอยกตัวอย่างนะคะ เช่น อยากเลี้ยงหมา ก็ได้เลี้ยงแล้ว อยากอยู่ในห้องนอนที่ใหญ่ขึ้น ก็ได้ย้ายบ้าน อยากไปอังกฤษ ก็ได้ไปแล้ว อยากติดมอดังคณะที่มีคนเยอะมากๆในประเทศไทยอยากเข้า ก็ติดแล้ว รู้สึกว่าความฝันเป็นจริงหมดแล้วเลยเริ่มหมดความทะเยอทะยานค่ะ

จริงๆที่ผ่านมาชีวิตเคยเจอเรื่องแย่ๆหนักมากๆมาจนเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ เคยมีช่วงนึงที่วันๆอยากตายอย่างเดียวไม่เป็นอันทำงานทำการ แต่พอพยายามฮึบสู้ต่อสู้กับโรคดู ก็ทำอะไรดีๆหลายอย่าง แล้วตอนนี้ก็บรรลุความฝันไปหลายข้อ แล้วก็ไม่ได้อยากตายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว รู้สึกว่าชีวิตมีความสุข

แต่ก็กลายเป็นว่าหมดแพชชั่นแทนค่ะ เหมือนอยู่ในจุดอิ่มตัวแล้ว เลยไม่มีแรงบันดาลใจทำอะไรสร้างสรรค์ในชีวิตต่อค่ะ ขออธิบายก่อนว่าไม่ได้อยากตายแล้วนะคะ ตอนนี้มีความสุขดีทุกอย่าง แต่ก็หมดกำลังใจในการตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงานพิเศษไรงี้ค่ะ เพราะรู้สึกว่าจริงๆอะไรที่ตัวเองต้องการก็ได้มาหมดแล้วต่อให้วันๆหลังจากนี้เอาแต่เล่นโทรศัพท์หรือดูซีรี่ย์ก็ไม่เป็นไร อะไรงี้ค่ะ คือคิดตลอดว่าตอนนี้มีความสุขดีอย่างน้อยก็ยังอยากมีลมหายใจ ขอแค่มีลมหายใจได้เอ็นจอยชีวิตอย่างอื่นค่อยว่ากัน

แล้วล่าสุดก็ขี้เกียจจนได้เกรดFไปสองตัวที่มอค่ะ แต่ก็รู้สึกว่าก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ถ้าตกก็แค่ลงใหม่อีกรอบ อะไรงี้ค่ะ คือมันเป็นตรรกะที่น่ากลัวมากค่ะ แต่ก็คิดงี้จริงๆ แล้วพ่อแม่ก็ไม่เคยกดดันอะไรเลยค่ะ ตามใจมาก เพื่อนๆก็รักแล้วก็สนับสนุนเราดีมาก จนเราขี้เกียจแล้วก็ปล่อยใจค่ะ เพราะคิดว่ายังไงต่อให้เราเละ เพื่อนกับพ่อแม่ก็ยังอยู่เคียงข้าง อย่างนี้ควรแก้ไหมคะ หรือว่าปล่อยเลยตามเลยดี หรือมีวิธีแก้ชุดความคิดไหมคะ เราก็รู้ตัวระดับนึง แต่ก็ยังหยุดขี้เกียจไม่ได้เลยค่ะ หรือถ้าใครมีหนังสือหรือพอดแคสต์ดีๆมาแนะนำได้นะคะ คือเราก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าจะเอาไงต่อ😭😭😭
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่