สวัสดีทุกคนค่ะ กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่อชวนคุย+ระบาย เพราะเรื่องราวยังสดใหม่ เรารู้ทางแก้ปัญหาและวิธีดูแลสภาพจิตใจนะ แต่คงต้องใช้เวลา
ใจความสำคัญของเรื่องนี้คือ เราเป็นพนักงานบริษัทต่างชาติที่มาลงทุนในไทย หน้าที่งานคือออกแบบกราฟฟิกตามสั่งให้ลูกค้า ซึ่งตำแหน่งนี้มีพนักงานทำร่วมกันอยู่หลายคน หลังช่วงโควิดมาบริษัทก็ให้ทำงานที่บ้าน นานๆเข้าออฟฟิศที ปกติจะกระจายงานกันไปค่ะ แต่พักหลังๆมา งานถูกส่งมาให้เรามากขึ้น ค่าตอบแทนที่ได้รับ+คำชมจากลูกค้าเลยตามมาจำนวนหนึ่ง
อาจเพราะได้รับมามากกว่าคนอื่น เพื่อนร่วมงานหลายคนจึงเริ่มตึงกับเรา โดยเฉพาะพี่ดีไซเนอร์อาวุโสที่ค่อนข้างกว้างขวางมากในทีม ซึ่งเราก็พยายามบอกบอสว่าให้กระจายงาน เราไม่อยากมีปัญหากับใครทั้งสิ้น แต่บอสบอกว่าลูกค้าเขาเลือกเอง เราเลยพูดอะไรอีกไม่ได้ และตอนนั้นในกลุ่มจะมีกราฟฟิกน้องใหม่เป็นผู้ชายออกแนวเนิร์ดๆ เขาแสดงออกว่านับถือและรักเราเหมือนพี่สาว แรกๆเราก็เอ็นดูเขา แต่รู้สึกได้ว่าตั้งแต่น้องเขาเริ่มมาคุยกับเราบ่อยขึ้น พี่อาวุโสท่านนั้นก็ตึงกับเรามากกว่าเดิม จนถึงขั้นเอาเราไปนินทา+พูดกับเราน้อยลงจนเห็นได้ชัด
ต่อมาน้องก็ถูกดึงตัวไปเข้าก๊วนพี่ๆเขาและไม่คุยกับเราอีก เราก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะต่างคนต่างทำงาน คบกับเพื่อนที่สนิทไปตามปกติ ต่อมาพบว่าเขาไปตั้งกลุ่มแชทนินทาเราในเรื่องที่ไม่จริง เนื้อหาการนินทาก็คือเขามาส่องเฟสบุ๊คเรา แล้วสรุปกันเอาเองว่าเราพยายามสร้างภาพเป็นคุณหนู เป็นมิจฉาชีพหลอกเงินผู้ชาย ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่เลย แม้ไม่รวยแต่เราก็มีเงินใช้จ่ายไม่เดือดร้อน และเราแทบไม่อัพเดทเฟสบุ๊คด้วยซ้ำเพราะไม่มีเวลาเล่น ไม่รู้ว่าเขาไปเอาข้อมูลมาจากไหน ทราบภายหลังว่าพี่ผู้หญิงอาวุโสแผนกคือคนที่ปล่อยข่าว
พอเรารู้แบบนั้น เราก็บอกเพื่อนว่าช่างเขาและไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่จู่ๆก็มีเพื่อนร่วมงานไปเห็นว่าเราถูกแขวนประจานในเฟสบุ๊คนิรนาม ใส่ชื่อสกุลเราแล้วใส่ความว่าเป็นคนลวงโลก เป็นมิจฉาชีพหลอกเงินผู้ชายตามคำนินทาในกรุ๊ปไลน์นั้น เราก็เลยเก็บหลักฐานไปแจ้งความ แล้วมีคนร้อนตัวซึ่งก็คือน้องผู้ชายคนที่ว่า เอาร่างอวตารมาขอโทษ ขอร้องไม่ให้เราดำเนินคดี พิมพ์ยาวเหยียดข้ามวันข้ามคืนจนเราต้องลบแอปเฟสบุ๊คและปิดเครื่อง เนื่องจากช่วงนี้งานเยอะมากๆค่ะ เราไม่อยากมีอะไรมากวนใจ เพราะกลัวว่าจะทำงานได้ไม่เต็มที่
ต่อมาบอสทราบเรื่องจากหมายเรียก น้องผู้ชายก็ถูกไล่ออกจากงาน เพื่อนร่วมงานแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งข้างเรา ฝ่ายหนึ่งข้างพี่อาวุโสและน้องคนที่ว่า ซึ่งพอเราตอบน้องไปเมื่อวันก่อนว่าไม่มีการยอมความ+จะดำเนินคดีถึงที่สุด น้องก็บอกทุกคนว่าจะคิดสั้น ใช้คำพูดน่าสงสารจนเราถูกเพื่อนร่วมงานมองว่ารังแกเด็ก รวมไปถึงพี่อาวุโสและคนกลุ่มนั้นก็รุมโพสต์แซะเรา หาว่ารับบทเหยื่อบ้าง ว่าเรารังแกคนไม่มีทางสู้บ้าง หนักสุดคือกล่าวหาว่าเราวางแผนให้น้องเดินมาตกหลุม ซึ่งเราและเพื่อนๆงงมากค่ะ ว่าเขาเอาชุดความคิดนี้มาจากไหน
สรุปว่า ตอนนี้เราก็ยังไม่ใจอ่อน และอยู่ในขั้นตอนการดำเนินคดี ที่มาคุยเพราะเราเหนื่อยกับแรงกดดันจากคนกลุ่มนั้น เราอยู่ของเราดีๆเขาก็กุเรื่องมาทำลายชื่อเสียงเรา จึงมาตั้งกระทู้ระบายเพราะไม่กล้าคุยกับใครเกรงว่าจะถูกเอาไปแปลงสาร เรารู้วิธีรับมือและทำใจค่ะ แต่เรื่องยังใหม่จึงว้าวุ่น ทุกคนช่วยเป็นกำลังใจให้เราผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้ด้วยนะคะ
ระบายเรื่องโดนกลั่นแกล้งในเฟสบุ๊ค ช่วยรับฟังและเป็นเพื่อนคุยกันหน่อยนะ
ใจความสำคัญของเรื่องนี้คือ เราเป็นพนักงานบริษัทต่างชาติที่มาลงทุนในไทย หน้าที่งานคือออกแบบกราฟฟิกตามสั่งให้ลูกค้า ซึ่งตำแหน่งนี้มีพนักงานทำร่วมกันอยู่หลายคน หลังช่วงโควิดมาบริษัทก็ให้ทำงานที่บ้าน นานๆเข้าออฟฟิศที ปกติจะกระจายงานกันไปค่ะ แต่พักหลังๆมา งานถูกส่งมาให้เรามากขึ้น ค่าตอบแทนที่ได้รับ+คำชมจากลูกค้าเลยตามมาจำนวนหนึ่ง
อาจเพราะได้รับมามากกว่าคนอื่น เพื่อนร่วมงานหลายคนจึงเริ่มตึงกับเรา โดยเฉพาะพี่ดีไซเนอร์อาวุโสที่ค่อนข้างกว้างขวางมากในทีม ซึ่งเราก็พยายามบอกบอสว่าให้กระจายงาน เราไม่อยากมีปัญหากับใครทั้งสิ้น แต่บอสบอกว่าลูกค้าเขาเลือกเอง เราเลยพูดอะไรอีกไม่ได้ และตอนนั้นในกลุ่มจะมีกราฟฟิกน้องใหม่เป็นผู้ชายออกแนวเนิร์ดๆ เขาแสดงออกว่านับถือและรักเราเหมือนพี่สาว แรกๆเราก็เอ็นดูเขา แต่รู้สึกได้ว่าตั้งแต่น้องเขาเริ่มมาคุยกับเราบ่อยขึ้น พี่อาวุโสท่านนั้นก็ตึงกับเรามากกว่าเดิม จนถึงขั้นเอาเราไปนินทา+พูดกับเราน้อยลงจนเห็นได้ชัด
ต่อมาน้องก็ถูกดึงตัวไปเข้าก๊วนพี่ๆเขาและไม่คุยกับเราอีก เราก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะต่างคนต่างทำงาน คบกับเพื่อนที่สนิทไปตามปกติ ต่อมาพบว่าเขาไปตั้งกลุ่มแชทนินทาเราในเรื่องที่ไม่จริง เนื้อหาการนินทาก็คือเขามาส่องเฟสบุ๊คเรา แล้วสรุปกันเอาเองว่าเราพยายามสร้างภาพเป็นคุณหนู เป็นมิจฉาชีพหลอกเงินผู้ชาย ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่เลย แม้ไม่รวยแต่เราก็มีเงินใช้จ่ายไม่เดือดร้อน และเราแทบไม่อัพเดทเฟสบุ๊คด้วยซ้ำเพราะไม่มีเวลาเล่น ไม่รู้ว่าเขาไปเอาข้อมูลมาจากไหน ทราบภายหลังว่าพี่ผู้หญิงอาวุโสแผนกคือคนที่ปล่อยข่าว
พอเรารู้แบบนั้น เราก็บอกเพื่อนว่าช่างเขาและไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่จู่ๆก็มีเพื่อนร่วมงานไปเห็นว่าเราถูกแขวนประจานในเฟสบุ๊คนิรนาม ใส่ชื่อสกุลเราแล้วใส่ความว่าเป็นคนลวงโลก เป็นมิจฉาชีพหลอกเงินผู้ชายตามคำนินทาในกรุ๊ปไลน์นั้น เราก็เลยเก็บหลักฐานไปแจ้งความ แล้วมีคนร้อนตัวซึ่งก็คือน้องผู้ชายคนที่ว่า เอาร่างอวตารมาขอโทษ ขอร้องไม่ให้เราดำเนินคดี พิมพ์ยาวเหยียดข้ามวันข้ามคืนจนเราต้องลบแอปเฟสบุ๊คและปิดเครื่อง เนื่องจากช่วงนี้งานเยอะมากๆค่ะ เราไม่อยากมีอะไรมากวนใจ เพราะกลัวว่าจะทำงานได้ไม่เต็มที่
ต่อมาบอสทราบเรื่องจากหมายเรียก น้องผู้ชายก็ถูกไล่ออกจากงาน เพื่อนร่วมงานแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งข้างเรา ฝ่ายหนึ่งข้างพี่อาวุโสและน้องคนที่ว่า ซึ่งพอเราตอบน้องไปเมื่อวันก่อนว่าไม่มีการยอมความ+จะดำเนินคดีถึงที่สุด น้องก็บอกทุกคนว่าจะคิดสั้น ใช้คำพูดน่าสงสารจนเราถูกเพื่อนร่วมงานมองว่ารังแกเด็ก รวมไปถึงพี่อาวุโสและคนกลุ่มนั้นก็รุมโพสต์แซะเรา หาว่ารับบทเหยื่อบ้าง ว่าเรารังแกคนไม่มีทางสู้บ้าง หนักสุดคือกล่าวหาว่าเราวางแผนให้น้องเดินมาตกหลุม ซึ่งเราและเพื่อนๆงงมากค่ะ ว่าเขาเอาชุดความคิดนี้มาจากไหน
สรุปว่า ตอนนี้เราก็ยังไม่ใจอ่อน และอยู่ในขั้นตอนการดำเนินคดี ที่มาคุยเพราะเราเหนื่อยกับแรงกดดันจากคนกลุ่มนั้น เราอยู่ของเราดีๆเขาก็กุเรื่องมาทำลายชื่อเสียงเรา จึงมาตั้งกระทู้ระบายเพราะไม่กล้าคุยกับใครเกรงว่าจะถูกเอาไปแปลงสาร เรารู้วิธีรับมือและทำใจค่ะ แต่เรื่องยังใหม่จึงว้าวุ่น ทุกคนช่วยเป็นกำลังใจให้เราผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้ด้วยนะคะ