ไม้รู้จะเริ่มจากตรงไหนดีก่อนครับ.
ชีวิตวัย26สับสนมากยังค้นหาตัวเองไม่เจอ.
ไม่รู้ว่าผมเป็นโรคซึมเศร้าหรืออะไรยังไง.?
ชีวิตที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ดีเลยแหละแค่ผมกับพ่อไม่กินเส้นกันมากเลยเคยถึงขั้นตีกันมาแล้ว2-3รอบ(แตะต๋อย)พ่อเป็นคนที่อารมณ์ร้อนหงุดหงิดง่ายชอบตีชอบตบเป็นประจำพ่อเป็นคนที่ติดทั้งเหล้าทั้งผู้หญิงพ่อกับแม่หย่ากันตั้งแต่ผมยังเด็กอนุบาล1น่าจะ พ่อหาเงินเก่งมีผู้หญิงมาแกะเยอะครับพ่อเที่ยวตลอดเลยไม่เคยอยู่บ้านส่วนผมก็อยู่กับเพื่อนพ่อที่บ้านทุกๆวันๆเป็นเวลา4-5ปี (เจอหน้าพ่อทุกคนคืนเฉพาะกลางคืน)ติดผู้หญิงหนักมากๆเลี้ยงเด็กไว้เยอะ บ้านผมในตอนนั้นเปิดร้านขายเฟอร์นิเจอร์และเพื่อนพ่อเป็นคนเฝ้าร้านและบริหารร้านตลอดพ่อเราทำงานแอมเวย์ไม่ค่อยเห็นหน้า ช่วงเวลาที่มีกับพ่อในเวลานั้นส่วนใหญ่จะเป็นการโดนด่าโดนตีเป็นสะส่วนใหญ่ฯ เวลาผ่านไปจนถึงตอนป.6เทอม2 พอจะเข้าเรียนมัธยมก็จะมีโรงเรียนมาแนะแนวที่โรงเรียนอยู่หลายโรงเรียนเราก็ได้ไปเรียนต่อที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งกับเพื่อน (ตามเพื่อนไปนั้นแหละ) บวกกับมีพีจะเข้ามาอยู่ด้วยผมก็เลยได้ไปเรียนโรงเรียนเอกชนกับพีผมโดนที่พ่อผมเป็นคนรับจบทุกอย่าง.! (เป็นลูกพีลูกน้อง) ผมกับพี่ก็ได้ย้ายออกนอกบ้านไปอยู่กันเองสองคน(อยู่หอนอก) พอได้อยู่กันเองก็ใช้ชีวิตกันอย่างเมามันติดเกมส์อย่างหนักเลยครับช่วงนั้นบวกกับไม่ได้เจอพ่อเลยตั้งแต่ออกบ้านไปอยู่หอกับพี่นานๆถึงจะเจอเจอแต่ละครั้งก็โดนตีตลอดครับเพราะหนีไปเล่นเกมกับพี่ทั้งสองคนเลย พี่ที่อยู่กับผมเรียนเก่งมาเลยครับคนละขั้วกับผมเลย(เขาหน้าห้องผมท้ายห้อง)อยู่กับเขาเวลาก็ผ่านไปเร็วครับถึงม.2เทอม2ครับพวกผมดื้อเกินไปครับติดเกมมากครับ
โดนจับย้ายไปอยู่หอประจำประจำเลยครับ(จะเรียกสงเคราะห์ที่คิดตัง)ย้ายทั้งโรงเรียนและที่อยู่อาศัย.
พออยู่หอประจำก็อยู่ได้แค่ปีกว่าครับตัวผมก็โดนไล่ออกเลยครับแกล้งรุ่นน้องแรงเกินไปครับ(แค่ออกจากที่พักอาศัย)ยังเรียนที่เดิมครับเปลี่ยนมาอยู่หอเช่าครับ(เปลี่ยนมาเป็นเด็กบ้าน)ตอนนั้นม.4เทอม2ครับ. พอผมโดนไล่ออกมาพี่มันก็ตามออกมาอยู่กับผมด้วย(อยู่ข้างในมันลำบากมีกฏระเบียบวินัยเยอะ)ที่นี้ก็ติดเหล้าสิครับผมคนเดี่ยวส่วนพี่ก็ตั้งใจเรียนเป็นบุคคลดีเด่นผมโดนเรียนทะเลอะวิวาทหนีไปเล่นเกมส์ดื้อมากครับทะเลอะกับพี่บ๋อยมากครับพอถึง ม.5เทอม2ผมก็โดนไล่ออกจากโรงเรียนอีกทีครับ(คะแนนติดลบเกินครับคะแนนอะไรสักอย่าง)ผมก็ได้กลับไปเรียนที่บ้านเกินอาศัยอยู่กับพ่อและแม่เลี้ยงพ่อเปิดร้านกาแฟเล็กกับเป็นเกษตรกรปลูกผลไม้ พอมาอาศัยอยู่กับพ่อทะเลาะกันบ่อยมากพ่อลงไม้ลงมือนักขึ้นผมก็เริ่มถึงขีดจำกัดแอบร้องไห้อยู่บ่อยคิดฆ่าตัวตายเป็นว่าเล่นครับเขียนลงในไดอารี่ผมเองทำมาแล้วแต่บางครั้งเหมือนโชคดีครับไม่ตายทำอยู่6-7รอบตั้งใจให้ตัวเองตายครับ.5555+ ผมทำไม่ได้แบบที่พ่อคาดหวังผม.
ตัวผมเองรู้สึกผิดมากจนเป็นคนคิดมากเก็บตัวสันโดดจริงครับจนเรียนจบมัธยมปลายครับผมก็ย้ายไปอาศัยอยู่ที่โรงงานเปิดใหม่ของพ่อโรงงานน้ำพริกขั่วทรายอาศัยอยู่กับคนที่มาทำงานที่โรงงาน(ไม่ถูกกันเลยโดนส่งไปเฝ้าโรงงาน)พ่อทำงานเป็นข้าราชการมีเงินเดือนผมหลังจากมาอยู่โรงงานก็เหมือนเพิ่งได้สัมผัสกับคำว่าอิสระของชีวิตตอนนั้นแหละผมเองได้ชื่อรถเก๋งมาคันหนึ่งมาใช้ทำงานส่งของถือเป็นช่วงเวลาที่ดีครับคนที่อาศัยอยู่ด้วยเป็นคนผ่านคุกตารางมาหมดเลยครับแต่เป็นคนที่เกือบจะมีอายุเลยครับใจดีครับถึงคดีแต่ละคนจะน่ากล้วแต่พออยู่ด้วยกันก็เป็นคนที่ดีคนหนึ่งเลยแหละดีกว่าคนบริสุทธิ์บางคนเลยครับ. ช่วงเวลาที่ผ่านไปก็ทะเลอะกับพ่ออยู่แต่เจอกันไม่ค่อยบ่อยจนถึงเวลาของชายไทยครับ.!
เกณฑ์ทหารครับผมนี่แหละสมัครคนแรกของอำเภอเลยครับพยายามที่จะหนีจากพ่อมาตลอดครับ(ทั้งชีวิตกลัวพ่อเกลียดพ่อคนเดี่ยวครับ)สมใจอยากครับ.
หลังจากผมสมัครทหารพ่อก็ไม่คุยกับผมผมก็ชั่ง
พอวันที่จะเข้าค่ายผมแทบร้องเลย(ร้องไห้ไปแล้ว)ไม่เหมือนที่คิดแต่ก็ทนๆอยู่ได้ครับเพราะไม่เจอพ่อไม่เห็นหน้าก็ไม่คิดถึงครับช่วงเวลานั้นไม่เครียดเลยครับช่วงเวลาที่ผมเป็นทหารผมได้รับเสด็จบ่อยๆครับ(บ่อยมากๆ) เงินดีครับชีวิตดีครับผมติดยาเสพติดครับยาบ้าสีแดงส้มกลมแบนครับ.ผมก็้โดนส่งไปกรุงเทพไปเรียนหลักสูตรต่อครับพอถึงกรุงเทพผมก็หันมาเสพไอซ์แทนครับ(ดูดีกว่าดีกว่าไร้กลิ่น)อยู่ในค่ายกรุงเทพได้ไม่ทันไรก็้โดนจับตรวจฉี่จนเกมส์เลยครับแต่ก็ยังได้อยู่ต่อจนจบหลักสูตรครับ(ตอนเกมส์นี่ผมจะร้อง) อยู่จนจบกลับค่ายแม่ก็ชิวๆครับถึงค่ายแม่ก็หันมาเสพยาบ้าแทนครับ.ติดสารเสพติดหนัดมากเลยครับรู้ตัวแต่เพราะอะไรไม่รู้ครับ.
เวลาผ่านไปเลื่อยจนปลดประจำการครับกลับมาอยู่บ้านกับพ่อทุกอย่างเหมือนเดิมครับแต่ผมเปลี่ยนไปจากที่ผมอาศัยอยู่ในห้องภายในบ้านก็ย้ายไปนอนที่ไร่เลยปลูกกัญชา(ผมเสพกัญชาเพราะคิดว่ามันจะช่วยเลิกยาได้)ปลูกเองสูบเองปลูกเอาสวยบ้างไรบ้างครับทะเลอะกับพ่อบ่อยครับและหนักด้วยครับแรงขึ้นทุกๆวันตามมาด่าถึงสวน(ผมมีสวนเยอะแต่ผมไม่ทำไปลูกผลไม้ไว้เยอะ)บางครั้งก็ลงไม่ลงมือแรงบางเบาบ้างก็ตามอารมณ์พ่อผมก็ทำแค่ป้องกันไม่โต้ตอบแต่มันแรงเกินไปครับบางทีแล้วคืนคนในครอบครัวไม่มีคนเคยคิดจะห้ามเลยเพราะเคยมีพี่สาวลูกพี่ลูกน้องมาห้ามพ่อตอนตีผมเขาก็โดนพ่อด่ายับเลยหลังจากนั้นพี่สาวไม่ถูกกับพ่อเลยพอนานๆเข้าผมก็สุดแล้วบวกกับโตขึ้นปัญหาเยอะขึ้นด้วยจนถึงครั้งนั้นผมจสกที่เคยกลัวพ่อก็ลุกขึ้นมาอย่างมั่นใจแล้วปล่อยให้พ่อตีอย่างเมามันส์จนมันพอใจ(เจ็ปเอาเรื่องแต่วัยอย่างเรามันทนได้)หลังจากครั้งนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไปแบบสุดขั่วเลยพ่อไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผมอีกเลยผมก็เริ่มที่จะทำมาหากินบ้างครับช่วยแม่ขายกาแฟบ้างส่งหมูกะทะบ้างตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆครับผมก็เริ่มหันมาดูแลสวนผลไม้ของผมเองช่วยงานที่บ้านบ้าง(เปลี่ยนมาเป็นคนละคน)เริ่มเป็นผู้ใหญ่เริ่มในสิ่งที่คนอื่นเขาทำกันแต่พอทำไปแล้วทำได้แล้วมันก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมมีทุกอย่างแต่มันยังขาดบางสิ่งผมรู้สึกแบบนี้ชีวิตที่สบายกายแต่ทุกข์ใจทุกคืนทุกวันบางที่ในเวลาที่อยู่คนเดี่ยวก็รู่สึกเศร้ามากๆบางครั่งก็นั่งดูภาพเก่าๆก็ร้องไห้ออกมาเฉยหรือเวลาคิดถึงเรื่องที่แย่ก็จะร้องไห้ออกมาได้ทันทีเลย(เป็นคนอ่อนไหวทางอารมณ์มาก)ชีวิตไม่เคยมีคนมาให้กำลังใจตั้งแต่เด็กเลยมีแต่คนคาดหวังไม่เคยสมหวังกับทุกๆเรื่องในเรื่องความรักก็เป็นคนที่คิดมากเลยไม่กล้ารักใครเยอะบวกกับปัญหาครอบครัวก็หนักอยู่แล้วเลยไม่มีเวลาคิดเรื่องรักแต่ก็เป็นคนที่อินกับความรักนานมากๆเศร้าก็นานหลายๆปีเลยแหละ จนกระทั่งเรื่องที่พีคที่สุดก็มาถึง.!
ผมเริ่งเป็นผู้เป็นคนมีเงินเก็บมีแหล่งหารายได้ทุกๆวันมีเงินไม่จาดมือแต่.......อยู่ดีๆก็มีเด็กคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตผมอายุเรานั่นห่างกันมากๆสิบกว่าปี(ทางที่ผมว่าผมเปโดแล้วละ)ผมรู้สึกตัวรู้สึกตะหงิดกับใจตัวเองเหมือนว่ามีสองบุคลิกสองจิตสองในด้วยเราคุยกันแบบพีน้องไม่ได้มีอะไรอนาจารหรือสิ่งล่อแหลมลามกอื่นๆใดๆเลยมันก็แค่เขาเข้าใจในสิ่งที่ผมสื่อผมก็เข้าใจในสิ่งที่เขาสื่อคือ
เราห่างกันมากๆแต่คุยกันถูกคอมากๆ. เราไม่เคยเจอใครที่คุยเข้าใจกันได้ขนาดนี้แต่..เราห่างกีนมากตัวผมรู้มันไม่ดีและก็ไม่ได้ด้วยผมก็พยายามออกห่างและจากหรือปลีกตัวออกมาจากน้องเขาน้องเขาบอกเขาก็รับได้เขาโอเครกับผม...แต่ผมรู้ว่านั้นแหละคือความไร้เดียงสาของเด็กโห่....ผมเลยบอกเขาและด้าน้องเขาตลอดไปจนน้องเขาเริ่มท้อแล้วบล็อกผมไปผ่านๆๆไป15ก็ปลดบล็อกมาทักมาผมอีกครั่งเราก็คุยๆกันไปเลื่อยๆเกือบๆเดือนผมก้รุ้สึกอีกแล้วว่ามันไม่ใช่ไม่ได้..ตัวผมรู้สึกเสียใจมากมากกว่าทุกคนที่ผมเคยผ่านมาเพราะความไร้เดียงสาของเขาหรืออะไรก็ไม่รู้แต่คือเราคุยกันส่วนใหญ่เป็นโทนของปัญหาชีวิตของเขากับผมไม่มีเรื่องความรักมีแต่เรื่องปรึกษากันเป็นความสัมพันธ์ที่สับสนกับตัวเองผมก็เลิกๆกันไปผมเดินจากไปเองแต่คนนี้เป็นคนที่ทำให้ผมคิดได้ในหลายๆเรื่องมีเป้าหมายชัดเจนมากขึ้นมีความอดทนมากขึ้นเสียใจมากที่เลิกกับคนนี้ไปและตอนนี้ก็สับสนกับขีวิตมากๆครับควรทำยังไงหรือออะไรเดินต่อไปยังไงดี.มันก็เศร้ามากถึงรักแต่ก็ไปกันไม่ได้ โตมาถึงทุกวันนี้ยังค้นหาคำว่าผู้ใหญ่คืออะไรเป็นยังไงความรักคืออะไร แล้วทำไมผมต้องมีแต่น้ำตาเวลาที่นึกถึงเรื่องที่มันแย่ ผมเป็นซึมเศร้ารึเปล่า.?
หรือชีวิตผมก็แค่อยากจะระบายกับใครสักคนหนึ่งก็แค่นั้น แค่ผมได้เขียนกระทู้นี้ก็รู้สึกโล่งอกโล่งใจขึ้นมาเลยครับถึงมันจะขัดๆมั่วๆไปบ้างๆ
ถ้ามีคนมาอ่านแล้วตอบผมคงจะดีใจและโล่งใจว่าถึงชีวิตผมมันจะ..แต่ผมก็อยากจะแบ่งปันให้ทุกๆคนอ่านดูแล้วมาคอมเม้นท์กันดูครับว่างงไมครับกับขีวิตผม.
ชีวิตในวัย25ปี กับปัญหาชีวิต
ชีวิตวัย26สับสนมากยังค้นหาตัวเองไม่เจอ.
ไม่รู้ว่าผมเป็นโรคซึมเศร้าหรืออะไรยังไง.?
ชีวิตที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ดีเลยแหละแค่ผมกับพ่อไม่กินเส้นกันมากเลยเคยถึงขั้นตีกันมาแล้ว2-3รอบ(แตะต๋อย)พ่อเป็นคนที่อารมณ์ร้อนหงุดหงิดง่ายชอบตีชอบตบเป็นประจำพ่อเป็นคนที่ติดทั้งเหล้าทั้งผู้หญิงพ่อกับแม่หย่ากันตั้งแต่ผมยังเด็กอนุบาล1น่าจะ พ่อหาเงินเก่งมีผู้หญิงมาแกะเยอะครับพ่อเที่ยวตลอดเลยไม่เคยอยู่บ้านส่วนผมก็อยู่กับเพื่อนพ่อที่บ้านทุกๆวันๆเป็นเวลา4-5ปี (เจอหน้าพ่อทุกคนคืนเฉพาะกลางคืน)ติดผู้หญิงหนักมากๆเลี้ยงเด็กไว้เยอะ บ้านผมในตอนนั้นเปิดร้านขายเฟอร์นิเจอร์และเพื่อนพ่อเป็นคนเฝ้าร้านและบริหารร้านตลอดพ่อเราทำงานแอมเวย์ไม่ค่อยเห็นหน้า ช่วงเวลาที่มีกับพ่อในเวลานั้นส่วนใหญ่จะเป็นการโดนด่าโดนตีเป็นสะส่วนใหญ่ฯ เวลาผ่านไปจนถึงตอนป.6เทอม2 พอจะเข้าเรียนมัธยมก็จะมีโรงเรียนมาแนะแนวที่โรงเรียนอยู่หลายโรงเรียนเราก็ได้ไปเรียนต่อที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งกับเพื่อน (ตามเพื่อนไปนั้นแหละ) บวกกับมีพีจะเข้ามาอยู่ด้วยผมก็เลยได้ไปเรียนโรงเรียนเอกชนกับพีผมโดนที่พ่อผมเป็นคนรับจบทุกอย่าง.! (เป็นลูกพีลูกน้อง) ผมกับพี่ก็ได้ย้ายออกนอกบ้านไปอยู่กันเองสองคน(อยู่หอนอก) พอได้อยู่กันเองก็ใช้ชีวิตกันอย่างเมามันติดเกมส์อย่างหนักเลยครับช่วงนั้นบวกกับไม่ได้เจอพ่อเลยตั้งแต่ออกบ้านไปอยู่หอกับพี่นานๆถึงจะเจอเจอแต่ละครั้งก็โดนตีตลอดครับเพราะหนีไปเล่นเกมกับพี่ทั้งสองคนเลย พี่ที่อยู่กับผมเรียนเก่งมาเลยครับคนละขั้วกับผมเลย(เขาหน้าห้องผมท้ายห้อง)อยู่กับเขาเวลาก็ผ่านไปเร็วครับถึงม.2เทอม2ครับพวกผมดื้อเกินไปครับติดเกมมากครับ
โดนจับย้ายไปอยู่หอประจำประจำเลยครับ(จะเรียกสงเคราะห์ที่คิดตัง)ย้ายทั้งโรงเรียนและที่อยู่อาศัย.
พออยู่หอประจำก็อยู่ได้แค่ปีกว่าครับตัวผมก็โดนไล่ออกเลยครับแกล้งรุ่นน้องแรงเกินไปครับ(แค่ออกจากที่พักอาศัย)ยังเรียนที่เดิมครับเปลี่ยนมาอยู่หอเช่าครับ(เปลี่ยนมาเป็นเด็กบ้าน)ตอนนั้นม.4เทอม2ครับ. พอผมโดนไล่ออกมาพี่มันก็ตามออกมาอยู่กับผมด้วย(อยู่ข้างในมันลำบากมีกฏระเบียบวินัยเยอะ)ที่นี้ก็ติดเหล้าสิครับผมคนเดี่ยวส่วนพี่ก็ตั้งใจเรียนเป็นบุคคลดีเด่นผมโดนเรียนทะเลอะวิวาทหนีไปเล่นเกมส์ดื้อมากครับทะเลอะกับพี่บ๋อยมากครับพอถึง ม.5เทอม2ผมก็โดนไล่ออกจากโรงเรียนอีกทีครับ(คะแนนติดลบเกินครับคะแนนอะไรสักอย่าง)ผมก็ได้กลับไปเรียนที่บ้านเกินอาศัยอยู่กับพ่อและแม่เลี้ยงพ่อเปิดร้านกาแฟเล็กกับเป็นเกษตรกรปลูกผลไม้ พอมาอาศัยอยู่กับพ่อทะเลาะกันบ่อยมากพ่อลงไม้ลงมือนักขึ้นผมก็เริ่มถึงขีดจำกัดแอบร้องไห้อยู่บ่อยคิดฆ่าตัวตายเป็นว่าเล่นครับเขียนลงในไดอารี่ผมเองทำมาแล้วแต่บางครั้งเหมือนโชคดีครับไม่ตายทำอยู่6-7รอบตั้งใจให้ตัวเองตายครับ.5555+ ผมทำไม่ได้แบบที่พ่อคาดหวังผม.
ตัวผมเองรู้สึกผิดมากจนเป็นคนคิดมากเก็บตัวสันโดดจริงครับจนเรียนจบมัธยมปลายครับผมก็ย้ายไปอาศัยอยู่ที่โรงงานเปิดใหม่ของพ่อโรงงานน้ำพริกขั่วทรายอาศัยอยู่กับคนที่มาทำงานที่โรงงาน(ไม่ถูกกันเลยโดนส่งไปเฝ้าโรงงาน)พ่อทำงานเป็นข้าราชการมีเงินเดือนผมหลังจากมาอยู่โรงงานก็เหมือนเพิ่งได้สัมผัสกับคำว่าอิสระของชีวิตตอนนั้นแหละผมเองได้ชื่อรถเก๋งมาคันหนึ่งมาใช้ทำงานส่งของถือเป็นช่วงเวลาที่ดีครับคนที่อาศัยอยู่ด้วยเป็นคนผ่านคุกตารางมาหมดเลยครับแต่เป็นคนที่เกือบจะมีอายุเลยครับใจดีครับถึงคดีแต่ละคนจะน่ากล้วแต่พออยู่ด้วยกันก็เป็นคนที่ดีคนหนึ่งเลยแหละดีกว่าคนบริสุทธิ์บางคนเลยครับ. ช่วงเวลาที่ผ่านไปก็ทะเลอะกับพ่ออยู่แต่เจอกันไม่ค่อยบ่อยจนถึงเวลาของชายไทยครับ.!
เกณฑ์ทหารครับผมนี่แหละสมัครคนแรกของอำเภอเลยครับพยายามที่จะหนีจากพ่อมาตลอดครับ(ทั้งชีวิตกลัวพ่อเกลียดพ่อคนเดี่ยวครับ)สมใจอยากครับ.
หลังจากผมสมัครทหารพ่อก็ไม่คุยกับผมผมก็ชั่งพอวันที่จะเข้าค่ายผมแทบร้องเลย(ร้องไห้ไปแล้ว)ไม่เหมือนที่คิดแต่ก็ทนๆอยู่ได้ครับเพราะไม่เจอพ่อไม่เห็นหน้าก็ไม่คิดถึงครับช่วงเวลานั้นไม่เครียดเลยครับช่วงเวลาที่ผมเป็นทหารผมได้รับเสด็จบ่อยๆครับ(บ่อยมากๆ) เงินดีครับชีวิตดีครับผมติดยาเสพติดครับยาบ้าสีแดงส้มกลมแบนครับ.ผมก็้โดนส่งไปกรุงเทพไปเรียนหลักสูตรต่อครับพอถึงกรุงเทพผมก็หันมาเสพไอซ์แทนครับ(ดูดีกว่าดีกว่าไร้กลิ่น)อยู่ในค่ายกรุงเทพได้ไม่ทันไรก็้โดนจับตรวจฉี่จนเกมส์เลยครับแต่ก็ยังได้อยู่ต่อจนจบหลักสูตรครับ(ตอนเกมส์นี่ผมจะร้อง) อยู่จนจบกลับค่ายแม่ก็ชิวๆครับถึงค่ายแม่ก็หันมาเสพยาบ้าแทนครับ.ติดสารเสพติดหนัดมากเลยครับรู้ตัวแต่เพราะอะไรไม่รู้ครับ.
เวลาผ่านไปเลื่อยจนปลดประจำการครับกลับมาอยู่บ้านกับพ่อทุกอย่างเหมือนเดิมครับแต่ผมเปลี่ยนไปจากที่ผมอาศัยอยู่ในห้องภายในบ้านก็ย้ายไปนอนที่ไร่เลยปลูกกัญชา(ผมเสพกัญชาเพราะคิดว่ามันจะช่วยเลิกยาได้)ปลูกเองสูบเองปลูกเอาสวยบ้างไรบ้างครับทะเลอะกับพ่อบ่อยครับและหนักด้วยครับแรงขึ้นทุกๆวันตามมาด่าถึงสวน(ผมมีสวนเยอะแต่ผมไม่ทำไปลูกผลไม้ไว้เยอะ)บางครั้งก็ลงไม่ลงมือแรงบางเบาบ้างก็ตามอารมณ์พ่อผมก็ทำแค่ป้องกันไม่โต้ตอบแต่มันแรงเกินไปครับบางทีแล้วคืนคนในครอบครัวไม่มีคนเคยคิดจะห้ามเลยเพราะเคยมีพี่สาวลูกพี่ลูกน้องมาห้ามพ่อตอนตีผมเขาก็โดนพ่อด่ายับเลยหลังจากนั้นพี่สาวไม่ถูกกับพ่อเลยพอนานๆเข้าผมก็สุดแล้วบวกกับโตขึ้นปัญหาเยอะขึ้นด้วยจนถึงครั้งนั้นผมจสกที่เคยกลัวพ่อก็ลุกขึ้นมาอย่างมั่นใจแล้วปล่อยให้พ่อตีอย่างเมามันส์จนมันพอใจ(เจ็ปเอาเรื่องแต่วัยอย่างเรามันทนได้)หลังจากครั้งนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไปแบบสุดขั่วเลยพ่อไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผมอีกเลยผมก็เริ่มที่จะทำมาหากินบ้างครับช่วยแม่ขายกาแฟบ้างส่งหมูกะทะบ้างตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆครับผมก็เริ่มหันมาดูแลสวนผลไม้ของผมเองช่วยงานที่บ้านบ้าง(เปลี่ยนมาเป็นคนละคน)เริ่มเป็นผู้ใหญ่เริ่มในสิ่งที่คนอื่นเขาทำกันแต่พอทำไปแล้วทำได้แล้วมันก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมมีทุกอย่างแต่มันยังขาดบางสิ่งผมรู้สึกแบบนี้ชีวิตที่สบายกายแต่ทุกข์ใจทุกคืนทุกวันบางที่ในเวลาที่อยู่คนเดี่ยวก็รู่สึกเศร้ามากๆบางครั่งก็นั่งดูภาพเก่าๆก็ร้องไห้ออกมาเฉยหรือเวลาคิดถึงเรื่องที่แย่ก็จะร้องไห้ออกมาได้ทันทีเลย(เป็นคนอ่อนไหวทางอารมณ์มาก)ชีวิตไม่เคยมีคนมาให้กำลังใจตั้งแต่เด็กเลยมีแต่คนคาดหวังไม่เคยสมหวังกับทุกๆเรื่องในเรื่องความรักก็เป็นคนที่คิดมากเลยไม่กล้ารักใครเยอะบวกกับปัญหาครอบครัวก็หนักอยู่แล้วเลยไม่มีเวลาคิดเรื่องรักแต่ก็เป็นคนที่อินกับความรักนานมากๆเศร้าก็นานหลายๆปีเลยแหละ จนกระทั่งเรื่องที่พีคที่สุดก็มาถึง.!
ผมเริ่งเป็นผู้เป็นคนมีเงินเก็บมีแหล่งหารายได้ทุกๆวันมีเงินไม่จาดมือแต่.......อยู่ดีๆก็มีเด็กคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตผมอายุเรานั่นห่างกันมากๆสิบกว่าปี(ทางที่ผมว่าผมเปโดแล้วละ)ผมรู้สึกตัวรู้สึกตะหงิดกับใจตัวเองเหมือนว่ามีสองบุคลิกสองจิตสองในด้วยเราคุยกันแบบพีน้องไม่ได้มีอะไรอนาจารหรือสิ่งล่อแหลมลามกอื่นๆใดๆเลยมันก็แค่เขาเข้าใจในสิ่งที่ผมสื่อผมก็เข้าใจในสิ่งที่เขาสื่อคือเราห่างกันมากๆแต่คุยกันถูกคอมากๆ. เราไม่เคยเจอใครที่คุยเข้าใจกันได้ขนาดนี้แต่..เราห่างกีนมากตัวผมรู้มันไม่ดีและก็ไม่ได้ด้วยผมก็พยายามออกห่างและจากหรือปลีกตัวออกมาจากน้องเขาน้องเขาบอกเขาก็รับได้เขาโอเครกับผม...แต่ผมรู้ว่านั้นแหละคือความไร้เดียงสาของเด็กโห่....ผมเลยบอกเขาและด้าน้องเขาตลอดไปจนน้องเขาเริ่มท้อแล้วบล็อกผมไปผ่านๆๆไป15ก็ปลดบล็อกมาทักมาผมอีกครั่งเราก็คุยๆกันไปเลื่อยๆเกือบๆเดือนผมก้รุ้สึกอีกแล้วว่ามันไม่ใช่ไม่ได้..ตัวผมรู้สึกเสียใจมากมากกว่าทุกคนที่ผมเคยผ่านมาเพราะความไร้เดียงสาของเขาหรืออะไรก็ไม่รู้แต่คือเราคุยกันส่วนใหญ่เป็นโทนของปัญหาชีวิตของเขากับผมไม่มีเรื่องความรักมีแต่เรื่องปรึกษากันเป็นความสัมพันธ์ที่สับสนกับตัวเองผมก็เลิกๆกันไปผมเดินจากไปเองแต่คนนี้เป็นคนที่ทำให้ผมคิดได้ในหลายๆเรื่องมีเป้าหมายชัดเจนมากขึ้นมีความอดทนมากขึ้นเสียใจมากที่เลิกกับคนนี้ไปและตอนนี้ก็สับสนกับขีวิตมากๆครับควรทำยังไงหรือออะไรเดินต่อไปยังไงดี.มันก็เศร้ามากถึงรักแต่ก็ไปกันไม่ได้ โตมาถึงทุกวันนี้ยังค้นหาคำว่าผู้ใหญ่คืออะไรเป็นยังไงความรักคืออะไร แล้วทำไมผมต้องมีแต่น้ำตาเวลาที่นึกถึงเรื่องที่มันแย่ ผมเป็นซึมเศร้ารึเปล่า.?
หรือชีวิตผมก็แค่อยากจะระบายกับใครสักคนหนึ่งก็แค่นั้น แค่ผมได้เขียนกระทู้นี้ก็รู้สึกโล่งอกโล่งใจขึ้นมาเลยครับถึงมันจะขัดๆมั่วๆไปบ้างๆ
ถ้ามีคนมาอ่านแล้วตอบผมคงจะดีใจและโล่งใจว่าถึงชีวิตผมมันจะ..แต่ผมก็อยากจะแบ่งปันให้ทุกๆคนอ่านดูแล้วมาคอมเม้นท์กันดูครับว่างงไมครับกับขีวิตผม.