JJNY : รถบรรทุกความช่วยเหลือถึงกาซา│รัสเซียแบล็กลิสต์อดีตนายก│สงขลาจับตาใกล้ชิดเตือนภัยท่วมหนัก │นิกรรับอาจติด ปัญหาสว.

รถบรรทุกความช่วยเหลือไปถึงตอนเหนือของกาซาแล้ว 61 คัน
https://tna.mcot.net/world-1278698

วอชิงตัน 26 พ.ย. – สหประชาชาติกล่าววันเสาร์ว่า รถบรรทุกความช่วยเหลือที่ประกอบไปด้วยอาหาร น้ำดื่มและเวชภัณฑ์จำนวน 61 คัน ได้ไปส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ในพื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซาแล้ว หลังจากที่มีการพักรบเพื่อให้มีการจัดส่งความช่วยเหลือไปให้ประชาชนในกาซา
  
 
สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office for the Coordination of Humanitarian Affairs) กล่าวในแถถงการณ์ว่า รถบรรทุกความช่วยเหลืออีก 200 คัน ถูกส่งจากเมืองนิตซานา ในอิสราเอลไปยังฉนวนกาซา จำนวนนี้ 187 คัน ผ่านชายแดนเข้าไปในกาซาแล้ว นอกจากนั้น รถพยายาล 11 คัน รถบัสขนส่งผู้โดยสาร 3 คันและรถบรรทุกพื้นเรียบ 1 คัน ถูกส่งไปยังโรงพยาบาลอัล-ชีฟา ซึ่งถูกถล่มโจมตีอย่างหนักในช่วงหลายวันที่ผ่าสมา เพื่อช่วยเหลือในการอพยพคนไข้ สำนักงานฯ ยังกล่าวด้วยว่า ตราบใดที่ยังมีการพักรบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส หน่วยงานเพื่อความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมก็จะมีเวลาในการส่งความช่วยเหลือและกระจายความช่วยเหลือไปทั่วกาซา.-สำนักข่าวไทย
 

รัสเซียแบล็กลิสต์อดีตนายกรัฐมนตรีเป็น “ตัวแทนต่างชาติ”
https://www.dailynews.co.th/news/2936720/

รัฐบาลมอสโกขึ้นบัญชีดำอดีตนายกรัฐมนตรี "ตัวแทนต่างชาติ" จากการมีจุดยืนต่อต้านสงครามในยูเครน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ว่ากระทรวงยุติธรรมของรัสเซียออกแถลงการณ์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขึ้นบัญชีดำนายมิคาอิล คาสยานอฟ อดีตนายกรัฐมนตรี “คือตัวแทนต่างชาติ” ซึ่งเป็นศัพท์ทางการเมืองที่รัฐบาลมอสโกใช้ ตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียต หมายความว่า “ศัตรูของประชาชน

ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมรัสเซียให้เหตุผลว่า คาสยานอฟ วัย 65 ปี ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ระหว่างปี 2543-2547 ที่เป็นรัฐบาลสมัยแรกของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน นั้น เป็นบุคคลที่มีแนวคิดต่อต้านปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน และเป็นสมาชิกของคณะกรรมการต่อต้านสงคราม ที่เป็นองค์กรอิสระดำเนินนโยบายทำลายภาพลักษณ์ด้านนโยบายของรัสเซีย ทั้งในและต่างประเทศ

อนึ่ง รัฐบาลมอสโกมักใช้คำว่า “ตัวแทนต่างชาติ” เพื่อควบคุมหน่วยงานของต่างประเทศที่เข้ามาเปิดสำนักงานในรัสเซีย โดยเฉพาะองค์กรสื่อมวลชน และหน่วยงานเคลื่อนไหวด้านมนุษยธรรม ซึ่งจะต้องเผชิญกับ “การตรวจสอบอย่างเข้มข้น” จากภาครัฐ
 

 
สงขลาจับตาใกล้ชิด หลังกรมทรัพยากรน้ำ เตือนภัยท่วมหนัก เตรียมอพยพ
https://www.matichon.co.th/region/news_4301231

สงขลาจับตาใกล้ชิด หลังกรมทรัพยากรน้ำ เตือนภัยท่วมหนัก เตรียมอพยพ
 
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน รายงานข่าวจากสงขลา แจ้งว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่คืนที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำ และบริเวณริมคลองสำโรง ในเขตเทศบาลนครสงขลาบางส่วนมีน้ำท่วมขัง บนถนน เจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวังน้ำได้ออกตรวจสถานการณ์  และเร่งระบายน้ำทุกจุดในเขตเทศบาลฯ

เทศบาลนครสงขลาได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงที่เคยได้รับผลกระทบมีน้ำท่วมขัง และที่อาศัยบริเวณริมคลองสำโรง เฝ้าระวัง เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ประกอบกับน้ำทะเลหนุน โดยให้ติดตามข่าวสารการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด โดยหากต้องการแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือ หรือต้องการกระสอบทราย สามารถติดต่อศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจ การป้องกันและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยฯ เทศบาลนครสงขลา (สถานีดับเพลิง) ถนนเตาอิฐ โทรศัพท์ 0-7431-1016, 0-7431-2700
 
นอกจากนั้นยังมีรายงานน้ำท่วมเส้นทางเชื่อมระหว่างอำเภอเมืองกับอำเภอหาดใหญ่ ถ.กาญจนวนิช ในพื้นที่บ้านควนหิน ต.พะวง อ.เมือง บริเวณหน้าปั๊ม ปตท.ควนหิน ซึ่งเป็นจุดน้ำท่วมซ้ำซาก ทำให้ต้องมีการแจ้งเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง หรือหากจำเป็นก็ให้มีการขับขี่ใช้เส้นทางด้วยความระมัดระวัง
 
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมนายชัยวุฒิ บัวทอง นายอำเภอเมืองสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บริเวณหน้าปั๊ม ปตท.ควนหิน ถนนสงขลา-หาดใหญ่ (สายเก่า) หมู่ที่ 3 ตำบลพะวง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก หลังเกิดสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
 
เบื้องต้นเทศบาลตำบลพะวง ได้รับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา นำมาติดตั้งเพื่อเร่งระบายน้ำ ทั้งยังได้รับกำลังสนับสนุนจากทหารและผู้นำท้องที่ช่วยโบกรถอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชน จึงอยากแจ้งเตือนประชาชน เป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางดังกล่าวไปก่อน
 
กรมทรัพยากรน้ำ (ทน.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แจ้งข้อมูลการเตือนภัย เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 เวลา 23.41 น. เตือนภัยอพยพ (สีแดง) บ้านหูแร่ ตำบลทุ่งตำเสา อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ค่าระดับน้ำ 4.70 เมตร ระดับวิกฤต 4.50 เมตร นั้น สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 8 โดยส่วนอุทกวิทยาที่ 1 สงขลา เฝ้าระวังพร้อมประสานผู้รู้ และตรวจสอบข้อมูลเชิงพื้นที่ รายงานสรุปดังนี้ สภาพน้ำฝนในพื้นที่ ระดับน้ำในคลองวาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ยังคงระบายได้ มีปริมาณน้ำล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ริมลำน้ำ พื้นที่ทางการเกษตรบางส่วน/ยังคงมีฝนตกหนัก สลับเบา ในพื้นที่ต้นน้ำ และพื้นที่ตั้งสถานี แนวโน้ม ระดับน้ำเพิ่มระดับต่อเนื่อง สภาพอากาศ ตรวจสอบเรดาร์กรมอุตุฯ ยังคงมีกลุ่มฝนปกคลุมบางพื้นที่ แจ้งเตือนระดับน้ำวิกฤต และติดตาสมสถนการณ์หากมีฝนตกเพิ่มในพื้นที่ต้นน้ำ อาจมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว/พร้อมแจ้งผู้นำชุมชน ส่วนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้มีการเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำในคลอง 30 เมตร ที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น จากฝนตกหนักตลออดคืนที่ผ่านมา
 
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จังหวัดสงขลา ออกประกาศเตือนฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่าง และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีผลกระทบช่วงวันที่ 26-27 พฤศจิกายน โดยระบุว่าหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณชายฝั่งประเทศมาเลเซีย มีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ในช่วงวันที่ 26-27 พฤศจิกายน ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่างมีฝนตกชุก โดยมีฝนหนักหลายพื้นที่และมีฝนหนักมากบางแห่ง ดังนี้
 
ช่วงวันที่ 26 พฤศจิกายนฝนหนักหลายพื้นที่ และมีฝนหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดชุมพร และสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
วันที่ 27 พฤศจิกายน ฝนหนักหลายพื้นที่ และมีฝนหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ฝนหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดยะลา และนราธิวาส
 
ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายที่เกิดจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มเกิดขึ้นได้โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงสำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรง โดยทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่างระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าว จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกอย่างใกล้ชิด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่