ฮามาสจะปล่อยตัวประกัน 14 คน แลกนักโทษ 42 คน วันนี้
https://tna.mcot.net/world-1278531
บรรยากาศฉลองนักโทษปาเลสไตน์ได้รับการปล่อยตัว 24 พ.ย.66
เยรูซาเล็ม 25 พ.ย. – อิสราเอลเผยว่า ฮามาสจะปล่อยตัวประกัน 14 คน แลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ 42 คน ในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของข้อตกลงพักรบเป็นเวลา 4 วัน
เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น (CNN) อ้างเจ้าหน้าที่อิสราเอลที่ทราบรายชื่อตัวประกันที่อิสราเอลได้รับเมื่อวันศุกร์ว่า ฮามาสจะส่งมอบตัวประกัน 14 คนในวันนี้ สอดคล้องกับสำนักงานเรือนจำอิสราเอลแถลงในวันนี้ว่า จะปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ 42 คน มีทั้งชายและหญิง ตามเงื่อนไขของข้อตกลงพักรบระหว่งอิสราเอล-ฮามาสที่กำหนดไว้ว่า จะแลกตัวนักโทษ 3 คน ต่อตัวประกัน 1 คน ซีเอ็นเอ็นอ้างสำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลว่า เชื่อว่าผู้ถูกจับเป็นตัวประกันในกาซาขณะนี้มีทั้งหมด 213 คน
ส่วนตัวประกันชาวอิสราเอลจำนวน 13 คนที่ได้รับการปล่อยตัวชุดแรกเมื่อวันศุกร์ ศูนย์การแพทย์ 2 แห่งที่รับตัวไว้เผยในวันนี้ว่า ทั้งหมดอาการดีและทรงตัว เป็นสตรีวัยผู้ใหญ่ 9 คน เด็กชาย 1 คน และเด็กหญิง 3 คน
ด้านประธานาธิบดี
เฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ของฟิลิปปินส์ยืนยันว่า มีชาวฟิลิปปินส์ 1 คนรวมอยู่ในกลุ่มตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัวชุดแรก เป็นชายที่ทำงานเป็นผู้ดูแลผู้ป่วยและคนชรา ขอขอบคุณกาตาร์อีกครั้งที่ช่วยเหลือจนชาวฟิลิปปินส์ได้รับการปล่อยตัว ส่วนชาวฟิลิปปินส์ที่ถูกจับเป็นตัวประกันอีกคน ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด.-สำนักข่าวไทย
ยูเครนสกัดโดรนรัสเซียโจมตีกรุงเคียฟครั้งใหญ่ที่สุด
https://tna.mcot.net/world-1278496
เคียฟ 25 พ.ย. – ยูเครนเผยว่า ยิงโดรนโจมตีของรัสเซียตก 71 ลำ ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เป็นการโจมตีเมืองหลวงของยูเครนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564
กองทัพอากาศของยูเครนแจ้งผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า ทำลายชาเฮด 131/136 ซึ่งเป็นอากาศยานไร้คนขับแบบโจมตีทั้งหมด 71 ลำ ส่วนใหญ่ถูกทำลายในแคว้นเคียฟ ด้านนายกเทศมนตรีกรุงเคียฟเผยว่า ได้เปิดเสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศนาน 6 ชั่วโมง ซากโดรนที่ถูกทำลายทำให้อาคารในเมืองหลวงเกิดเพลิงไหม้และเสียหาย มีผู้บาดเจ็บ 5 คน โดยมีเด็กวัย 11 ปีรวมอยู่ด้วย ศัตรูยังคงสร้างความหวาดกลัวให้แก่ยูเครน
ประธานาธิบดี
โวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนโพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า การที่รัสเซียส่งโดรนมากกว่า 70 ลำมาโจมตียูเครนในคืนก่อนวันรำลึกโฮโลโดโมร์ (Holodomor Remembrance Day) สะท้อนว่าผู้นำรัสเซียภูมิใจที่ได้ฆ่าคน วันดังกล่าวตรงกับทุกวันเสาร์ที่ 4 ของเดือนพฤศจิกายน ปีนี้ตรงกับวันที่ 25 พฤศจิกายน เป็นวันรำลึกถึงการที่สหภาพโซเวียตยุคสตาลินใช้ความอดอยากฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยูเครนหลายล้านคนในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1930.-สำนักข่าวไทย
พิธา ลุยขอนแก่น เสวนาเศรษฐกิจอีสานด้วยจักรวาลหมอลำ ยกต้องเต เป็นตัวอย่าง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4300546
“พิธา” ควง 4 ส.ส.ขอนแก่น พรรคก้าวไกล เสวนาพัฒนาเศรษฐกิจอีสานด้วยจักรวาลหมอลำ ชู “ต้องเต” เป็นตัวอย่างคนอีสานรุ่นใหม่
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ที่โรงเรียนบ้านสาวะถี ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นาย
อภิสิทธิ์ ไล่ศัตรูไกล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นาย
วีรนันท์ ฮวดศรี ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 พรรคก้าวไกล นาย
อิทธิพล ชลธราศิริ ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 พรรคก้าวไกล ร่วมพบผู้ประกอบการหมอลำอีสาน และร่วมเสวนา หัวข้อ “
การพัฒนาเศรษฐกิจอีสานด้วยจักรวาลหมอลำ โดยมีศิลปินหมอลำและเครื่อข่ายศิลปะวัฒนธรรมภาคอีสานเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในวงเสวนา ท่ามกลางบรรดาชาวบ้าน ทั้งเด็ก วัยรุ่น และผู้สูงวัยที่เป็นแฟนคลับของนายพิธา และพรรคก้าวไกล ต่างพากันสวมเสื้อสีส้มสัญลักษณ์พรรคก้าวไกล เดินทางมาร่วมรับฟังการเสวนาและให้กำลังใจจำนวนมาก โดยวงเสวนาแลกเปลี่ยนครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมได้ใช้เวลาแลกเปลี่ยนกันความคิดเห็นกันประมาณ 2 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้นลง
จากนั้น นาย
พิธา พร้อมด้วย ส.ส.พรรคก้าวไกล ร่วมกันเดินทางไปที่วัดไชยศรี บ้านสาวะถี ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่มี “สิม” หรือ พระอุโบสถ อายุร้อยกว่าปี ลักษณะเป็นสิมแบบพื้นบ้านอีสานที่มีจิตรกรรมฝาผนัง หรือ ฮูปแต้ม บอกเล่าเรื่องราวทางพระพุทธศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี โดยได้ร่วมแห่ต้นกฐินสามัคคีร่วมกับชาวบ้านรอบสิมอีสาน จำนวน 3 รอบ ก่อนที่ผู้นำชุมชนจะพานายพิธา และคณะเข้ากราบสักการะพระพุทธรูปภายในสิมอีสานเพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมกับเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของสิมอีสานแห่งนี้ให้นายพิธา และคณะได้รับทราบ
นาย
พิธา ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงภาพรวมในการลงพื้นที่มาที่จังหวัดขอนแก่นในครั้งนี้ว่า การลงมาพบปะพี่น้องชาวขอนแก่นในครั้งนี้ สิ่งที่จะนำไปพัฒนาต่อยอดในนามของพรรคก้าวไกล เป็นเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ล้วนๆ เช่น หมอลำ ซึ่งจะนำไปต่อยอดความคิดว่า จะทำอย่างไรเพื่อให้หมอลำอยู่ในศตวรรษที่ 21 ได้ โดยยังคงความเป็นอีสานไว้ โดยในวงเสวนาก็ได้ยกตัวอย่างตนเองที่รู้จักหมอลำในนามของคนกรุง ซึ่งยอมรับว่าไม่ได้รู้จักหมอลำ เหมือนที่คนอีสานรู้จักและเข้าใจ ซึ่งตนเองได้รู้จักหมอลำที่เป็นของชาวอีสานที่ไปโด่งดังในต่างประเทศ ที่งานบางกอก พาราไดซ์ และจากร้านสตูดิโอแลม และสุดแรงม้า เรคคอร์ด ซึ่งตั้งอยู่ที่สุขุมวิทย์ 51 ใกล้บ้านของตนเอง จึงมองเห็นโอกาสที่จะพัฒนา เพราะที่ผ่านมามีภาคเอกชนที่จะนำเอาหมอลำ ไปแสดงที่ต่างประเทศ เช่น ที่ประเทศโปรแลนด์ มีคนมาชมกว่า 3 แสนคน ดังนั้นเราจึงต้องผลักดันเรื่องเหล่านี้ ทั้งหมอลำ อาหาร และวัฒนธรรมต่างๆ ที่เป็นของคนอีสาน
นาย
พิธา กล่าวอีกว่า อยากให้คนรุ่นใหม่ที่อยู่ในภาคอีสาน ได้ช่วยกันรักษาและพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นวัฒนธรรมและประเพณีของชาวอีสาน เพราะจากข้อเท็จจริงที่ได้ศึกษามาจากสื่อสาธารณะช่องหนึ่ง ระบุว่า แรงงานที่อยู่ในอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี มีมากกว่าครึ่งหนึ่ง หรือ ประมาณ 52 เปอร์เซ็นต์ แต่คนที่อยู่ในอุตสาหกรรมใหม่ ๆ เช่น สื่อมวลชน อุตสาหกรรมสิ่งทอ หรือศิลปะ เป็นกลุ่มคนที่อยู่ในช่วงอายุน้อยๆ ซึ่งมีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ จึงคิดการที่เราจะส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้ไปข้างหน้าได้ ก็ต้องคิดถึงเรื่องเกี่ยวกับแรงงานคน รวมทั้งเรื่องสิทธิ สวัสดิการของคนที่จะเข้ามาอยู่ในวงการนี้ด้วย โดยเริ่มตั้งแต่ต้นทาง ไม่ใช่การมาสนับสนุนในวันที่เขาประสงความสำเร็จแล้ว วันนี้มองว่าตนเองจะได้เป็นนายกฯ หรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะพรรคก้าวไกลทำงานทางการเมืองก็เพื่อให้งบประมาณของบ้านเมืองไปที่ศักยภาพของความเป็นอีสานในการยกระดับ ที่ไม่ใช่เรื่องการใช้แรงงานเพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงการใช้สมอง สองมือ และหัวใจด้วย และคำว่าจะพัฒนาอย่างไม่ประนีประนอม ก็หมายความว่า ยกตัวอย่างอย่างภาพยนตร์ของ “
ต้องเต” ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “
สัปเหร่อ” เป็นสิ่งที่แสดงออกได้ชัดแล้วว่า สามารถนำเสนอความเป็นอีสานอย่างที่คนอีสานอยากดู ไม่จำเป็นที่จะต้องทำเพื่อให้คนกรุงหรือชนชั้นกลางอยากดู แต่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของพี่น้องชาวอีสาน ซึ่งรากวัฒนธรรมล้วนมาจากสามัญชน
อดีตเลขาฯสมช. แนะรัฐบาลฟื้นศก. ด้วยพลังประชาชน แก้ลำ ขั้วอำนาจเก่าครอบงำ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4300239
อดีตเลขาฯสมช. แนะรัฐบาลฟื้น ศก. ด้วยพลังประชาชน แก้ลำ ขั้วอำนาจเก่าครอบงำ
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 พล.ท.
ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองว่า สำหรับเหล่านักรบทหารจะมีข้อเตือนใจที่ตระหนักอยู่เสมอ คือเมื่อใดที่ผู้นำมีพฤติกรรมตระบัดสัตย์ มิตรร่วมรบก็จะหนีหาย เหตุเพราะเกรงว่า เมื่อเข้าสู่สนามรบ พอเผชิญหน้าวิกฤตในการรบเข้า เจ้านายประเภทนี้ก็จะเผ่นหนี เอาตัวรอดลอยแพลูกน้อง
ด้วยข้อเตือนใจนี้ เมื่อหันมามองที่รัฐบาล นโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่น หาเสียงว่าจะไม่กู้เงินมาแจก แต่กลับมากู้ ประชาชนจึงหนีหาย อีกทั้งรัฐบาลยังมาโหมข่าวว่า นักลงทุนต่างประเทศสนใจจะมาลุงทุนเต็มไปหมด แต่มันดูย้อนแย้งกับสภาวะของประเทศที่ยังคงประกาศใช้กฎหมายพิเศษจำกัดสิทธิเสรีภาพ ไม่ว่าจะเป็นกฎอัยการศึก และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในหลายพื้นที่อย่างมิรู้จบ รวมไปถึงประเทศยังมีมุมมืดของแก๊งโจรสีเทา เจ้าหน้าที่รัฐสีเทาและนักการเมืองสีเทา บรรยากาศแบบนี้มันจะเอื้อต่อการลงทุนได้อย่างไร
ดังนั้น การขับเคลื่อนงานด้านความมั่นคงเพื่อสร้างความปลอดภัยสาธารณะ และความปลอดภัยของประเทศ รัฐบาลจะต้องมีความจริงจังควบคู่ไปกับการฟื้นเศรษฐกิจ มิฉะนั้นแล้วการฟื้นเศรษฐกิจก็จะเป็นเพียงแค่ลมปาก ส่งผลไปเข้าทางของกลุ่มอำนาจเก่า อย่าลืมว่า ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ลากพรรคแกนนำรัฐบาลให้ไปติดกับดักตระบัดสัตย์รัฐบาลข้ามขั้ว เพื่อการครอบงำไว้ แล้วรอจังหวะเมื่อรัฐบาลเสียท่า ก็จะตลบหลังหวนกลับมามีอำนาจใหม่อีกครั้ง
“ซึ่งการแก้ลำให้หลุดจากการครอบงำของกลุ่มอำนาจเก่าและกับดักตระบัดสัตย์ได้อย่างชะงัดก็คือต้องทบทวนการจัดตั้งรัฐบาล โดยเคารพตามเจตจำนงของประชาชนตามผลการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา เพราะเราจะได้ประชาชนเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กหนุนหลัง สามารถสร้างพลังขับเคลื่อนการฟื้นเศรษฐกิจ และลดภาระหนี้ร่วม 10 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นมรดกบาป 9 ปีที่รัฐบาล 3 ป.ทิ้งไว้ และสร้างฝ่ายความมั่นคงที่แข็งแกร่งได้อย่างสัมฤทธิผล” พล.ท.
ภราดรกล่าว
JJNY : 5in1 ปล่อยตัวประกันแลกนักโทษ│ยูเครนสกัดโดรนรัสเซีย│พิธาลุยขอนแก่น│อดีตเลขาฯสมช.แนะรบ.ฟื้นศก.│1 ล้านแรงงานระส่ำ
https://tna.mcot.net/world-1278531
เยรูซาเล็ม 25 พ.ย. – อิสราเอลเผยว่า ฮามาสจะปล่อยตัวประกัน 14 คน แลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ 42 คน ในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของข้อตกลงพักรบเป็นเวลา 4 วัน
เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น (CNN) อ้างเจ้าหน้าที่อิสราเอลที่ทราบรายชื่อตัวประกันที่อิสราเอลได้รับเมื่อวันศุกร์ว่า ฮามาสจะส่งมอบตัวประกัน 14 คนในวันนี้ สอดคล้องกับสำนักงานเรือนจำอิสราเอลแถลงในวันนี้ว่า จะปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ 42 คน มีทั้งชายและหญิง ตามเงื่อนไขของข้อตกลงพักรบระหว่งอิสราเอล-ฮามาสที่กำหนดไว้ว่า จะแลกตัวนักโทษ 3 คน ต่อตัวประกัน 1 คน ซีเอ็นเอ็นอ้างสำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลว่า เชื่อว่าผู้ถูกจับเป็นตัวประกันในกาซาขณะนี้มีทั้งหมด 213 คน
ส่วนตัวประกันชาวอิสราเอลจำนวน 13 คนที่ได้รับการปล่อยตัวชุดแรกเมื่อวันศุกร์ ศูนย์การแพทย์ 2 แห่งที่รับตัวไว้เผยในวันนี้ว่า ทั้งหมดอาการดีและทรงตัว เป็นสตรีวัยผู้ใหญ่ 9 คน เด็กชาย 1 คน และเด็กหญิง 3 คน
ด้านประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ของฟิลิปปินส์ยืนยันว่า มีชาวฟิลิปปินส์ 1 คนรวมอยู่ในกลุ่มตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัวชุดแรก เป็นชายที่ทำงานเป็นผู้ดูแลผู้ป่วยและคนชรา ขอขอบคุณกาตาร์อีกครั้งที่ช่วยเหลือจนชาวฟิลิปปินส์ได้รับการปล่อยตัว ส่วนชาวฟิลิปปินส์ที่ถูกจับเป็นตัวประกันอีกคน ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด.-สำนักข่าวไทย
ยูเครนสกัดโดรนรัสเซียโจมตีกรุงเคียฟครั้งใหญ่ที่สุด
https://tna.mcot.net/world-1278496
เคียฟ 25 พ.ย. – ยูเครนเผยว่า ยิงโดรนโจมตีของรัสเซียตก 71 ลำ ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เป็นการโจมตีเมืองหลวงของยูเครนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564
กองทัพอากาศของยูเครนแจ้งผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า ทำลายชาเฮด 131/136 ซึ่งเป็นอากาศยานไร้คนขับแบบโจมตีทั้งหมด 71 ลำ ส่วนใหญ่ถูกทำลายในแคว้นเคียฟ ด้านนายกเทศมนตรีกรุงเคียฟเผยว่า ได้เปิดเสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศนาน 6 ชั่วโมง ซากโดรนที่ถูกทำลายทำให้อาคารในเมืองหลวงเกิดเพลิงไหม้และเสียหาย มีผู้บาดเจ็บ 5 คน โดยมีเด็กวัย 11 ปีรวมอยู่ด้วย ศัตรูยังคงสร้างความหวาดกลัวให้แก่ยูเครน
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนโพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า การที่รัสเซียส่งโดรนมากกว่า 70 ลำมาโจมตียูเครนในคืนก่อนวันรำลึกโฮโลโดโมร์ (Holodomor Remembrance Day) สะท้อนว่าผู้นำรัสเซียภูมิใจที่ได้ฆ่าคน วันดังกล่าวตรงกับทุกวันเสาร์ที่ 4 ของเดือนพฤศจิกายน ปีนี้ตรงกับวันที่ 25 พฤศจิกายน เป็นวันรำลึกถึงการที่สหภาพโซเวียตยุคสตาลินใช้ความอดอยากฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยูเครนหลายล้านคนในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1930.-สำนักข่าวไทย
พิธา ลุยขอนแก่น เสวนาเศรษฐกิจอีสานด้วยจักรวาลหมอลำ ยกต้องเต เป็นตัวอย่าง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4300546
“พิธา” ควง 4 ส.ส.ขอนแก่น พรรคก้าวไกล เสวนาพัฒนาเศรษฐกิจอีสานด้วยจักรวาลหมอลำ ชู “ต้องเต” เป็นตัวอย่างคนอีสานรุ่นใหม่
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ที่โรงเรียนบ้านสาวะถี ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายอภิสิทธิ์ ไล่ศัตรูไกล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายวีรนันท์ ฮวดศรี ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 พรรคก้าวไกล นายอิทธิพล ชลธราศิริ ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 พรรคก้าวไกล ร่วมพบผู้ประกอบการหมอลำอีสาน และร่วมเสวนา หัวข้อ “การพัฒนาเศรษฐกิจอีสานด้วยจักรวาลหมอลำ โดยมีศิลปินหมอลำและเครื่อข่ายศิลปะวัฒนธรรมภาคอีสานเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในวงเสวนา ท่ามกลางบรรดาชาวบ้าน ทั้งเด็ก วัยรุ่น และผู้สูงวัยที่เป็นแฟนคลับของนายพิธา และพรรคก้าวไกล ต่างพากันสวมเสื้อสีส้มสัญลักษณ์พรรคก้าวไกล เดินทางมาร่วมรับฟังการเสวนาและให้กำลังใจจำนวนมาก โดยวงเสวนาแลกเปลี่ยนครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมได้ใช้เวลาแลกเปลี่ยนกันความคิดเห็นกันประมาณ 2 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้นลง
จากนั้น นายพิธา พร้อมด้วย ส.ส.พรรคก้าวไกล ร่วมกันเดินทางไปที่วัดไชยศรี บ้านสาวะถี ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่มี “สิม” หรือ พระอุโบสถ อายุร้อยกว่าปี ลักษณะเป็นสิมแบบพื้นบ้านอีสานที่มีจิตรกรรมฝาผนัง หรือ ฮูปแต้ม บอกเล่าเรื่องราวทางพระพุทธศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี โดยได้ร่วมแห่ต้นกฐินสามัคคีร่วมกับชาวบ้านรอบสิมอีสาน จำนวน 3 รอบ ก่อนที่ผู้นำชุมชนจะพานายพิธา และคณะเข้ากราบสักการะพระพุทธรูปภายในสิมอีสานเพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมกับเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของสิมอีสานแห่งนี้ให้นายพิธา และคณะได้รับทราบ
นายพิธา ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงภาพรวมในการลงพื้นที่มาที่จังหวัดขอนแก่นในครั้งนี้ว่า การลงมาพบปะพี่น้องชาวขอนแก่นในครั้งนี้ สิ่งที่จะนำไปพัฒนาต่อยอดในนามของพรรคก้าวไกล เป็นเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ล้วนๆ เช่น หมอลำ ซึ่งจะนำไปต่อยอดความคิดว่า จะทำอย่างไรเพื่อให้หมอลำอยู่ในศตวรรษที่ 21 ได้ โดยยังคงความเป็นอีสานไว้ โดยในวงเสวนาก็ได้ยกตัวอย่างตนเองที่รู้จักหมอลำในนามของคนกรุง ซึ่งยอมรับว่าไม่ได้รู้จักหมอลำ เหมือนที่คนอีสานรู้จักและเข้าใจ ซึ่งตนเองได้รู้จักหมอลำที่เป็นของชาวอีสานที่ไปโด่งดังในต่างประเทศ ที่งานบางกอก พาราไดซ์ และจากร้านสตูดิโอแลม และสุดแรงม้า เรคคอร์ด ซึ่งตั้งอยู่ที่สุขุมวิทย์ 51 ใกล้บ้านของตนเอง จึงมองเห็นโอกาสที่จะพัฒนา เพราะที่ผ่านมามีภาคเอกชนที่จะนำเอาหมอลำ ไปแสดงที่ต่างประเทศ เช่น ที่ประเทศโปรแลนด์ มีคนมาชมกว่า 3 แสนคน ดังนั้นเราจึงต้องผลักดันเรื่องเหล่านี้ ทั้งหมอลำ อาหาร และวัฒนธรรมต่างๆ ที่เป็นของคนอีสาน
นายพิธา กล่าวอีกว่า อยากให้คนรุ่นใหม่ที่อยู่ในภาคอีสาน ได้ช่วยกันรักษาและพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นวัฒนธรรมและประเพณีของชาวอีสาน เพราะจากข้อเท็จจริงที่ได้ศึกษามาจากสื่อสาธารณะช่องหนึ่ง ระบุว่า แรงงานที่อยู่ในอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี มีมากกว่าครึ่งหนึ่ง หรือ ประมาณ 52 เปอร์เซ็นต์ แต่คนที่อยู่ในอุตสาหกรรมใหม่ ๆ เช่น สื่อมวลชน อุตสาหกรรมสิ่งทอ หรือศิลปะ เป็นกลุ่มคนที่อยู่ในช่วงอายุน้อยๆ ซึ่งมีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ จึงคิดการที่เราจะส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้ไปข้างหน้าได้ ก็ต้องคิดถึงเรื่องเกี่ยวกับแรงงานคน รวมทั้งเรื่องสิทธิ สวัสดิการของคนที่จะเข้ามาอยู่ในวงการนี้ด้วย โดยเริ่มตั้งแต่ต้นทาง ไม่ใช่การมาสนับสนุนในวันที่เขาประสงความสำเร็จแล้ว วันนี้มองว่าตนเองจะได้เป็นนายกฯ หรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะพรรคก้าวไกลทำงานทางการเมืองก็เพื่อให้งบประมาณของบ้านเมืองไปที่ศักยภาพของความเป็นอีสานในการยกระดับ ที่ไม่ใช่เรื่องการใช้แรงงานเพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงการใช้สมอง สองมือ และหัวใจด้วย และคำว่าจะพัฒนาอย่างไม่ประนีประนอม ก็หมายความว่า ยกตัวอย่างอย่างภาพยนตร์ของ “ต้องเต” ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “สัปเหร่อ” เป็นสิ่งที่แสดงออกได้ชัดแล้วว่า สามารถนำเสนอความเป็นอีสานอย่างที่คนอีสานอยากดู ไม่จำเป็นที่จะต้องทำเพื่อให้คนกรุงหรือชนชั้นกลางอยากดู แต่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของพี่น้องชาวอีสาน ซึ่งรากวัฒนธรรมล้วนมาจากสามัญชน
อดีตเลขาฯสมช. แนะรัฐบาลฟื้นศก. ด้วยพลังประชาชน แก้ลำ ขั้วอำนาจเก่าครอบงำ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4300239
อดีตเลขาฯสมช. แนะรัฐบาลฟื้น ศก. ด้วยพลังประชาชน แก้ลำ ขั้วอำนาจเก่าครอบงำ
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองว่า สำหรับเหล่านักรบทหารจะมีข้อเตือนใจที่ตระหนักอยู่เสมอ คือเมื่อใดที่ผู้นำมีพฤติกรรมตระบัดสัตย์ มิตรร่วมรบก็จะหนีหาย เหตุเพราะเกรงว่า เมื่อเข้าสู่สนามรบ พอเผชิญหน้าวิกฤตในการรบเข้า เจ้านายประเภทนี้ก็จะเผ่นหนี เอาตัวรอดลอยแพลูกน้อง
ด้วยข้อเตือนใจนี้ เมื่อหันมามองที่รัฐบาล นโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่น หาเสียงว่าจะไม่กู้เงินมาแจก แต่กลับมากู้ ประชาชนจึงหนีหาย อีกทั้งรัฐบาลยังมาโหมข่าวว่า นักลงทุนต่างประเทศสนใจจะมาลุงทุนเต็มไปหมด แต่มันดูย้อนแย้งกับสภาวะของประเทศที่ยังคงประกาศใช้กฎหมายพิเศษจำกัดสิทธิเสรีภาพ ไม่ว่าจะเป็นกฎอัยการศึก และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในหลายพื้นที่อย่างมิรู้จบ รวมไปถึงประเทศยังมีมุมมืดของแก๊งโจรสีเทา เจ้าหน้าที่รัฐสีเทาและนักการเมืองสีเทา บรรยากาศแบบนี้มันจะเอื้อต่อการลงทุนได้อย่างไร
ดังนั้น การขับเคลื่อนงานด้านความมั่นคงเพื่อสร้างความปลอดภัยสาธารณะ และความปลอดภัยของประเทศ รัฐบาลจะต้องมีความจริงจังควบคู่ไปกับการฟื้นเศรษฐกิจ มิฉะนั้นแล้วการฟื้นเศรษฐกิจก็จะเป็นเพียงแค่ลมปาก ส่งผลไปเข้าทางของกลุ่มอำนาจเก่า อย่าลืมว่า ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ลากพรรคแกนนำรัฐบาลให้ไปติดกับดักตระบัดสัตย์รัฐบาลข้ามขั้ว เพื่อการครอบงำไว้ แล้วรอจังหวะเมื่อรัฐบาลเสียท่า ก็จะตลบหลังหวนกลับมามีอำนาจใหม่อีกครั้ง
“ซึ่งการแก้ลำให้หลุดจากการครอบงำของกลุ่มอำนาจเก่าและกับดักตระบัดสัตย์ได้อย่างชะงัดก็คือต้องทบทวนการจัดตั้งรัฐบาล โดยเคารพตามเจตจำนงของประชาชนตามผลการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา เพราะเราจะได้ประชาชนเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กหนุนหลัง สามารถสร้างพลังขับเคลื่อนการฟื้นเศรษฐกิจ และลดภาระหนี้ร่วม 10 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นมรดกบาป 9 ปีที่รัฐบาล 3 ป.ทิ้งไว้ และสร้างฝ่ายความมั่นคงที่แข็งแกร่งได้อย่างสัมฤทธิผล” พล.ท.ภราดรกล่าว