เราเดินทางไปย่าติงช่วงวันที่ 17-19 ตุลาคม เดินทางด้วยรถตู้ที่ติดต่อเช่าเอาไว้ก่อนจะมา โดยรถตู้คิดราคาวันละ 1,100 หยวน และเราใช้รถกัน 3 วันก็จะเป็น 3,300 หยวน ถึงแม้ว่าวันที่ 2 เราจะอยู่ในอุทยานฯย่าติง ไม่ได้ใช้รถ แต่รถตู้เค้าต้องรอรับเรากลับไปแชงกรีล่า ก็ต้องจ่ายเต็มวันอยู่ดี
ในกระทู้ก่อนหน้านี้ที่แจ้งไว้ว่า รถตู้จะมี 2 ขนาด คือไซด์ปกติและทรงหลังคาสูง ซึ่งราคาจะเท่ากัน
ด้วยความที่สมาชิกเราตัดสินใจช้า ตอนที่จองรถตู้ แบบหลังคาสูงมันเต็มหมดแล้ว เลยได้ไซด์ธรรมดามา ทำให้เราต้องเอาเสื้อผ้าใส่เป้แทนแล้วฝากกระเป๋าใบใหญ่ไว้ที่โรงแรมที่แชงกรีล่า แล้วค่อยกลับมารับวันที่ 19 เพราะเราจะกลับมาขึ้นเครื่องที่แชงกรีล่าเพื่อไปคุนหมิง
ช่วงย่าติง เรามีสมาชิกมาเพิ่มอีก 2 คน กบายเป็น 10 คน หารค่ารถแล้วก็เหลือคนละ 330 หยวน มีแอบได้ยินกลุ่มคนไทย 4 คน ที่ไปเจอที่ย่าติงให้โรงแรมที่แชงกรีล่าจองรถให้ ได้เป็นรถประมาณ Fortuner แต่จ่ายไปคนละ 550 หยวน
เช้าวันที่ 17 รถตู้มารับแต่เช้า เราแวะถ่ายรูปบ้างเป็นระยะๆ
จุดแรกที่แวะ เห็นสะพานแขวนสวย เลยบอกคนขับให้จอดเพื่อลงไปเก็บรูปกัน
คนขับรถบอกว่า ฝั่งที่เราอยู่คือมลฑลเสฉวน ถ้าข้ามกลับไปคือมลฑลยูนนาน

จุดแวะอีกที่ ให้ลงไปเข้าห้องน้ำ และด้านหลังห้องน้ำมีลานกว้าง ทำเอาไว้ให้นะนักท่องเที่ยวแวะมาถ่ายรูปกัน
ตอนนี้เราอยู่ระดับความสูงน่าจะเกือบ 4,000 เมตร แต่ก็ยังมีภูเขาที่สูงขึ้นไปอีกล้อมรอบ เหมือนเรากำลังอยู่ในหุบ
ถ่ายวิวข้างทางไปเรื่อยๆ เจอตรงไหนสวยก็บอกให้คนขับจอด


กว่าจะได้แวะกินมื้อกลางวันกันก็บ่าย 2 โมงกว่า
ซุปอร่อย อันที่เป็นแป้งทอดก็อร่อย

ด้านหน้าทางเข้าอุทยานฯย่าติง ค่าเข้า 3 วันคนละ 160 หยวน และค่ารถบัสอีกคนละ 105 หยวน รวมเป็น 265 หยวน
รถภายนอกไม่อนุญาตให้เข้าไป (หรืออาจจะต้องเสียเงินเยอะมากก็ไม่รู้) พอเข้าไปแล้ว จะมีรถบัสของทางอุทยานฯวิ่งบริการตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึงราว 6 โมงเย็น และจะมีจุดจอดหลักๆอยู่ทั้งหมด 5 จุดคือ ทางเข้าด้านหน้า จุดจอดที่ 1-2-3 และหน้าทางเข้าที่จะไปเดินรูทสั้นและยาว
เราพักกันที่จุดจอดรถที่ 2 โรงแรม Sada's Tibetan Inn
ค่าห้อง 2 คนคืนละ 677 บาท ก็ตก 338.50 บาท/คน/คืน



ทดสอบเครื่องช่วยหายใจ
หลังจากเช็คอินและเก็บของแล้ว เจ้าของที่พักก็พาเดินไปตรงจุดชมวิวที่อยู่ห่างไปไม่ไกลมาก
ระยะทางแค่ไม่ถึง 200 เมตร แต่กว่าจะเดินถึงก็เหนื่อยนิดนึงเพราะตอนนี้เราอยู่บนระดับความสูง 4,200 เมตร อ็อกซิเจนเบาบาง ต้องค่อยๆเดิน
มีทางเดินที่ทำไว้เลียบริมหน้าผา สมาชิกบางคนเดินไปสำรวจจนสุด แต่ผมยืนรอเพราะขี้เกียจเดินไป


เรามาถึงที่โรงแรมประมาณ 5 โมงเย็น วันแรกเลยไม่ค่อยได้ทำอะไร แค่เดินเล่นแถวๆนั้น และมื้อเย็นก็กินที่ร้านอาหารของโรงแรม
เช้าวันที่ 18 เราจะไปเดินรูทยาวกัน โดยรูทยาวจะมีระยะทาง 6 กม. เราจะต้องออกกันแต่เช้า จึงต้องลงมากินมื้อเช้ากันตอน 6 โมงครึ่งและเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อไปขึ้นรถบัสที่จะมาตรงจุดจอดรถที่ 2 ประมาณ 7.20 น.
ทางเจ้าของที่พักบอกเราว่า ให้กินให้อิ่มเต็มที่ แล้วพยายามอย่าขนอาหารอะไรไปเยอะ เดี๋ยวค่อยกลับลงมากินทีเดียวตอนเย็น และไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็ตาม พอถึงเวลาบ่าย 3 โมงต้องเดินกลับแล้วเพราะเดี๋ยวจะมืดแล้วจะเดินลำบากและอาจจะไม่มีรถกลับมาโรงแรม
มื้อเช้า ทางโรงแรมคิดคนละ 20 หยวน มีข้าวต้ม ผักดอง ไข่ต้ม หมั่นโถ แป้งทอด และมีปาท่องโก๋กับชานมตามมาทีหลัง
ปาท่องโก๋อร่อยมาก แป้งทอดก็ใช้ได้ แอบเอาไข่ต้มพกไปกินข้างบน 2 ฟอง
ตอนเช้าระหว่างที่กำลังรอรถบัส
รถบัสที่นี่จะไม่ให้ยืน ถ้าเต็มก็ต้องลงแล้วรอไปคันต่อไป
จุดเริ่มต้นของการเดินรูทยาว
รถบัสของอุทยานฯจะจอดอยู่ตรงทางเข้าด้านหน้า ต้องเดินขึ้นมาราว 300 เมตรและเป็นทางลาดขึ้น ผมเกือบจะถอดใจแล้วเพราะระยะทางแค่นี้ยัวหยุดพักหายใจไป 4-5 รอบ
พอเดินขึ้นมาถึง จะมีให้ซื้อตั๋วรถกอล์ฟคนละ 70 หยวน โดยรถจะพามาส่งตรงจุดนี้ ระยะทางที่นั่งรถกอล์ฟเข้ามาคือ 6.7 กม. ฉะนั้น ต้องยอมจ่ายครับ เพราะเรายังต้องเดินเองอีก 6 กม.กว่าจะไปถึงทะเลสาบทั้ง 2
ทางเดินทำอย่างดี เป็นทางลักษณะนี้ไปตลอด 6 กม. ก็ไม่แปลกใจที่ค่าเข้าแพงพอควร
ถ้าใครกลัวเดินไม่ไหว มีบริการม้าให้นั่งขี่ไป แต่น่าจะย่นระยะได้ 2-3 กม. ต้องไปเดินต่ออยู่ดี ค่าบริการผมลืมดูมา น่าจะราวๆ 150 หยวนมั้งครับ
ถ่ายรูปหมู่กับสมาชิกที่เดินรูทยาว ที่เหลือเดินรูทสั้นเพราะประเมินสภาพตัวเองแล้วกลัวไม่ไหวกัน
ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปไปเรื่อย




เริ่มออกเดินจริงๆตอน 8 โมงครึ่ง กว่าจะมาถึงทะเลสาบน้ำนมก็บ่ายโมง 20
ระหว่างทางแวะพักขาพักหายใจนับครั้งไม่ถ้วน ทางเดินมันมีทั้งทางราบและทางบันไดไต่ระดับขึ้นเขา



เราไปทะเลสาบนน้ำนมก่อน แล้วค่อยเดินต่อขึ้นเขาไป 500 เมตรเพื่อไปทะเลสาบ 5 สี ให้ไปตามนี้จะเดินง่ายกว่า เพราะขาลงมันจะไปบรรจบกันตรงทางแยกมาทะเลสาบน้ำนม ซึ่งตอนที่เราเดินลง ถึงได้รู้ว่าถ้าเดินขึ้นมาทางนี้มันยากกว่าและน่าจะเหนื่อยกว่า

เอาไข่ต้มที่พกมา ปอกกินที่ทะเลสาบ 5 สี
ทางเดินขากลับ ก็ขาเดียวกับที่มานั่นแหละ
เราอยู่กันบนทะเลสาบ 5 สีถึงเกือบบ่าย 3 ก็เดินลง ขาลงใช้เวลาน้อยหน่อย มาถึงจุดจอดรถกอล์ฟ 5 โมงหน่อยๆ
ตอนเดินลงก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้แรงเข่าค่อนข้างเยอะ ดีที่ทางที่พักให้ยืมไม้เทรคมาใช้ ช่วยได้เยอะมาก แต่ถึงกระนั้นก็ต้องหยุดพักกันเป็นสิบครั้งกว่าจะเดินถึง
มื้อเย็นผมหมดแรง ไม่ได้ลงไปกินข้าว แต่ซื้อเป็นมาม่าถ้วยขึ้นมาต้มกินบนห้องแทน พอได้กินอะไรร้อนๆ ถึงได้อ๋อเลยว่า ทำไมเมื่อวานถึงเห็นคนสั่งก๋วยเตี๋ยวกินกันเยอะที่ร้านอาหาร ไม่ค่อยสั่งเป็นข้าวและกับข้าวกัน เพราะกินและมันรู้สึกดีขึ้นเลย
เช้าวันที่ 19 เราเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมกันแต่เช้า นั่งรถบัสกลับไปด้านหน้าอุทยานฯ คนขับรถตู้มารอเราแล้ว นัดไว้ 9 โมงเช้า ขากลับเราไม่ค่อยได้แวะระหว่างทางเท่าไหร่ กลับมาถึงแชงกรีล่าบ่าย 4 โมงเย็น ยังพอมีเวลาให้เดินเล่นและกินมื้อเย็นอีกนิดหน่อย
ทุ่มตรงรถตู้ก็มารับเราที่โรงแรม เอากระเป๋าขึ้นรถแล้วไปสนามบินแชวกรีล่าเพื่อบินกลับไปคุนหมิง
ตอนแรกเราแพลนไว้ว่าจะเดินรูทสั้นวันนี้ เพราะไฟล์ทออก 4 ทุ่มครึ่ง แต่ก่อนจะมา ไฟล์ทโดนเลื่อนเร็วขึ้นเป็น 3 ทุ่ม เราก็เลยรีบกลับมาแชงกรีล่าดีกว่า จะได่มาเดินเล่นอีกนิดหน่อยก่อนไปขึ้นเครื่อง
เครื่องลงที่สนามบินคุนหมิง 4 ทุ่มครึ่ง นั่งรถไฟใต้ดินสาย 6 มาลงสถานี Tangzixian แล้วลากกระเป๋าต่อไปเกือบกม.นึง คืนนี้เราพักที่ The Hump Hostel จองเป็นห้องแบบ 4 คนเอาไว้ ห้องพักกว้าง ห้องน้ำดี ที่พักเป็นแบบ 2 ชั้น เรานอนกันที่นี่ 2 คืน จ่ายไปคนละ 1,025 บาท ตกคืนละ 512.50 บาทต่อคนรวมอาหารเช้าให้ด้วย
The Hump เป็นโฮสเทลแบบนอนรวม 12 คนและมีห้องสำหรับ 2-4 คนด้วย ตั้งอยู่ตรงประตูม้าทอง-ไก่เงินเลย ข้างๆมีร้านโจ๊ก ถัดจากร้านโจ๊กเหมือนจะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวข้ามสะพานมั้ง ตรงข้ามเป็น Walking Street เลยไปทางขวานิดนึงก็เป็น Street Food ที่เรามาเดินกันวันแรกๆเลย เสียตรงที่ว่า เราจะข้ามไป Walking Street ตรงๆไม่ได้ ต้องเดินไปราว 3-400 เมตรเพื่อไปข้ามทางม้าลายแล้วเดินย้อนกลับมา Walking Street ที่อยู่ตรงข้ามอีกที แต่เห็นมีทำทางข้ามใต้ดินตรงหน้าอยู่ อีก 2-3 ปีถ้าได้กลับมาเยือนอีกครั้งน่าจะเปิดให้ใช้แล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าราคาที่พักจะเพิ่มขึ้นไปเป็นเท่าไหร่


มื้อดึกตอนเที่ยงคืนกว่า ร้านรถเข็นอยู่อีกถนนนึงห่างจากโรงแรม 200 เมตร




มื้อเช้าที่ The Hump เลือกแบบจีนหรืออเมริกัน

แถมท้าย ระหว่างทางแชงกรีล่า-ย่าติง จะมีหินร่วงแบบนี้เป็นระยะๆ
มื้อเย็นที่แชงกรีล่า ก่อนไปขึ้นเครื่อง
หม้อไปร้านนี้อร่อยและไม่แพง อยู่ไม่ไกลจากแยกเจดีย์เล็ก ถัดไปหน่อยมีร้านขายของที่ระลึก เจ้าขอวร้านใจดี ต่อราคาได้นิดหน่อย


[CR] ทริปคุนหมิง-ต้าหลี่-ลี่เจียง-แชงกรีล่า-ย่าติง :- 11-21 ตุลาคม 2566 (ภาค 4 :- ย่าติง รูทยาว ทะเลสาบน้ำนม และทะเลสาบ 5 สี)
ในกระทู้ก่อนหน้านี้ที่แจ้งไว้ว่า รถตู้จะมี 2 ขนาด คือไซด์ปกติและทรงหลังคาสูง ซึ่งราคาจะเท่ากัน
ด้วยความที่สมาชิกเราตัดสินใจช้า ตอนที่จองรถตู้ แบบหลังคาสูงมันเต็มหมดแล้ว เลยได้ไซด์ธรรมดามา ทำให้เราต้องเอาเสื้อผ้าใส่เป้แทนแล้วฝากกระเป๋าใบใหญ่ไว้ที่โรงแรมที่แชงกรีล่า แล้วค่อยกลับมารับวันที่ 19 เพราะเราจะกลับมาขึ้นเครื่องที่แชงกรีล่าเพื่อไปคุนหมิง
ช่วงย่าติง เรามีสมาชิกมาเพิ่มอีก 2 คน กบายเป็น 10 คน หารค่ารถแล้วก็เหลือคนละ 330 หยวน มีแอบได้ยินกลุ่มคนไทย 4 คน ที่ไปเจอที่ย่าติงให้โรงแรมที่แชงกรีล่าจองรถให้ ได้เป็นรถประมาณ Fortuner แต่จ่ายไปคนละ 550 หยวน
เช้าวันที่ 17 รถตู้มารับแต่เช้า เราแวะถ่ายรูปบ้างเป็นระยะๆ
จุดแรกที่แวะ เห็นสะพานแขวนสวย เลยบอกคนขับให้จอดเพื่อลงไปเก็บรูปกัน
คนขับรถบอกว่า ฝั่งที่เราอยู่คือมลฑลเสฉวน ถ้าข้ามกลับไปคือมลฑลยูนนาน
จุดแวะอีกที่ ให้ลงไปเข้าห้องน้ำ และด้านหลังห้องน้ำมีลานกว้าง ทำเอาไว้ให้นะนักท่องเที่ยวแวะมาถ่ายรูปกัน
ตอนนี้เราอยู่ระดับความสูงน่าจะเกือบ 4,000 เมตร แต่ก็ยังมีภูเขาที่สูงขึ้นไปอีกล้อมรอบ เหมือนเรากำลังอยู่ในหุบ
ถ่ายวิวข้างทางไปเรื่อยๆ เจอตรงไหนสวยก็บอกให้คนขับจอด
กว่าจะได้แวะกินมื้อกลางวันกันก็บ่าย 2 โมงกว่า
ซุปอร่อย อันที่เป็นแป้งทอดก็อร่อย
ด้านหน้าทางเข้าอุทยานฯย่าติง ค่าเข้า 3 วันคนละ 160 หยวน และค่ารถบัสอีกคนละ 105 หยวน รวมเป็น 265 หยวน
รถภายนอกไม่อนุญาตให้เข้าไป (หรืออาจจะต้องเสียเงินเยอะมากก็ไม่รู้) พอเข้าไปแล้ว จะมีรถบัสของทางอุทยานฯวิ่งบริการตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึงราว 6 โมงเย็น และจะมีจุดจอดหลักๆอยู่ทั้งหมด 5 จุดคือ ทางเข้าด้านหน้า จุดจอดที่ 1-2-3 และหน้าทางเข้าที่จะไปเดินรูทสั้นและยาว
เราพักกันที่จุดจอดรถที่ 2 โรงแรม Sada's Tibetan Inn
ค่าห้อง 2 คนคืนละ 677 บาท ก็ตก 338.50 บาท/คน/คืน
ทดสอบเครื่องช่วยหายใจ
หลังจากเช็คอินและเก็บของแล้ว เจ้าของที่พักก็พาเดินไปตรงจุดชมวิวที่อยู่ห่างไปไม่ไกลมาก
ระยะทางแค่ไม่ถึง 200 เมตร แต่กว่าจะเดินถึงก็เหนื่อยนิดนึงเพราะตอนนี้เราอยู่บนระดับความสูง 4,200 เมตร อ็อกซิเจนเบาบาง ต้องค่อยๆเดิน
มีทางเดินที่ทำไว้เลียบริมหน้าผา สมาชิกบางคนเดินไปสำรวจจนสุด แต่ผมยืนรอเพราะขี้เกียจเดินไป
เรามาถึงที่โรงแรมประมาณ 5 โมงเย็น วันแรกเลยไม่ค่อยได้ทำอะไร แค่เดินเล่นแถวๆนั้น และมื้อเย็นก็กินที่ร้านอาหารของโรงแรม
เช้าวันที่ 18 เราจะไปเดินรูทยาวกัน โดยรูทยาวจะมีระยะทาง 6 กม. เราจะต้องออกกันแต่เช้า จึงต้องลงมากินมื้อเช้ากันตอน 6 โมงครึ่งและเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อไปขึ้นรถบัสที่จะมาตรงจุดจอดรถที่ 2 ประมาณ 7.20 น.
ทางเจ้าของที่พักบอกเราว่า ให้กินให้อิ่มเต็มที่ แล้วพยายามอย่าขนอาหารอะไรไปเยอะ เดี๋ยวค่อยกลับลงมากินทีเดียวตอนเย็น และไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็ตาม พอถึงเวลาบ่าย 3 โมงต้องเดินกลับแล้วเพราะเดี๋ยวจะมืดแล้วจะเดินลำบากและอาจจะไม่มีรถกลับมาโรงแรม
มื้อเช้า ทางโรงแรมคิดคนละ 20 หยวน มีข้าวต้ม ผักดอง ไข่ต้ม หมั่นโถ แป้งทอด และมีปาท่องโก๋กับชานมตามมาทีหลัง
ปาท่องโก๋อร่อยมาก แป้งทอดก็ใช้ได้ แอบเอาไข่ต้มพกไปกินข้างบน 2 ฟอง
ตอนเช้าระหว่างที่กำลังรอรถบัส
รถบัสที่นี่จะไม่ให้ยืน ถ้าเต็มก็ต้องลงแล้วรอไปคันต่อไป
จุดเริ่มต้นของการเดินรูทยาว
รถบัสของอุทยานฯจะจอดอยู่ตรงทางเข้าด้านหน้า ต้องเดินขึ้นมาราว 300 เมตรและเป็นทางลาดขึ้น ผมเกือบจะถอดใจแล้วเพราะระยะทางแค่นี้ยัวหยุดพักหายใจไป 4-5 รอบ
พอเดินขึ้นมาถึง จะมีให้ซื้อตั๋วรถกอล์ฟคนละ 70 หยวน โดยรถจะพามาส่งตรงจุดนี้ ระยะทางที่นั่งรถกอล์ฟเข้ามาคือ 6.7 กม. ฉะนั้น ต้องยอมจ่ายครับ เพราะเรายังต้องเดินเองอีก 6 กม.กว่าจะไปถึงทะเลสาบทั้ง 2
ทางเดินทำอย่างดี เป็นทางลักษณะนี้ไปตลอด 6 กม. ก็ไม่แปลกใจที่ค่าเข้าแพงพอควร
ถ้าใครกลัวเดินไม่ไหว มีบริการม้าให้นั่งขี่ไป แต่น่าจะย่นระยะได้ 2-3 กม. ต้องไปเดินต่ออยู่ดี ค่าบริการผมลืมดูมา น่าจะราวๆ 150 หยวนมั้งครับ
ถ่ายรูปหมู่กับสมาชิกที่เดินรูทยาว ที่เหลือเดินรูทสั้นเพราะประเมินสภาพตัวเองแล้วกลัวไม่ไหวกัน
ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปไปเรื่อย
เริ่มออกเดินจริงๆตอน 8 โมงครึ่ง กว่าจะมาถึงทะเลสาบน้ำนมก็บ่ายโมง 20
ระหว่างทางแวะพักขาพักหายใจนับครั้งไม่ถ้วน ทางเดินมันมีทั้งทางราบและทางบันไดไต่ระดับขึ้นเขา
เราไปทะเลสาบนน้ำนมก่อน แล้วค่อยเดินต่อขึ้นเขาไป 500 เมตรเพื่อไปทะเลสาบ 5 สี ให้ไปตามนี้จะเดินง่ายกว่า เพราะขาลงมันจะไปบรรจบกันตรงทางแยกมาทะเลสาบน้ำนม ซึ่งตอนที่เราเดินลง ถึงได้รู้ว่าถ้าเดินขึ้นมาทางนี้มันยากกว่าและน่าจะเหนื่อยกว่า
เอาไข่ต้มที่พกมา ปอกกินที่ทะเลสาบ 5 สี
ทางเดินขากลับ ก็ขาเดียวกับที่มานั่นแหละ
เราอยู่กันบนทะเลสาบ 5 สีถึงเกือบบ่าย 3 ก็เดินลง ขาลงใช้เวลาน้อยหน่อย มาถึงจุดจอดรถกอล์ฟ 5 โมงหน่อยๆ
ตอนเดินลงก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้แรงเข่าค่อนข้างเยอะ ดีที่ทางที่พักให้ยืมไม้เทรคมาใช้ ช่วยได้เยอะมาก แต่ถึงกระนั้นก็ต้องหยุดพักกันเป็นสิบครั้งกว่าจะเดินถึง
มื้อเย็นผมหมดแรง ไม่ได้ลงไปกินข้าว แต่ซื้อเป็นมาม่าถ้วยขึ้นมาต้มกินบนห้องแทน พอได้กินอะไรร้อนๆ ถึงได้อ๋อเลยว่า ทำไมเมื่อวานถึงเห็นคนสั่งก๋วยเตี๋ยวกินกันเยอะที่ร้านอาหาร ไม่ค่อยสั่งเป็นข้าวและกับข้าวกัน เพราะกินและมันรู้สึกดีขึ้นเลย
เช้าวันที่ 19 เราเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมกันแต่เช้า นั่งรถบัสกลับไปด้านหน้าอุทยานฯ คนขับรถตู้มารอเราแล้ว นัดไว้ 9 โมงเช้า ขากลับเราไม่ค่อยได้แวะระหว่างทางเท่าไหร่ กลับมาถึงแชงกรีล่าบ่าย 4 โมงเย็น ยังพอมีเวลาให้เดินเล่นและกินมื้อเย็นอีกนิดหน่อย
ทุ่มตรงรถตู้ก็มารับเราที่โรงแรม เอากระเป๋าขึ้นรถแล้วไปสนามบินแชวกรีล่าเพื่อบินกลับไปคุนหมิง
ตอนแรกเราแพลนไว้ว่าจะเดินรูทสั้นวันนี้ เพราะไฟล์ทออก 4 ทุ่มครึ่ง แต่ก่อนจะมา ไฟล์ทโดนเลื่อนเร็วขึ้นเป็น 3 ทุ่ม เราก็เลยรีบกลับมาแชงกรีล่าดีกว่า จะได่มาเดินเล่นอีกนิดหน่อยก่อนไปขึ้นเครื่อง
เครื่องลงที่สนามบินคุนหมิง 4 ทุ่มครึ่ง นั่งรถไฟใต้ดินสาย 6 มาลงสถานี Tangzixian แล้วลากกระเป๋าต่อไปเกือบกม.นึง คืนนี้เราพักที่ The Hump Hostel จองเป็นห้องแบบ 4 คนเอาไว้ ห้องพักกว้าง ห้องน้ำดี ที่พักเป็นแบบ 2 ชั้น เรานอนกันที่นี่ 2 คืน จ่ายไปคนละ 1,025 บาท ตกคืนละ 512.50 บาทต่อคนรวมอาหารเช้าให้ด้วย
The Hump เป็นโฮสเทลแบบนอนรวม 12 คนและมีห้องสำหรับ 2-4 คนด้วย ตั้งอยู่ตรงประตูม้าทอง-ไก่เงินเลย ข้างๆมีร้านโจ๊ก ถัดจากร้านโจ๊กเหมือนจะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวข้ามสะพานมั้ง ตรงข้ามเป็น Walking Street เลยไปทางขวานิดนึงก็เป็น Street Food ที่เรามาเดินกันวันแรกๆเลย เสียตรงที่ว่า เราจะข้ามไป Walking Street ตรงๆไม่ได้ ต้องเดินไปราว 3-400 เมตรเพื่อไปข้ามทางม้าลายแล้วเดินย้อนกลับมา Walking Street ที่อยู่ตรงข้ามอีกที แต่เห็นมีทำทางข้ามใต้ดินตรงหน้าอยู่ อีก 2-3 ปีถ้าได้กลับมาเยือนอีกครั้งน่าจะเปิดให้ใช้แล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าราคาที่พักจะเพิ่มขึ้นไปเป็นเท่าไหร่
มื้อดึกตอนเที่ยงคืนกว่า ร้านรถเข็นอยู่อีกถนนนึงห่างจากโรงแรม 200 เมตร
มื้อเช้าที่ The Hump เลือกแบบจีนหรืออเมริกัน
แถมท้าย ระหว่างทางแชงกรีล่า-ย่าติง จะมีหินร่วงแบบนี้เป็นระยะๆ
มื้อเย็นที่แชงกรีล่า ก่อนไปขึ้นเครื่อง
หม้อไปร้านนี้อร่อยและไม่แพง อยู่ไม่ไกลจากแยกเจดีย์เล็ก ถัดไปหน่อยมีร้านขายของที่ระลึก เจ้าขอวร้านใจดี ต่อราคาได้นิดหน่อย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้