ต้องดูสถานการณ์ ว่าเราอยู่ในสถานะไหน อีกฝ่ายเป็นใครด้วยใช่ไหมครับ
เหมือนแม่ไล่คนเช่าบ้านออก สุดท้ายมันก็หาบ้านใกล้ๆกันในซอยเดียวกันเช่าต่อ ทั้งๆที่รู้ว่าคนเช่าบ้านคือคนกว้างขวางในซอย รู้จักคนเยอะในซอย มีฉายาเป็นโทรโข่งประจำซอย
พอไล่ปุ๊บ มันก็ไปกระจายข่าว ว่าแม่ไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ อย่าไปเช่าบ้านมัน
ประกอบกับมันไมไ่ด้ทำงาน วันๆก็นั่งเล่นในซอยทั้งวัน ใครขับมาถามบ้านเช่ามันสามารถสกรีนได้ตลอดเวลาว่าอย่าไปเช่าไม่ดีหรอก
เพราะมันก็อยู่แค่นี้นั่งตั้งวงเมาส์ในซอย เดินเล่นในซอย อยู่แบบประหยัดๆไม่ชอบเที่ยว
สุดท้ายกว่าจะหาคนเช่าได้ผ่านไป1-2ปีได้
อันนี้แปลว่า เด็ดขาดเกินไปก็ไม่ได้ใช่ไหมครับ ดูอีกฝ่ายด้วยว่ามีความสามารภเอาคืนเราได้ขนาดไหน
ถ้าเป็นกรณีนี้ไม่ควรไล่ใช่ไหมครับ เพราะมันสามารถเอาคืนเราได้
บางครั้งการเป็นคนเด็ดขาดเกินไป ก็ไม่ดีใช่ไหมครับ
เหมือนแม่ไล่คนเช่าบ้านออก สุดท้ายมันก็หาบ้านใกล้ๆกันในซอยเดียวกันเช่าต่อ ทั้งๆที่รู้ว่าคนเช่าบ้านคือคนกว้างขวางในซอย รู้จักคนเยอะในซอย มีฉายาเป็นโทรโข่งประจำซอย
พอไล่ปุ๊บ มันก็ไปกระจายข่าว ว่าแม่ไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ อย่าไปเช่าบ้านมัน
ประกอบกับมันไมไ่ด้ทำงาน วันๆก็นั่งเล่นในซอยทั้งวัน ใครขับมาถามบ้านเช่ามันสามารถสกรีนได้ตลอดเวลาว่าอย่าไปเช่าไม่ดีหรอก
เพราะมันก็อยู่แค่นี้นั่งตั้งวงเมาส์ในซอย เดินเล่นในซอย อยู่แบบประหยัดๆไม่ชอบเที่ยว
สุดท้ายกว่าจะหาคนเช่าได้ผ่านไป1-2ปีได้
อันนี้แปลว่า เด็ดขาดเกินไปก็ไม่ได้ใช่ไหมครับ ดูอีกฝ่ายด้วยว่ามีความสามารภเอาคืนเราได้ขนาดไหน
ถ้าเป็นกรณีนี้ไม่ควรไล่ใช่ไหมครับ เพราะมันสามารถเอาคืนเราได้