จริงๆเราเชื่อเรื่องนี้นะ แต่..เราสงสัยว่ามันเกิดจากอะไร แล้วทำไมการที่ทำอะไรแบบนั้น แล้วผลมันจะเป็นแบบนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ แต่ก็หาคำตอบไม่ได้ ในครอบครัวเรามีเรื่องนึง... แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวเท่าไหร่

คือว่า ... ให้นามสมมุติของคนนี้ชื่อว่า พี่ 1 ซึ่ง พี่ 1 เนี้ย มีอาชีพทำดนตรีเครื่องเสียงร้านบันเทิงใน จ. แห่งหนึ่ง ภาคกลาง คือแกเป็นอันดับต้นๆของวงการนั้น จ. นั้นเลย และก็จะมีอีกคนที่ทำแบบนี้เช่นเดียวกันแต่เขาเป็นรุ่นน้อง แต่งานพี่ 1 จะเยอะกว่า จนมาวันนึง พี่ 1 ก็เกิดอาการหน้ามืดแบบไม่มีสาเหตุและทำให้พี่ 1 ล้มหัวฟาดพื้น และได้เข้า รพ. ซึ่งหมอก็บอกว่า เลือดออกในสมอง (แสดงว่าล้มแรงมาก) และก็ทำการรักษาอย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ จนพี่ 1 อาการดีขึ้น หมายถึงว่า สามารถพูดตอบโต้ได้ แต่ไม่สามารถ เดิน และ มองเห็นได้ชัดเจน จะมองเห็นเป็นมืดๆมัวๆ ก็กลับมารักษาตัวที่บ้าน ซึ่งงานที่เคยทำก็ไม่ได้ทำ หยุดไปหลายปี เพราะร่างรายกับสภาพที่เป็นอยู่ไม่สามารถดำเนินต่อได้ ต่อมาหลังจากนั้นพี่ 1 ได้ ไปงาน(สีดำ) ของญาติทางแม่พี่ 1 เมื่องานสีดำเสร็จทุกอย่างและวันสุดท้ายญาติๆ นัดกันไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่ง ในภาคอีสาน เมื่อทำบุญที่วัดเสร็จ ทางแม่พี่1 เลยขอดูดวงกับพระที่วัด เลยถามเกี่ยวกับพี่ 1 พระตอบกลับมาคำเดียวว่า ”โดนของมา“ ก็พูดรายละเอียดกันไปพักใหญ่ สรุปได้ว่า พี่1 ต้องมาอยู่ที่วัด 7 วัน พระจะทำการสวดไล่ของออกให้ทุกวัน และนำน้ำมันที่ปลุกเสกมาทาที่ตัว+นวดที่ศรีษะ เมื่อผ่าน 7 วันไป เหลือเชื่อ คือว่า พี่ 1 สามารถเดินได้ด้วยที่จับแบบไม่ต้องมีคนช่วย แต่ก่อนต้องมีคนค่อยพยุงข้างๆ และที่สำคัญ ดวงตาที่มองเห็นเป็นมัวๆ สามารถมองเห็นเป็นเงาคน รู้ว่าคนนี้ใคร เรียกชื่อถูก ซึ่งก่อนหน้าที่ออกจาก รพ. ยังมองเห็นไม่ชัดเท่านี้

พระก็บอกว่าคนใกล้ตัวทำของใส่ พี่ 1 ก็ยังคิดไม่ออกว่าใคร พระก็บอกว่าตอนนี้คนนั้นได้รับผลกรรมแล้ว พอพี่ 1 นึกคิดดีๆ ก็นึกออกว่า ต้องเป็นรุ่นน้องคนนั้น ก่อนหน้านี้รุ่นน้องได้เอาอาหารมาให้พี่ 1 กิน รุ่นน้องทำอาชีพเดียวกัน และเมื่อพี่ 1 ได้ เข้า รพ. รักษาตัว งานพี่ 1 ทั้งหมดในพื้นที่นั้น ตกไปเป็นของรุ่นน้องคนนั้นทั้งหมดเลย และผลกรรมที่เขาได้คือ ช่วงที่เขาได้รับงาน ก็ได้ทำไปสักระยะนึง และโควิดก็ระบาด ประเทศปิด สถานบริการปิด ทำให้เขาก็ไม่มีแม้แต่งานเดียว