อยากทราบความคิดเห็นของทุกๆคนว่าการที่พระเข้ามาบวชได้เงินระหว่างการบวช เมื่อสึกแล้ว เอาเงินเหล่านั้นมาใช้ ได้หรือไม่?
ผมได้บวชเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อ,แม่ เป็นเวลา 1 พรรษา ซึ่งผมได้บวชที่วัดแห่งหนึ่งในตัวเมืองซึ่งเป็นวัดที่มีความเจริญมาก
และผมได้บวชพร้อมกับเพื่อนผมคนนึง ซึ่งเพื่อนผมคนนี้มีพี่ชายที่บวชเป็นพระที่วัดแห่งนี้มาก่อนแล้วซักประมาณ 3 พรรษา
ระหว่างที่บวชก็ปฏิบัติตามกฏของสงฆ์อย่างปกติดี แต่คือปกติพระบวชใหม่นั้นยังสวดมนต์ต่างๆยังไม่ค่อยได้
ทางวัดจึงยังไม่จัดกิจนิมนต์ให้สำหรับพระบวชใหม่ แต่พอบวชมาได้ซักเดือนนึง ทางวัดก็เริ่มให้พระใหม่นั้นได้ออกกิจนิมนต์
และที่ได้กล่าวมาข้างต้นว่าวัดที่ผมบวชนั้นอยู่ในตัวเมืองและเจริญมากจึงมีญาติ โยมมาทำบุญ มีงานขึ้นบ้าน งานศพ งานทำบุญร้อยวันบ้างดังนั้นกิจนิมนต์ของที่วัดนี้จึงเกือบมีทุกวันและทางวัดจะติดประกาศตารางกิจนิมนต์ว่าวันนี้มีชื่อพระรูปไหนไปกิจที่ไหนเป็นอย่างนี้ทุกวันก็คือตัวผมเองและพระใหม่ก็จะได้ออกงานกันละ ที่ผมอยากให้ทราบคือตัวเพื่อนผมที่บวชพร้อมกัน
ตอนแรกก็นึกว่ามาบวชเพื่อศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับพระธรรม วินัยต่างๆและปฏิบัติให้รู้ว่าชีวิตของพระสงฆ์นั้นเป็นอย่างไร เมื่อสึกออกมาจะได้เป็นคนดี รู้จักใช้ชีวิตตามหลักความดีต่อไปในอนาคต
แต่มันไม่ใช่หล่ะซิครับ คือพอเริ่มได้ออกกิจนิมนต์แล้ว (สงสัยคงติดใจ) ก็ออกไปตลอดไม่มีพลาด (อันนี้ก็ปกติ) แต่คือเพื่อนผมเขามีพี่ชายที่บวชอยู่ก่อนหน้านั้นด้วย เพื่อนผมเลยขอกรรมสิทธิ์ในการออกกิจของพี่ชายอีกด้วย พูดง่ายๆคือถ้ามีกิจนิมนต์ที่มีชื่อของพี่ชายตัวเองแต่ไม่มีชื่อตัวเอง ตัวเองก็จะไปแทนพี่ชาย (พูดง่ายๆคือ 2 เด้ง) เพราะส่วนมากพระใหม่จะได้กิจนิมนต์ประมาณ 2-3 ครั้งต่ออาทิตย์
แต่พี่ชายของเพื่อนผมนั้นเป็นพระเก่าจึงได้ออกกิจนิมนต์มากกว่าพระบวชใหม่ คือเพื่อนผมอาจจะได้ได้กิจนิมนต์ประมาณ 8-10 ครั้งต่ออาทิตย์ซึ่งการออกกิจนิมนต์นั้นก็จะได้ปัจจัยมากน้อยแล้วแต่เจ้าภาพ (ปกติจะได้ตั้งแต่ 200-1000บาทต่อหนึ่งงาน)
และการบิณฑบาตรปกติในทุกๆวันญาติ โยมที่มาทำบุญบ้างทีก็ไม่ได้ใส่ข้าว,กับข้าว,ของหวาน,น้ำ แต่บ้างทีญาติ โยมบางคนจะใส่ปัจจัยบ้างเพราะบางคนไม่มีเวลาเตรียมอาหาร เลยคิดว่าใส่ปัจจัยสะดวกดี (ซึ่งจะได้ปัจจัยประมาณ 100-300 บาทต่อวัน)
ในวันพระทางเจ้าอาวาสจะอนุโลมว่าวันพระไม่ต้องบิณฑบาตรก็ได้เพราะวันพระบางวัน พระที่บวชในพรรษาต้องฟังพระปาฏิโมกข์ทุกๆกึ่งเดือนและในวันพระ ญาติ โยมก็มาทำบุญที่วัดไม่ต้องออกไปบิณฑบาตร เพราะอาหารที่โยมมาถวายก็เยอะแยะ(มากกว่าที่บิณฑบาตรเองอีก) แต่เพื่อนผมก็ไปบิณฑบาตรนะ ถ้าจะถามว่าไปบิณฑบาตรในวันพระเพื่ออะไรเพราะในเมื่อส่วนใหญ่พระที่วัดเค้าไม่บิณฑบาตรกัน
1.บิณฑบาตรเพื่อหาเลี้ยงชีพด้วยอาหาร (ผมว่าไม่น่าจะใช่เพราะอาหารที่ญาติ โยมมาถวายในวันพระเยอะมากฉันยังไงก็ไม่หมด)
2.เพื่อออกไปโปรดสัตว์ โปรดญาติ โยม (ผมว่าก็ไม่น่าใช่เพราะญาติ โยมจะถวายอาหารในวันพระเสร็จก็จะขึ้นมาฟังเทศน์ ฟังพระสวดมนต์ รับพรที่ศาลา พูดง่ายญาติ โยมเค้ามาให้เราโปรดที่วัดแล้วจึงไม่จำเป็นที่ต้องออกไปโปรดญาติ โยมข้างนอก)
3.เพื่อเงินปัจจัยเพราะการไปบิณฑบาตรนั้นจะได้ทั้งอาหารและปัจจัย (ถ้าในวันพระ ญาติ โยมมาทำบุญที่วัดถ้าอยากจะทำบุญด้วยปัจจัยก็จะใส่ตู้ช่วยค่าน้ำค่าไฟแทน พระจะไม่ได้รับปัจจัยซักบาทเดียว)
ซึ่งเพื่อนผมนั้นไปบิณฑบาตรทุกวันเลยไม่มีหยุดนอกจากมีกิจนิมนต์ตอนเช้าก็จะไม่ไปบิณฑบาตร
เมื่อออกพรรษาแล้วเพื่อนผมจึงหาฤกษ์สึก ส่วนผมนั้นอยู่ต่อจนรับกฐิน(เพราะแม่ขอให้อยู่ต่อแล้วค่อยสึก)
ในวันใกล้สึกผมถามเพื่อนว่าถ้าสึกไปแล้วจะเอาเงินไปทำอะไร ได้เงินมาตั้งเยอะแยะเป็นหมื่นๆ เพื่อนผมก็ตอบว่าจะเอาไปใช้ตั้งตัว
ผมเลยอยากถามว่าสามารถเอาเงินส่วนนี้มาใช่ได้หรือไม่ และจะมีผลอะไรหรือไม่
ส่วนผมคืนวัดหมดครับ เพราะแม่บอกมาว่าถ้าสึกให้ทำบุญให้หมดเหลือติดกระเป๋าเป็นขวัญถุงไว้ 11 บาทครับ
เรื่องอาจจะยาวซักนิดนะครับ ผมพยายามเล่าให้ผู้อ่านเข้าใจ ขอบคุณมากครับผม
อยากทราบความคิดเห็นของทุกๆคนว่าการที่พระเข้ามาบวชได้เงินระหว่างการบวช เมื่อสึกแล้ว เอาเงินเหล่านั้นมาใช้ ได้หรือไม่?
ผมได้บวชเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อ,แม่ เป็นเวลา 1 พรรษา ซึ่งผมได้บวชที่วัดแห่งหนึ่งในตัวเมืองซึ่งเป็นวัดที่มีความเจริญมาก
และผมได้บวชพร้อมกับเพื่อนผมคนนึง ซึ่งเพื่อนผมคนนี้มีพี่ชายที่บวชเป็นพระที่วัดแห่งนี้มาก่อนแล้วซักประมาณ 3 พรรษา
ระหว่างที่บวชก็ปฏิบัติตามกฏของสงฆ์อย่างปกติดี แต่คือปกติพระบวชใหม่นั้นยังสวดมนต์ต่างๆยังไม่ค่อยได้
ทางวัดจึงยังไม่จัดกิจนิมนต์ให้สำหรับพระบวชใหม่ แต่พอบวชมาได้ซักเดือนนึง ทางวัดก็เริ่มให้พระใหม่นั้นได้ออกกิจนิมนต์
และที่ได้กล่าวมาข้างต้นว่าวัดที่ผมบวชนั้นอยู่ในตัวเมืองและเจริญมากจึงมีญาติ โยมมาทำบุญ มีงานขึ้นบ้าน งานศพ งานทำบุญร้อยวันบ้างดังนั้นกิจนิมนต์ของที่วัดนี้จึงเกือบมีทุกวันและทางวัดจะติดประกาศตารางกิจนิมนต์ว่าวันนี้มีชื่อพระรูปไหนไปกิจที่ไหนเป็นอย่างนี้ทุกวันก็คือตัวผมเองและพระใหม่ก็จะได้ออกงานกันละ ที่ผมอยากให้ทราบคือตัวเพื่อนผมที่บวชพร้อมกัน
ตอนแรกก็นึกว่ามาบวชเพื่อศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับพระธรรม วินัยต่างๆและปฏิบัติให้รู้ว่าชีวิตของพระสงฆ์นั้นเป็นอย่างไร เมื่อสึกออกมาจะได้เป็นคนดี รู้จักใช้ชีวิตตามหลักความดีต่อไปในอนาคต
แต่มันไม่ใช่หล่ะซิครับ คือพอเริ่มได้ออกกิจนิมนต์แล้ว (สงสัยคงติดใจ) ก็ออกไปตลอดไม่มีพลาด (อันนี้ก็ปกติ) แต่คือเพื่อนผมเขามีพี่ชายที่บวชอยู่ก่อนหน้านั้นด้วย เพื่อนผมเลยขอกรรมสิทธิ์ในการออกกิจของพี่ชายอีกด้วย พูดง่ายๆคือถ้ามีกิจนิมนต์ที่มีชื่อของพี่ชายตัวเองแต่ไม่มีชื่อตัวเอง ตัวเองก็จะไปแทนพี่ชาย (พูดง่ายๆคือ 2 เด้ง) เพราะส่วนมากพระใหม่จะได้กิจนิมนต์ประมาณ 2-3 ครั้งต่ออาทิตย์
แต่พี่ชายของเพื่อนผมนั้นเป็นพระเก่าจึงได้ออกกิจนิมนต์มากกว่าพระบวชใหม่ คือเพื่อนผมอาจจะได้ได้กิจนิมนต์ประมาณ 8-10 ครั้งต่ออาทิตย์ซึ่งการออกกิจนิมนต์นั้นก็จะได้ปัจจัยมากน้อยแล้วแต่เจ้าภาพ (ปกติจะได้ตั้งแต่ 200-1000บาทต่อหนึ่งงาน)
และการบิณฑบาตรปกติในทุกๆวันญาติ โยมที่มาทำบุญบ้างทีก็ไม่ได้ใส่ข้าว,กับข้าว,ของหวาน,น้ำ แต่บ้างทีญาติ โยมบางคนจะใส่ปัจจัยบ้างเพราะบางคนไม่มีเวลาเตรียมอาหาร เลยคิดว่าใส่ปัจจัยสะดวกดี (ซึ่งจะได้ปัจจัยประมาณ 100-300 บาทต่อวัน)
ในวันพระทางเจ้าอาวาสจะอนุโลมว่าวันพระไม่ต้องบิณฑบาตรก็ได้เพราะวันพระบางวัน พระที่บวชในพรรษาต้องฟังพระปาฏิโมกข์ทุกๆกึ่งเดือนและในวันพระ ญาติ โยมก็มาทำบุญที่วัดไม่ต้องออกไปบิณฑบาตร เพราะอาหารที่โยมมาถวายก็เยอะแยะ(มากกว่าที่บิณฑบาตรเองอีก) แต่เพื่อนผมก็ไปบิณฑบาตรนะ ถ้าจะถามว่าไปบิณฑบาตรในวันพระเพื่ออะไรเพราะในเมื่อส่วนใหญ่พระที่วัดเค้าไม่บิณฑบาตรกัน
1.บิณฑบาตรเพื่อหาเลี้ยงชีพด้วยอาหาร (ผมว่าไม่น่าจะใช่เพราะอาหารที่ญาติ โยมมาถวายในวันพระเยอะมากฉันยังไงก็ไม่หมด)
2.เพื่อออกไปโปรดสัตว์ โปรดญาติ โยม (ผมว่าก็ไม่น่าใช่เพราะญาติ โยมจะถวายอาหารในวันพระเสร็จก็จะขึ้นมาฟังเทศน์ ฟังพระสวดมนต์ รับพรที่ศาลา พูดง่ายญาติ โยมเค้ามาให้เราโปรดที่วัดแล้วจึงไม่จำเป็นที่ต้องออกไปโปรดญาติ โยมข้างนอก)
3.เพื่อเงินปัจจัยเพราะการไปบิณฑบาตรนั้นจะได้ทั้งอาหารและปัจจัย (ถ้าในวันพระ ญาติ โยมมาทำบุญที่วัดถ้าอยากจะทำบุญด้วยปัจจัยก็จะใส่ตู้ช่วยค่าน้ำค่าไฟแทน พระจะไม่ได้รับปัจจัยซักบาทเดียว)
ซึ่งเพื่อนผมนั้นไปบิณฑบาตรทุกวันเลยไม่มีหยุดนอกจากมีกิจนิมนต์ตอนเช้าก็จะไม่ไปบิณฑบาตร
เมื่อออกพรรษาแล้วเพื่อนผมจึงหาฤกษ์สึก ส่วนผมนั้นอยู่ต่อจนรับกฐิน(เพราะแม่ขอให้อยู่ต่อแล้วค่อยสึก)
ในวันใกล้สึกผมถามเพื่อนว่าถ้าสึกไปแล้วจะเอาเงินไปทำอะไร ได้เงินมาตั้งเยอะแยะเป็นหมื่นๆ เพื่อนผมก็ตอบว่าจะเอาไปใช้ตั้งตัว
ผมเลยอยากถามว่าสามารถเอาเงินส่วนนี้มาใช่ได้หรือไม่ และจะมีผลอะไรหรือไม่
ส่วนผมคืนวัดหมดครับ เพราะแม่บอกมาว่าถ้าสึกให้ทำบุญให้หมดเหลือติดกระเป๋าเป็นขวัญถุงไว้ 11 บาทครับ
เรื่องอาจจะยาวซักนิดนะครับ ผมพยายามเล่าให้ผู้อ่านเข้าใจ ขอบคุณมากครับผม