ประธานกาชาดสากลพบผู้นำฮามาส หารือเรื่อง “มนุษยธรรมในกาซา”
https://www.dailynews.co.th/news/2920209/
เจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ พบกับผู้นำกลุ่มฮามาส เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับ "
สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา" ท่ามกลางความพยายามของหลายฝ่ายที่เข้มข้นมากขึ้น เพื่อหาทางช่วยตัวประกัน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ว่าคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ ( ไอซีอาร์ซี ) ออกแถลงการณ์ว่า นาง
เมอร์ยานา สโปลจาริก เอกเกอร์ ประธานไอซีอาร์ซี พบหารือกับนาย
อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำสูงสุดฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส ที่กรุงโดฮา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับ “
สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา” ซึ่งเป็นผลจากการทำสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ซึ่งยืดเยื้อตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.
ขณะเดียวกัน ไอซีอาร์ซียืนยันว่า
เอกเกอร์พบหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของรัฐบาลกาตาร์ด้วย แต่ยังไม่มีฝ่ายใดให้รายละเอียดเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม การเยือนกาตาร์ของประธานไอซีอาร์ซี เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลโดฮากล่าวว่า การเจรจาระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส เกี่ยวกับตัวประกันราว 240 คน ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในฉนวนกาซา “
อยู่ในช่วงโค้งสุดท้าย” เพื่อบรรลุข้อตกลงปล่อยตัวประกันบางส่วน ซึ่งข้อมูลจากสื่อหลายแห่งในสหรัฐและอิสราเอลระบุว่า จะเป็นการที่อิสราเอลหยุดยิง 3-5 วัน และกลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกัน 50 คน เน้นผู้หญิงและเด็ก
https://twitter.com/ICRC/status/1726562226478125083
“ศิริกัญญา” ชี้ปัญหาศก.ตอนนี้ กระตุ้นด้วยดิจิทัลวอลเล็ตแก้ไม่ได้
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_643535/
“ศิริกัญญา” ชี้GDP ไตรมาส 3 โต 1.5% ภาคการบริโภคโต 8.1% สะท้อนปัญหาเศรษฐกิจไทยไม่ได้อยู่ที่การบริโภค แต่อยู่ที่ภาคอุตสาหกรรม การส่งออก และการลงทุนภาครัฐหดตัว การกระตุ้นด้วยดิจิทัลวอลเล็ตจึงอาจไม่สามารถแก้ปัญหาได้
นางสาว
ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงจากกรณีที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลข GDP ของประเทศไทยในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 โตขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า ตัวเลข GDP นั้นวัดได้จากทั้งฝั่งการผลิต (production) และฝั่งรายจ่าย (expenditure) ซึ่งตัวเลขรวมจะต้องตรงกัน
ในฝั่งการผลิต ภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นภาคส่วนที่ใหญ่ที่สุดเกิดการหดตัวลง -4% จึงดึงใน GDP ของไทยให้โตต่ำและติดลบ หนักที่สุดคืออุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก โดยเฉพาะการผลิตฮาร์ดดิสก์และชิ้นส่วนแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่ภาคบริการขยายตัวได้ดีมาก โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว โรงแรม และร้านอาหารโตขึ้นถึง 14.9% การค้าปลีกและค้าส่งโต 3.3% และภาคการขนส่งโต 6.8%
ส่วนฝั่งรายจ่าย คำนวณได้ตามสูตร “
C+I+G+X-M” (การบริโภคภาคเอกชน + การลงทุนภาคเอกชน + การใช้จ่ายภาครัฐ + การส่งออก – การนำเข้า) ซึ่งจากตัวเลขที่เปิดเผยโดยสภาพัฒน์ฯ วันนี้จะเห็นได้ว่า การบริโภคภาคเอกชนโตขึ้นถึง 8.1% การลงทุนภาคเอกชนโต 3.1% แต่สต็อกสินค้าก็ลดลงมาก แสดงว่ายังไม่ได้มีการผลิตเพิ่ม ซึ่งสอดคล้องกับฝั่งการผลิตที่ภาคอุตสาหกรรมหดตัวลง ขณะที่การใช้จ่ายของภาครัฐหดตัวลงทั้งการบริโภค (-4.9%) และการลงทุน (-2.6%) และถึงแม้การส่งออกสินค้าจะหดตัวตามคาดที่ -3.1% แต่การส่งออกภาคบริการกลับโตถึง 23% ส่วนการนำเข้าหดตัวแรงที่ -10.2%
จากตัวเลขข้างต้น
ศิริกัญญาสรุปว่า ปัญหาของเศรษฐกิจไทยไม่ได้อยู่ที่ภาคการบริโภค แต่เป็นเรื่องของการส่งออกที่หดตัวตามเศรษฐกิจโลก การลงทุนของภาครัฐที่หดตัวลง และการลงทุนภาคเอกชนที่ถึงแม้จะโตขึ้น แต่ก็ถือว่าโตน้อยเมื่อเทียบกับการเติบโตของปีก่อน ดังนั้น จึงไม่ใช่ “
วิกฤตเศรษฐกิจ” อย่างที่รัฐบาลพยายามประโคมข่าว
และที่สำคัญกว่านั้น เมื่อรัฐบาลมองเห็นปัญหาของเศรษฐกิจไทยผ่านข้อมูลเหล่านี้แล้ว รัฐบาลจะยังคงฝืนกระตุ้นภาคการบริโภคผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอยู่หรือไม่ ทั้ง ๆ ที่ตัวเลขก็ประจักษ์ชัดว่าภาคการบริโภคโตกว่า 8.1% “ไม่มีใครเถียงว่าเศรษฐกิจไทยแย่ เศรษฐกิจไทยโตช้า และโตต่ำกว่าที่คาด ดิฉันเองก็เห็นด้วยและพูดเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่คำถามที่คาใจใครหลาย ๆ คนในตอนนี้คือ สรุปแล้วเศรษฐกิจไทย ‘วิกฤต’ รึยัง?”
สมชัย ถามสภาพัฒน์ฯ ลืมบอกรบ.หรือเปล่า? ตัวแดงในจีดีพีคืออะไร ทำไมห่วง แต่จะกู้มาแจก
https://www.matichon.co.th/politics/news_4292653
สมชัย เขียนสภาพัฒน์ฯ ลืมบอกอะไรรบ.ไหม? เพราะหลังรู้จีดีพีโต 1.5% ถึงห่วงแต่จะกู้มาแจก
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 นาย
สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะที่ปรึกษา กมธ.ติดตามงบประมาณฯ สภาผู้แทนราษฎร ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กแสดงความคิดเห็นภายหลัง นาย
ดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลขการขยายตัวเศรษฐกิจหรือผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ไตรมาส 3/2566 พบว่า โตแค่ 1.5% โดยมีเนื้อหาดังนี้
สภาพัฒน์ลืมบอกอะไรรัฐบาลไหม
ตัวเลข จีดีพี ไตรมาส 3 ที่สภาพัฒน์ระบุว่า โตแค่ 1.5 ที่ทำให้เกิดเสียงประสานจากฝ่ายรัฐบาลว่า นี่ไงวิกฤตแล้ว เป็นเหตุผลต้องหนุนเรื่องกู้ 500,000 ล้าน มาแจกประชาชน เพื่อแก้วิกฤต จีดีพี ตกต่ำ
ดูจาก ตัวแดงในภาพ ที่เป็นเหตุให้จีดีพี ต่ำ คือ อุปโภคภาครัฐ -4.9 การส่งออกสินค้า -3.1 และตัวเล็กๆ ที่เขียนว่า การลงทุนภาครัฐ -2.6
ในขณะที่ตัวช่วยให้เป็นบวก คือการบริโภคของเอกชน +8.1 และ การส่งออกบริการที่ +23.1
แปลว่า ประชาชนเขามีเงินบริโภคมากขึ้น ร้อยละ 8.1 ในขณะที่รัฐบาลนั่นแหละที่ใช้จ่ายน้อยละ ร้อยละ 4.9 เลยพาลดึง จีดีพีต่ำเตี้ย
รัฐบาลอุปโภคติดลบ เพราะอะไร การลงทุนของรัฐติดลบเพราะอะไร คำตอบ คืองบประมาณแผ่นดินปี 2567 ล่าช้าถึง 7 เดือนแทนที่จะสามารถเริ่มจ่ายได้ตั้งแต่ตุลาคม 2566 กว่าจะจ่ายได้ คือ พฤษภาคม 2567
การติดลบเรื่องการอุปโภคภาครัฐบาล และการลงทุนภาครัฐบาล ยังคงมีต่อไปจนถึงไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 และหากไม่วางแผนการจัดซื้อจัดจ้างให้ดี มัวแต่ห่วงเรื่องกู้มาแจก ไตรมาส 4 ปี 2567 ก็ยังติดลบ
เลิกนิสัยหยิบฉวยตัวเลขมาพูดเอาแต่ได้ แล้วพูดความจริงกับประชาชนน่าจะดีกว่า
Cr ภาพ : เอกสารประกอบการแถลงข่าวของ สภาพัฒน์ฯ
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid06KzhYpix1dtw2j6BumYuQ4s91QwiBRybvjSUb97KhxijcZWDwC7wMkzsD44fDqhgl
JJNY : ปธ.กาชาดสากลพบผู้นำฮามาส│“ศิริกัญญา” ชี้ปัญหาศก.│สมชัยถามสภาพัฒน์ฯ ลืมบอกรบ.หรือเปล่า?│
https://www.dailynews.co.th/news/2920209/
เจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ พบกับผู้นำกลุ่มฮามาส เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับ "สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา" ท่ามกลางความพยายามของหลายฝ่ายที่เข้มข้นมากขึ้น เพื่อหาทางช่วยตัวประกัน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ว่าคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ ( ไอซีอาร์ซี ) ออกแถลงการณ์ว่า นางเมอร์ยานา สโปลจาริก เอกเกอร์ ประธานไอซีอาร์ซี พบหารือกับนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำสูงสุดฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส ที่กรุงโดฮา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับ “สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา” ซึ่งเป็นผลจากการทำสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ซึ่งยืดเยื้อตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.
ขณะเดียวกัน ไอซีอาร์ซียืนยันว่า เอกเกอร์พบหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของรัฐบาลกาตาร์ด้วย แต่ยังไม่มีฝ่ายใดให้รายละเอียดเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม การเยือนกาตาร์ของประธานไอซีอาร์ซี เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลโดฮากล่าวว่า การเจรจาระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส เกี่ยวกับตัวประกันราว 240 คน ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในฉนวนกาซา “อยู่ในช่วงโค้งสุดท้าย” เพื่อบรรลุข้อตกลงปล่อยตัวประกันบางส่วน ซึ่งข้อมูลจากสื่อหลายแห่งในสหรัฐและอิสราเอลระบุว่า จะเป็นการที่อิสราเอลหยุดยิง 3-5 วัน และกลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกัน 50 คน เน้นผู้หญิงและเด็ก
https://twitter.com/ICRC/status/1726562226478125083
“ศิริกัญญา” ชี้ปัญหาศก.ตอนนี้ กระตุ้นด้วยดิจิทัลวอลเล็ตแก้ไม่ได้
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_643535/
“ศิริกัญญา” ชี้GDP ไตรมาส 3 โต 1.5% ภาคการบริโภคโต 8.1% สะท้อนปัญหาเศรษฐกิจไทยไม่ได้อยู่ที่การบริโภค แต่อยู่ที่ภาคอุตสาหกรรม การส่งออก และการลงทุนภาครัฐหดตัว การกระตุ้นด้วยดิจิทัลวอลเล็ตจึงอาจไม่สามารถแก้ปัญหาได้
นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงจากกรณีที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลข GDP ของประเทศไทยในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 โตขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า ตัวเลข GDP นั้นวัดได้จากทั้งฝั่งการผลิต (production) และฝั่งรายจ่าย (expenditure) ซึ่งตัวเลขรวมจะต้องตรงกัน
ในฝั่งการผลิต ภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นภาคส่วนที่ใหญ่ที่สุดเกิดการหดตัวลง -4% จึงดึงใน GDP ของไทยให้โตต่ำและติดลบ หนักที่สุดคืออุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก โดยเฉพาะการผลิตฮาร์ดดิสก์และชิ้นส่วนแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่ภาคบริการขยายตัวได้ดีมาก โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว โรงแรม และร้านอาหารโตขึ้นถึง 14.9% การค้าปลีกและค้าส่งโต 3.3% และภาคการขนส่งโต 6.8%
ส่วนฝั่งรายจ่าย คำนวณได้ตามสูตร “C+I+G+X-M” (การบริโภคภาคเอกชน + การลงทุนภาคเอกชน + การใช้จ่ายภาครัฐ + การส่งออก – การนำเข้า) ซึ่งจากตัวเลขที่เปิดเผยโดยสภาพัฒน์ฯ วันนี้จะเห็นได้ว่า การบริโภคภาคเอกชนโตขึ้นถึง 8.1% การลงทุนภาคเอกชนโต 3.1% แต่สต็อกสินค้าก็ลดลงมาก แสดงว่ายังไม่ได้มีการผลิตเพิ่ม ซึ่งสอดคล้องกับฝั่งการผลิตที่ภาคอุตสาหกรรมหดตัวลง ขณะที่การใช้จ่ายของภาครัฐหดตัวลงทั้งการบริโภค (-4.9%) และการลงทุน (-2.6%) และถึงแม้การส่งออกสินค้าจะหดตัวตามคาดที่ -3.1% แต่การส่งออกภาคบริการกลับโตถึง 23% ส่วนการนำเข้าหดตัวแรงที่ -10.2%
จากตัวเลขข้างต้น ศิริกัญญาสรุปว่า ปัญหาของเศรษฐกิจไทยไม่ได้อยู่ที่ภาคการบริโภค แต่เป็นเรื่องของการส่งออกที่หดตัวตามเศรษฐกิจโลก การลงทุนของภาครัฐที่หดตัวลง และการลงทุนภาคเอกชนที่ถึงแม้จะโตขึ้น แต่ก็ถือว่าโตน้อยเมื่อเทียบกับการเติบโตของปีก่อน ดังนั้น จึงไม่ใช่ “วิกฤตเศรษฐกิจ” อย่างที่รัฐบาลพยายามประโคมข่าว
และที่สำคัญกว่านั้น เมื่อรัฐบาลมองเห็นปัญหาของเศรษฐกิจไทยผ่านข้อมูลเหล่านี้แล้ว รัฐบาลจะยังคงฝืนกระตุ้นภาคการบริโภคผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอยู่หรือไม่ ทั้ง ๆ ที่ตัวเลขก็ประจักษ์ชัดว่าภาคการบริโภคโตกว่า 8.1% “ไม่มีใครเถียงว่าเศรษฐกิจไทยแย่ เศรษฐกิจไทยโตช้า และโตต่ำกว่าที่คาด ดิฉันเองก็เห็นด้วยและพูดเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่คำถามที่คาใจใครหลาย ๆ คนในตอนนี้คือ สรุปแล้วเศรษฐกิจไทย ‘วิกฤต’ รึยัง?”
สมชัย ถามสภาพัฒน์ฯ ลืมบอกรบ.หรือเปล่า? ตัวแดงในจีดีพีคืออะไร ทำไมห่วง แต่จะกู้มาแจก
https://www.matichon.co.th/politics/news_4292653
สมชัย เขียนสภาพัฒน์ฯ ลืมบอกอะไรรบ.ไหม? เพราะหลังรู้จีดีพีโต 1.5% ถึงห่วงแต่จะกู้มาแจก
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะที่ปรึกษา กมธ.ติดตามงบประมาณฯ สภาผู้แทนราษฎร ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กแสดงความคิดเห็นภายหลัง นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลขการขยายตัวเศรษฐกิจหรือผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ไตรมาส 3/2566 พบว่า โตแค่ 1.5% โดยมีเนื้อหาดังนี้
สภาพัฒน์ลืมบอกอะไรรัฐบาลไหม
ตัวเลข จีดีพี ไตรมาส 3 ที่สภาพัฒน์ระบุว่า โตแค่ 1.5 ที่ทำให้เกิดเสียงประสานจากฝ่ายรัฐบาลว่า นี่ไงวิกฤตแล้ว เป็นเหตุผลต้องหนุนเรื่องกู้ 500,000 ล้าน มาแจกประชาชน เพื่อแก้วิกฤต จีดีพี ตกต่ำ
ดูจาก ตัวแดงในภาพ ที่เป็นเหตุให้จีดีพี ต่ำ คือ อุปโภคภาครัฐ -4.9 การส่งออกสินค้า -3.1 และตัวเล็กๆ ที่เขียนว่า การลงทุนภาครัฐ -2.6
ในขณะที่ตัวช่วยให้เป็นบวก คือการบริโภคของเอกชน +8.1 และ การส่งออกบริการที่ +23.1
แปลว่า ประชาชนเขามีเงินบริโภคมากขึ้น ร้อยละ 8.1 ในขณะที่รัฐบาลนั่นแหละที่ใช้จ่ายน้อยละ ร้อยละ 4.9 เลยพาลดึง จีดีพีต่ำเตี้ย
รัฐบาลอุปโภคติดลบ เพราะอะไร การลงทุนของรัฐติดลบเพราะอะไร คำตอบ คืองบประมาณแผ่นดินปี 2567 ล่าช้าถึง 7 เดือนแทนที่จะสามารถเริ่มจ่ายได้ตั้งแต่ตุลาคม 2566 กว่าจะจ่ายได้ คือ พฤษภาคม 2567
การติดลบเรื่องการอุปโภคภาครัฐบาล และการลงทุนภาครัฐบาล ยังคงมีต่อไปจนถึงไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 และหากไม่วางแผนการจัดซื้อจัดจ้างให้ดี มัวแต่ห่วงเรื่องกู้มาแจก ไตรมาส 4 ปี 2567 ก็ยังติดลบ
เลิกนิสัยหยิบฉวยตัวเลขมาพูดเอาแต่ได้ แล้วพูดความจริงกับประชาชนน่าจะดีกว่า
Cr ภาพ : เอกสารประกอบการแถลงข่าวของ สภาพัฒน์ฯ
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid06KzhYpix1dtw2j6BumYuQ4s91QwiBRybvjSUb97KhxijcZWDwC7wMkzsD44fDqhgl