คือเรื่องความไม่พอใจมันเริ่มมาจากครั้งหนึ่งเขาเคยเข้าเครื่องปุ๊ป เเล้วทีนี่เราก็เลยบอกว่า พี่เข้าเครื่องผิดนะ ลดกี่เปอร์เซ... ต่อหน้าเเคชเชียร์ มันกำลังเข้าเครื่องอยู่ ณ ตอนนั้น เเล้วอยู่ๆก็มาตะคอกใส่ เราก็งง ตอนเเรกเขาก็ไม่เชื่อคิดว่าเราบอกผิดไรงี้ จะเดินไปถามอีกคนก็บอกเราพูดถูกเเล้ว
เเต่เป็นเรื่องของปีที่เเล้ว...
พอมาปีถัดมา มีครั้งหนึ่งกำลังเปลี่ยนป้าย Sale เขาก็เดินพูดเหมือนโมโหว่า " ให้มันจัดการตัวเองก่อน " ตอนนั้นเราเริ่มขึ้นเเล้วนะ ก็น่าจะเห็นว่าทำงานอยู่ลูกค้าก็บ่มี โต๊ะเเคชเชียร์ก็กว้าง ก่อนหน้าคือเรามองโลก+++ ในที่ทำงานมาก เเล้วทีนี่เราเข้าสต๊อกใช่มะ กำลังจะเอาของวาง หัวหน้าที่กำลังขึ้นตำเเหน่งใหม่ก็บอกในวางเเนวนอนซึ่งจะสอดลอดเข้าราวได้ ซึ่งความจริงงานมันเเทบไม่ใช้สมองอะไรเลยนะ ที่นี่มันก็พูดว่า " เดี๋ยวมันก็นอนหรอก " คือตอนนั้นเราริเริ่มจะมีความคิดบันทึกเสียงเเล้วนะ เเต่เสียตอนนั้นมัวรู้สึกว่ามันจะผิดจรรยาบรรณอะไรเปล่า เลยมาตั้งกระทู้ถามในพันทิปว่าผิด ไม่ผิด เเล้วก็ไม่ค่อยพูดจาสุภาพสักหน่อย เป็นไม่ให้เกียรติคนอื่น ทั้งที่เราสุภาพด้วยเเล้ว หลังๆเราเริ่มไม่สุภาพเเหละ
อีกช่วงเวลาถึงจุดเเตกหักก็คำนวณเเล้วว่า เรามีความถูกต้องมากพอจะด่ากลับ เรากำลังทำงานย้ายของเคลียร์บริเวณพื้นที่ขาย เเล้วก็ไม่ใครดีเทลเรื่องงานอะไรเลย ให้เราสังเกตอย่างเดียวเเละในขณะนั้น จะย้ายของออก เราก็ย้ายตามปกติอะไรใช่ป่ะ ทีนี้มีตอนนึงต้องช่วยงานเเบบเป็นทีม เราก็เข้ามาช่วยเเบกของ ฉากนึงจะเอารถเข็นอะไรสักอย่าง มันบอกให้เอารถเข็นของพาวเวอร์มอลล์ มาขน ซึ่งเราก็คิดในใจอยู่เเล้ว ไม่ใช่รถในเเผนกเรา เเต่มันบอกเราก็ไม่อยากเซ้าซี้อะไรมันมาก พูดรอบเดียวมันก็ตีมึน เห็นมันทำงานมาเหนื่อยๆ ( เหงื่อท้วม )
เเต่พอเข็นได้สักพักคนในพาวเวอร์ผู้หญิงหนึ่งชายหนึ่งวัยกลางคนบอก น้องอันนี้รถเข็นพี่นะ เราก็ตอบครับ อยู่ๆมันก็มาบอกว่า อันนี้อย่าเข็นนะ เป็นของอีกเเผนกนึง ทั้งที่เราก็บอกไป เเต่ไม่ฟัง ยังจะตีมึนโบยอีก เเบบนี้ก็ได้
เราพอเราจะไปเข็นเอาของไปไว้ที่อื่น มันก็ไม่บอกจุดหมายปลายทางอพไรเลย ไม่บอกอะไรสักอย่าง ถามก็ไม่ได้ตอบ ก็ขี้เกียจจะคุยกะมัน พอบอกให้มันจอด จะถามผจก. มันก็ตะคอกจะให้ตรูจอดตรงนี้เหรอ พอเข็นได้สักพัก อยู่ผจก.ก็ให้กลับลำ เข็นมาไว้ข้างใน ไม่ใช่ข้างนอกลานใจรถ ในใจจะโกรธมันเเหละ ใจยังมองโลกในเเง่ดี ( ทำไมไม่ประสานงานก่อน )
มาถึงจุดที่เราทำพลาดเเล้ว ตอนนึงมาเอารถลากสอดไว้ตรงโต๊ะยาวๆ เราก็ขี้เกียจถามมันเพราะชอบตะคอกขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ เเต่ไม่รู้ด้วยความอยากช่วยงาน
เราเลยเอารถลากกับกะบะไปเก็บในชั้นเดียวกัน ไม่ห่างจากพื้นที่ทำงานมากนัก เรากำลังเข้าลากไปถามผจก.เเล้วว่ารถลากเก็บไว้ไหน เกือบมีหลักฐานเเล้ว ว่าเราทำงานพลาดด
มาก็เดินมาเหมือนคนโวยวายเสียงดัง เสียงดังมาก ตอนนั้นยังไม่รู้ตัวนะ คิดว่าคนอื่นทะเลาะกันมั้ง อะไรทำนองนู้นนี้นั้น
มันก็มาด่าเลย เเบบเสียๆหายๆ โชคดีที่นึกไงบันทึกเสียงไว้ เลยมีหลักฐาน เเต่ครั้งนี้ด่ากลับจร้า ด่าไปเลยบอกไปนู้นนี้นั้น ว่าให้เอากะบะเก็บตรงลาน อิอิ เเต่มันเก็บในสต็อก สั่งตรงกันมุ้ย ( เเต่ตัวเองผิดนะเพราะเจตตนาเเรกคือจะเก็บทั้งรถเเละกะบะ เเต่เขาให้เก็บเเค่กะบะ 555+ )
มันก็ทำท่าโมโห รีบดึงกะบะออกจากรถลากเเล้วเข็นไปเก็บให้เเทน ( ขอบคุณนะ ) เเต่รถลากอยากเอาไปก็เอาไปจร้าา นั้นเเหละฉากที่ทะเลาะ จากนั้นเหมือนนางไม่กล้าด่า งงมาก ผมพร้อมจะบันทึกเสียงเเม่งไม่เห็นพูดสักที
เเล้วสุดท้ายเขาก็มาโพสต์เฟสบุ๊สประจานเราเชิงต่อว่าเเละดูถูกครับ คิดว่าผมควรรับมือเหตุการณ์นี้อย่างไร
เพื่อนร่วมงาน Toxic หรือเรา Toxic สามารถเเจ้งความได้ไหมครับ
เเต่เป็นเรื่องของปีที่เเล้ว...
พอมาปีถัดมา มีครั้งหนึ่งกำลังเปลี่ยนป้าย Sale เขาก็เดินพูดเหมือนโมโหว่า " ให้มันจัดการตัวเองก่อน " ตอนนั้นเราเริ่มขึ้นเเล้วนะ ก็น่าจะเห็นว่าทำงานอยู่ลูกค้าก็บ่มี โต๊ะเเคชเชียร์ก็กว้าง ก่อนหน้าคือเรามองโลก+++ ในที่ทำงานมาก เเล้วทีนี่เราเข้าสต๊อกใช่มะ กำลังจะเอาของวาง หัวหน้าที่กำลังขึ้นตำเเหน่งใหม่ก็บอกในวางเเนวนอนซึ่งจะสอดลอดเข้าราวได้ ซึ่งความจริงงานมันเเทบไม่ใช้สมองอะไรเลยนะ ที่นี่มันก็พูดว่า " เดี๋ยวมันก็นอนหรอก " คือตอนนั้นเราริเริ่มจะมีความคิดบันทึกเสียงเเล้วนะ เเต่เสียตอนนั้นมัวรู้สึกว่ามันจะผิดจรรยาบรรณอะไรเปล่า เลยมาตั้งกระทู้ถามในพันทิปว่าผิด ไม่ผิด เเล้วก็ไม่ค่อยพูดจาสุภาพสักหน่อย เป็นไม่ให้เกียรติคนอื่น ทั้งที่เราสุภาพด้วยเเล้ว หลังๆเราเริ่มไม่สุภาพเเหละ
อีกช่วงเวลาถึงจุดเเตกหักก็คำนวณเเล้วว่า เรามีความถูกต้องมากพอจะด่ากลับ เรากำลังทำงานย้ายของเคลียร์บริเวณพื้นที่ขาย เเล้วก็ไม่ใครดีเทลเรื่องงานอะไรเลย ให้เราสังเกตอย่างเดียวเเละในขณะนั้น จะย้ายของออก เราก็ย้ายตามปกติอะไรใช่ป่ะ ทีนี้มีตอนนึงต้องช่วยงานเเบบเป็นทีม เราก็เข้ามาช่วยเเบกของ ฉากนึงจะเอารถเข็นอะไรสักอย่าง มันบอกให้เอารถเข็นของพาวเวอร์มอลล์ มาขน ซึ่งเราก็คิดในใจอยู่เเล้ว ไม่ใช่รถในเเผนกเรา เเต่มันบอกเราก็ไม่อยากเซ้าซี้อะไรมันมาก พูดรอบเดียวมันก็ตีมึน เห็นมันทำงานมาเหนื่อยๆ ( เหงื่อท้วม )
เเต่พอเข็นได้สักพักคนในพาวเวอร์ผู้หญิงหนึ่งชายหนึ่งวัยกลางคนบอก น้องอันนี้รถเข็นพี่นะ เราก็ตอบครับ อยู่ๆมันก็มาบอกว่า อันนี้อย่าเข็นนะ เป็นของอีกเเผนกนึง ทั้งที่เราก็บอกไป เเต่ไม่ฟัง ยังจะตีมึนโบยอีก เเบบนี้ก็ได้
เราพอเราจะไปเข็นเอาของไปไว้ที่อื่น มันก็ไม่บอกจุดหมายปลายทางอพไรเลย ไม่บอกอะไรสักอย่าง ถามก็ไม่ได้ตอบ ก็ขี้เกียจจะคุยกะมัน พอบอกให้มันจอด จะถามผจก. มันก็ตะคอกจะให้ตรูจอดตรงนี้เหรอ พอเข็นได้สักพัก อยู่ผจก.ก็ให้กลับลำ เข็นมาไว้ข้างใน ไม่ใช่ข้างนอกลานใจรถ ในใจจะโกรธมันเเหละ ใจยังมองโลกในเเง่ดี ( ทำไมไม่ประสานงานก่อน )
มาถึงจุดที่เราทำพลาดเเล้ว ตอนนึงมาเอารถลากสอดไว้ตรงโต๊ะยาวๆ เราก็ขี้เกียจถามมันเพราะชอบตะคอกขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ เเต่ไม่รู้ด้วยความอยากช่วยงาน
เราเลยเอารถลากกับกะบะไปเก็บในชั้นเดียวกัน ไม่ห่างจากพื้นที่ทำงานมากนัก เรากำลังเข้าลากไปถามผจก.เเล้วว่ารถลากเก็บไว้ไหน เกือบมีหลักฐานเเล้ว ว่าเราทำงานพลาดด
มาก็เดินมาเหมือนคนโวยวายเสียงดัง เสียงดังมาก ตอนนั้นยังไม่รู้ตัวนะ คิดว่าคนอื่นทะเลาะกันมั้ง อะไรทำนองนู้นนี้นั้น
มันก็มาด่าเลย เเบบเสียๆหายๆ โชคดีที่นึกไงบันทึกเสียงไว้ เลยมีหลักฐาน เเต่ครั้งนี้ด่ากลับจร้า ด่าไปเลยบอกไปนู้นนี้นั้น ว่าให้เอากะบะเก็บตรงลาน อิอิ เเต่มันเก็บในสต็อก สั่งตรงกันมุ้ย ( เเต่ตัวเองผิดนะเพราะเจตตนาเเรกคือจะเก็บทั้งรถเเละกะบะ เเต่เขาให้เก็บเเค่กะบะ 555+ )
มันก็ทำท่าโมโห รีบดึงกะบะออกจากรถลากเเล้วเข็นไปเก็บให้เเทน ( ขอบคุณนะ ) เเต่รถลากอยากเอาไปก็เอาไปจร้าา นั้นเเหละฉากที่ทะเลาะ จากนั้นเหมือนนางไม่กล้าด่า งงมาก ผมพร้อมจะบันทึกเสียงเเม่งไม่เห็นพูดสักที
เเล้วสุดท้ายเขาก็มาโพสต์เฟสบุ๊สประจานเราเชิงต่อว่าเเละดูถูกครับ คิดว่าผมควรรับมือเหตุการณ์นี้อย่างไร