กระทู้นี้ก็ไม่มีสาระอะไรนะครับ ก็แค่อยากจะมา จมอยู่กับอดีตที่เคยดี 5555 และเคยมีความสุขนะครับ กระทู้นี้เป็นที่ 2 แล้วของผม
ผมเป็นคนกรุงเทพฯครับ
.....แต่ตอนนี้มาอยู่ขอนแก่น กับลูกเมีย อาชีพที่ทำตอนนี้ก็ จะเรียกว่าเป็นคนสวนหรือภารโรงก็ไม่รู้ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะเรียกอะไรดี ฮ่า (รายละเอียดอยู่ในกระทู้ตอนที่1ครับ)
เพราะงานที่ทำนี่ มีทั้งเก็บขยะ กวาดถนน ล้างถนน เก็บใบไม้ รดน้ำต้นไม้ ดูแลต้นไม้ อีกอย่างเป็นอาชีพที่ได้มาทำเป็นครั้งแรกในชีวิตครับ เลยก็ยังงงๆอยู่นิดหน่อย แต่ที่พูดแบบนี้นี่ไม่ใช่ว่าไม่อยากทำนะครับงานที่ผมทำส่วนใหญ่ก็ตามภาพนี้ล่ะครับเอาแค่ ที่พอแอบถ่ายได้นะครับผม
คือถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากจะมาทำหรอกมันติดแค่ถ้าไม่ทำก็ไม่มีเงินให้ลูกให้เมียและไม่มีกินเท่านั้น เลยต้องทำ5555
เพราะจริงๆแล้วผมเป็นกุ๊กโรงแรมมาก่อน
สมัยอยู่กรุงเทพฯ
แต่โดย สถานะทางการเงินของผม ที่ต้องดูแลทั้งลูกและเมียแล้ว มีอะไรก็ทำไปก่อนครับ ได้เงินเอาหมดยกเว้น งานผิดกฎหมาย
55555 ไม่ได้ซีเรียสอะไร อย่างที่ว่าไปอยู่ บ้านเฉยๆ รอใช้เงินเมียอย่างเดียว มันก็จะผิดปกติไปนะผมว่า
แต่ ในช่วงเวลาของชีวิตที่ก่อนจะมาอาศัยอยู่ที่ขอนแก่นกับลูกและเมียนี้ ตอนผมอยู่กรุงเทพฯนี่ จุดเริ่มต้นผมจริงๆนี่ เริ่มทำงานในร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังแห่งหนึ่งตอนอายุ16 ในห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้าครับผม
แต่ด้วยความที่สมัยเด็กๆนี่ คอยไปนั่งเฝ้าดูย่าทำกับข้าวอยู่เรื่อยๆ มันเลยเป็นความทรงจำที่ติดตัวมาตลอดเลยทำให้ เกิดความรู้สึกอยากเป็นกุ๊กขึ้นมา พอรอดพ้นจากการเกณฑ์ทหาร ผมก็เลยเริ่มหาทำงานในสวนอาหาร แถวสวนผักตลิ่งชัน จนได้ ทำแล้วเริ่มมีความรู้เรื่อง การปรุงอาหาร ไทย และคุ้นเคยกับการใช้มีดใช้เขียง แบบกุ๊กครัวไทยเขา
......จุดเปลี่ยนในวิถีชีวิตคนครัวของผมคือผมไปทำงานอยู่ที่ ภัตตาคารแห่งหนึ่ง ในสนามกอล์ฟที่นครปฐมครับ ซึ่งเหมือนเป็น โชคชะตาบันดาลให้ผมได้มาทำ เพราะ ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำอาหารที่ผมได้ จากที่นี่ไม่ใช่แค่ อาหารไทยอย่างเดียว แต่เนื่องจาก ผมบอกกับฝ่ายบุคคลว่าเคยเป็นกุ๊กญี่ปุ่นมาก่อน เขาเลยจับผมไปอยู่แผนก ที่ทำอาหารทั้งอาหารยุโรปและอาหารญี่ปุ่นขายครับ
ผมทำอยู่ที่นั้น จนได้ เมีย 1 คน ซึ่งเป็นเมียคนแรกนะครับแต่เลิกลาไปก่อนที่จะไปได้เมียเป็นคนขอนแก่น การได้ทำงานที่นี่ผมจึงได้ความรู้ทั้งเรื่องอาหารยุโรปและอาหารไทย เพราะผมเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่เฉย เวลาว่างๆก็จะไป ดูครัวไทย-ครัวจีนเพื่อช่วยงานเขา และเพื่อแอบส่องดูเอาวิชาด้วย ความรู้ ในเรื่องอาหารยุโรป และอาหารไทย ที่ผมได้จากที่นี่ ทำให้ผม ได้ไปต่อยอดในโรงแรม แถวสายใต้ใหม่เป็นครั้งแรกที่ได้ทำงานเป็นกุ๊กโรงแรม แต่ตำแหน่งแรกที่ได้ทำงานในโรงแรมคือ คอมมิสทู(commis2) แปลไทยก็ประมาณคล้ายๆผู้ช่วยกุ๊กอ่ะครับ
พอได้ทำงานโรงแรมที่แรกทีนี้ก็เริ่มต้นกันยาวเลยครับ ผมก็ ทำจนสะสมอายุงาน จนพอได้ที่ผมก็เริ่มออกหาโรงแรมใหม่ เพื่อขยับตำแหน่งของตัวเอง
จากcommis2 มาเป็นcommis1 เรื่อยมาถึงDemi chef (แถมงานที่รับผิดชอบไม่ใช่แค่ปรุงอาหารไทยแล้ว ได้อยู่ครัวยุโรปดัวย555)จากทำงานโรงแรม แถวย่านชานเมือง แถวปิ่นเกล้า ค่อยๆเขยิบมาเรื่อยๆจนมาโผล่แถวสุขุมวิทจนได้
ทั้งๆที่ผมไม่เคยเรียนคหกรรมมาก่อนเลยนะ ประสบการณ์ของตัวผมเองที่มีก็แค่ทำร้านอาหาร-สวนอาหาร และ ประกอบกับความเป็นคน อยากรู้อยากเห็นนะครับ อันไหนไม่รู้ก็ไปแอบดูเขาแล้วจะเอาหรือไม่ก็เปิดเน็ตดู ถ้ามีโอกาสก็ไปขอประจำตัวเขา ลองทำดู
จุดพีคที่สุดใน ในชีวิตคนครัวของผมคือก่อนที่จะตามเมียมาขอนแก่นนี้ผมได้เป็น chef de partie(แปลไทยก็หัวหน้ากะครับ) ในโรงแรม 5 ดาวแห่งหนึ่งแถวๆสีลมครับ(ตรงสี่แยกไฟแดงอ่ะ)
เดี๋ยวผมจะเรียบเรียงให้อ่านดูจะได้เห็นถึงความมหัศจรรย์ใน วิวัฒนาการอาชีพคนครัวของผมครับ5555
1.อายุ16ทำร้านอาหารญี่ปุ่น
2.อายุ23-26 ทำสวนอาหาร และภัตตาคาร
3.อายุ29-30 เริ่มเดินสายทำงานโรงแรม
ทั้งครัวไทยและครัวยุโรป
4.อายุ40 เป็นเชฟกะ(chef de partie) โรงแรม 5 ดาวเงินเดือน 20,000 บาท( เซอร์วิสชาร์จอีกต่างหาก เดือนละหมื่นกว่าๆ)
ไอ้ที่ทำงานสุดท้ายข้อ4นี่แหละ ผมเสียดายมากเลย เพราะมัน ทำให้ผมได้มีเงินมา ผ่อนรถมอเตอร์ไซค์ ให้ เมียด้วยและของผมด้วย และปัจจุบันรถมอเตอร์ไซค์เมีย ก็โดนยึดไปแล้วเพราะไม่มีเงินส่งค่างวดไฟแนนซ์5555เวฟต้องจากไปเวร555
......แต่เนื่องจากเมียพาลูกมาอยู่ที่ขอนแก่น ผมเลยอยู่คนเดียวโดดเดี่ยวที่กรุงเทพฯ แถมบ้านของ ตัวเองจริงๆก็ไม่มี เลยตัดสินใจ ตามลูกเมียมาที่ขอนแก่นครับผม (หากท่านใดที่สนใจรายละเอียดโปรดช่วยไปดูที่กระทู้แรกของผมครับ)
เรื่องของคนกทม.วัยจะ50มาอยู่ขอนแก่น ตอนที่2
ผมเป็นคนกรุงเทพฯครับ
.....แต่ตอนนี้มาอยู่ขอนแก่น กับลูกเมีย อาชีพที่ทำตอนนี้ก็ จะเรียกว่าเป็นคนสวนหรือภารโรงก็ไม่รู้ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะเรียกอะไรดี ฮ่า (รายละเอียดอยู่ในกระทู้ตอนที่1ครับ)
เพราะงานที่ทำนี่ มีทั้งเก็บขยะ กวาดถนน ล้างถนน เก็บใบไม้ รดน้ำต้นไม้ ดูแลต้นไม้ อีกอย่างเป็นอาชีพที่ได้มาทำเป็นครั้งแรกในชีวิตครับ เลยก็ยังงงๆอยู่นิดหน่อย แต่ที่พูดแบบนี้นี่ไม่ใช่ว่าไม่อยากทำนะครับงานที่ผมทำส่วนใหญ่ก็ตามภาพนี้ล่ะครับเอาแค่ ที่พอแอบถ่ายได้นะครับผม
คือถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากจะมาทำหรอกมันติดแค่ถ้าไม่ทำก็ไม่มีเงินให้ลูกให้เมียและไม่มีกินเท่านั้น เลยต้องทำ5555
เพราะจริงๆแล้วผมเป็นกุ๊กโรงแรมมาก่อน
สมัยอยู่กรุงเทพฯ
แต่โดย สถานะทางการเงินของผม ที่ต้องดูแลทั้งลูกและเมียแล้ว มีอะไรก็ทำไปก่อนครับ ได้เงินเอาหมดยกเว้น งานผิดกฎหมาย
55555 ไม่ได้ซีเรียสอะไร อย่างที่ว่าไปอยู่ บ้านเฉยๆ รอใช้เงินเมียอย่างเดียว มันก็จะผิดปกติไปนะผมว่า
แต่ ในช่วงเวลาของชีวิตที่ก่อนจะมาอาศัยอยู่ที่ขอนแก่นกับลูกและเมียนี้ ตอนผมอยู่กรุงเทพฯนี่ จุดเริ่มต้นผมจริงๆนี่ เริ่มทำงานในร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังแห่งหนึ่งตอนอายุ16 ในห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้าครับผม
แต่ด้วยความที่สมัยเด็กๆนี่ คอยไปนั่งเฝ้าดูย่าทำกับข้าวอยู่เรื่อยๆ มันเลยเป็นความทรงจำที่ติดตัวมาตลอดเลยทำให้ เกิดความรู้สึกอยากเป็นกุ๊กขึ้นมา พอรอดพ้นจากการเกณฑ์ทหาร ผมก็เลยเริ่มหาทำงานในสวนอาหาร แถวสวนผักตลิ่งชัน จนได้ ทำแล้วเริ่มมีความรู้เรื่อง การปรุงอาหาร ไทย และคุ้นเคยกับการใช้มีดใช้เขียง แบบกุ๊กครัวไทยเขา
......จุดเปลี่ยนในวิถีชีวิตคนครัวของผมคือผมไปทำงานอยู่ที่ ภัตตาคารแห่งหนึ่ง ในสนามกอล์ฟที่นครปฐมครับ ซึ่งเหมือนเป็น โชคชะตาบันดาลให้ผมได้มาทำ เพราะ ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำอาหารที่ผมได้ จากที่นี่ไม่ใช่แค่ อาหารไทยอย่างเดียว แต่เนื่องจาก ผมบอกกับฝ่ายบุคคลว่าเคยเป็นกุ๊กญี่ปุ่นมาก่อน เขาเลยจับผมไปอยู่แผนก ที่ทำอาหารทั้งอาหารยุโรปและอาหารญี่ปุ่นขายครับ
ผมทำอยู่ที่นั้น จนได้ เมีย 1 คน ซึ่งเป็นเมียคนแรกนะครับแต่เลิกลาไปก่อนที่จะไปได้เมียเป็นคนขอนแก่น การได้ทำงานที่นี่ผมจึงได้ความรู้ทั้งเรื่องอาหารยุโรปและอาหารไทย เพราะผมเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่เฉย เวลาว่างๆก็จะไป ดูครัวไทย-ครัวจีนเพื่อช่วยงานเขา และเพื่อแอบส่องดูเอาวิชาด้วย ความรู้ ในเรื่องอาหารยุโรป และอาหารไทย ที่ผมได้จากที่นี่ ทำให้ผม ได้ไปต่อยอดในโรงแรม แถวสายใต้ใหม่เป็นครั้งแรกที่ได้ทำงานเป็นกุ๊กโรงแรม แต่ตำแหน่งแรกที่ได้ทำงานในโรงแรมคือ คอมมิสทู(commis2) แปลไทยก็ประมาณคล้ายๆผู้ช่วยกุ๊กอ่ะครับ
พอได้ทำงานโรงแรมที่แรกทีนี้ก็เริ่มต้นกันยาวเลยครับ ผมก็ ทำจนสะสมอายุงาน จนพอได้ที่ผมก็เริ่มออกหาโรงแรมใหม่ เพื่อขยับตำแหน่งของตัวเอง
จากcommis2 มาเป็นcommis1 เรื่อยมาถึงDemi chef (แถมงานที่รับผิดชอบไม่ใช่แค่ปรุงอาหารไทยแล้ว ได้อยู่ครัวยุโรปดัวย555)จากทำงานโรงแรม แถวย่านชานเมือง แถวปิ่นเกล้า ค่อยๆเขยิบมาเรื่อยๆจนมาโผล่แถวสุขุมวิทจนได้
ทั้งๆที่ผมไม่เคยเรียนคหกรรมมาก่อนเลยนะ ประสบการณ์ของตัวผมเองที่มีก็แค่ทำร้านอาหาร-สวนอาหาร และ ประกอบกับความเป็นคน อยากรู้อยากเห็นนะครับ อันไหนไม่รู้ก็ไปแอบดูเขาแล้วจะเอาหรือไม่ก็เปิดเน็ตดู ถ้ามีโอกาสก็ไปขอประจำตัวเขา ลองทำดู
จุดพีคที่สุดใน ในชีวิตคนครัวของผมคือก่อนที่จะตามเมียมาขอนแก่นนี้ผมได้เป็น chef de partie(แปลไทยก็หัวหน้ากะครับ) ในโรงแรม 5 ดาวแห่งหนึ่งแถวๆสีลมครับ(ตรงสี่แยกไฟแดงอ่ะ)
เดี๋ยวผมจะเรียบเรียงให้อ่านดูจะได้เห็นถึงความมหัศจรรย์ใน วิวัฒนาการอาชีพคนครัวของผมครับ5555
1.อายุ16ทำร้านอาหารญี่ปุ่น
2.อายุ23-26 ทำสวนอาหาร และภัตตาคาร
3.อายุ29-30 เริ่มเดินสายทำงานโรงแรม
ทั้งครัวไทยและครัวยุโรป
4.อายุ40 เป็นเชฟกะ(chef de partie) โรงแรม 5 ดาวเงินเดือน 20,000 บาท( เซอร์วิสชาร์จอีกต่างหาก เดือนละหมื่นกว่าๆ)
ไอ้ที่ทำงานสุดท้ายข้อ4นี่แหละ ผมเสียดายมากเลย เพราะมัน ทำให้ผมได้มีเงินมา ผ่อนรถมอเตอร์ไซค์ ให้ เมียด้วยและของผมด้วย และปัจจุบันรถมอเตอร์ไซค์เมีย ก็โดนยึดไปแล้วเพราะไม่มีเงินส่งค่างวดไฟแนนซ์5555เวฟต้องจากไปเวร555
......แต่เนื่องจากเมียพาลูกมาอยู่ที่ขอนแก่น ผมเลยอยู่คนเดียวโดดเดี่ยวที่กรุงเทพฯ แถมบ้านของ ตัวเองจริงๆก็ไม่มี เลยตัดสินใจ ตามลูกเมียมาที่ขอนแก่นครับผม (หากท่านใดที่สนใจรายละเอียดโปรดช่วยไปดูที่กระทู้แรกของผมครับ)