ถึงตัวเองในปี2024

กระทู้สนทนา
นช่วง ปิดเทอม แม่ผมเริ่มหางานทำอย่างจริงๆจังๆ เลิกทำเกษตรหรือเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งใช้ไม่ได้กับคนที่มีหนี้สิ้น การเริ่มงานใหม่ของแม่ ไหนจะงานที่พ่อทำมีวันหยุดเยอะไปหน่อย ทำให้เงิน ไม่ค่อยออกมาให้มาใช้ เป็นช่วงปรับตัว ทำให้เงินในกระปุก ที่ผมออมไว้3000บาท แม่ กับ พ่อต้องยืมใช้ก่อน ผมก็ไม่ติดขัดสักเท่าไหร่ จนตอนนี้ยังไม่จ่าย555 ในช่วงปิดเทอมผมมีอารมณ์ที่ แปรปรวนมาก จากการที่อยู่คนเดียวจนคิดไปเรื่อย ไม่ได้ออกจากบ้านหรือเข้าสังคมเลย เลยเริ่มลองนั่งสมาธิ มันทำให้จิตใจผมสงบขึ้นมาก ถึงเปิดเทอมพ่อผมต้องขี่มอไซค์สองรอบเพ่อส่งแม่ และผม และผมจะไม่ขึ้นรถรับส่งเด็ดขาดด้วยเหตุผลทางความเสียเวลา ในช่วงสองวันแรกผมเหมือนจะสงบไปหน่อยจากการนั่งสมาธินั่นแหละ ปกติจะพูดมากกว่านี้ บ่นโน้นนี้ จนเป็นเรื่องตลกในกลุ่มเพื่อน เลยเลือกที่จะนั่งสมาธิบางวันเอา เพื่อไม่ให้สงบเกินไป5555 เดี่ยวมันจะไม่ใช่ชีวิตวัยร่น จากนั้นเริ่มเกิดความคิดต่างๆเรื่อยๆเข้ามา ส่วนใหญ่ก็มาจากสังคมในโรงเรียน ทั้งเรื่องความรักในโรงเรียนที่ผมเองไม่เคยมีมาก่อน จากที่พ่อผมชอบบ่นกับชีวิตครอบครัว ผมก็เห็นว่ามันเป็นยังไง และผู้ใหญ่มักจะพูดบ่อยๆ ว่าถ้าย้อนเวลาได้จะไม่มีเมีย มีครอบครัว จะบวช หรืออยู่คนเดียวดีกว่า มันทำให้ผมคิดว่า ชีวิตครอบครัวมันคงแต่ไม่อิสระ ชีวิตคนเดียวดูไม่มันคงเหงาแต่อิสระ เลยเป็นคนที่ค่อนข้างปฏิเสธเรื่องความรัก ถึงจะรู้ว่าผมในอนาคตอาจจะมีแฟนแล้ว เพราะบางทีมันเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้555 
 ถ้าผมจะไม่มีแฟนจริงๆขอชื่นชมผู้หญิงเป็นสิ่งสวยงาม เป็นศิลปะที่โลกสร้างขึ้น ไม่ว่าจะหน้าตาดีไม่ดี แต่มันมีความแตกต่าง ในแต่ละคน มีภาพจำในตัวแต่ละคนไม่เหมือนกัน 
 เรื่องเพื่อนบาง หลังขึ้นมัธยมปลาย มีเพื่อนผู้หญิงสมัยประถมกลับมาเรียนด้วย ซึ่งแต่ก่อนสนิทกันมากๆ เป็นแก๊งหยอกกันยังกะคู่รัก เป็นช่วงเวลาที่ผมกลับมาคิดดู น่าจะเป็นเพื่อนที่ดูเหมือนจะข้ามคำว่าเพื่อนที่สุดในชีวิตแล้วแหละ พอเจอหน้ากันผมก็ทักเล่นๆบาง หลังนานๆไปผมรู้สึกว่าผมไม่เหมือนแต่ก่อน ผมไม่สามารถคุยอย่างลื่นไหลให้เพื่อนคนนี้หัวเราะเหมือนสมัยประถมได้ เพื่อนคนนั้นนิสัยยังเหมือนเดิมแป๊ะเลย ทำให้ผมกลับมาคิดว่าผมเปลี่นไปขนาดนั้นเลยหรอ เพราะในตอนนี้เองผมก็จำไม่ได้ว่าตัวเองในตอนประถมลืม ไปหมด จำได้แค่ว่าผมพูดได้ลื่นไหล ให้เพื่อนหัวเราะได้ อย่างง่ายดายเลย 
เพราะในช่วงประถมมจะคบกับเพื่อนผู้หญิงและค่อนข้างมีบทบาทสำคัญในแก๊งเพื่อน พอมาคบกับเพื่อนผู้ชายในช่วงมัธยมก็โดนแกล้ง ล้อเลี่ยน รังแก จากเพื่อนตัวเองนี้แหละ แต่ไปอยู่อีท่าไหนไม่รู้ ตอนนี้เป็นกลุ่มเพื่อนที่ค่อนข้างสนิทกัน แต่ยังแกล้งกันเหมือนเดิมแต่มองเป็นเรื่องสนุกไปแล้ว เล่นเกม ผมเลยเงียบไม่ค่อยพูดบาง เพราะมันเป็นเพื่อนในแบบที่ผมไม่เคยมี
ต่างกับแต่ก่อนที่คบกับเพื่อนผู้หญิง จะนั่งแชร์ขนมกัน มีปัญหาอะไรพูดได้ นั่งจับกลุ่มนินทาคน555 เรื่องดราม่ทุกวัน ผมอยู่กับสไตล์นี้พอเจออีกแบบไปไม่เป็น555 
  ต่อจากเมื่อกี้เลย เกี่ยวกับเพื่อน แต่มันมีเรื่องอะไรสักอย่างที่เปลี่ยนไปแบบไม่รู้ตัว ในแต่ก่อนช่วงประถม การไปโรงเรียนมีสิ่งที่ผมกลัวทุกๆวันเลย คือไปถึงโรงเรียนกลัวเพื่อนทิ้งไม่พูดด้วย ทั้งทีค่อนข้างสนิทกันมาก แต่กลับให้ความรู้สึกไม่มันคงแปลกๆ จาการที่ชอบรวมกลุ่มนินทา มันจะมีคำว่า ถ้าคุณลุกออกจากวงนินทาคุณจะเป็นคนต่อไปที่จะถูกนินทา ในบางครั้งมันดันจริงซะด้วย และเรื่องที่ชอบๆพูดกันส่วนใหญ่เป็นด้านลบ ทำให้วิตกกังวล ว่าตัวเองจะเป็นคนต่อไปรึป่าว พอมาเจอพวกเพื่อนชายบาง มันแกล้ง ล้อทุกวัน แต่วังเกตได้ เขาจะไม่นินทาเลย พูดตรงๆ อะไรแบบนี้มันให้ความรู้สึกมันคงเฉยเลย แปลกนะ555
 เรืองความฝัน บ้าง ผมยังอยากขี่มอไซคืหรือได้เที่ยว ไกลๆ ไปคนเดียวหรือกับครอบครัว อยากขึ้นไปบนภูเขาเป็นความรู้สึที่อยากจะทำตั้งแต่เด็กๆ 
เออลืมตอนช่วงปิดเทอมอะรผมหาความสุขเล็กๆจากการเห็นคนในฝันที่รู้สึกว่าสวย และทำให้ผมพูกพันด้วย555เหมือนว่างอะ
                                  ถึงตอนรี้ที่เขียน ผมยังอยากอ่านหนัวสือธรรมมะจิตวิทยาอยู่ และยังนั่งสมาธิ สวดมนต์ก่อนนอน 
ถึงจะเหงาอยากมีแฟนในบางที ทำอาหารบ่อย อยู่กับปัจจุบันมากขึ้น อยากได้มอไซค์เก่าๆสักคัน ถึงตอนนั้นจะได้รึยังไม่รู้นะแต่ขอให้ได้สักทีเถอะ 
หัดรีดผ้าเองแล้ว ความรู้สึกหลายๆอย่างไหลผ่านมาเรื่อยๆ ไม่จบ ถ้าไม่ปล่อยวาง สร้างความสขเล็กๆด้วยตัวเองได้ และยังหาคำตอบของชีวิตอยู่เรื่อยๆ
                                 ปีใหม่ค่อยกลับมาอ่าน ถึงตอนนั้น จะได้ไปเที่ยวนอกบ้านกับเขายังนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่