ทำไมในประวัติศาสตร์การทำสงคราม การรบแพ้ บ่อยๆ จะทำให้ทหารในกองทัพหันมาก่อกบฎฆ่าขุนพลและกษัตริย์ เสียเอง

ทำไมในประวัติศาสตร์สงครามเรามักจะพบว่าการที่กษัตริย์ ขุนนางและแม่ทัพนายกองนำทัพ ไปต่อสู้จนผ่ายแพ้ หรือแพ้บ่อยๆจะทำให้ ทหารหรือผู้สนับสนุนสงครามหันคมดาบแทงกษัตริย์ ขุนนางและแม่ทัพ และก่อการรัฐประหาร เสียเอง

มีตัวอย่างสงครามกรีกมาซิโดเนียของอเล็กซานเดอร์มหาราช กับกษัตริย์ เปอร์เซียอย่าง พระเจ้าดาไรอัสที่ 3 ซึ่งในสงครามกรีกชนะตลอดทุกครั้ง และเปอร์เซียภายใต้การนำของพระเจ้าดาไรอัสที่ 3ก็ทรงแพ้บ่อยผลสุดท้าย ถูกญาติสังหารเสียเอง

หรืออย่างสงครามครูเสดที่รบกันมา 9 ครั้งเราก็รู้กันดีว่าคริสต์แพ้อิสลามทุกครั้ง จนครั้งสุดท้าย ซึ่งสงครามมันได้ส่งผลให้อำนาจศาสนจักรของสันตะปาปาเสื่อมถ่อยลงอย่าง และชาติยุโรปก็ไม่สนับสนุน รวมถึงเหล่าอัศวินเทมพาร์ ที่เคยเป็นกำลังหลักของศาสนจักรก็หมดอิทธิพลและกำลังทหาร และในเวลาต่อมาก็ถูกกำจัด 

ในสงครามอังกฤษพม่า ครั้งที่ 1-2 กษัตริย์พม่าแพ้อังกฤษตลอดสองครั้ง และถูกล่มบันลังค์กันเป็นว่าเล่น

ซึ่งผมเลยมีความสงสัยว่าในวงการทหารและสงคราม การแพ้บ่อยๆถึงทำให้ กษัตริย์ขุนนาง เสียการสนุบสนุน รวมถึงกองทัพและเหล่าทหารต่างพากันก่อกบฏ ถึงขั้นล่มบันลังค์ได้เลย

ในตำราพิชัยสงครามมีการกล่าวไว้ไหมว่าการรบแพ้บ่อยๆ จะทำให้กองทัพก่อกบฏ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่