ตอนที่ 10 แผนตะลุยคำเขื่อนแก้ว
วันนี้ผมตื่นสาย ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อมีเสียงใครบางคนตะโกนเรียกชื่อผม
“คุณหนึ่ง...คุณหนึ่งครับตื่นหรือยังนี่ผมบุญถมนะ เปิดประตูให้ผมด้วยครับ” ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาแล้วก็พิจารณาอยู่สักพักหนึ่ง เสียงใครมาเรียกวะหันมองนาฬิกา อ้าว!..
แล้วแปดโมงครึ่งแล้วหรือวะนี่...เฮ้ย!..เสียงบุญถมเรียกนี่หว่าผมต้องรีบลุกไปเปิดประตูเลยให้ไว รีบลุกจากที่นอนลงไปเปิดประตูบ้าน
“แฮ่ๆๆ...ขอโทษทีพี่ผมหลับเพลินไปหน่อยเข้ามาก่อนพี่เดี๋ยวผมขอไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะ” แล้วผมก็เข้าไปทำภารกิจส่วนตัวเสร็จกิจเรียบร้อยออกมาด้านนอกแล้วก็เห็นอะไรบางอย่าง บุญถมกำลังทำความสะอาดพื้นห้องโถงด้านล่างโดยไม้กวาดเก่าๆเน่าๆหนึ่งอันไม่รู้ไปเอามาจากไหนผมเลยทักขึ้นว่า
“พี่ถมไปเอาไม้กวาดเก่าๆนั่นมาจากไหนพอก่อนเถอะพี่ รอพี่ทศก่อนเดี๋ยวก็มา แล้วเราค่อยไปซื้อเอาใหม่เราต้องหาของใช้ในสำนักงานอีกเยอะ มานั่งก่อนเถอะพี่ถม” แล้วบุญถมตอบมา
“อ๋อ!..บังเอิญผมเดินไปด้านหลังบ้านเห็นไม้กวาดอันนี้มันวางอยู่ก็เลยเอามากวาดไปพลางๆก่อนนะครับ”
“มานั่งก่อนพี่คุยกันหน่อย...พี่ถมบ้านพี่อยู่ไกลไหม” ผมถามหลังจากหาที่นั่งกันได้แล้ว
“อยู่ห่างจากที่นี่ประมาณ 10 กิโลเมตรเดินทางไป-กลับสะดวกอย่างวันนี้ผมเดินทางมาที่ทำงานใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเองขับแบบสบายๆ” บุญถมตอบ
“ผมขออนุญาตถามเรื่องส่วนตัวได้ไหม?..ถ้าไม่สะดวกจะตอบก็ไม่เป็นไรครับไม่ว่ากัน” ผมถามเพราะอยากรู้
“คุณหนึ่งอยากรู้อะไรถามมาเลยผมไม่มีเรื่องที่ต้องปิดบังอะไรกันอยู่แล้ว” บุญถมตอบ
“พี่ถมแต่งงานมีครอบครัวหรือยัง” ผมถามต่อ
“แต่งแล้วครับตอนนี้ลูกของผมได้ 3 ขวบกว่าแล้ว” บุญถมตอบ
“แสดงว่าแต่งงานกันตอนยังเรียนอยู่ล่ะซินะ...ผ่านมากี่ปีแล้วครับ” ผมถามต่อ
“ตอนแฟนผมท้องก็ใกล้จะเรียนจบแล้ว พอแฟนผมเรียนจบแล้วก็กลับไปคลอดลูกที่บ้าน แต่ผมก็เอาญาติผู้ใหญ่ทางฝั่งของผมไปขอขมาแล้วก็จัดพิธีแต่งงานกันเลยแบบบ้านๆก็มีสินสอดทองมั่นไปให้ทางฝ่ายเจ้าสาวพอเป็นพิธีมีการล้มหมูเลี้ยงแขกที่มาร่วมงานก็เป็นที่สนุกสนานกันตามสมควรล่ะครับ หลังจากนั้นผมก็ย้ายไปอยู่บ้านของแฟน...ดูแลแฟนจนลูกผมเกิด...ส่วนผมก็กลับมาเรียนต่อจนจบปวส.การเกษตรสาขาสัตวบาลแต่ก็ยังอยู่อาศัยที่บ้านแฟนมาโดยตลอดเพื่อช่วยกันดูแลลูก...มันก็เป็นประมาณนี้แหล่ะครับคุณหนึ่ง” บุญถมเล่ายาว
“แล้วพี่ถมเข้ามาทำงานในบริษัทฯแห่งนี้ได้ยังไงล่ะครับ” ผมถามต่อ
“ก็เห็นเขาประกาศรับสมัครแบบทั่วไปก็ลองไปสมัครดู...โชคดีที่ได้ทำงานที่นี่” บุญถมตอบแล้วเล่าต่อ
“หลังจากได้งานแล้วเขาให้ผมไปฝึกงานที่อุบลราชธานีประมาณ 1 เดือน แล้วเขาก็ให้มาที่ยโสธรเพื่อเป็นผู้ช่วยในการเปิดสาขาแห่งนี้จนมาพบคุณทศพรกันคุณหนึ่งที่นี่แหล่ะครับ...คุณหนึ่งมีอะไรจะถามผมอีกไหม” บุญถมบอก
“ตอนนี้คงยังไม่มีอะไรครับ..เดี๋ยวถ้านึกออกอาจจะมีคำถามต่อ” ผมพูด
“ถ้าไม่มีแล้วผมขออนุญาตถามคุณหนึ่งบ้างได้ไหมครับถ้าไม่สะดวกที่จะตอบก็ไม่เป็นไรครับ” บุญถมบอก
“อ๋อ...เชิญถามได้เลยครับถ้าตอบได้ผมจะตอบ” บุญถมเริ่มตั้งคำถาม
“คุณหนึ่งเข้ามาทำงานที่นี่ได้ยังไงครับ”
“คือเมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้วตอนใกล้จะเรียนจบ ทางบริษัทฯเขาส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปที่สถานศึกษาของผม โรงเรียนสัตวแพทย์กรมปศุสัตว์ ที่บางเขนแจ้งว่า บริษัท อาหารสัตว์ไทยฯมีแผนการที่จะรับพนักงานใหม่จากคนที่กำลังจะเรียนจบเป็นจำนวนมาก ในตำแหน่งสัตวบาลส่งเสริมการตลาด ผมก็ลองสมัครไปแต่ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมาหรอก แล้วหลังจากผมเรียนจบผมก็ออกตระเวนหางานไปทั่วตามหน้าหนังสือพิมพ์บ้าง ตามใบประกาศบ้างก็หาไปเรื่อยๆช่วงนั้นผมอาศัยอยู่ที่วัดไผ่ตัน สะพายควาย กรุงเทพฯ สบายมากเรื่องที่พักก็ไม่ต้องเช่า กินข้าวก้นบาตร ตื่นแต่เช้ามืดประมาณตี 4-5 เตรียมเครื่องอัฐบริขารเพื่อให้หลวงพ่อออกบิณฑบาต เราในฐานะลูกศิษย์ก็ติดตามพระบิณฑบาตเพื่อเก็บรวบรวมสิ่งของที่โยมเขาใส่บาตรมาแยกออกมาใส่ในถังที่เตรียมไปพอถึงจุดหมายก็เดินกลับวัด จัดของเสร็จเรียบร้อยก็เตรียมสำรับเพื่อให้หลวงพ่อได้ฉันท์เช้า หลวงพ่อฉันท์เสร็จเราก็กินต่อ กินเสร็จแล้วก็ล้างทำความสะอาดภาชนะที่หลวงพ่อฉันท์และของพวกเรา จากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำงานส่วนตัว ตอนแรกผมได้งานที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งทำงานในแผนก Packing ก็ทำไปเรื่อยๆพอมีรายได้พอใช้พอกิน แต่เหมือนสวรรค์มาโปรดผม แล้ววันหนึ่งมีเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของห้างมาตามหาผมให้ไปรับโทรศัพท์สายด่วน ผมแปลกใจมากเพราะเบอร์โทรนี้ผมไม่ได้บอกใครนอกจากหลวงพ่อองค์เดียว ผมตกใจมากกลัวจะเกิดอะไรขึ้นกับหลวงพ่อ พอรับโทรศัพท์เป็นเสียงของหลวงพ่อท่านเอง ท่านบอกผมว่าบริษัท อาหารสัตว์ไทย (มหาชน) จำกัด เรียกตัวผมเข้าทำงานโดยให้ไปรายงานตัวที่มหาวิทยาลัยขอนแข่นในอีก 2 วันข้างหน้า หลวงพ่อท่านเป็นห่วงกลัวผมจะพลาดโอกาสจึงรีบโทรมาบอกโดยบอกให้ผมตัดสินใจให้ดีเพราะมันเป็นสายงานวิชาชีพที่เรียนมาและเป็นอนาคตของผมเอง นั่นแหละครับสาเหตุที่ผมต้องบุกเดี่ยวมาภาคอีสานซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลยแม้แต่น้อย ทั้งอาหารการกิน ภาษาพูดหรือแม้นแต่นิสัยใจคน” ผมเล่ายาวบ้าง
“แล้วเป็นยังไงบ้างครับ” บุญถมถามต่อ
“ไมน่าเชื่อเลยเหมือนลำพูนบ้านเกิดผมเลย...จริงๆ” แล้วเราก็หัวเราะสนุกสนาน
“คุณหนึ่งเห็นว่าสาวอีสานงามบ่” บุญถมถามต่อ
“งามคักๆโดยเฉพาะพนักงานบัญชีสาขายางตลาดงามอีหลี” ผมลองตอบเป็นภาษาอีสานดูบ้างออกจะเพี้ยนๆไปหน่อยแต่ก็คล้ายๆกับภาษาเหนือบ้านผม
“บ่แม่นเป๋นแฟนกั๋นแล้วบ่” บุญถมแซว “บ่ครับเป๋นเมียแล้วครับ...แค่ยังบ่ได้แต่งงานกัน...ปีหน้าถึงจะแต่งครับ ท่านประธานบริษัทฯท่านรับปากกับผมว่าถ้าผมสามารถนำสาขายโสธรมาเป็นของกำนัลให้แก่ท่านได้ท่านจะเป็นเจ้าภาพจัดงานแต่งงานให้ผม” ผมตอบ
“ผมว่านะท่านหญิงประธานบริษัทฯคงปลื้มคุณมากแน่นอน” บุญถมพูด
“เดี๋ยวผมขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”
“ตามสบายครับพี่” หลังจากนั้นไม่นานพี่ทศพรก็เข้ามาจอดรถที่หน้าสำนักงาน
“เฮ้ย...ตื่นกันยังวะ..” ตามธรรมชาติเสียงมาก่อนตัว
“เรียบร้อยแล้วครับพี่...รอพี่คนเดียวนะแหละ” ผมตอบ
“เออ...ขอโทษกูด้วยตื่นสายไปหน่อย วันนี้เรามีคิวอะไรบ้างวะ” พี่ทศถาม
“ก็นิทรรศการละลายทรัพย์ไงครับลูกพี่...พี่วันนี้เราต้องออกไปซื้อขางเข้าสำนักงานกันนะครับแล้วต้องมาช่วยกันทำความสะอาดและช่วยกันจัดเข้าของให้เข้าที่ เช่น ชุดโต๊ะทำงาน 2 ชุด โต๊ะอเนกประสงค์ 1 ตัว เก้าอี้พลาสติก 5 ตัว ชุดรับแขก 1 ชุด พ้อมกับเครื่องครัวครบชุด และอาจจะมีของจิปาถะบางอย่างอีกก็ได้นะครับพี่...อาจจะเหนื่อยบ้างนะครับขอให้ทุกคนอดทนเพื่อความสำเร็จของพวกเรา” เมื่อทุกคนพร้อมแล้วพวกเราก็ออกไปหาซื้อของตามที่เราวางแผนกันเอา เมื่อได้ของครบแล้วก็มาช่วยกันจัดสำนักงานแห่งใหม่จนเป็นรูปเป็นร่างว่าเป็นสำนักงาน ทุกคนเหนื่อยกันจริงๆ ผมจึงผมขึ้นว่า
“วันนี้เราพอแค่นี้กันก่อนไหมครับเราเหนื่อยกันแล้ว BLACK รออยู่ พี่บุญถมจัดมา น้ำแข็ง โซดา น้ำมา ส่วนพี่ทศผมว่าพี่ก็เหนื่อยมากแล้วนะน่าจะกลับไปพักผ่อนได้แล้วกระมังครับพี่” ผมแซวเล่น
“เออหวะ...กูคงเหนื่อยแล้วจริงๆด้วยถ้าอย่างนั้นกูเอา BLACK กลับไปกินแก้เหนื่อยก็แล้วกัน” พี่ทศแกล้ง
“พี่บุญถม...ปิดประตูเร็วๆล็อคกุญแจด้วย” ผมตะโกน
“อ้าว...คุณหนึ่งล็อคประตูแล้วคุณทศจะออกไปยังไงล่ะครับ” บุญถมพาซึ่อ
“คนออกไปได้แต่ BLACK ห้ามออก” แล้วเราสามคนก็หัวเราะกันเป็นที่ขบขัน แล้วพวกเราก็ช่วยกันจัดสำนักงานแห่งใหม่จนเสร็จเรียบร้อย
“บุญถมครับจัดมาเลย กล้องพร้อมนะครับ...54321...Action” ผมพูดก่อน
“ของกราบเรียนเชิญท่านพี่ทศพร ผู้จัดการเขตภาคตะวันออเกเฉียงเหนือตอนกลางเป็นประธานในพิธีเปิดบริษัท อาหารสัตว์ไทย มหาชน จำกัด สาขา อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร นะบัดนี้ขอเรียนเชิญครับท่าน”
“สวัสดีครับกระผม นายทศพร ตำแหน่งผู้จัดการเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง วันนี้กระผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้มาเป็นประธานกล่าวเปิดขาสาแห่งนี้ โดยได้รับความร่วมจากพนักงานส่งเสริมการตลาดจำนวน 2 ท่าน ท่านแรกคือนายณพฉัตร ท่านที่ 2 คือนายบุญถม ท่านทั้ง 2 นี้จะเป็นแกนหลักในการวางแผนการทำงานโดยจะมีผมคอยเป็นพี่เลี้ยงในการปฏิบัติงานครับ พวกเราขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำงานให้ดีที่สุดเพื่อบริษัท อาหารสัตว์ไทย (มหาชน) จำกัด ของเราครับ” จบแล้ว
“พี่ทศโคตรเจ๋งเลยหวะ เทปนี้ต้องเอาให้ท่านหญิงดูเป็นคนแรกนะพี่ คนอื่นเอาไว้ทีหลัง พี่ว่าไง” ผมถาม
“ตามนั้นเลยไอ้น้อง” พี่ทศพูดตอบ
“มันต้องอย่างนี้ซิครับลูกพี่...พี่ทศ ผมมีอะไรจะเสนอผมไม่อยากให้พี่ปฏิเสธด้วยเกี่ยวกับเรื่องขอติดตั้งโทรศัพท์สำนักงานหนะพี่....มันมีประโยชน์มากๆนะพี่เวลาติดต่อลูกค้า ติดต่อสำนักงานใหญ่ และอื่นๆ” ผมอ้อนพี่ทศ
“แล้วก็ติดต่อกับเมียได้ด้วยใช่ป่าว” พี่ทศดักตอ
“เอาน่าพี่เรื่องเล็กน้อยหวะพี่” ผมอ้อนต่อ
“เออ...กูจะลองคุยให้...ได้ไม่ได้กูไม่รับประกันนะโว้ย...” พี่ทศตอบแบบรำคาญ
“ต้องได้อยู่แล้วพี่ทศพรซะอย่าง” ผมอ้อนแล้วก็บอกว่า
“พี่ถมเปิดเหล้า โซดา น้ำแข็ง พร้อมกับแกล้มด่วน” ผมบอก
“พร้อมอยู่แล้วครับคุณหนึ่ง” บุญถมตอบรับทันทีแล้วจะรอช้าทำไมล่ะทุกคนประจำที่ที่ชุดรับแขกชุดใหม่ ต่างสนุกสนานเฮฮาตามประสาขี้เมามืออาชีพ ดื่นกินสักพักผมก็ขออนุญาตพี่ทศออกไปโทรศัพท์ พี่ทศกำชับว่า
“บอกปุ๊ด้วยนะให้กระซิบท่านหญิงด้วยนะว่าเราทำสำเร็จไปหนึ่งก้าวแล้วนะ”
“จัดเต็มเลยครับพี่....พี่ทศพี่ก็ยังโสดรูปหล่อมาสเข้มอย่างพี่หนะพี่มดต้องชอบแน่ๆเลย เดี๋ยวผมเป็นพ่อสื่อให้เอาไหมครับลูกพี่...ฮ้าๆๆๆ” ผมหยอกพี่ทศ
“ไอ้เวร ไอ้เลว ถ้าได้ก็ดีซิวะ” พี่ทศทำเป็นด่าผมแต่ก็แอบยิ้ม
“ไม่ต้องห่วงผมมีผู้ช่วย” แล้วผมก็เดินไปที่ตลาดเพื่อหาตู้โทรศัพท์ ยกหู หยอดเหรียญ กดเบอร์ เสียงปลายสายตอบมาว่า
“สวัสดีค่ะสำนักงานท่านประธานบริษัทฯค่ะจะเรียนสายกับใครค่ะ”
“ขอสายปุ๊ครับ” ผมบอกความประสงค์
“นั่นหนึ่งรึป่าว” ปลายสายถาม “ครับผม ใช่พี่มดหรือเปล่าครับ”
“ใช่จ้ะ” พี่มดตอบ
“ถ้าตอนนี้ปุ๊ไม่สะดวกจะคุยก็ไม่เป็นไรครับพี่เพียงแต่ผมมีเรื่องสำคัญจะเรียนกับท่านหญิงนะครับ ไม่ทราบว่าท่านหญิงจะสะดวกมาคุยด้วยตนเอง หรือจะให้ผมฝากพี่มดไปรายงานให้ครับ” ผมถาม
“ท่านกำลังประชุมอยู่จ้ะ....เอ๊ะ..นั่นไงท่านออกมาแล้วปุ๊ก็มาด้วยเดี๋ยวพี่เรียกให้นะ...ท่านคะมีสายด่วนจากยโสธรคะ” ท่านมารับสาย
“นี่ฉันเรียนสายกับใครคะ” ท่านหญิงพูด
“ท่านครับสายไม่ได้เปิดลำโพงใช่ไหมครับ”
(มีต่อครับ)
เด็กเทพวัดไผ่ตัน The Hero From Phaitan Temple ตอนที่ 10
“คุณหนึ่ง...คุณหนึ่งครับตื่นหรือยังนี่ผมบุญถมนะ เปิดประตูให้ผมด้วยครับ” ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาแล้วก็พิจารณาอยู่สักพักหนึ่ง เสียงใครมาเรียกวะหันมองนาฬิกา อ้าว!..แล้วแปดโมงครึ่งแล้วหรือวะนี่...เฮ้ย!..เสียงบุญถมเรียกนี่หว่าผมต้องรีบลุกไปเปิดประตูเลยให้ไว รีบลุกจากที่นอนลงไปเปิดประตูบ้าน
“แฮ่ๆๆ...ขอโทษทีพี่ผมหลับเพลินไปหน่อยเข้ามาก่อนพี่เดี๋ยวผมขอไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะ” แล้วผมก็เข้าไปทำภารกิจส่วนตัวเสร็จกิจเรียบร้อยออกมาด้านนอกแล้วก็เห็นอะไรบางอย่าง บุญถมกำลังทำความสะอาดพื้นห้องโถงด้านล่างโดยไม้กวาดเก่าๆเน่าๆหนึ่งอันไม่รู้ไปเอามาจากไหนผมเลยทักขึ้นว่า
“พี่ถมไปเอาไม้กวาดเก่าๆนั่นมาจากไหนพอก่อนเถอะพี่ รอพี่ทศก่อนเดี๋ยวก็มา แล้วเราค่อยไปซื้อเอาใหม่เราต้องหาของใช้ในสำนักงานอีกเยอะ มานั่งก่อนเถอะพี่ถม” แล้วบุญถมตอบมา
“อ๋อ!..บังเอิญผมเดินไปด้านหลังบ้านเห็นไม้กวาดอันนี้มันวางอยู่ก็เลยเอามากวาดไปพลางๆก่อนนะครับ”
“มานั่งก่อนพี่คุยกันหน่อย...พี่ถมบ้านพี่อยู่ไกลไหม” ผมถามหลังจากหาที่นั่งกันได้แล้ว
“อยู่ห่างจากที่นี่ประมาณ 10 กิโลเมตรเดินทางไป-กลับสะดวกอย่างวันนี้ผมเดินทางมาที่ทำงานใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเองขับแบบสบายๆ” บุญถมตอบ
“ผมขออนุญาตถามเรื่องส่วนตัวได้ไหม?..ถ้าไม่สะดวกจะตอบก็ไม่เป็นไรครับไม่ว่ากัน” ผมถามเพราะอยากรู้
“คุณหนึ่งอยากรู้อะไรถามมาเลยผมไม่มีเรื่องที่ต้องปิดบังอะไรกันอยู่แล้ว” บุญถมตอบ
“พี่ถมแต่งงานมีครอบครัวหรือยัง” ผมถามต่อ
“แต่งแล้วครับตอนนี้ลูกของผมได้ 3 ขวบกว่าแล้ว” บุญถมตอบ
“แสดงว่าแต่งงานกันตอนยังเรียนอยู่ล่ะซินะ...ผ่านมากี่ปีแล้วครับ” ผมถามต่อ
“ตอนแฟนผมท้องก็ใกล้จะเรียนจบแล้ว พอแฟนผมเรียนจบแล้วก็กลับไปคลอดลูกที่บ้าน แต่ผมก็เอาญาติผู้ใหญ่ทางฝั่งของผมไปขอขมาแล้วก็จัดพิธีแต่งงานกันเลยแบบบ้านๆก็มีสินสอดทองมั่นไปให้ทางฝ่ายเจ้าสาวพอเป็นพิธีมีการล้มหมูเลี้ยงแขกที่มาร่วมงานก็เป็นที่สนุกสนานกันตามสมควรล่ะครับ หลังจากนั้นผมก็ย้ายไปอยู่บ้านของแฟน...ดูแลแฟนจนลูกผมเกิด...ส่วนผมก็กลับมาเรียนต่อจนจบปวส.การเกษตรสาขาสัตวบาลแต่ก็ยังอยู่อาศัยที่บ้านแฟนมาโดยตลอดเพื่อช่วยกันดูแลลูก...มันก็เป็นประมาณนี้แหล่ะครับคุณหนึ่ง” บุญถมเล่ายาว
“แล้วพี่ถมเข้ามาทำงานในบริษัทฯแห่งนี้ได้ยังไงล่ะครับ” ผมถามต่อ
“ก็เห็นเขาประกาศรับสมัครแบบทั่วไปก็ลองไปสมัครดู...โชคดีที่ได้ทำงานที่นี่” บุญถมตอบแล้วเล่าต่อ
“หลังจากได้งานแล้วเขาให้ผมไปฝึกงานที่อุบลราชธานีประมาณ 1 เดือน แล้วเขาก็ให้มาที่ยโสธรเพื่อเป็นผู้ช่วยในการเปิดสาขาแห่งนี้จนมาพบคุณทศพรกันคุณหนึ่งที่นี่แหล่ะครับ...คุณหนึ่งมีอะไรจะถามผมอีกไหม” บุญถมบอก
“ตอนนี้คงยังไม่มีอะไรครับ..เดี๋ยวถ้านึกออกอาจจะมีคำถามต่อ” ผมพูด
“ถ้าไม่มีแล้วผมขออนุญาตถามคุณหนึ่งบ้างได้ไหมครับถ้าไม่สะดวกที่จะตอบก็ไม่เป็นไรครับ” บุญถมบอก
“อ๋อ...เชิญถามได้เลยครับถ้าตอบได้ผมจะตอบ” บุญถมเริ่มตั้งคำถาม
“คุณหนึ่งเข้ามาทำงานที่นี่ได้ยังไงครับ”
“คือเมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้วตอนใกล้จะเรียนจบ ทางบริษัทฯเขาส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปที่สถานศึกษาของผม โรงเรียนสัตวแพทย์กรมปศุสัตว์ ที่บางเขนแจ้งว่า บริษัท อาหารสัตว์ไทยฯมีแผนการที่จะรับพนักงานใหม่จากคนที่กำลังจะเรียนจบเป็นจำนวนมาก ในตำแหน่งสัตวบาลส่งเสริมการตลาด ผมก็ลองสมัครไปแต่ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมาหรอก แล้วหลังจากผมเรียนจบผมก็ออกตระเวนหางานไปทั่วตามหน้าหนังสือพิมพ์บ้าง ตามใบประกาศบ้างก็หาไปเรื่อยๆช่วงนั้นผมอาศัยอยู่ที่วัดไผ่ตัน สะพายควาย กรุงเทพฯ สบายมากเรื่องที่พักก็ไม่ต้องเช่า กินข้าวก้นบาตร ตื่นแต่เช้ามืดประมาณตี 4-5 เตรียมเครื่องอัฐบริขารเพื่อให้หลวงพ่อออกบิณฑบาต เราในฐานะลูกศิษย์ก็ติดตามพระบิณฑบาตเพื่อเก็บรวบรวมสิ่งของที่โยมเขาใส่บาตรมาแยกออกมาใส่ในถังที่เตรียมไปพอถึงจุดหมายก็เดินกลับวัด จัดของเสร็จเรียบร้อยก็เตรียมสำรับเพื่อให้หลวงพ่อได้ฉันท์เช้า หลวงพ่อฉันท์เสร็จเราก็กินต่อ กินเสร็จแล้วก็ล้างทำความสะอาดภาชนะที่หลวงพ่อฉันท์และของพวกเรา จากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำงานส่วนตัว ตอนแรกผมได้งานที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งทำงานในแผนก Packing ก็ทำไปเรื่อยๆพอมีรายได้พอใช้พอกิน แต่เหมือนสวรรค์มาโปรดผม แล้ววันหนึ่งมีเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของห้างมาตามหาผมให้ไปรับโทรศัพท์สายด่วน ผมแปลกใจมากเพราะเบอร์โทรนี้ผมไม่ได้บอกใครนอกจากหลวงพ่อองค์เดียว ผมตกใจมากกลัวจะเกิดอะไรขึ้นกับหลวงพ่อ พอรับโทรศัพท์เป็นเสียงของหลวงพ่อท่านเอง ท่านบอกผมว่าบริษัท อาหารสัตว์ไทย (มหาชน) จำกัด เรียกตัวผมเข้าทำงานโดยให้ไปรายงานตัวที่มหาวิทยาลัยขอนแข่นในอีก 2 วันข้างหน้า หลวงพ่อท่านเป็นห่วงกลัวผมจะพลาดโอกาสจึงรีบโทรมาบอกโดยบอกให้ผมตัดสินใจให้ดีเพราะมันเป็นสายงานวิชาชีพที่เรียนมาและเป็นอนาคตของผมเอง นั่นแหละครับสาเหตุที่ผมต้องบุกเดี่ยวมาภาคอีสานซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลยแม้แต่น้อย ทั้งอาหารการกิน ภาษาพูดหรือแม้นแต่นิสัยใจคน” ผมเล่ายาวบ้าง
“แล้วเป็นยังไงบ้างครับ” บุญถมถามต่อ
“ไมน่าเชื่อเลยเหมือนลำพูนบ้านเกิดผมเลย...จริงๆ” แล้วเราก็หัวเราะสนุกสนาน
“คุณหนึ่งเห็นว่าสาวอีสานงามบ่” บุญถมถามต่อ
“งามคักๆโดยเฉพาะพนักงานบัญชีสาขายางตลาดงามอีหลี” ผมลองตอบเป็นภาษาอีสานดูบ้างออกจะเพี้ยนๆไปหน่อยแต่ก็คล้ายๆกับภาษาเหนือบ้านผม
“บ่แม่นเป๋นแฟนกั๋นแล้วบ่” บุญถมแซว “บ่ครับเป๋นเมียแล้วครับ...แค่ยังบ่ได้แต่งงานกัน...ปีหน้าถึงจะแต่งครับ ท่านประธานบริษัทฯท่านรับปากกับผมว่าถ้าผมสามารถนำสาขายโสธรมาเป็นของกำนัลให้แก่ท่านได้ท่านจะเป็นเจ้าภาพจัดงานแต่งงานให้ผม” ผมตอบ
“ผมว่านะท่านหญิงประธานบริษัทฯคงปลื้มคุณมากแน่นอน” บุญถมพูด
“เดี๋ยวผมขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”
“ตามสบายครับพี่” หลังจากนั้นไม่นานพี่ทศพรก็เข้ามาจอดรถที่หน้าสำนักงาน
“เฮ้ย...ตื่นกันยังวะ..” ตามธรรมชาติเสียงมาก่อนตัว
“เรียบร้อยแล้วครับพี่...รอพี่คนเดียวนะแหละ” ผมตอบ
“เออ...ขอโทษกูด้วยตื่นสายไปหน่อย วันนี้เรามีคิวอะไรบ้างวะ” พี่ทศถาม
“ก็นิทรรศการละลายทรัพย์ไงครับลูกพี่...พี่วันนี้เราต้องออกไปซื้อขางเข้าสำนักงานกันนะครับแล้วต้องมาช่วยกันทำความสะอาดและช่วยกันจัดเข้าของให้เข้าที่ เช่น ชุดโต๊ะทำงาน 2 ชุด โต๊ะอเนกประสงค์ 1 ตัว เก้าอี้พลาสติก 5 ตัว ชุดรับแขก 1 ชุด พ้อมกับเครื่องครัวครบชุด และอาจจะมีของจิปาถะบางอย่างอีกก็ได้นะครับพี่...อาจจะเหนื่อยบ้างนะครับขอให้ทุกคนอดทนเพื่อความสำเร็จของพวกเรา” เมื่อทุกคนพร้อมแล้วพวกเราก็ออกไปหาซื้อของตามที่เราวางแผนกันเอา เมื่อได้ของครบแล้วก็มาช่วยกันจัดสำนักงานแห่งใหม่จนเป็นรูปเป็นร่างว่าเป็นสำนักงาน ทุกคนเหนื่อยกันจริงๆ ผมจึงผมขึ้นว่า
“วันนี้เราพอแค่นี้กันก่อนไหมครับเราเหนื่อยกันแล้ว BLACK รออยู่ พี่บุญถมจัดมา น้ำแข็ง โซดา น้ำมา ส่วนพี่ทศผมว่าพี่ก็เหนื่อยมากแล้วนะน่าจะกลับไปพักผ่อนได้แล้วกระมังครับพี่” ผมแซวเล่น
“เออหวะ...กูคงเหนื่อยแล้วจริงๆด้วยถ้าอย่างนั้นกูเอา BLACK กลับไปกินแก้เหนื่อยก็แล้วกัน” พี่ทศแกล้ง
“พี่บุญถม...ปิดประตูเร็วๆล็อคกุญแจด้วย” ผมตะโกน
“อ้าว...คุณหนึ่งล็อคประตูแล้วคุณทศจะออกไปยังไงล่ะครับ” บุญถมพาซึ่อ
“คนออกไปได้แต่ BLACK ห้ามออก” แล้วเราสามคนก็หัวเราะกันเป็นที่ขบขัน แล้วพวกเราก็ช่วยกันจัดสำนักงานแห่งใหม่จนเสร็จเรียบร้อย
“บุญถมครับจัดมาเลย กล้องพร้อมนะครับ...54321...Action” ผมพูดก่อน
“ของกราบเรียนเชิญท่านพี่ทศพร ผู้จัดการเขตภาคตะวันออเกเฉียงเหนือตอนกลางเป็นประธานในพิธีเปิดบริษัท อาหารสัตว์ไทย มหาชน จำกัด สาขา อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร นะบัดนี้ขอเรียนเชิญครับท่าน”
“สวัสดีครับกระผม นายทศพร ตำแหน่งผู้จัดการเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง วันนี้กระผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้มาเป็นประธานกล่าวเปิดขาสาแห่งนี้ โดยได้รับความร่วมจากพนักงานส่งเสริมการตลาดจำนวน 2 ท่าน ท่านแรกคือนายณพฉัตร ท่านที่ 2 คือนายบุญถม ท่านทั้ง 2 นี้จะเป็นแกนหลักในการวางแผนการทำงานโดยจะมีผมคอยเป็นพี่เลี้ยงในการปฏิบัติงานครับ พวกเราขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำงานให้ดีที่สุดเพื่อบริษัท อาหารสัตว์ไทย (มหาชน) จำกัด ของเราครับ” จบแล้ว
“พี่ทศโคตรเจ๋งเลยหวะ เทปนี้ต้องเอาให้ท่านหญิงดูเป็นคนแรกนะพี่ คนอื่นเอาไว้ทีหลัง พี่ว่าไง” ผมถาม
“ตามนั้นเลยไอ้น้อง” พี่ทศพูดตอบ
“มันต้องอย่างนี้ซิครับลูกพี่...พี่ทศ ผมมีอะไรจะเสนอผมไม่อยากให้พี่ปฏิเสธด้วยเกี่ยวกับเรื่องขอติดตั้งโทรศัพท์สำนักงานหนะพี่....มันมีประโยชน์มากๆนะพี่เวลาติดต่อลูกค้า ติดต่อสำนักงานใหญ่ และอื่นๆ” ผมอ้อนพี่ทศ
“แล้วก็ติดต่อกับเมียได้ด้วยใช่ป่าว” พี่ทศดักตอ
“เอาน่าพี่เรื่องเล็กน้อยหวะพี่” ผมอ้อนต่อ
“เออ...กูจะลองคุยให้...ได้ไม่ได้กูไม่รับประกันนะโว้ย...” พี่ทศตอบแบบรำคาญ
“ต้องได้อยู่แล้วพี่ทศพรซะอย่าง” ผมอ้อนแล้วก็บอกว่า
“พี่ถมเปิดเหล้า โซดา น้ำแข็ง พร้อมกับแกล้มด่วน” ผมบอก
“พร้อมอยู่แล้วครับคุณหนึ่ง” บุญถมตอบรับทันทีแล้วจะรอช้าทำไมล่ะทุกคนประจำที่ที่ชุดรับแขกชุดใหม่ ต่างสนุกสนานเฮฮาตามประสาขี้เมามืออาชีพ ดื่นกินสักพักผมก็ขออนุญาตพี่ทศออกไปโทรศัพท์ พี่ทศกำชับว่า
“บอกปุ๊ด้วยนะให้กระซิบท่านหญิงด้วยนะว่าเราทำสำเร็จไปหนึ่งก้าวแล้วนะ”
“จัดเต็มเลยครับพี่....พี่ทศพี่ก็ยังโสดรูปหล่อมาสเข้มอย่างพี่หนะพี่มดต้องชอบแน่ๆเลย เดี๋ยวผมเป็นพ่อสื่อให้เอาไหมครับลูกพี่...ฮ้าๆๆๆ” ผมหยอกพี่ทศ
“ไอ้เวร ไอ้เลว ถ้าได้ก็ดีซิวะ” พี่ทศทำเป็นด่าผมแต่ก็แอบยิ้ม
“ไม่ต้องห่วงผมมีผู้ช่วย” แล้วผมก็เดินไปที่ตลาดเพื่อหาตู้โทรศัพท์ ยกหู หยอดเหรียญ กดเบอร์ เสียงปลายสายตอบมาว่า
“สวัสดีค่ะสำนักงานท่านประธานบริษัทฯค่ะจะเรียนสายกับใครค่ะ”
“ขอสายปุ๊ครับ” ผมบอกความประสงค์
“นั่นหนึ่งรึป่าว” ปลายสายถาม “ครับผม ใช่พี่มดหรือเปล่าครับ”
“ใช่จ้ะ” พี่มดตอบ
“ถ้าตอนนี้ปุ๊ไม่สะดวกจะคุยก็ไม่เป็นไรครับพี่เพียงแต่ผมมีเรื่องสำคัญจะเรียนกับท่านหญิงนะครับ ไม่ทราบว่าท่านหญิงจะสะดวกมาคุยด้วยตนเอง หรือจะให้ผมฝากพี่มดไปรายงานให้ครับ” ผมถาม
“ท่านกำลังประชุมอยู่จ้ะ....เอ๊ะ..นั่นไงท่านออกมาแล้วปุ๊ก็มาด้วยเดี๋ยวพี่เรียกให้นะ...ท่านคะมีสายด่วนจากยโสธรคะ” ท่านมารับสาย
“นี่ฉันเรียนสายกับใครคะ” ท่านหญิงพูด
“ท่านครับสายไม่ได้เปิดลำโพงใช่ไหมครับ”
(มีต่อครับ)