สำหรับอัลบั้มนี้ เราได้ไปเข้าค่ายสารคดีที่จังหวัดระยองมาครับ ที่เราไปมาคือชุมชนปากน้ำประเแสร์ เป็นชุมชนที่สวยมากเลยครับบรรยากาศดี เมืองสวย อาหารอร่อย
และสำหรับการไปเข้าค่ายนั้นคือเราไปถ่ายสารคดี เราไปที่ประแสร์ 3 วันครับ
เราไปถึงประแสร์ก่อนวันค่ายวันหนึ่ง เราเลยเดินเล่นในชุมชนดู พอเดินไปก็ได้ยินเสียงคนแทงสนุ๊กกันอย่างสนุกสนาน
ชุมชนปากน้ำประแสร์มีผู้สูงอายุเยอะมากเลย จากที่ฟังมาก็คือส่วนใหญ่คนในชุมชนมีลูกหลานก็จะส่งออกไปเรียนข้างนอก พอลูกหลานเรียนจบก็จะไปทำงานกันข้างนอกเป็นส่วนใหญ่ ในชุมชนก็จะมีผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่
เราได้หัวข้อการถ่ายคือคานเรือแหลมเมือง สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าคานเรือคืออะไร คานเรือมันก็คืออู่เรือนี่แหล่ะครับ วันแรกที่เราได้เข้าไปที่คานเรือมันวุ่นวายมากเลย ด้วยความที่เราไม่เคยถ่ายสารคดีเลย ได้เรียนทฤษฎีการถ่ายมาแล้ว แต่พอไปหน้างานจริงๆวุ่นวายมากกกก จนฟุตเทจที่ไปมาวันเเรกใช้ไม่ได้เลย555
พอวันที่สองเราเลยอินดี้เดินไปถ่ายฟุตเทจคนเดี๋ยวตั้งแต่เช้า
วันที่สองเราได้เดินไปคุยกับพี่น็อตเจ้าของคานเรือแบบส่วนตัว ก็ได้รู้ได้เยครับว่าพี่น็อตเป็นคนที่มีความฝัน เป็นคนที่มีความพยายาม เป็นคนที่มีศิลปะ
จากที่พี่น็อตเล่าคือพี่เขาไม่ได้อยากมาสานต่อมรดกนี้ตั้งแต่แรก แต่ด้วยการเจอปัญหาอะไรหลายๆอย่างเลยตั้งมาสืบทอดกิจการนี้ต่อจากคุณพ่อ
พี่น็อตเขาเล่าด้วยความภูมิใจด้วยว่าเขาภูมิใจที่ต้องมาเริ่มใหม่ด้วยความรู้จากศูนย์ เขาไม่อายที่จะต้องไปขอให้ลูกน้องตัวเองสอนว่าอะไรทำยังไง เขาเรียกพวกเขาว่าอาจารย์ด้วยซ้ำ
พี่น็อตไม่ได้มองว่าคานเรือนี่ไม่ใช้กิจการ แต่เขามองว่าคานเรือคือบ้านหลังหนึ่ง ที่ทุกๆคนในคานเรือคือ พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา เช้าทำงาน ตกเย็นก็ตั้งวงก๊งกันเป็นเรื่องปกติ
ความฝันที่พี่น็อตเล่าให้เราฟัง คืออยากจะทำให้คนที่กำลังจะหาที่ซ้อมเรือ นึกถึงคานเรือแหลมเมืองเป็นอันดับหนึ่ง และอยากจะอนุรักษ์วิชาช่างซ้อมเรือนี้ไว้
และสิ่งที่เราได้มาจากการถ่ายสารคดีครั้งนี้ มันมากมายไปด้วยความสุข ความประทับใจ มิตรภาพของชาวบ้าน ข้อคิดดีๆในการทำงานจากพี่น็อต
และอยากจะแนะนำสำหรับเพื่อนๆที่จะไปเที่ยวระยองเลยครับ ที่ชุมชนปากน้ำประแสร์ ขอบคุณสำหรับการรับชมนะครับ คราวหน้าเดี๋ยวเราจะมาเล่าอะไรอีกติดตามได้เลยนะ
(เรากำลังหัดเขียนเล่าเรื่องสารคดีดู ถ้ามีติชมอะไรคอมเมนต์ได้เลยนะครับ)
อัลบั้มภาพ"บ้านคานเรือ"
และสำหรับการไปเข้าค่ายนั้นคือเราไปถ่ายสารคดี เราไปที่ประแสร์ 3 วันครับ
เราไปถึงประแสร์ก่อนวันค่ายวันหนึ่ง เราเลยเดินเล่นในชุมชนดู พอเดินไปก็ได้ยินเสียงคนแทงสนุ๊กกันอย่างสนุกสนาน
ชุมชนปากน้ำประแสร์มีผู้สูงอายุเยอะมากเลย จากที่ฟังมาก็คือส่วนใหญ่คนในชุมชนมีลูกหลานก็จะส่งออกไปเรียนข้างนอก พอลูกหลานเรียนจบก็จะไปทำงานกันข้างนอกเป็นส่วนใหญ่ ในชุมชนก็จะมีผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่
เราได้หัวข้อการถ่ายคือคานเรือแหลมเมือง สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าคานเรือคืออะไร คานเรือมันก็คืออู่เรือนี่แหล่ะครับ วันแรกที่เราได้เข้าไปที่คานเรือมันวุ่นวายมากเลย ด้วยความที่เราไม่เคยถ่ายสารคดีเลย ได้เรียนทฤษฎีการถ่ายมาแล้ว แต่พอไปหน้างานจริงๆวุ่นวายมากกกก จนฟุตเทจที่ไปมาวันเเรกใช้ไม่ได้เลย555
พอวันที่สองเราเลยอินดี้เดินไปถ่ายฟุตเทจคนเดี๋ยวตั้งแต่เช้า
วันที่สองเราได้เดินไปคุยกับพี่น็อตเจ้าของคานเรือแบบส่วนตัว ก็ได้รู้ได้เยครับว่าพี่น็อตเป็นคนที่มีความฝัน เป็นคนที่มีความพยายาม เป็นคนที่มีศิลปะ
จากที่พี่น็อตเล่าคือพี่เขาไม่ได้อยากมาสานต่อมรดกนี้ตั้งแต่แรก แต่ด้วยการเจอปัญหาอะไรหลายๆอย่างเลยตั้งมาสืบทอดกิจการนี้ต่อจากคุณพ่อ
พี่น็อตเขาเล่าด้วยความภูมิใจด้วยว่าเขาภูมิใจที่ต้องมาเริ่มใหม่ด้วยความรู้จากศูนย์ เขาไม่อายที่จะต้องไปขอให้ลูกน้องตัวเองสอนว่าอะไรทำยังไง เขาเรียกพวกเขาว่าอาจารย์ด้วยซ้ำ
พี่น็อตไม่ได้มองว่าคานเรือนี่ไม่ใช้กิจการ แต่เขามองว่าคานเรือคือบ้านหลังหนึ่ง ที่ทุกๆคนในคานเรือคือ พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา เช้าทำงาน ตกเย็นก็ตั้งวงก๊งกันเป็นเรื่องปกติ
ความฝันที่พี่น็อตเล่าให้เราฟัง คืออยากจะทำให้คนที่กำลังจะหาที่ซ้อมเรือ นึกถึงคานเรือแหลมเมืองเป็นอันดับหนึ่ง และอยากจะอนุรักษ์วิชาช่างซ้อมเรือนี้ไว้
และสิ่งที่เราได้มาจากการถ่ายสารคดีครั้งนี้ มันมากมายไปด้วยความสุข ความประทับใจ มิตรภาพของชาวบ้าน ข้อคิดดีๆในการทำงานจากพี่น็อต
และอยากจะแนะนำสำหรับเพื่อนๆที่จะไปเที่ยวระยองเลยครับ ที่ชุมชนปากน้ำประแสร์ ขอบคุณสำหรับการรับชมนะครับ คราวหน้าเดี๋ยวเราจะมาเล่าอะไรอีกติดตามได้เลยนะ
(เรากำลังหัดเขียนเล่าเรื่องสารคดีดู ถ้ามีติชมอะไรคอมเมนต์ได้เลยนะครับ)