[ ก้าวไกล@แม่สอด จ.ตาก ]



.
เมื่อวานซืนเดินทางไปโรงเรียนบ้านแม่ปะเหนือ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อประชุมรับฟังปัญหาว่าสถานการณ์เด็กรหัส G จังหวัดตาก เป็นจังหวัดที่มีลูกหลานแรงงานข้ามชาติหนาแน่นที่สุดในประเทศไทย 



มีการจัดการศึกษาทั้งในระบบโรงเรียนรัฐบาล และศูนย์การเรียนรู้เด็กข้ามชาติสำหรับนักเรียนที่ไม่ได้เข้าระบบโรงเรียน (หรือ Migrant Learning Center) มากกว่า  64 แห่ง



.
ในมุมมองของพรรคก้าวไกล เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาของประเทศไทยหรือประเทศเมียนมาเท่านั้น แต่เป็นความท้าทายของทั้งประชาคมอาเซียน เพราะในอดีตการบริหารกิจการชายแดน จะคิดในกรอบความมั่นคงระดับชาติ (National Security) แต่สำหรับผมมองว่าเป็นเรื่องความมั่นคงของมนุษย์ (Human Security) โดยเฉพาะหากมองว่าเราเป็นประชาคมอาเซียนที่มีอาณาเขตติดกัน รวมถึงเศรษฐกิจของไทย 



หากไม่มีพี่น้องชาวเมียนมา ลาว มาทำงาน เศรษฐกิจไทยก็ไปต่อไม่ได้ พรรคก้าวไกลจึงไม่เคยมองว่าเรื่องของพี่น้องในประเทศเพื่อนบ้านเป็นภาระของเรา แต่มองว่าเป็นโอกาสในการพัฒนาอาเซียนไปด้วยกัน และในฐานะผู้นำประเทศควรมองเห็นโอกาส



.
ส่วนในมุมสิทธิมนุษยชน เรื่องนี้เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ประเทศไทยต้องโอบรับสนับสนุน และเป็นโอกาสที่จะทำให้เด็กไทยได้อยู่ในสังคมพหุวัฒนธรรม
.
สำหรับพรรคก้าวไกลก็จะขับเคลื่อนประเด็นนี้อย่างจริงจังยั่งยืนต่อไป ผ่านทาง อ.จวง ปารมี ไวจงเจริญ ทีมการศึกษา, เครือข่ายชาติพันธุ์ก้าวไกล และ อ.เดชรัต สุขกำเนิด Think Forward Center



.
ในช่วงบ่าย ทีมก้าวไกลเข้าพบหอการค้าจังหวัดตาก หารือประเด็นด้านเศรษฐกิจ โดยพบปัญหาที่เกิดขึ้นในบริเวณโซนเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด แบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ประเด็น



.
ประเด็นที่ 1 คือ ปัญหาเรื่องการใช้ที่ดินและการออกโฉนด ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำการเกษตรและการใช้ที่ดินของพี่น้องเกษตรกรไม่มีความมั่นคง และไม่สามารถเข้าถึงเงินทุนในระบบได้
.
ประเด็นที่ 2 สืบเนื่องจากปัญหาเอกสารสิทธิ นำไปสู่ปัญหาการพัฒนาสาธารณูปโภค ไฟฟ้า น้ำประปา ฯลฯ ในพื้นที่ ที่จำเป็นต้องมีการขออนุญาตจากทางป่าไม้ ซึ่งขั้นตอนการขออนุญาตรอนานและไม่มีจุดสิ้นสุด ทำให้งบประมาณของ อบต. ไม่ถูกนำไปใช้เพื่อพัฒนาสาธารณูปโภคให้ประชาชนได้อย่างเต็มที่
.
ประเด็นที่ 3 ปัญหาแรงงานในพื้นที่ที่ทำเรื่องการเกษตร เพราะปัจจุบันพบพระเป็นพื้นที่ทางการเกษตร และถูกประกาศแผนเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ แต่ข้อกฎหมายและการปฏิบัติต่างๆ กลับไม่มีอะไรพิเศษ หรือตรงกับความเป็นจริงในท้องถิ่น



.
โดยระหว่างการพูดคุยในวงประชุม ตัวแทนนักธุรกิจได้กล่าวถึงปัญหาอุปสรรคและแนวทางการพัฒนาพืชมูลค่าสูง 3 ชนิด ได้แก่ อะโวคาโด โกโก้ และกาแฟ
.
ซึ่งการพัฒนาพืชมูลค่าสูงทั้ง 3 ชนิด มีความสำคัญมากในหลายด้าน ในด้านแรก พืชเหล่านี้เป็นพืชที่มีรสชาติเฉพาะและมีสอดคล้องกับความนิยมในการบริโภคของผู้คนทั้งในประเทศและต่างประเทศ หรือเรียกว่า เป็นสินค้าที่มี High Touch สูง ในด้านที่สอง พืชเหล่านี้มีห่วงโซ่คุณค่าที่ยาวมาก หรือสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มูลค่าสูงได้ ทั้งในเชิงโภชนาการและในเชิงผลิตภัณฑ์ด้านความงาม ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง หรือ High Tech ด้วย และในด้านที่สาม การปลูกพืชเหล่านี้จะช่วยลดการปลูกพืชไร่ที่ยังมีการเผาอยู่ และเปลี่ยนเป็นพืชยืนต้นที่มีมูลค่าสูง และไม่มีการเผาแทน นอกจากนี้ ผลพลอยได้จากแปรรูปโกโก้ กาแฟ หรืออะโวคาโด ยังสามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้อีก เช่น การทำอาหารสัตว์ ถ่าน หรืออื่นๆ



.
ส่วนช่วงเช้าเมื่อวานนี้ ผมได้เดินทางไปแวะเยี่ยมชิมอาหารขึ้นชื่อท้องถิ่นของอำเภอแม่สอด ซึ่งเป็นเมืองชายแดนที่เป็นเมืองพหุวัฒนธรรมและความหลากหลายทางเชื้อชาติ อย่างโรตีโอ่ง เจ้าดั้งเดิม ถัดจากนั้นได้เดินทางต่อไปเยี่ยมชมศิลปวัฒนธรรมของชาวไทใหญ่ที่วัดไทยวัฒนาราม





.
วันนี้อยู่ที่ จ.เชียงใหม่ เดี๋ยวกลับมาอัปเดตกันต่อนะครับ