ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าในบ.มีพนง.ไม่เกิน 15 คนแล้วเราทำงานมาสักระยะนึงเราจึงขอหัวหน้าให้แฟนมาทำงานด้วยกันเพราะเรารู้สึกว่าบ.ดีหัวหน้าดีกับเรามากและเพื่อนๆร่วมงานดีมากกก 1-2 เดือนแรกแฟนเราเริ่มสัมผัสได้ว่าหัวหน้าไม่ค่อยชอบแฟนเราเท่าไหร่ค่ะสังเกตได้จากการที่เค้าคุยเล่นกับเราและตึงใส่แฟนเรา ตอนแรกก้อบอกว่าเธอคิดมากไปป่าวอะไรทำนองนี้พอหลังๆมาเราเองก้อเริ่มรู้สึกแปลกๆ จากที่เราอยู่มา 1-2ปี เปลี่ยนพนง.ขายไป 6 คน พนง.สนง.2 คน พนง.ขายจะชอบมาพูดกับเราว่าทำงานกับหัวหน้าที่ไม่เคยไว้ใจอยู่ไปก้อลำบาก เราไม่เชื่อจนเราได้มารู้สึกกับตัวเองเริ่มจาก
1.มีพนง.ขายมาใหม่คือคนนี้เราได้คุยเราก้อรู้เลยว่าเค้าเป็นคนเก่งพอเราเริ่มรู้ถึงความทำงานยากของพนง.ขายเราเลยพยายามช่วนพนง.ขายเท่าที่เราจะช่วยได้จนเรากับแฟนสนิทกันกับพนง.ขายคนนี้เค้าก้อพูดมาประมาณว่าทำงานที่นี่รู้สึกว่าหัวหน้าไม่เคยไว้ใจที่เราทำงานเลยเช่น พนง.ขายคนนี้เค้าตั้งเป้าว่าวันนี้จะเข้าพบลค.8ที่ ซึ่งวันนี้เค้าทำครบก่อนเวลาเลิกงาน เค้าเลยกลับบ้านไวเพราะเค้าทำงานครบแล้วบ.จะได้ไม่ต้องเสียค่าน้ำมัน(ค่าน้ำมันให้ตามระยะทาง)แต่กลายเป็นว่าโดนหักเงินเดือนเพราะกลับบ้านก่อนเวลา พนง.ขายคนนี้เลยโดนเพ่งเล่งจากหัวหน้าและพนง.ที่สนิท1และพนง.สนิท2
2.หัวหน้าคนนี้ชอบเรียกประชุมเรื่องการทำงานของ พนง.ขาย จะปรับนั่นนี่จะตั้งกฎใหม่ๆเพื่อกดดันและพยามควบคุมพนง.ขาย(ทั้งๆที่ตอนนี้มีคนเดียว) แต่ไม่เรียกพนง.ขายเข้ามาประชุมมันเป็นการประชุมลับหลัง ซึ่งเค้าไม่กล้าพูดตรงๆต่อหน้า และมันเกิดจากพนง.สนิท1และพนง.สนิท2พยามยามยุยงและสนับสนุนหัวหน้าในการจัดผิด พอเราพยายามออกตัวปกป้อง และพูดในมุมมองที่พนง.ขายเล่าให้ฟังเค้าก้อมองว่าเราคิดต่างจึงทำให้เป็นจุดที่เริ่มที่ทำให้เราโดนหัวหน้าจับผิดเรา
3.ระหว่างที่บ.มีพนง.ขายคนเดียวทางออฟฟิศเลยต้องช่วยกันขายของทางช่องทางไลน์ของทรศ.พนง.ขายอยู่ในระหว่างหาคนมาทำงาน ซึ่งของที่ลค.สั่งค้างส่งมาหลายเดือนทั้งๆที่คลังแจ้งว่าของหมดตั้งแต่ต้นปีแต่หัวหน้าพึ่งสั่งซื้อเข้ามาในอีก 6-7เดือนต่อมาลค.ก้อตามทวงของ เราก้อถามหัวหน้าว่าของจะมาตอนไหนคะจะได้แจ้งลค. หัวหน้าตอบกลับเรามาว่า ต่อให้ของเข้ามาตอนนี้ก้อไม่ได้ทำให้ยอดขายมันเพิ่มขึ้นหรอก เราก้อสตั๊นไปเลยก้อลค.รอของ รอนานแล้วด้วย ทีนี้เราก้อไม่พูดเลยค่ะ
4.หัวหน้าไม่เคยชมลูกน้อง ทุกการพูดของเค้าจะต้องพูดให้ลูกน้องผิด เช่น ทำไมลค.เจ้านี้ยังไม่จ่าย พนง.สนิท1และพนง.สนิท2 ก้อโยนมาให้เราว่าเราไม่ออกเอกสารไปวางบิลหรอ ทั้งๆที่เราไปด้วยกันแท้ๆเราก้อบอกไปแล้วว่านำเอกสารไปวางบิลหมดแล้ว หัวหน้าก้อหงุดหงิดใส่เราว่าแล้วจะทำไงเค้าจะรับวางบิลเรามั้ยนั่นนู่นนี้ สรุปจบที่เราผิด อีกเคสคือมาอ่านข้อความที่เราส่งหรือพูดคุยกับลค.หัวหน้าก้อกว่าทำไมใช้คำพูดแบบนี้ นั่นนู่นนี่ เราก้องงเพราะปกติก้อคุยกับลค.แบบนี้เราคุยกับลค.สุภาพมากๆประมานว่า รบกวนลค.ส่งสลิปที่ชำระบิลให้หน่อยนะค้า จะได้รับชำระและออกใบเสร็จและจัดส่งให้ค้าาา หัวหน้าบอกว่าทำไมใช้คำว่าค้าา ไม่สุภาพดูไม่ทางการ ....
5.หัวหน้าทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายเช่น เปลี่ยนที่อยู่บริษัทโดยไม่บอกใครจนเรามารู้ทีหลังว่าต้องเปลี่ยนแปลงที่อยู่บ. เราต้องมาดำเนินการในการแจ้งเปลี่ยนแปลงที่อยู่กับธนาคาร ซัพ ลค.มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย และเรื่องที่ง่ายๆหัวหน้าทำให้เป็นเรื่องยาก เช่นไฟลที่เราทำงานเราเข้าใจไฟลนี้เราเป็นคนทำงานแต่พอหัวหน้ามาเห็นบอกว่าดูยากทำไมไม่ทำแบบนั้นแบบนี้เราเลยบอกว่าหนูเป็นคนทำงานขอทำไฟลแบบนี้ นะคะมันง่ายสำหรับหนู ถ้าหัวหน้าอยากได้รีพอร์ตแบบไหนแจ้งได้เลยค่ะเดี๋ยวทำรีพอร์ตให้ดูง่ายๆค่ะ เค้าก้อพยายามที่จะมาแก้ไฟลงานเรา ทำไมเค้าต้องปิดกันวิธีการทำงานของเราด้วย
6.เรามาเจอว่าการที่เราช่วยบ.ขายของเราคิดว่าทำเพื่อบ.เพราะไม่ได้ค่าคอมยุแล้วแล้วเรามาเจอว่า พนง.สนิท1และพนง.สนิท2 เค้าได้ค่าคอมจากยอดที่เราขายได้ทั้งๆที่คนทำเงินเดือนคือหัวหน้าเค้ารู้อยู่แก่ใจแท้ๆ เจ็บกว่าคือพนง.สนิท1และพนง.สนิท2ชอบพูดว่าช่วยบ.ขายไม่ได้ค่าคอม
พอเราปะติดปะต่อและเรียบเรียงความคิดได้เราก้อคิดว่าไม่แปลกใจเลยที่ทำไมบ.ถไม่เติบโต หัวหน้าเค้ากระจุกทุกอย่างไว้ที่ตัวเค้าเอง เค้าชอบมาทำอะไรแบบไฟลนก้น ไม่เคยทำอะไรเป็นระบบไม่มีการกำหนดล่วงหน้าไม่มีแพลนใดๆ อยากได้คำตอบอะไรต้องได้ตอนนั้นเดี๋ยวนั้นรอไม่ได้ ตัวเองยุ่งก้อทำให้ทุกๆคนวุ่นวายไปด้วย เปลี่ยนกฎตามอารม แบบนี้เราควรเอาตัวเองกับแฟนออกมาจากบ.นี้มั้ยคะเพราะสำหรับออฟฟิศตอนนี้คือเค้าทำเหมือนเราเป็นตัวปัญหาทั้งๆที่เราทำงานไม่เคยเอาเปรียบใครเห็นแก่ประโยชน์บ.มาโดยตลอดแต่แพ้คนเห็นแก่ตัว