จขกท.ชอบท่องเทียว การเดินทางท่องเที่ยวแต่ละครั้งก็จะได้ทั้งประสบการณ์ ความรู้ ความเพลิดเพลิน ความประทับใจ ความสุข และความตื่นเต้น ปกติความตื่นเต้นก็ได้จากพบเจอความแปลกใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ได้พบเห็นสิ่งที่คาดหวังจะได้พบ แต่มีครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีมาแล้ว จขกท.และครอบครัว ประกอบด้วยพ่อแม่และลูกชายอายุ 13 และ 10 ปี ทริปนั้นเราลงเครื่องที่ปารีส อยู่เที่ยวปารีส 4 วัน แล้วนั่งรถไฟแบบตู้นอน 4 คน เป็นห้องเล็กๆ มีเตียง 2 ชั้น 2 ชั้น 2 ชุด นอนได้ 4 คนพอดี เป็นครั้งแรกของครอบครัวที่ได้ค้างคืนบนรถไฟ แถมเป็นห้องส่วนตัวอีก เด็กๆปีนขึ้นปีนลงถ่ายรูปกันสนุก ก็คิดว่าเป็นเรื่องตื่นเต้นมากแล้ว และตามโปรแกรมเรายังมีโปรแกรมไปทัวร์โรงงานผลิตเครื่องบินแอร์บัสตามความใฝ่ฝันของลูกชาย ที่อยากไปเห็นการผลิตเครื่องบินขนาดใหญ่ที่สุด A380 ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ตื่นเต้นและประทับใจที่สุดของเด็กๆในทริปนี้แล้ว
I.
เราขึ้นรถไฟไปลงตูลุส แล้วรับรถเช่าเพื่อไปเที่ยวฝรั่งเศสทางใต้ Toulouse - Carcassonne - Nimes - Arles - Avignon - Marseille - Aix-en-Provence -Monaco - Cannes - Nice แล้วนั่งรถไฟกลับไปขึ้นเครื่องกลับบ้านที่ปารีส หลังรับรถเราก็ขับรถเที่ยวตามแผนอย่างมีความสุขสนุกสนานกับสถานท่องเที่ยวต่างๆ ผ่านไป 3 วัน วันที่ 4 เราเดินทางจาก Marseille มาถึง Aix-en-Provence บ่ายแก่มากแล้ว เข้าโรงแรมเอาของไปเก็บ แล้วก็ขับรถไปกลางเมือง เดินเล่นถ่ายรูป แต่ร้านค้าและร้านอาหารส่วนใหญ่ปิดหมดแล้ว ก็เลยไปแวะซื้อเสบียงและทานอาหารที่ Giant Casino ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมที่เราพัก
Giant Casino ที่เราไปเป็น Supermarket ขนาดใหญ่ เป็นอาคารใหญ่ชั้นเดียว มีลานจอดรถใหญ่ๆ หน้าห้าง เหมือนโลตัสใหญ่ๆ บ้านเรา มองจากด้านนอกหน้าห้างเป็นกระจกใสทั้งหมด เข้าประตูไปจะมีทางเดินกลางยาวไปจนถึง Supermarket ที่อยู่ข้างในสุด 2 ข้างทางเป็นร้านอาหารและร้านค้า ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นร้านอาหาร ตอนนั้นเป็นช่วงมื้อเย็นพอดี ร้านอาหารคนเยอะทุกร้าน
ไปถึงเราก็เข้าไปซื้อนำ้ซื้อขนมเตรียมไว้สำหรับวันรุ่งขึ้นก่อน โดยซื้อน้ำขนาด 1.5 ลิตร 3-4 ขวด หลังจากนั้นก็เลือกทานอาหารร้านแรกติดกับทางเข้าห้าง เป็นร้านค่อนข้างใหญ่ มีโต๊ะ 10 กว่าถึง 20 โต๊ะได้มั้ง หน้าร้านเป็นกระจกใส ด้านข้างด้านหนึ่งเป็นผนังทึบติดกับอีกร้าน ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นกระจกใสของห้างมองเห็นลานจอดรถ ด้านในสุดของร้านเป็นเคาน์เตอร์สั่งอาหาร/แคชเชียร์ และมีประตูเปิดเข้าไปในครัว หลังสั่งอาหารจ่ายเงินเสร็จเราก็มาเลือกนั่งโต๊ะใกล้หน้าร้าน โดยลูกๆนั่งหันหน้าไปทางหน้าร้าน พ่อแม่นั่งหันหลังให้หน้าร้าน ตอนนั้นอาหารเริ่มมาเสริฟแล้ว แต่น่าจะยังไม่ได้เริ่มทาน ก็ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านร้าน เด็กๆทำหน้าตกใจและบอกว่าคนซ้อนมอเตอร์ไซด์ถือปืน จขกท.หันไปก็เห็นแต่ท้ายมอเตอร์ไซด์ ซึ่งผิดปกติมากที่มอเตอร์ไซด์วิ่งเข้ามาในห้าง และเด็กๆก็ดูตกใจมาก เลยรีบลุกคว้าข้าวของวิ่งไปหลังเคาน์เตอร์และหมอบลง พร้อมกับพยายามอธิบายให้พนักงานฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่รู้เค้าจะเข้าใจไหม แต่เราขอหลบก่อนนะ
แป๊บเดียวโจรก็ขี่มอเตอร์ไซด์กลับออกมา คราวนี้ทั้งร้านวุ่นวายไปหมด จนพนักงานมาบอกว่าปลอดภัยแล้วถึงกลับมานั่งโต๊ะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก บางโต๊ะยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ยังนั่งทานอาหารปกติ ก็คงงงๆว่าทำไมโต๊ะอื่นวิ่งวุ่นวาย ส่วนพนักงานรักษาความปลอดภัย ไม่รู้ของร้านหรือของห้าง ก็ปิดประตูทางเข้าร้านทั้ง 2 ด้าน (ทั้งด้านหน้าในห้างและด้านข้างนอกห้าง) ล่ามโซ่เรียบร้อย คนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้า ส่วนโจรเปิดไปไกลแล้ว
ครอบครัวเรากลับมานั่งโต๊ะ ตอนนี้มีเรื่องตลกแทรกนิดหน่อย ที่โตํะอาหารเหลือเป้ 1 ใบของลูกชายคนเล็กกับถุงใส่ของที่ซื้อมา ส่วนกระเป๋าและเป้ของพ่อแม่พี่อยู่ติดตัวครบ อ้าว แล้วที่เจ้าหนูกอดไว้ตลอดการหลบภัยคิออะไร 55 คำตอบคือถุงใส่ขวดน้ำนั่นเอง ก็ตกใจคว้าอะไรได้ก็เอาไว้ก่อนครับ
มาถึงตอนนี้ถึงหิวก็ทานไม่ลง ขอให้เค้าห่อเอากลับไปทานโรงแรม พนักงานก็รีบจัดการให้ แต่..ออกจากร้านไม่ได้ เค้าไม่เปิดประตูให้ สักพักพนักงานรักษาความปลอดภัยก็เดินมาอธิบายแบบรวมหลายๆโต๊ะฟังพร้อมกันนะเป็นภาษาฝรั่งเศส โชคดีที่ทีเพื่อนร่วมชะตากรรมช่วยแปล ได้ความว่าโจร 2 คนมีอาวุธปืนขี่มอเตอร์ไซค์ซ้อนท้ายกันมา ขับพุ่งเข้ามา ผ่านร้านค่างๆ ไปจนถึง Supermarket แล้วเอาปืนจี้แคชเชียร์ให้เอาเงินให้ แล้วก็ขี่มอเตอร์ไซค์กลับออกไปอย่างลอยนวล ตอนนี้ห้างปิดล็อคประตูหมดเพื่อความปลอดภัยและรอตำรวจมา ก็นั่งคุยกันไป หลายโต๊ะก็กลับมาทานปกติ ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงได้เค้าก็มาบอกว่าตำรวจมาตรวจสอบสถานที่เรียบร้อยแล้ว เปิดประตูมห้แล้ว เชิญออกได้แล้ว
กลับถึงโรงแรมเด็กๆ ก็ยังขวัญเสีย บ่นกลัวตลอด ไม่อยากเที่ยวเมืองนี้แล้ว สุดท้ายเพื่อความสบายใจจะได้นอนหลับได้ พ่อแม่ก็เลยตัดสินใจว่าไม่เที่ยวก็ได้ พรุ่งนี้ทานอาหารเช้าเสร็จก็จะเช็คเอ้าท์ไปเมืองอื่นเลย
แต่เรื่องตื่นเต้นของทริปนี้ยังไม่หมด วันรุ่งขึ้นเราออกเดินทางต่อแวะเที่ยวโมนาโก เป้าหมายคือพระราชวังโมนาโก ระหว่างที่เราเที่ยวชมและถ่ายรูปบริเวณลานหน้าพระราชวัง ก็มีเสียงเป่านกหวีดปริ้ดๆ หันไปเจอตำรวจใช้มือผลัก จขกท. เบาๆ ให้ขยับขึ้นไปอยู่บนฟุตบาท แล้วก็พูดอะไรไม่รู้อีกแล้วรัวใส่เป็นชุด (ภาษาฝรั่งเศส) กำลังงงว่าฉันทำผิดอะไร เค้าก็เดินไปไล่ต้อนนักท่องเที่ยวคนอื่นให้ขึ้นฟุตบาทให้หมด โชคดีที่ได้ยินนักท่องเที่ยวที่ยืนข้างๆที่น่าจะฟังตำรวจรู้เรื่อง หันไปพูดกันว่า แคโรไลน์
เท่านั้น จขกท. ก็ถึงบางอ้อ เจ้าหญิงแคโรไลน์แห่งโมนาโก พระพี่นางของเจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 เจ้าผู้ครองนครโมนาโก เสด็จนั่นเอง และแป๊บเดียวหลังจากตำรวจต้อนนักท่องเที่ยวให้ขึ้นฟุตบาท ไม่ให้เกะกะบนถนน ก็มีรถเก๋งสีดำ 2 คันขับผ่านมาช้าๆ และเข้าประตูพระราชวังไป โดยมีเจ้าหญิงแคโรไลน์นั่งเบาะหลังในรถคันแรก เปิดกระจกด้วย เห็นแว๊บเดียวแต่ชัดมาก ห่างไม่ถึงเมตร วันนั้นเจ้าหญิงสวมแว่นกันแดดก็เลยไม่เห็นพระพักตร์ชัดๆ แต่ก็เป็นหนึ่งในความตื่นเต้นและประทับใจจากการเดินทางทริปนี้ของ จขกทท.
เพื่อนๆ ละค่ะ มีเรื่องตื่นเต้นจากการเดินทางอะไรบ้าง เล่าสู่กันฟังหน่อย
เที่ยวต่างประเทศครั้งไหนตื่นเต้นที่สุด
I.
เราขึ้นรถไฟไปลงตูลุส แล้วรับรถเช่าเพื่อไปเที่ยวฝรั่งเศสทางใต้ Toulouse - Carcassonne - Nimes - Arles - Avignon - Marseille - Aix-en-Provence -Monaco - Cannes - Nice แล้วนั่งรถไฟกลับไปขึ้นเครื่องกลับบ้านที่ปารีส หลังรับรถเราก็ขับรถเที่ยวตามแผนอย่างมีความสุขสนุกสนานกับสถานท่องเที่ยวต่างๆ ผ่านไป 3 วัน วันที่ 4 เราเดินทางจาก Marseille มาถึง Aix-en-Provence บ่ายแก่มากแล้ว เข้าโรงแรมเอาของไปเก็บ แล้วก็ขับรถไปกลางเมือง เดินเล่นถ่ายรูป แต่ร้านค้าและร้านอาหารส่วนใหญ่ปิดหมดแล้ว ก็เลยไปแวะซื้อเสบียงและทานอาหารที่ Giant Casino ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมที่เราพัก
Giant Casino ที่เราไปเป็น Supermarket ขนาดใหญ่ เป็นอาคารใหญ่ชั้นเดียว มีลานจอดรถใหญ่ๆ หน้าห้าง เหมือนโลตัสใหญ่ๆ บ้านเรา มองจากด้านนอกหน้าห้างเป็นกระจกใสทั้งหมด เข้าประตูไปจะมีทางเดินกลางยาวไปจนถึง Supermarket ที่อยู่ข้างในสุด 2 ข้างทางเป็นร้านอาหารและร้านค้า ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นร้านอาหาร ตอนนั้นเป็นช่วงมื้อเย็นพอดี ร้านอาหารคนเยอะทุกร้าน
ไปถึงเราก็เข้าไปซื้อนำ้ซื้อขนมเตรียมไว้สำหรับวันรุ่งขึ้นก่อน โดยซื้อน้ำขนาด 1.5 ลิตร 3-4 ขวด หลังจากนั้นก็เลือกทานอาหารร้านแรกติดกับทางเข้าห้าง เป็นร้านค่อนข้างใหญ่ มีโต๊ะ 10 กว่าถึง 20 โต๊ะได้มั้ง หน้าร้านเป็นกระจกใส ด้านข้างด้านหนึ่งเป็นผนังทึบติดกับอีกร้าน ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นกระจกใสของห้างมองเห็นลานจอดรถ ด้านในสุดของร้านเป็นเคาน์เตอร์สั่งอาหาร/แคชเชียร์ และมีประตูเปิดเข้าไปในครัว หลังสั่งอาหารจ่ายเงินเสร็จเราก็มาเลือกนั่งโต๊ะใกล้หน้าร้าน โดยลูกๆนั่งหันหน้าไปทางหน้าร้าน พ่อแม่นั่งหันหลังให้หน้าร้าน ตอนนั้นอาหารเริ่มมาเสริฟแล้ว แต่น่าจะยังไม่ได้เริ่มทาน ก็ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านร้าน เด็กๆทำหน้าตกใจและบอกว่าคนซ้อนมอเตอร์ไซด์ถือปืน จขกท.หันไปก็เห็นแต่ท้ายมอเตอร์ไซด์ ซึ่งผิดปกติมากที่มอเตอร์ไซด์วิ่งเข้ามาในห้าง และเด็กๆก็ดูตกใจมาก เลยรีบลุกคว้าข้าวของวิ่งไปหลังเคาน์เตอร์และหมอบลง พร้อมกับพยายามอธิบายให้พนักงานฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่รู้เค้าจะเข้าใจไหม แต่เราขอหลบก่อนนะ
แป๊บเดียวโจรก็ขี่มอเตอร์ไซด์กลับออกมา คราวนี้ทั้งร้านวุ่นวายไปหมด จนพนักงานมาบอกว่าปลอดภัยแล้วถึงกลับมานั่งโต๊ะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก บางโต๊ะยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ยังนั่งทานอาหารปกติ ก็คงงงๆว่าทำไมโต๊ะอื่นวิ่งวุ่นวาย ส่วนพนักงานรักษาความปลอดภัย ไม่รู้ของร้านหรือของห้าง ก็ปิดประตูทางเข้าร้านทั้ง 2 ด้าน (ทั้งด้านหน้าในห้างและด้านข้างนอกห้าง) ล่ามโซ่เรียบร้อย คนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้า ส่วนโจรเปิดไปไกลแล้ว
ครอบครัวเรากลับมานั่งโต๊ะ ตอนนี้มีเรื่องตลกแทรกนิดหน่อย ที่โตํะอาหารเหลือเป้ 1 ใบของลูกชายคนเล็กกับถุงใส่ของที่ซื้อมา ส่วนกระเป๋าและเป้ของพ่อแม่พี่อยู่ติดตัวครบ อ้าว แล้วที่เจ้าหนูกอดไว้ตลอดการหลบภัยคิออะไร 55 คำตอบคือถุงใส่ขวดน้ำนั่นเอง ก็ตกใจคว้าอะไรได้ก็เอาไว้ก่อนครับ
มาถึงตอนนี้ถึงหิวก็ทานไม่ลง ขอให้เค้าห่อเอากลับไปทานโรงแรม พนักงานก็รีบจัดการให้ แต่..ออกจากร้านไม่ได้ เค้าไม่เปิดประตูให้ สักพักพนักงานรักษาความปลอดภัยก็เดินมาอธิบายแบบรวมหลายๆโต๊ะฟังพร้อมกันนะเป็นภาษาฝรั่งเศส โชคดีที่ทีเพื่อนร่วมชะตากรรมช่วยแปล ได้ความว่าโจร 2 คนมีอาวุธปืนขี่มอเตอร์ไซค์ซ้อนท้ายกันมา ขับพุ่งเข้ามา ผ่านร้านค่างๆ ไปจนถึง Supermarket แล้วเอาปืนจี้แคชเชียร์ให้เอาเงินให้ แล้วก็ขี่มอเตอร์ไซค์กลับออกไปอย่างลอยนวล ตอนนี้ห้างปิดล็อคประตูหมดเพื่อความปลอดภัยและรอตำรวจมา ก็นั่งคุยกันไป หลายโต๊ะก็กลับมาทานปกติ ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงได้เค้าก็มาบอกว่าตำรวจมาตรวจสอบสถานที่เรียบร้อยแล้ว เปิดประตูมห้แล้ว เชิญออกได้แล้ว
กลับถึงโรงแรมเด็กๆ ก็ยังขวัญเสีย บ่นกลัวตลอด ไม่อยากเที่ยวเมืองนี้แล้ว สุดท้ายเพื่อความสบายใจจะได้นอนหลับได้ พ่อแม่ก็เลยตัดสินใจว่าไม่เที่ยวก็ได้ พรุ่งนี้ทานอาหารเช้าเสร็จก็จะเช็คเอ้าท์ไปเมืองอื่นเลย
แต่เรื่องตื่นเต้นของทริปนี้ยังไม่หมด วันรุ่งขึ้นเราออกเดินทางต่อแวะเที่ยวโมนาโก เป้าหมายคือพระราชวังโมนาโก ระหว่างที่เราเที่ยวชมและถ่ายรูปบริเวณลานหน้าพระราชวัง ก็มีเสียงเป่านกหวีดปริ้ดๆ หันไปเจอตำรวจใช้มือผลัก จขกท. เบาๆ ให้ขยับขึ้นไปอยู่บนฟุตบาท แล้วก็พูดอะไรไม่รู้อีกแล้วรัวใส่เป็นชุด (ภาษาฝรั่งเศส) กำลังงงว่าฉันทำผิดอะไร เค้าก็เดินไปไล่ต้อนนักท่องเที่ยวคนอื่นให้ขึ้นฟุตบาทให้หมด โชคดีที่ได้ยินนักท่องเที่ยวที่ยืนข้างๆที่น่าจะฟังตำรวจรู้เรื่อง หันไปพูดกันว่า แคโรไลน์
เท่านั้น จขกท. ก็ถึงบางอ้อ เจ้าหญิงแคโรไลน์แห่งโมนาโก พระพี่นางของเจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 เจ้าผู้ครองนครโมนาโก เสด็จนั่นเอง และแป๊บเดียวหลังจากตำรวจต้อนนักท่องเที่ยวให้ขึ้นฟุตบาท ไม่ให้เกะกะบนถนน ก็มีรถเก๋งสีดำ 2 คันขับผ่านมาช้าๆ และเข้าประตูพระราชวังไป โดยมีเจ้าหญิงแคโรไลน์นั่งเบาะหลังในรถคันแรก เปิดกระจกด้วย เห็นแว๊บเดียวแต่ชัดมาก ห่างไม่ถึงเมตร วันนั้นเจ้าหญิงสวมแว่นกันแดดก็เลยไม่เห็นพระพักตร์ชัดๆ แต่ก็เป็นหนึ่งในความตื่นเต้นและประทับใจจากการเดินทางทริปนี้ของ จขกทท.
เพื่อนๆ ละค่ะ มีเรื่องตื่นเต้นจากการเดินทางอะไรบ้าง เล่าสู่กันฟังหน่อย