ที่มา-ยกเลิกเหรียญ 5 บาทเก้าเหลี่ยม

.


.
ภาพจาก Google
.
.

.
ภาพจาก Google
.
.


ข้อตกลงเบื้องต้น

งานเขียนครั้งนี้เขียนขึ้นจากความทรงจำบาง ๆ
ข้อมูลเอกสารอ้างอิงหายไปกับสายน้ำ
ตอนน้ำท่วมหาดใหญ่ 2 ครั้ง ที่ผ่านมา
ข้อมูลบางส่วนจากแหล่งอ้างอิงใน Google
.
.

เหรียญ 5 บาทแบบ 9 เหลี่ยม
มีขนาดใกล้เคียงเหรียญบาทรุ่นเก่า
ที่มีการยกเลิกเพราะ มีการปลอมแปลง
หลอมเหรียญบาทรุ่นเก่าให้เหลว
แล้วเทใส่เบ้าพิมพ์เหรียญ 5 บาท
ในอัตรา 1.5/1 จัดว่ากำไรบานเบอะ

มีข่าววงในจากตำรวจท่านหนึ่งระบุว่า
คนต้นคิดทำเหรียญ 5 บาทปลอม
จบสาขาโลหะวิทยา มหาวิทยาลัยชื่อดัง
พอทำได้สักพัก ลองแล้วก็เลิกทำ
แต่คนงานที่เรียนรู้แบบครูพักลักจำ
นำไปทำต่อ/ขายความคิดให้อีกหลายคน
.
.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
.
วิธีหล่อเหรียญโบราณสมัยทวารวดี
.
.

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
.
ลุยโรงปั๊มเหรียญ
.
.

ต่อมามีการพัฒนาทำเป็นบล็อคคอมพิวเตอร์
จากกลุ่มมิจฉาชีพ/มืออาชีพในฮ่องกง
เจ้าตำรับรับจ้างผลิตแม่พิมพ์/บล็อค
เหรียญเงิน ตราปลอม เหรียญพระเครื่องปลอม
พอได้บล็อตก็เริ่มทำการปั้มเหรียญ 5 บาท
เหรียญปลอมจึงออกมาจำนวนมหาศาล
โดยหลอมเหรียญบาทเป็นแท่งหรือท่อนกลม
แล้วนำเข้าเครื่องรีดให้เป็นแผ่นแบน ๆ
มีขนาดหนาพอ ๆ กับเหรียญ 5 บาท
จากนั้นใส่เครื่องปั้มเหรียญพระเครื่อง
ในแต่ละวันจะปั้มออกมาได้จำนวนมาก

ทางกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง
ธนาคารแห่งประเทศไทย จึงจับมือร่วมกัน
มีประกาศยกเลิกใช้เหรียญ 5 บาท รุ่นนี้
แต่ใครมีไว้ในครอบครองไปแลกคืนได้ที่
ธนารักษ์จังหวัด ธนาคารได้ ถ้าไม่ปลอม

การดูว่าเหรียญปลอมหรือไม่
ดูจากส่วนผสมเนื้อโลหะ
ลวดลายด้านหน้า/หลังของเหรียญ
จะมีตำหนิ จุดสังเกต ต่าง ๆ 
ทึ่ข้าราชการกรมธนารักษ์ ดูออก
แบบคนเล่นเหรียญ/พระเครื่อง ส่องพระ
.
.

.
ภาพจาก Google
.
.


.
ภาพจาก Google
.
.

เหรียญกษาปณ์จะมีมูลค่าตามเนื้อโลหะ
คิดมูลค่าประมาณการ/เฉลี่ย/ถ่วงน้ำหนัก
ตามราคาซื้อขายโลหะในตลาดโลก
/ตลาดภายในประเทศ ที่ซื้อขายกัน

มีช่วงหนึ่ง เหรียญบาทรุ่นเก่า ที่ใหญ่มาก 
หายไปจากท้องตลาดภาคใต้ 
จนร้านค้าต้องขึ้นราคาสินค้า 
หรือใช้ลูกอม 3 เม็ดบาท ทอนเงินแทน

จนกระทั่งมีการจับกุมคนไทย/คนนายู
แถวสวนยางอำเภอสะเดา ในสงขลา 
กำลังหลอมเหรียญบาทรุ่นเก่า
ทำเป็นแท่งโลหะ ส่งขายนายู(มลายู)
ซิงลี่ (สิงคโปร์) นำส่งนอก
ของกลางที่จับได้ในวันนั้น
มีเหรียญบาทแสนกว่าเหรียญ
ทั้งนี้เป็นการสนธิกำลังเข้าจับกุมของ
อำเภอ ตำรวจ ทหาร ธนารักษ์ ธนาคารรัฐ

คดีนี้ ผู้ต้องหายอมรับเองว่า 
หลอมเหรียญบาทเป็นแท่งโลหะ 
ส่งขายนอก ทำมาหลายครั้งแล้ว กำไรดีมาก

แต่คนหาดใหญ่บางคนรู้ดีว่า
ตัวการใหญ่ที่ทำเรื่องนี้คือใคร
คุณก็รู้ว่าเป็นใคร You know who
ฉายาเรียก Voldemort ใน Harry Potter
Vol ตั้งใจ/ชนะ de ของ mort ความตาย
แบบใครไปสืบสาวราวเรื่องมากเกินไป
มักจะใกล้ความตาย ไม่ตายก็บาดเจ็บ

คดีหลอมเหรียญบาทจบแค่นี้
เพราะไม่ใช่คดีดัง/คดีสังคมรังเกียจ
ที่จะวิ่งเต้นล้มคดีได้ยากมาก

เงินตกใส่เหล็ก  เหล็กบิ่น
เงินตกใส่หิน  หินลอย
เงินตกใส่หอย  หอยอ้า
เงินตกใส่หญ้า  หญ้าตาย
เงินตกใส่ทราย  ทรายทรุด
เงินตกใส่มนุษย์  มนุษย์หมดคุณธรรม
ที่มา ภาษิตล้านนา

.
.

.
เหรียญบาทรุ่นเก่า ภาพจาก Google
.
.


ในเวลาต่อมา เหรียญกษาปณ์ในท้องตลาด
เหรียญบาท เหรียญสลึง เหรียญสองสลึง
จะมีขนาดเล็กลงกว่าเดิมมาก
เพราะอิงราคาเหรียญตามมูลค่า
แร่โลหะตามมาตรฐานสากล
ในการผลิตเหรียญออกสู่ท้องตลาด

ส่วนเหรียญกษาปณ์เหรียญที่ระลึก
ในวาระต่าง ๆ ที่นิยมสะสมกัน
บางรุ่นมีราคาออกจำหน่าย
แพงกว่าราคาเหรียญที่ตราไว้
ทั้งมีน้ำหนักน้อยกว่ามูลค่าแร่โลหะ
แต่เป็นทึ่ยอมรับกัน/ซื้อขายในท้องตลาด

ส่วนต่าง=ราคาขาย(X)-ราคาเหรียญ(Y)
X-Y=A  A x จำนวนเหรียญที่ขายได้ คือ
กำไรแฝงของรัฐบาล นำรายได้ส่วนเกิน
เข้าเงินคงคลังประเทศ ทดแทนการเก็บ
ภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิต
รายได้ต่อครั้งอย่างต่ำ ๆ
หลักสิบ-ร้อยล้านบาท
ขึ้นกับการโฆษณา/วาระสำคัญต่าง ๆ
.
.

.
.
.

© เหรียญกษาปณ์หมุนเวียน

ในรัชกาลปัจจุบัน กรมธนารักษ์ได้ผลิต
เหรียญกษาปณ์หมุนเวียนออกใช้
ในระบบเศรษฐกิจเริ่มตั้งแต่ พ.ศ.2493
ซึ่งมีหลากรุ่น หลายแบบ โดยได้ปรับเปลี่ยนรูป
ลักษณะ ลวดลาย อัตราส่วนผสมโลหะ
และกรรมวิธีการผลิตเรื่อยมา
เพื่อให้สามารถผลิตเหรียญกษาปณ์ได้
ในปริมาณที่เพียงพอของประชาชน
ตลอดจนมีขนาดน้ำหนักเหมาะสม
สะดวกต่อการพกพา การใช้สอย
และยากต่อการปลอมแปลง

การปรับเปลี่ยนรูปลักษณะ อัตราส่วนผสม
ตลอดจนน้ำหนัก/ขนาดของเหรียญกษาปณ์
ที่ผ่านมาเป็นการปรับเปลี่ยนเป็นครั้งคราว
และเป็นบางราคาเท่านั้น

จนกระทั่งใน พ.ศ. 2530
กรมธนารักษ์ได้ปรับปรุงการผลิต
เหรียญกษาปณ์หมุนเวียนทั้งระบบ
พร้อมกันทุกชนิดทุกราคา
โดยเริ่มทยอยผลิตออกใช้หมุนเวียน
ใช้กันได้บ้างเป็นบางราคา
และสามารถผลิตได้ครบทุกชนิดทุกราคา
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 เป็นต้นมา
โดยได้ผลิตเหรียญกษาปณ์หมุนเวียน
ชนิดราคา 10 บาทขึ้นเป็นครั้งแรกด้วย

เหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชุดปรับปรุงใหม่
ซึ่งประกอบด้วย ชนิดราคา 10 บาท 5 บาท
2 บาท 1 บาท 50 สตางค์ 25 สตางค์
10 สตางค์ 5 สตางค์ และ 1 สตางค์
รวมทั้งสิ้น 9 ชนิด 9 ราคา
แต่ที่นำออกใช้หมุนเวียนในชีวิตประจำวัน
มีจำนวน 6 ชนิด 6 ราคา มี 
10, 5, 2, 1 บาท 50, 25 สตางค์

ส่วนเหรียญอีก 3 ชนิด 3 ราคา มี
10, 5, 1 สตางค์ 
ไม่ได้นำออกใช้โดยทั่วไป/มีในท้องตลาด
หากแต่ผลิตขึ้นเพื่อใช้ในระบบบัญชีของ
คลังจังหวัด คลังอำเภอ ธนารักษ์จังหวัด

กรมธนารักษ์ได้ผลิตเหรียญใหม่ ๆ ทุกปี
โดยเปลี่ยนปี พ.ศ. บนเหรียญตามปีที่ผลิต
ลวดลายบนเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนปัจจุบัน
เป็นลวดลายที่แสดงถึงสถาบันชาติ
ศาสนา และพระมหากษัตริย์
โดยด้านหน้าเป็นพระบรมรูป
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เพื่อแสดงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์
มีคำว่า ประเทศไทย เพื่อแสดงถึงสถาบันชาติ
และด้านหลังเป็นรูปวัด=สถาบันศาสนา
โดยเหรียญแต่ละชนิดราคา
จะมีวัดสำคัญ ๆ แตกต่างกันไป
.
.

ฎีกา(ขอเบิกเงินสด) จาก
คลังจังหวัด คลังอำเภอ ธนาคารรัฐ
ถ้ามียอดเงินเป็นเศษสตางค์
จะนำ 10, 5, 1 สตางค์
เติมเศษสตางค์ให้ครบตามฏีกา

แต่เศษสตางค์  10, 5, 1 สตางค์
คนมารับเงินมักจะยกให้หลวงไปเลย
แล้วควักเงินตนเองใส่ให้เกินตามฎีกา
ทั้งนี้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ
รู้กันดีว่าไม่มีเศษสตางค์ให้
เพราะเงินพวกนี้มีน้อยมากในหน่วยงาน

เศษสตางค์ที่หน่วยงานได้คืนมา
จะลงรับเป็นรายได้เบ็ดเตล็ด-อื่น ๆ
เพราะเงินหลวงตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้
ขาดหายไม่ได้ (คนทำหายติดคุกสถานเดียว)
เงินหลวงเกินไปเล็กน้อยได้  บ่บ่เป็นหยังดอก
.
.

.
 
.
.

.

.
.
.

เรื่องเล่าไร้สาระ

แผ่นไม้คัด/นับเหรียญ ยุค Analog
ภูมิปัญญาชาวบ้านของคนสมัยก่อน
ต้องใช้ความตั้งใจ/ฝีมือช่างไม้มืออาชีพ
ในการเจาะรูในแผ่นไม้
ให้ได้เท่ากับเหรียญสตางค์/เหรียญบาท
เพื่อคัดนับเหรียญ

ดูสภาพไม้น่าจะทำจากไม้สัก/ไม้ประดู่
อายุการใช้งานไม้คัดนับเหรียญ
บางอันน่าจะเกินกว่า 50 ปีแล้ว

เวลาคัดนับเหรียญให้เกลี่ยเหรียญ
ต้องคัดแยกเหรียญรอบแรกก่อน เช่น 1 บาท
จะลงในร่อง/รูทึ่เจาะพอดี ตอนเกลี่ยให้ลงรู
ถ้าขนาดเกินจะไม่ลงในรูนั้น ก็คัดออกมา

การเกลี่ยในแผ่นไม้ จะช่วยในการนับ
ทำให้งานเร็วขึ้น แม่นยำกว่านับด้วยมือ

ปัจจุบันแผ่นไม้ที่แทบจะไม่ได้ใช้งานแล้ว
ได้แก่แผ่นไม้คัดนับเหรียญรุ่นเก่าขนาดใหญ่
เช่น เหรียญ 25,50 สตางค์ เหรียญ 1,5 บาท
ที่ไม่ค่อยเห็นมีการหมุนเวียนในท้องตลาด
มักจะอยู่ในมือของนักสะสมเหรียญ/ชาวบ้าน
แต่ถ้าเอามาแลกคืนก็ได้ตามราคาหน้าเหรียญ
แต่ราคาซื้อขายในทัองตลาดใน Internet
จะสูงกว่ามูลค่าหน้าเหรียญทึ่ตราไว้

ถ้าสนใจจะนำเหรียญไปแลกได้ที่
ธนารักษ์จังหวัดทุกจังหวัด
ให้แยกประเภทเหรียญไปก่อน
ถ้ามีจำนวนหลักหมื่นบาทแสนบาทขึ้นไป
ควรติดต่อล่วงหน้าไว้ก่อน
เพราะเกี่ยวกับประสิทธิภาพ
การทำงานของเครื่องนับเหรียญ
และเงินสดย่อยสำรองของสำนักงาน
เพราะแลกเสร็จก็รับเงินสดเลยทันที 

ที่ทราบเพราะวันนั้นมีคนนำเงินเหรียญสิบบาท
มาแลกเป็นจำนวนมาก หลักแสนบาทขึ้นไป
น่าจะได้มาจากธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ
ได้ยินคำขอร้องจากทางพนักงานเจ้าหน้าที่

ธนารักษ์รับเหรียญไทยทุกประเภททุกชนิด
ไม่ว่าจะไปขอแลกแค่หลักสิบหรือหลักรัอยบาท
สะดวกและรวดเร็วกว่าแลกตามร้านค้า/7-11
แต่ติดต่อได้ในวันและเวลาราชการ
.
.

ที่นี่ เจัาหน้าที่ มีทักษะและประสบการณ์สูง
เพราะแยกแยะเงินเหรียญมาเลย์
ที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายเงินบาทมาก
เพราะที่หาดใหญ่มีโอกาสได้รับจากเงินทอน
จากการที่มีลูกค้ามาเลย์เข้ามามาก
ในยุคก่อนโควิท-19 มีการรับ/ทอนเงินมาเลย์
ทำให้หลายคนไม่สังเกตก่อนรับเงินทอน

จขกท.ชอบนำเหรียญบาทไปแลกที่ธนารักษ์
แบบขี้เกียจนับ ใส่รวมในถุงใหญ่ไปเลย
เพราะพอแลกได้ธนบัตรแล้ว ก็ขอแลกเหรียญ
ราคา 1 บาท 5 บาท 10 บาท
มักจะเป็นเหรียญใหม่ หรือขัดล้างสะอาดแล้ว

ถามว่ารับเงินทอนมาเลย์คุ้มหรือไม่
คุ้มยิ่งกว่าคุ้มทุกสิ่ง คุ้มยิ่งกว่าแฟลตปลาทอง
เพราะ 1 เหรียญมาเลย์มีช่วงอัตราแลกเปลี่ยน
ช่วงแย่สุด 6 บาทเศษ ช่วงดีสุด 12 บาทเศษ
ถ้า 10 Cent ราว 60 สตางค์- 1.20 บาท
ถ้า 50 Cent ราว 3 บาท- 6 บาท
ถ้า 1 ริงกิต ราว 6 บาท-12 บาท

ถ้ารับเงินทอนเป็นเงินเหรียญมาเลย์
ถ้าคิดราคาแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาท
ผิดราคาท้องตลาดจะขาดทุน

แต่ถ้ารับเงินเหรียญมาแพง
แล้วขายไปในช่วงเงินเหรียญตกมาก
ก็ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
ภาษานักเล่นพระ คือ ราคาตกควาย
ตกลงคนขายกลายเป็นควาย

เหรียญมาเลย์มีขัอเสียอยู่สามอย่างคือ
หาร้านค้ารับเหรียญมาเลย์ค่อนข้างยาก
ต้องนำไปใช้ในมาเลย์ หรือ
ร้านค้าชายแดน ไทย-มาเลย์

มาเลย์วันดีคืนดีจะยกเลิกเงินเหรียญ/ธนบัตร
พอมาเลย์ยกเลิกเหรียญหรือธนบัตร
ก็ทำการจำกัดจำนวนเงิน
ที่จะแลกคืนที่ธนาคารมาเลย์
พร้อมถามแหล่งที่มาของเงินด้วย
เพื่อเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง
ทำให้หลายคนปอดแหกไม่กล้าไปขอคืน
รัฐบาลก็งาบเงินสำรองส่วนนี้ไปฟรีฟรี

การนับวันหายไปของแผ่นไม้คัดนับเหรียญบาทเหรียญสตางค์
.
.

ไทยต้องพิมพ์ธนบัตรเดือนละ 200 ล้านบาท
เพราะธนบัตรหายไปจากระบบ/เมืองไทย
ไปสะสมที่ ลาว เขมร ญวน พม่า นายู
ลาว เขมร พม่า ให้ใช้เงินบาทแลกเปลี่ยนได้
อัตราแลกเปลี่ยนดีกว่าเงินสกุลในประเทศตน

ลึก ๆ คนในชาติเหล่านี้ชอบธนบัตรไทย
ธนบัตร ร.9 ไม่เคยยกเลิกเลย
เก่าแค่ไหน รุ่นที่เลิกพิมพ์แล้ว
ยังมาใช้ในไทยได้ แลกที่ธนาคารได้
ได้เต็มจำนวนหน้าธนบัตรที่ตราไว้
ทั้งไม่จำกัดจำนวนเงินที่แลกด้วย

ลาว เขมร ญวน ยกเลิกธนบัตรรุ่นเก่า
ตอนเปลี่ยนผ่านเป็นคอมมี่ ผลจนไปหลายคน
พม่า ยกเลิกเงินจ๊าดบ่อยครั้งมาก
แต่ให้แลกคืนจำกัดจำนวน/คน
มาเลย์ ยกเลิกธนบัตรบางรุ่น จำกัดแลกคืน/คน

โครงการนำร่อง คนละครึ่ง
ทำให้คนไทยใช้เงินดิจิตอลมากขึ้น
มีผลทำให้ไทยพิมพ์ธนบัตรน้อยลง
แต่ธนบัตรไทยไปกองต่างชาติมากขึ้น
เว้นแต่ให้คนต่างชาติ
ใช้ App ธนาคารเหมือนคนไทย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่