เกริ่นก่อนนะคะว่าเราโตมากับตายาย พ่อแม่มีเราตอนอายุยังน้อย ตอนนี้แยกทางกันแล้วส่วยแม่ก็ไม่เอาไหน งานการไม่ทำ มีเงินไม่เก็บ หน้าใหญ่ใจโตอาไปให้คนอื่น ใช้เงินไม่คิด เงินที่ได้มาคือมาจากแฟนใหม่ ส่วนยายเราก็มาแนวเดียวกัน ตาจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด แม้กระทั่งส่งเราเรียน ส่วนยายเป็นแม่บ้านไม่ได้ทำงาน พ่อแม่ไม่เคยมาดูเรื่องพวกนี้ เราก็ไม่เคยรู้สึกขาดเลย จนกระทั่งตาเสีย บ้านเราก็ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมเพราะเรียนเอกชนค่าเทอมค่อนข้างสูง สุดท้ายเราต้องหยุดเรียน 1 ปี ไปต่อไหนไม่ได้เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมทางรร.ไม่ให้ใบจบ ที่จบมาได้เพราะพ่อเข้ามาช่วยจ่าย หลังจากที่ไม่เคยโผล่มาดูดำดูดีเลย ส่วนแม่พอเลิกกับแฟนคนนั้นไปก็ไม่มีเงิน ตอนนี้ฝั่งแม่เราคือเละมากๆ ยายแก่แล้ว แม่ก็ไม่ยอมไปหางานทำ พอเราเรียนจบม.6จะหางานทำให้เขาช่วยหาเอาพวกงานเสิร์ฟก็ได้ ยังมาดูถูกเราว่าไปทำเสิร์ฟเดี๋ยวก็ไปซุ่มซ่ามทำของเขาพัง ไม่ดูสภาพตัวเอง งานไม่รู้จักหาทำ (พูดก่อนว่าเรากับแม่ไม่ถูกกัน มีอะไรจะผ่านยายตลอด ก่อนหน้าเราก็เคยรัก แต่สิ่งที่เขาทำ/พูดมันทำให้เราเกลียดเขาไปเลย ทั้งแช่งเรา ดูถูก ด่า ทำร้ายร่างกาย ใครจะทนก็ทนแต่ไม่ใช่เรา หลังๆมาเริ่มเห็นนางพยายามเสียสละให้ ทำดีด้วย แต่เราไม่เคยลืมส่งที่นางทำกับเรา กับชีวิตเด็กคนนึง ไม่เคยมีแม้แต่คำขอโทษ) เราหางานไม่ได้ เลยต้องเข้ากรุงเทพมาอยู่กับฝั่งพ่อ พอเราหาได้ยายก็ทักมาขอเงินไม่หยุด ย้อนแชทในไลน์มีแต่ทักมาขอเงิน พอเราไม่อ่านไม่ตอบบ้างก็ไปดราม่าลงเฟส จนย่าเรามาดุเราว่าอย่าลืมบุญคุณคน ให้เงินเขาบ้าง เราเลยบอกไปว่าก็ให้ไปแล้ว ตอนกลับไปก็พาไปกินนั่นนี่ ให้เงินไว้ด้วย เดือนที่ผ่านมาก็ให้ตลอด ย่าเลยบอกว่าอ้อหรอ ย่าไม่รู้ ก็ไม่รู้จะช่วยเขายังไง มีก็ให้เขาบ้าง เขาเลี้ยงเรามา ตอนให้ไม่พูดพอไม่ให้กลับเอาไปพูด ตอนนี้ยายกับแม่ทำขนมขาย แต่กำไรไม่ได้ ได้แต่ขาดทุน เพราะขายแบบส่ง คนที่ซื้อไปก็กดราคาสะบัด ไม่ยอมให้ขึ้นราคา ถ้าขึ้นก็ขายไม่ได้นอกจากจะขายเอง แต่ขายเองก็ได้น้อยเพราะเป็นตลาดเล็กๆ เห็นใจเขาอยู่นะ คนรวยก็รวยเอาๆ เอาเปรียบคนจน อุบาทว์ แต่ก็นั่นแหละ ล่าสุดยายมาขอให้ช่วยส่งเงินให้ที่บ้านเดือนละ 2000 เราได้เงินเดือน 15,000 แค่ใช้ให้รอดแต่ละเดือนยังไม่พอเลย ต้องส่งให้เขาอีก แล้วลูกเขาไม่เห็นทำ
อะไร มาคาดหวังกับคนเป็นหลาน ทำไมต้องมาแบกรับภาระของผู้ใหญ่ที่
ไม่รู้จักวางแผนการเงินด้วย เมื่อไหร่จะเลิกคาดหวังให้ลูกหลานเลี้ยงส่งเงินให้ใช้ ขนาดบอกเหลือ 2000 ตอนกลางเดือนต้องกำเงินนี้ให้ถึงสิ้นเดือน ยังขอ 500 ตลกดี พอไม่ให้ก็หาว่าเห็นแก่ตัว สังคมไทยบางสังคมเป็นไรกับการให้เงิน=กตัญญู? มาขอเงินกูตอนกำลังพยายามประคล้ำประคองชีวิตตังเองภูมิใจมากมั้ย ไหนจะต้องสอบเข้ามหาลัย เงินก็ต้องหา งานก็ต้องทำ ต้องบริหารชีวิตเองทั้งหมดโดยที่ไม่มีพื้นฐานอะไรจากครอบครัวเลย เพราะ
ไม่รู้จักบริหาร
อะไรเลยสักอย่าง ชีวิตคนทั้งชีวิตถ้าไม่พร้อมอย่ามี คึกคะนอง
ไรของพวก สมอง ทำไมกูต้องมาแบกรับความไม่รับผิดของพวกด้วย พอเราอยู่ในจุดที่ทนไม่ไหวเลยพูดไปเลยว่าเรารู้สึกยังไง กลับบอกมาว่าในหัวเขามีแต่เรื่องเงินๆๆๆ ทั้งที่เราพยายามสื่อไปว่าเรามีปัญหาสุขภาพจิต แต่สิ่งเดียวที่เขาสนใจคือ "เงิน"
อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนก็คงบอกให้ตัดออกไปจากชีวิตซะ เอาจริงๆเราก็อยากทำ แต่พอมาเจอจริงๆมันยากมาก เขาไม่เคยคิดจะทักมาถามเลยด้วยซ้ำว่าทำงานเป็นยังไง อยู่คนเดียวได้ไหม เหนื่อยไหม ไม่เคยมี ส่วนฝั่งก็คอยส่งเงินช่วยเรื่องเรียนกับเรื่องที่อยู่เพราะเราแยกมาอยู่คนเดียว ทนอยู่บ้านย่าไม่ไหวทั้งเด็กทั้งคนแก่ ประสาทจะกิน ถึงอยู่คนเดียวจะค่าใช้จ่ายเยอะกว่าอยู่บ้านเราก็ยอมดีกว่าต้องเสียสุขภาพจิตไปมากกว่านี้ แล้วถ้าเราตัดฝั่งแม่ทิ้ง พ่อก็จะด่าเราหาว่าลืมบุญคุณอีก ทุกวันนี้ยังถามอยู่เลยว่าได้โทรหาแม่บ้างไหม ตอนนี้เราไม่เหลือความรักให้ใครทั้งนั้น เพราะตอนนี้ที่ทุกคนต้องการจากเราก็เรื่องเงิน เรื่องงาน เรื่องเรียน ทุกคนเอาแต่คาดหวังในตัวเราโดยที่ไม่เคยสนใจครส.เราเลยด้วยซ้ำ ถ้าเราตัดเราก็คงตัดได้ แต่ที่ตอนนี้ตัดไม่ได่เราพูดตรงๆเลยเพราะพ่อ พ่อคือคนที่ส่งเสียเราตอนนี้ ถ้าเราทำอะไรวู่วามไปเกิดเขาไม่ส่ง ไม่ให้เงินขึ้นมาเราก็ลำบาก ได้แต่คิดว่าเรียนจบเมื่อไหร่หางานทำ พอรับเรื่องค่าอยู่ค่ากินเองได้จะตัดจากทุกคน
บางคนอาจคิดว่าถ้ามีลูกคิดแบบนี้คงไม่อยากมี แต่สำหรับเราถ้ามีครอบครัวแบบนี้เราคงไม่อยากมี เราเลือกเกิดไม่ได้ แต่คนเป็นพ่อเป็นแม่เลือกที่จะคุมกำเนิดได้ เลือกที่จะทำได้ ถ้ามีลูกก็ต้องคอยส่งเสียลูก ไม่ใช่ให้ลูกมาส่งเสีย มันไม่ใช่หน้าที่ของลูกเลยที่ต้องมาดูแลพวกคุณ พวกคุณไม่รู้เลยว่าเราต้องแบกรับความรู้สึก ความกดดันอะไรมาบ้าง ได้แต่พูดว่าสมัยตัวเองทำแบบนั้นแบบนี้ได้ ยุคสมัย+การเลี้ยงดูมันต่างกันมาก เลิกเอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง เลิกคาดหวังให้ทุกคนเป็นเหมือนตัวเอง ถ้าดีจริงก็เอาชีวิตตัวเองให้รอดก่อน
บางทีก็อยากแกล้งบ้าเดินไปกรี๊ดๆๆๆๆใส่หน้าคนที่บ้านแล้วบอกผีเข้า จบ
ทางบ้านชอบทักมาขอเงิน ปัญหาครอบครัว
อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนก็คงบอกให้ตัดออกไปจากชีวิตซะ เอาจริงๆเราก็อยากทำ แต่พอมาเจอจริงๆมันยากมาก เขาไม่เคยคิดจะทักมาถามเลยด้วยซ้ำว่าทำงานเป็นยังไง อยู่คนเดียวได้ไหม เหนื่อยไหม ไม่เคยมี ส่วนฝั่งก็คอยส่งเงินช่วยเรื่องเรียนกับเรื่องที่อยู่เพราะเราแยกมาอยู่คนเดียว ทนอยู่บ้านย่าไม่ไหวทั้งเด็กทั้งคนแก่ ประสาทจะกิน ถึงอยู่คนเดียวจะค่าใช้จ่ายเยอะกว่าอยู่บ้านเราก็ยอมดีกว่าต้องเสียสุขภาพจิตไปมากกว่านี้ แล้วถ้าเราตัดฝั่งแม่ทิ้ง พ่อก็จะด่าเราหาว่าลืมบุญคุณอีก ทุกวันนี้ยังถามอยู่เลยว่าได้โทรหาแม่บ้างไหม ตอนนี้เราไม่เหลือความรักให้ใครทั้งนั้น เพราะตอนนี้ที่ทุกคนต้องการจากเราก็เรื่องเงิน เรื่องงาน เรื่องเรียน ทุกคนเอาแต่คาดหวังในตัวเราโดยที่ไม่เคยสนใจครส.เราเลยด้วยซ้ำ ถ้าเราตัดเราก็คงตัดได้ แต่ที่ตอนนี้ตัดไม่ได่เราพูดตรงๆเลยเพราะพ่อ พ่อคือคนที่ส่งเสียเราตอนนี้ ถ้าเราทำอะไรวู่วามไปเกิดเขาไม่ส่ง ไม่ให้เงินขึ้นมาเราก็ลำบาก ได้แต่คิดว่าเรียนจบเมื่อไหร่หางานทำ พอรับเรื่องค่าอยู่ค่ากินเองได้จะตัดจากทุกคน
บางคนอาจคิดว่าถ้ามีลูกคิดแบบนี้คงไม่อยากมี แต่สำหรับเราถ้ามีครอบครัวแบบนี้เราคงไม่อยากมี เราเลือกเกิดไม่ได้ แต่คนเป็นพ่อเป็นแม่เลือกที่จะคุมกำเนิดได้ เลือกที่จะทำได้ ถ้ามีลูกก็ต้องคอยส่งเสียลูก ไม่ใช่ให้ลูกมาส่งเสีย มันไม่ใช่หน้าที่ของลูกเลยที่ต้องมาดูแลพวกคุณ พวกคุณไม่รู้เลยว่าเราต้องแบกรับความรู้สึก ความกดดันอะไรมาบ้าง ได้แต่พูดว่าสมัยตัวเองทำแบบนั้นแบบนี้ได้ ยุคสมัย+การเลี้ยงดูมันต่างกันมาก เลิกเอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง เลิกคาดหวังให้ทุกคนเป็นเหมือนตัวเอง ถ้าดีจริงก็เอาชีวิตตัวเองให้รอดก่อน
บางทีก็อยากแกล้งบ้าเดินไปกรี๊ดๆๆๆๆใส่หน้าคนที่บ้านแล้วบอกผีเข้า จบ