สวัสดีค่ะ 
วันนี้จะพาท่านผู้ชมไปโหนรถเมล์ด้วยกันที่ฝรั่งเศส กับประสบการณ์ที่แตกต่างจากเมืองไทย 


1.Google Maps ลิงก์กับป้ายรถเมล์ 


คือเวลาเราอยากจะไปสถานที่ไหนก็searchหาใน Google Maps ว่าจะต้องนั่งรถเมย์สายไหน ต่ออะไร อันนี้ก็ดูเป็นเรื่องปกติ

แต่ว่าเคยไหมคะที่หลงป้าย หาป้ายไม่เจอ ไม่รู้ว่าขึ้นฝั่งไหน ซึ่งที่ฝรั่งเศสใน Google Maps จะบอกให้เราเดินไปเลยว่า
ต้องขึ้นรถเมล์ตรงป้ายไหน(คือไม่ได้บอกแต่ว่าขึ้นรถเบอร์อะไร แต่พาเราเดินไปถึงป้าย)


2.ที่ป้ายรถเมล์จะเขียนแผนที่และเส้นเดินทางรถเมล์ไว้ ถ้าป้ายใหญ่จะมีป้ายดิจิตอลบอกเวลาว่าอีกกี่นาทีรถเมล์จะมาถึง
และเชื่อมกับแอพรถเมล์ในเมืองนั้นๆ สามารถเช็คได้ว่ารถเมล์จะมากี่โมง

เส้นสีๆคือรถเมล์แต่ละเบอร์


นี่ป้ายดิจิตอลบอกว่าอีกกี่นาทีรถเมล์จะมาถึง แต่ป้ายโดนทุบพัง ตามสไตล์ฝรั่งเศส

3.ตั๋วรถเมล์
มีแบบเป็นกระดาษรายครั้งหรือจะซื้อแบบราย 10 ครั้ง ซึ่งหนึ่งครั้งจำกัดเวลาอยู่ที่ 1 ชั่วโมง พูดง่ายๆก็คือ
ถึงเปลี่ยนรถเมล์แต่ยังอยู่ใน 1 ชั่วโมง เราก็ไม่ต้องซื้อตั๋วใหม่
ราคาตั๋วประมาณ1€กว่าๆ/ครั้ง(ประมาณ38-45บาท) หรือจะซื้อเป็นการ์ดบุฟเฟ่รายเดือนก็ได้
หรือบางจังหวัดมีแอปให้ซื้อตั๋วออนไลน์ได้ค่ะ บางเมืองการ์ด/ตั๋วนี้สามารถใช้ร่วมได้กับเมโทร tramway รถไฟฟ้าค่ะ




4. กระเป๋ารถเมล์คือเครื่องซื้อตั๋วอัตโนมัติค่ะ
ใช้เงินสดหรือบัตรเครดิตจ่ายได้ค่ะ หรือบางจังหวัดสามารถซื้อกับคนขับรถเมล์ได้ค่ะ โอ้โหรถก็ต้องขับ เงินก็ต้องเก็บ ใช้งานคุ้มจริงๆ



5. ในรถเมล์ไม่มีกระเป๋ารถเมล์ เพราะบนรถเมล์มีเครื่องเสียบบัตรหรือแตะการ์ด ซึ่งบางครั้งก็จะมีนายตรวจขึ้นมาตรวจค่ะ
สำหรับคนที่ซื้อตั๋วในแอพเค้าจะมี QR Code ค่ะ ถ้าไม่จ่ายโดนปรับหนักเป็น10เท่าของราคาตั๋วเลยค่ะ แถมถูกrecordชื่อไว้ด้วยนะคะ

แตะบัตรที่เครื่อง

ตั๋วกระดาษก็เสียบใส่เครื่องค่ะ


นายตรวจรถเมล์ที่นี่เล็บสั้น

โชว์ตั๋วQR code ซึ่งมันมีเวลานับถอยหลัง60นาทีในการใช้

เคยมีเคสที่คนไทยมาเล่าให้ฟังว่าเคยถูกปรับ3ครั้ง แล้ววันนึงไปสมัครงานบริษัทตำแหน่งบัญชีแล้วถูกปฏิเสธงาน
โดยบริษัทให้เหตุผลว่างานนี้ต้องใช้ความซื่อสัตย์ ซึ่งทางบริษัทได้เช็คประวัติแล้ว คุณไม่ได้จ่ายค่ารถเมล์ถึง3ครั้ง
ถ้าเกิดไม่ได้จ่าย1ครั้งสามารถเข้าใจได้ ผิดพลาดหลงลืมกันได้ แต่ถึง3ครั้งถือเป็นความตั้งใจ ดังนั้นคุณไม่เหมาะกับงานนี้

6.ไม่รู้เป็นบ้าอะไรชอบทุบทำลายป้ายรถเมล์กัน ถ้าไม่ทุบก็พ่นสี ทุบกระจกกั้น/ทุบป้ายบอกเวลาดิจิตอล บ่าฮู้สิทุบยะหยัง
หรือป้ายโฆษณาที่ติดอยู่ที่ป้ายรถเมล์ก็ถูกทุบ (โดยกลุ่มที่ทุบป้ายโฆษณาจะเป็นกลุ่มที่อนุรักษ์พลังงานมองว่าป้ายโฆษณามันเปลืองไฟ)

CR : photo by canalblog.com

7.สามารถเอาหมาขึ้นรถเมล์ได้ค่ะ
แต่ต้องเป็นหมาที่สามารถอุ้มได้ มีครั้งหนึ่งเราเคยเจอคนเอาหมาขนาดประมาณหมาไทย ขึ้นรถเมล์โดยอุ้มขึ้นมาค่ะ
พอเข้ามาในรถเมล์ก็ต้องเอาหมานั่งตักค่ะ ไม่ได้ทำผิดกฎเด้อ 555
ใครกลัวหมาต้องทำใจนะคะมาฝรั่งเศสเพราะคนฝรั่งเศสรักหมามากพาขึ้นลิฟท์/พาไปตลาด/ไปร้านอาหาร/เดินห้าง(แต่ไม่ชอบเก็บขี้หมากันแฮะ)

CR: photo by https://flairetcie.com/

8.ในรถเมล์มีป้ายดิจิตอลบอกว่าป้ายรถเมล์ต่อไปคืออะไร  Next station ...
ปกติแล้วจะมีเสียงบอกสำหรับผู้พิการทางหู(แต่หลายครั้งที่ขึ้นไปก็ไม่มีค่ะ ไม่รู้พังหรือป่าว)


9.ขึ้นประตูหน้าออกประตูหลังเท่านั้นค่ะ

เข้าตามตรอก ออกตามประตู555

10.ตรงกลางรถเมล์จะไม่มีเก้าอี้เพราะเป็นที่สำหรับรถเข็นเด็ก/รถเข็นคนพิการ
โดยกริ่งกดก็จะอยู่ระดับต่ำเพื่อให้คนนั่งรถเข็นสามารถกดได้ค่ะ

พอถึงที่หมาย รถเมล์จะมีถาดสไลด์ออกมาเพื่อให้เกยกับฟุตบาทให้รถเข็นไหลลงได้อย่างสวัสดิภาพ  bon voyage


11.ที่ฝรั่งเศสไม่เสียสละที่นั่งให้กับเด็ก/นักบวช/สตรีค่ะ
หลวงพี่ ซิสเตอร์ เป็นวัยมีกำลังวังชา ทำไมต้องเสียสละให้
ทำไมต้องเสียสละให้สตรี ในเมื่อ ชาย หญิง เท่าเทียมกัน 
ส่วนเด็กๆ เป็นคนมีเรี่ยวมีแรงค่ะ ดังนั้นหลายครั้งที่เห็นเด็กอนุบาลยืนโหนรถเมล์
แรกๆเราก็สงสารแต่หลังๆเห็นเด็กซนมาก ราวรถเมล์เป็นบาร์ในสนามเด็กเล่น ทั้งปีนทั้งไต่
ผู้ปกครองบางคนก็ห้าม ผู้ปกครองบางคนก็ปล่อย นี่รถเมล์หรือกรงลิง

12.ผู้โดยสารฝรั่ง หลายคนมีนิสัยชอบพิงเสา/ไม่ขยับชิดใน
หรือเก้าอี้นั่งเป็นเบาะคู่ก็จะนั่งเบาะข้างนอก แล้วเอากระเป๋าตัวเองวางไว้บนเก้าอี้เบาะใน ไม่ยอมขยับ
วัยรุ่นเปิดฟังเพลงด้วยลำโพง ถ้าอยู่เมืองไทยคงได้ดังในPantip

มา1นั่ง3 เอากระเป๋าเดินทางวางบนเบาะ เสียไปเลย2ที่นั่ง 

มีครั้งหนึ่งรถเมล์แน่นมากๆ มียายคนหนึ่งไม่มีใครลุกให้แกนั่ง ยายแกก็ยืนพิงเสา เราก็ต้องหาที่เกาะ เราก็พยายามเกาะเสาที่ยายพิง
ยายแกก็มองค้อนเราประมาณว่ามือที่เรากำเสา ไปโดนหลังนาง


คนฝรั่งเศสจะเอากระเป๋าวางไว้ระหว่างขา จะได้ไม่ต้องถือ และกันหาย ถ้าวางไว้ข้างตัว อาจโดนฉกได้

อีกเหตุการณ์หนึ่ง เรายืนรอรถเมล์กับแม่ลูกอ่อนคนเอเชีย น่าจะเป็นคนญี่ปุ่น มีลูก2คน คนนึงนั่งรถเข็นเด็กอ่อน อีกคนนึงวัยอนุบาล รอรถเมล์กัน
พอประตูรถเมล์เปิด คนขับรถเป็นผู้หญิง บอกแม่ญี่ปุ่นว่าในรถมีรถเข็น3คันแล้ว ให้ขึ้นไม่ได้เพราะกฎให้รถเข็นเด็กขึ้นได้ไม่เกิน3คัน
เราไม่รู้ว่าเค้าเลือกปฏิบัติหรือเปล่าหรือกฏมันเป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะบางครั้งเราเห็นมีรถเข็นเกิน3คันอยู่ในรถเมล์
ไม่รู้ว่าคนขับอะลุ่มอล่วยให้หรือมันไม่มีกฎนี้ แม่ญี่ปุ่นก็บอกว่าแล้วจะให้ฉันทำยังไง?
โชเฟอร์หญิงก็บอกว่ารอรถเมล์คันต่อไปแล้วก็ปิดประตูใส่เลย


13.รถเมล์เป็นรถปรับอากาศ ตอนหน้าหนาวจะปรับเป็นฮิตตอร์ให้ความอบอุ่น ตอนหน้าร้อนจะปรับเป็นแอร์

14.ก่อนลงรถเมล์ ตามมารยาทฝรั่งเศส ต้องตะโกนให้คนขับได้ยินว่า Merci (ขอบคุณ) Au revoir [ลาก่อน]


ก่อนจากกันค่ะมีเรื่องเล่า เศร้าจนอยากออกรายการ โหยหาความรักความเมตตา by ไทยสมุทร

คือยุคโควิดให้ผู้โดยสารใส่หน้ากากอนามัยขึ้นรถเมล์ ยกเว้นคนขับรถไม่ต้องใส่ งงมะ
มีอยู่ครั้งหนึ่ง เราออก ตอน2ทุ่ม วิ่งขึ้นรถเมล์ลืมเอาหน้ากากมา โชเฟอร์บอกเราว่าใส่หน้ากากด้วยครับ
เราค้นหาในกระเป๋า เฮ้ยลืมหน้ากาก! เราก็เลยบอกว่า ฉันลืมเอามา คุณมีหน้ากากขายไหม?
คนขับบอกไม่มีขาย แล้วเราถามว่าจะให้ทำยังไงคะ?
เค้าบอกว่าก็ไม่ต้องขึ้นรถเมล์แล้วก็ปิดประตูรถเมล์ใส่หน้าเรา แล้วก็ขับไปเลยเรายืนร้องไห้เลยค่ะ
เพราะ2ทุ่มที่ฝรั่งเศสร้านขายยา/ร้านค้าปิดแล้ว จะไปหาซื้อแมสจากที่ไหน
แล้วรถเมล์ฝรั่งเศสหมดประมาณ3-4ทุ่ม(แล้วแต่เบอร์ค่ะ)และเราก็ขึ้นรถเมล์คันต่อไปไม่ได้เพราะก็คงถูกไล่ลงอยู่ดี
น่ารันทดมากเลยค่ะ หนาวด้วย 

สามารถรับชมVLOGขึ้นรถเมล์ที่ฝรั่งเศสได้ที่คลิปนี้นะคะ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ 
Bon voyage