เรามีปัญหาเรื่องความพังของการเงินคนในครอบครัวมาปรึกษาค่ะ
แม่เราไม่ได้ทำงาน ออกจากงานโรงแรมช่วงโควิดเพราะเงินเดือนลดและไม่ได้เซอร์วิสชาร์จ จึงลาออกมาเลี้ยงหลานชายที่เป็นออทิสติก (ลูกชายคนโตเราเอง) เป็นหลานรัก แม่ตามใจมากเพราะสงสารหลาน
ความคิดแม่อยากให้เราไปทำงานแล้วให้แม่เลี้ยงหลานให้ทั้งหมดเลยส่งเงินให้แม่
ปัจจุบันเราคบแฟนต่างชาติ คบกันมาหลายปีแล้วจนมีลูกใหม่ด้วยกัน แล้วเขาให้เราเลี้ยงลูก อบรมสั่งสอนลูก ให้เงินเดือนพื้นฐาน ยังไม่ให้เราไปทำงานเพราะลูกยังเล็ก
เราทำงานกับต่างชาติมาตลอดเงินเดือนไม่ต่ำกว่า 2-3หมื่น อัพ ตอนลูกเพิ่งคลอดบอสก้อตามมาขอให้กลับไปทำงานรอบนี้ให้ 4หมื่น แฟนบอกว่าบริษัทบอสเปิดใหม่ช่วงโควิด ถ้าไม่มีผลกำไร สุดท้ายเขาก็จ้างเราไม่ไหว ตอนนี้ควรเลี้ยงลูกก่อน เด็กต้องใกล้ชิดแม่อย่างน้อย 6ปี
แฟนเราวางรากฐานทุกอย่างใหม่หมด ให้เราเริ่มต้นให้เงินเดือนเราจากหลักพัน แล้วขยับๆ เหมือนผ่านโปร5555 เพราะลูกโตค่าใช้จ่ายเยอะขึ้น เริ่มให้จาก 6พัน ปัจจุบันเป็น 18,000 แต่เราต้องจ่ายทุกอย่างบริหารเอาเอง
เราก็รู้สึกว่าไม่ค่อยพอใช้ตั้งแต่ตอน 6พันแล้วเลยพยายามหารายได้เสริม ตอนนั้นที่นึกขึ้นได้คืองานไลฟ์สดแอปดังๆ ต่างๆ ที่เขาพอจ้างการันตีเดือนหลักพัน เพราะต้องเลี้ยงลูก 1ขวบด้วย เลยหาทำออนไลน์ไปก่อน มันก็พอชุบชีวิตได้บ้างให้พอกินพอใช้ขึ้นมาหน่อย เราก้อพยายามเก็บตังเริ่มจากเดือนละพันสองพัน ผ่านไป ปีนึงเราก้อเริ่มทำแอปไลฟ์สดเยอะขึ้น มีรายได้มากขึ้น พอได้กินใช้คล่อง มีเงินส่งให้แม่มากขึ้น สักพักก็เป็นช่วงพีค งานเข้ามาหลายแอป จนเราทำแทบไม่ทัน ทำงานหนักมาก แต่ก็ได้เดือนนึงถึงหลักแสน เราใช้เงินแบบสบายเลยช่วงนั้น ทั้งได้เก็บเต็มที่ ได้กินใช้เต็มที่ ให้แม่เต็มที่เลย เดือนละหมื่นห้า แม่ชอบบ่นว่าเงินไม่พอดีนัก ให้กินแบบเหลือๆ เลย ส่วนเราก้อรับผิดชอบลูก 2คน และแบ่งเก็บเป็นค่าเทอมลูก
แต่ช่วงพีคคนเรามันจะได้สักเท่าไหร่ งานก็ไม่ใช่งานมั่นคง ก็มีขาขึ้นขาลง เราก้อเริ่มยอดน้อยลง แอปเปลี่ยนนโยบาย ทำให้งานน้อยลง แต่ก้อยังพอมีรายได้พออยู่ได้นะเดือนนึงหลักหมื่น
และแล้วเราก็ท้องอีกรอบ🥹 กับแฟนปัจจุบัน
เริ่มวิกฤตเรื่องรายได้ละเพราะงานลดด้วย เราแพ้ท้องด้วย ทำงานเต็มที่ไม่ได้ ต้องลดค่าใช้จ่ายก่อนเลย จากให้แม่อาทิตละ 3พัน ก็บอกให้เข้าใจว่าจะเป็นอาทิตย์ละพันแล้วนะช่วงนี้ลูกไม่ไหว ค่าน้ำไฟเนตก้อจ่ายให้เหมือนเดิม แม่ก้อเริ่มโวยละ เครียดใส่เรา แล้วประชดว่าไม่มีก้อจะอยู่ได้เองไม่ต้องมาบอกมาวางแผนไม่มีก็ไม่ต้องให้ ไม่ต้องมาทฤษฎี แบบไม่พอใจเราอ่ะ เราก้อเสียใจนะ ที่ให้แม่เยอะก้อพยายามบอกตลอดว่าเก็บได้เก็บบ้างนะเพราะงานไม่ได้มั่นคง งานไลฟ์เป็นงานที่แอปยกเลิกได้ตลอดเวลา แต่ช่วงที่เราทำงานได้เราก็โกยมาตลอด ทำงานไม่ค่อยได้พักผ่อนเลย
เราพยายามเตือนแม่มาเสมอ แต่เหมือนแม่ไม่เคยเข้าใจเราเลย แม่จะคิดว่าเราจะลำบากทำไม ทำงานหนักทำไม มีต่างชาติก็อ้อนผัวขอผัวสิ ผัวตังเยอะแยะ ใช่สิ พ่อแม่เราอยู่ด้วยกันพอต่างคนต่างไม่มีก็ขอกันตลอด ตอดกันไปมาจนทุกวันนี้แก่กันแล้วชีวิตก็ไม่เหลืออะไรเลย ความคิดแม่คือเป็นผัวเมียกันต้องช่วยเหลือกัน ลำบากมาด้วยกัน
แต่ทางเราคือแฟนเป็นนักธุรกิจ เงินส่วนใหญ่เขาเอาไปลงทุนกับธุรกิจ ทำบริษัท จ่ายค่าเช่าออฟฟิศ เดินทาง พาลูกค้าไปปิดดีล ความคิดคือทุกอย่างต้องเป็นระบบ ได้เงินมาก็จะจัดสรรค่าใช้จ่ายเป็นรายปีไป อย่างเงินที่ให้เราก็ต้องบริหารให้ได้ ถ้าต้องการมากกว่านี้เราต้องตั้งใจทำงานกับเขาช่วยกันทำบริษัท ปิดดีลกันให้ได้ แบบนี้มันก้อดูชัดเจนดี ดูมีอนาคตกว่า
เราอดทนกับแฟนมาขนาดนี้แล้ว ธุรกิจเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ถึงเราจะยังใหม่ไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก้อยังพยายามเรียนรู้ เราเข้าใจที่เขาให้ประหยัดเพราะเรายังไม่มีรายได้แบบ passive income ต้องอดทนสร้างระบบตรงนี้ให้ได้ก่อน เราก็พยายามเรียนรู้ ถึงจะดูลำบากแต่ก้อไม่ได้อดอยาก แต่พ่อแม่เราไม่เข้าใจ เขาคิดว่าเราทำอะไรเสียเวลา เรียนจบตั้งปริญญาตรีมาทำไม มาเลี้ยงลูกอยู่บ้าน พูดจาประชดส่อเสียดเราตลอด
พอเราให้เงินน้อยหรือให้ช้าก้อจะเครียดทำประชด เหมือนคิดว่าเราต้องมีเงินพร้อมให้เขาขอตลอดเวลา เราเหนื่อยมาก พยายามอธิบายให้เข้าใจ ว่าเราอยู่ในสถานะที่ต้องประหยัด ใช้เงินเท่าที่จำเป็น ตอนนี้มีเท่านี้ เขาก็ไม่พอใจ เวลาเราโอนเงินให้แม่เราจะดีใจมากใช้จ่ายไม่คิด แล้วเงินจะหมดเร็วมาก พอเงินหมดก้อจะมาเครียด แผ่รังสีอำมหิตใส่เรา ไม่ทำกับข้าวบ้าง ไม่คุยด้วยบ้าง ขู่จะฆ่าลูกที่เป็นออทิสติกเราบ้าง
เราไม่รู้จะทำยังไงให้แม่เข้าใจเราแล้วค่ะ ยิ่งอธิบายก้อยิ่งเหมือนผิดใจกัน สักพักจะบอกให้เราไม่ต้องเครียด จะคลอดอยู่แล้วอีกไม่กี่วัน ทำงานไปทำไมเยอะแยะพักบ้าง ขอผัวให้ใช้ให้พอบ้าง มากดดันตัวเองทำไม สุดท้ายแม่เราก็คิดอะไรไม่ได้อยู่ดี เขาจะคิดแต่ว่าเรามีเงินสำรองอยู่จะเครียดทำไม มีเงินไม่เอาออกมาใช้ พอถึงเวลาฉุกเฉินรถพังเราต้องจ่ายหนักก็รู้สึกสะใจมาก เหมือนเราได้เอาตังออกมาใช้สักที
เราก็คิดนะถ้าใช้ชีวิตแบบพ่อแม่ป่านนี้รถเสียคงต้องโทรกายืมเงินคนอื่นมั่วไปหมด พ่อแม่เราไม่เข้าใจคำว่าเก็บเงิน พ่อเราเคยบ่นผ่านคนอื่นว่าเราจะเก็บเงินไปทำไมเยอะแยะ แทนที่จะซื้อรถยนต์ ซื้อบ้านเป็นหลังดีๆ แบบคนอื่น
เราไม่อยากไปติดกับดักเป็นหนี้แบบพ่อ ถึงเวลาไม่มีผ่อนเขาแล้ววิ่งหายืมทุกงวด ทำงานมาก้อโปะแต่รถกับไฟแนนซ์ จนต้องชิ่งไม่ให้เงินแม่เลย ไม่ดูแลใครทั้งนั้นนอกจากจ่ายหนี้
เราไม่รีบ เราทนได้ ขี่มอไซค์ เพราะพอเราพร้อมเราก็จะซื้อรถได้อยู่ดีแบบไม่เป็นภาระแบบนี้ ตอนนี้ต้องการมีเงินเก็บพอค่ากินลูกไม่ขาดเหลือ มีเงินฉุกเฉิน และค่าเทอมล่วงหน้าให้ลูกพอเพราะไม่รู้อนาคตจะมีรายได้เข้าอีกเมื่อไหร่
เรื่องบ้านเรื่องรถแฟนเราจัดการเอง แค่ขอให้ทุกอย่างเข้าร่องเข้ารอย เราก็ควรรอ ดีกว่าไปลำบากตัวเอง
เราไม่รู้จะทำยังไงกับแม่แล้วค่ะ เพราะเราต้องรับผิดชอบชีวิตแม่ไปตลอดแต่แม่ไม่เข้าใจระบบเราเลย แม่คิดแต่ว่าฉันขอแกต้องมีให้นะ ฉันรู้ว่าแกมีเงิน ทำไมชอบให้รอๆ เงินออก มีเงินก้อขุดๆ มาใช้ มีผัวก็ไปอ้อนๆ ขอ
แต่คือไม่อยากชีวิตพังแบบพ่อแม่อ่ะ พ่อแม่เราทำงานยุคก่อนโควิดได้เงินเยอะกว่าเรา แต่ด้วยความไม่เก็บออมนี่แหละ ถือคติว่ามีเงินต้องรีบใช้ เดี๋ยวไม่มีจะไม่ได้ใช้ เราว่าถึงเขาทำงานหรือไม่ได้ทำงานมันก้อค่าเท่ากันเพราะสุดท้ายต้องมาขอเราอยู่ดี เฮ้อ อีก 5วันหมอจะนัดเราคลอดแล้วเราพยายามทำงานจนวันสุดท้าย ให้เงินพอค่ากับข้าวของเดือนนี้ ท้องแก่แล้วยังต้องแบก จะปล่อยวางก้อต้องมาคอยหนักใจกับรังสีความเครียดตอนแม่เงินหมดอีก เราควรทำยังไง ต้องให้เงินรายวันแม่เหมือนเด็กประถมมั้ยถึงดูเหมือนได้เงินใช้ทุกวัน เหนื่อยมากนะถ้าทุกอย่างไม่เข้าระบบ เราต้องทำบัญชีลายทาง ทั่งของตัวเอง ทั้งของบริษัทอีก ทำไมต้องมารับผิดชอบยิบย่อยแบบนี้
เราเข็ดหลาบจนคิดว่าแก่มาจะไม่ให้ลูกเลี้ยงแล้วค่ะ สงสารลูก เราต้องรีบวางแผนเกษียณตัวเองให้เร็วและพอ เพื่อลูกจะได้ไปมีชีวิตดีๆ เป็นของตัวเอง
เป็นเดอะแบกของบ้านแต่ก็ไม่ดีสักทีถ้าให้เงินไม่ถึงใจ
แม่เราไม่ได้ทำงาน ออกจากงานโรงแรมช่วงโควิดเพราะเงินเดือนลดและไม่ได้เซอร์วิสชาร์จ จึงลาออกมาเลี้ยงหลานชายที่เป็นออทิสติก (ลูกชายคนโตเราเอง) เป็นหลานรัก แม่ตามใจมากเพราะสงสารหลาน
ความคิดแม่อยากให้เราไปทำงานแล้วให้แม่เลี้ยงหลานให้ทั้งหมดเลยส่งเงินให้แม่
ปัจจุบันเราคบแฟนต่างชาติ คบกันมาหลายปีแล้วจนมีลูกใหม่ด้วยกัน แล้วเขาให้เราเลี้ยงลูก อบรมสั่งสอนลูก ให้เงินเดือนพื้นฐาน ยังไม่ให้เราไปทำงานเพราะลูกยังเล็ก
เราทำงานกับต่างชาติมาตลอดเงินเดือนไม่ต่ำกว่า 2-3หมื่น อัพ ตอนลูกเพิ่งคลอดบอสก้อตามมาขอให้กลับไปทำงานรอบนี้ให้ 4หมื่น แฟนบอกว่าบริษัทบอสเปิดใหม่ช่วงโควิด ถ้าไม่มีผลกำไร สุดท้ายเขาก็จ้างเราไม่ไหว ตอนนี้ควรเลี้ยงลูกก่อน เด็กต้องใกล้ชิดแม่อย่างน้อย 6ปี
แฟนเราวางรากฐานทุกอย่างใหม่หมด ให้เราเริ่มต้นให้เงินเดือนเราจากหลักพัน แล้วขยับๆ เหมือนผ่านโปร5555 เพราะลูกโตค่าใช้จ่ายเยอะขึ้น เริ่มให้จาก 6พัน ปัจจุบันเป็น 18,000 แต่เราต้องจ่ายทุกอย่างบริหารเอาเอง
เราก็รู้สึกว่าไม่ค่อยพอใช้ตั้งแต่ตอน 6พันแล้วเลยพยายามหารายได้เสริม ตอนนั้นที่นึกขึ้นได้คืองานไลฟ์สดแอปดังๆ ต่างๆ ที่เขาพอจ้างการันตีเดือนหลักพัน เพราะต้องเลี้ยงลูก 1ขวบด้วย เลยหาทำออนไลน์ไปก่อน มันก็พอชุบชีวิตได้บ้างให้พอกินพอใช้ขึ้นมาหน่อย เราก้อพยายามเก็บตังเริ่มจากเดือนละพันสองพัน ผ่านไป ปีนึงเราก้อเริ่มทำแอปไลฟ์สดเยอะขึ้น มีรายได้มากขึ้น พอได้กินใช้คล่อง มีเงินส่งให้แม่มากขึ้น สักพักก็เป็นช่วงพีค งานเข้ามาหลายแอป จนเราทำแทบไม่ทัน ทำงานหนักมาก แต่ก็ได้เดือนนึงถึงหลักแสน เราใช้เงินแบบสบายเลยช่วงนั้น ทั้งได้เก็บเต็มที่ ได้กินใช้เต็มที่ ให้แม่เต็มที่เลย เดือนละหมื่นห้า แม่ชอบบ่นว่าเงินไม่พอดีนัก ให้กินแบบเหลือๆ เลย ส่วนเราก้อรับผิดชอบลูก 2คน และแบ่งเก็บเป็นค่าเทอมลูก
แต่ช่วงพีคคนเรามันจะได้สักเท่าไหร่ งานก็ไม่ใช่งานมั่นคง ก็มีขาขึ้นขาลง เราก้อเริ่มยอดน้อยลง แอปเปลี่ยนนโยบาย ทำให้งานน้อยลง แต่ก้อยังพอมีรายได้พออยู่ได้นะเดือนนึงหลักหมื่น
และแล้วเราก็ท้องอีกรอบ🥹 กับแฟนปัจจุบัน
เริ่มวิกฤตเรื่องรายได้ละเพราะงานลดด้วย เราแพ้ท้องด้วย ทำงานเต็มที่ไม่ได้ ต้องลดค่าใช้จ่ายก่อนเลย จากให้แม่อาทิตละ 3พัน ก็บอกให้เข้าใจว่าจะเป็นอาทิตย์ละพันแล้วนะช่วงนี้ลูกไม่ไหว ค่าน้ำไฟเนตก้อจ่ายให้เหมือนเดิม แม่ก้อเริ่มโวยละ เครียดใส่เรา แล้วประชดว่าไม่มีก้อจะอยู่ได้เองไม่ต้องมาบอกมาวางแผนไม่มีก็ไม่ต้องให้ ไม่ต้องมาทฤษฎี แบบไม่พอใจเราอ่ะ เราก้อเสียใจนะ ที่ให้แม่เยอะก้อพยายามบอกตลอดว่าเก็บได้เก็บบ้างนะเพราะงานไม่ได้มั่นคง งานไลฟ์เป็นงานที่แอปยกเลิกได้ตลอดเวลา แต่ช่วงที่เราทำงานได้เราก็โกยมาตลอด ทำงานไม่ค่อยได้พักผ่อนเลย
เราพยายามเตือนแม่มาเสมอ แต่เหมือนแม่ไม่เคยเข้าใจเราเลย แม่จะคิดว่าเราจะลำบากทำไม ทำงานหนักทำไม มีต่างชาติก็อ้อนผัวขอผัวสิ ผัวตังเยอะแยะ ใช่สิ พ่อแม่เราอยู่ด้วยกันพอต่างคนต่างไม่มีก็ขอกันตลอด ตอดกันไปมาจนทุกวันนี้แก่กันแล้วชีวิตก็ไม่เหลืออะไรเลย ความคิดแม่คือเป็นผัวเมียกันต้องช่วยเหลือกัน ลำบากมาด้วยกัน
แต่ทางเราคือแฟนเป็นนักธุรกิจ เงินส่วนใหญ่เขาเอาไปลงทุนกับธุรกิจ ทำบริษัท จ่ายค่าเช่าออฟฟิศ เดินทาง พาลูกค้าไปปิดดีล ความคิดคือทุกอย่างต้องเป็นระบบ ได้เงินมาก็จะจัดสรรค่าใช้จ่ายเป็นรายปีไป อย่างเงินที่ให้เราก็ต้องบริหารให้ได้ ถ้าต้องการมากกว่านี้เราต้องตั้งใจทำงานกับเขาช่วยกันทำบริษัท ปิดดีลกันให้ได้ แบบนี้มันก้อดูชัดเจนดี ดูมีอนาคตกว่า
เราอดทนกับแฟนมาขนาดนี้แล้ว ธุรกิจเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ถึงเราจะยังใหม่ไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก้อยังพยายามเรียนรู้ เราเข้าใจที่เขาให้ประหยัดเพราะเรายังไม่มีรายได้แบบ passive income ต้องอดทนสร้างระบบตรงนี้ให้ได้ก่อน เราก็พยายามเรียนรู้ ถึงจะดูลำบากแต่ก้อไม่ได้อดอยาก แต่พ่อแม่เราไม่เข้าใจ เขาคิดว่าเราทำอะไรเสียเวลา เรียนจบตั้งปริญญาตรีมาทำไม มาเลี้ยงลูกอยู่บ้าน พูดจาประชดส่อเสียดเราตลอด
พอเราให้เงินน้อยหรือให้ช้าก้อจะเครียดทำประชด เหมือนคิดว่าเราต้องมีเงินพร้อมให้เขาขอตลอดเวลา เราเหนื่อยมาก พยายามอธิบายให้เข้าใจ ว่าเราอยู่ในสถานะที่ต้องประหยัด ใช้เงินเท่าที่จำเป็น ตอนนี้มีเท่านี้ เขาก็ไม่พอใจ เวลาเราโอนเงินให้แม่เราจะดีใจมากใช้จ่ายไม่คิด แล้วเงินจะหมดเร็วมาก พอเงินหมดก้อจะมาเครียด แผ่รังสีอำมหิตใส่เรา ไม่ทำกับข้าวบ้าง ไม่คุยด้วยบ้าง ขู่จะฆ่าลูกที่เป็นออทิสติกเราบ้าง
เราไม่รู้จะทำยังไงให้แม่เข้าใจเราแล้วค่ะ ยิ่งอธิบายก้อยิ่งเหมือนผิดใจกัน สักพักจะบอกให้เราไม่ต้องเครียด จะคลอดอยู่แล้วอีกไม่กี่วัน ทำงานไปทำไมเยอะแยะพักบ้าง ขอผัวให้ใช้ให้พอบ้าง มากดดันตัวเองทำไม สุดท้ายแม่เราก็คิดอะไรไม่ได้อยู่ดี เขาจะคิดแต่ว่าเรามีเงินสำรองอยู่จะเครียดทำไม มีเงินไม่เอาออกมาใช้ พอถึงเวลาฉุกเฉินรถพังเราต้องจ่ายหนักก็รู้สึกสะใจมาก เหมือนเราได้เอาตังออกมาใช้สักที
เราก็คิดนะถ้าใช้ชีวิตแบบพ่อแม่ป่านนี้รถเสียคงต้องโทรกายืมเงินคนอื่นมั่วไปหมด พ่อแม่เราไม่เข้าใจคำว่าเก็บเงิน พ่อเราเคยบ่นผ่านคนอื่นว่าเราจะเก็บเงินไปทำไมเยอะแยะ แทนที่จะซื้อรถยนต์ ซื้อบ้านเป็นหลังดีๆ แบบคนอื่น
เราไม่อยากไปติดกับดักเป็นหนี้แบบพ่อ ถึงเวลาไม่มีผ่อนเขาแล้ววิ่งหายืมทุกงวด ทำงานมาก้อโปะแต่รถกับไฟแนนซ์ จนต้องชิ่งไม่ให้เงินแม่เลย ไม่ดูแลใครทั้งนั้นนอกจากจ่ายหนี้
เราไม่รีบ เราทนได้ ขี่มอไซค์ เพราะพอเราพร้อมเราก็จะซื้อรถได้อยู่ดีแบบไม่เป็นภาระแบบนี้ ตอนนี้ต้องการมีเงินเก็บพอค่ากินลูกไม่ขาดเหลือ มีเงินฉุกเฉิน และค่าเทอมล่วงหน้าให้ลูกพอเพราะไม่รู้อนาคตจะมีรายได้เข้าอีกเมื่อไหร่
เรื่องบ้านเรื่องรถแฟนเราจัดการเอง แค่ขอให้ทุกอย่างเข้าร่องเข้ารอย เราก็ควรรอ ดีกว่าไปลำบากตัวเอง
เราไม่รู้จะทำยังไงกับแม่แล้วค่ะ เพราะเราต้องรับผิดชอบชีวิตแม่ไปตลอดแต่แม่ไม่เข้าใจระบบเราเลย แม่คิดแต่ว่าฉันขอแกต้องมีให้นะ ฉันรู้ว่าแกมีเงิน ทำไมชอบให้รอๆ เงินออก มีเงินก้อขุดๆ มาใช้ มีผัวก็ไปอ้อนๆ ขอ
แต่คือไม่อยากชีวิตพังแบบพ่อแม่อ่ะ พ่อแม่เราทำงานยุคก่อนโควิดได้เงินเยอะกว่าเรา แต่ด้วยความไม่เก็บออมนี่แหละ ถือคติว่ามีเงินต้องรีบใช้ เดี๋ยวไม่มีจะไม่ได้ใช้ เราว่าถึงเขาทำงานหรือไม่ได้ทำงานมันก้อค่าเท่ากันเพราะสุดท้ายต้องมาขอเราอยู่ดี เฮ้อ อีก 5วันหมอจะนัดเราคลอดแล้วเราพยายามทำงานจนวันสุดท้าย ให้เงินพอค่ากับข้าวของเดือนนี้ ท้องแก่แล้วยังต้องแบก จะปล่อยวางก้อต้องมาคอยหนักใจกับรังสีความเครียดตอนแม่เงินหมดอีก เราควรทำยังไง ต้องให้เงินรายวันแม่เหมือนเด็กประถมมั้ยถึงดูเหมือนได้เงินใช้ทุกวัน เหนื่อยมากนะถ้าทุกอย่างไม่เข้าระบบ เราต้องทำบัญชีลายทาง ทั่งของตัวเอง ทั้งของบริษัทอีก ทำไมต้องมารับผิดชอบยิบย่อยแบบนี้
เราเข็ดหลาบจนคิดว่าแก่มาจะไม่ให้ลูกเลี้ยงแล้วค่ะ สงสารลูก เราต้องรีบวางแผนเกษียณตัวเองให้เร็วและพอ เพื่อลูกจะได้ไปมีชีวิตดีๆ เป็นของตัวเอง