หรืออาม่ากับย่าจะมาช่วยดูความเรียบร้อยของงานบุญกันนะ....

สวัสดีค่ะชาวพันทิพย์ทุกท่าน ปกติดิฉันจะไม่ได้ตั้งกระทู้ในเรื่องเล่าที่น่าขนลุกเลยค่ะ แต่ชอบอ่านมากๆ จนไปเจอเรื่องเล่าสั้นๆเรื่องนึงที่คล้ายกับที่เราเจอ เลยอยากมาเล่าให้ทุกท่านฟังค่ะ

เรื่องนี้น่าจะย้อนไปสักประมาณ 4-5 ปีก่อนจะมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ปกติบ้านดิฉันจะมีประเพณีจัดงานทำบุญเลี้ยงข้าวแช่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกๆปีค่ะ ตั้งแต่เกิดและจำความได้คือคนที่เป็นแม่งานจะเป็นย่าค่ะ เพราะทางฝั่งย่าเป็นชาวมอญ ก็เลยทำข้าวแช่ในทุกๆช่วงสงกรานต์ของทุกปี เลี้ยงพระด้วย เลี้ยงญาติพี่น้อง เพื่อนๆ คนสนิท หรือแม้แต่คนที่อยู่ในซอยบ้านเดียวกันค่ะ ให้ทุกคนทานฟรี หอบหิ้วมาก็แต่ท้องก็พอค่ะ ย่าชอบทำบุญกับทำทาน แต่จะชอบทำทานมากหน่อย เพราะย่าเคยบอกว่า ถ้าเราให้ทานคน เราก็จะไม่อดไม่อยากนะ อะไรที่ไม่เหนือเกินกำลังที่เรามี เราทำได้ก็ทำ
ปกติแล้วที่บ้านก็จะเชิญชวนคนมาทานที่บ้านค่ะ แต่ก็จะมีบางบ้านที่เราหิ้วไปส่ง หรือขับรถไปส่ง เช่นบ้านคุณลุงที่พ่อดิฉันนับถือ บ้านอาม่า บ้านย่าๆยายๆที่อยู่แถวบ้านค่ะ

พอย่าเสียไปช่วงประมาณปี 2551 แม่ พ่อ อาและอาสะใภ้ก็ตกลงกันว่าเราจะรับช่วงต่อ ซึ่งก็ทำเหมือนเดิมทุกปีค่ะ ทำบุญเลี้ยงพระด้วย ทำทานเลี้ยงคนด้วย
บ้านเรามีลูกพี่ลูกน้องทั้งหมด 5 คน ก็จะชินกับการช่วยงาน เตรียมของ เสิร์ฟอาหาร ทำความสะอาดทุกๆอย่างค่ะ แต่ละปีก็จะค่อยๆลดจำนวนอาหารลงค่ะ เพราะเริ่มจะทำกันไม่ไหว และคนที่เคยมา บางคนก็คงตีตั๋วตามคุณย่าไปทานฝีมือคุณย่าค่ะ จำนวนก็จะลดลงในแต่ละปี

ซึ่งในปีที่เกิดเรื่องนี้ เป็นช่วงที่พระกลับไปแล้ว เหลือแต่พี่ๆญาติๆคนรู้จักนั่งทานข้าวแช่กันและคุยกันค่ะ มีครอบครัวนึงมีกัน 4 คน พ่อ แม่และลูกชาย 2 คน กำลังรับประทานกันอย่างอร่อยเลยค่ะ สักพัก คุณอาผู้หญิงก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำแล้วก็กลับมาที่วงกินข้าว ดิฉันสังเกตเห็นคุณอาผู้หญิงพยายามมองหาอะไรสักอย่าง ซึ่งน่าจะเป็นรูปที่บ้านเราจะติดๆไว้ตามฝาผนังบ้านค่ะ ดิฉันเลยสอบถามคุณอาว่า คุณอากำลังมองหาอยู่อะไรรึเปล่าคะ

คุณอา: เมื่อกี้อาไปเข้าห้องน้ำออกมา มองไปทางบ้านคุณย่า เห็นมีคนจีนอายุมากๆยืนอยู่ อาเลยถามว่าคุณยายทานข้าวรึยังคะ แล้วท่านก็ทำมือแบบกวักๆกึ่งไล่แล้วยิ้ม (คุณอาบอกประมาณว่าท่านทำท่าทางเหมือนว่าให้อาไปทานเถอะๆ)
ดิฉัน: เอ.......คนแก่หน้าจีนๆหรอคะ ใส่ชุดสีอะไรคะ
คุณอา: พลางกวาดตาไปตามรูปแล้วหยุดที่รูปๆหนึ่ง "คนนี่เลยค่ะ ที่อาเจอ เป็นญาติทางไหนรึเปล่าคะ"
ดิฉัน: นี่รูปอาม่าค่ะ แม่ของแม่หนู แต่อาม่าเสียไปนานแล้วนะคะ
คุณอา: ทำหน้าตกใจ แถมขนลุกไปทั้งตัว "อาเห็นจริงๆนะคะ ชัดเจนเลย แต่ท่านยืนยิ้มอยู่"
พ่อดิฉันเข้ามาพอดีในจังหวะนั้น ดิฉันและคุณอาเลยเล่าให้ฟัง (ปกติพ่อดิฉันเป็นคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องอะไรพวกนี้ค่ะ)
ดิฉัน: พ่อ หรือว่าอาม่าจะแวะมาดูน่ะ อาม่าอาจจะคิดถึงบรรยากาศบ้านเราตอนมีงานบุญก็ได้นะ
พ่อ: ไม่พูดอะไรค่ะ ขนลุกอย่างเดียว แล้วถามย้ำกับคุณอาผู้หญิงว่า คนในรูปเลยใช่ไหม
คุณอา: ใช่ค่ะ ท่านนี้เลย นี่ยังขนลุกอยู่เลย

ตอนนั้นเราทุกคนก็คิดและคุยกันแค่ว่า อย่างน้อยอาม่าก็นั่งรถไฟสายสวรรค์มาลงที่บ้านเราถูกนะ แล้วก็ยิ้มกันอย่างมีความสุขค่ะ

พอทุกคนกลับไปหมด ถึงเวลาที่ดิฉันและพี่ๆน้องๆช่วยกันเก็บกวาด ล้างจาน ทำความสะอาดบ้านอยู่นั้น ดิฉันก็เลยพูดขึ้นมาว่า จริงๆเมื่อเช้ามืดก่อนจะตื่น ดิฉันก็ฝันเห็นย่ากับอาม่ามานั่งที่โต๊ะม้าหินสีขาว คุยและหัวเราะกันสนุกสนานเลยค่ะ (อาม่ากับย่ารักกันมากค่ะ ทั้งๆที่ท่านทั้งสองคนพูดกันคนละภาษานะคะ อาม่าพูดไทยไม่ได้เลย พูดได้แต่จีน ส่วนย่าพูดได้แต่ไทยกับมอญ แต่ทุกๆครั้งตอนที่มีชีวิตอยู่ เวลาท่านสองคนมาเจอกันก็จะชอบจูงมือไปนั่งคุยกันสองคนค่ะ) มาต่อในฝันของเรานะคะ ก่อนเราจะตื่น ความรู้สึกเหมือนเดินเข้าไปหาย่ากับอาม่าที่โต๊ะม้าหิน แต่ย่าหันหลับมายิ้มให้แล้วบอกว่า ไปเตรียมของได้แล้ว เดี๋ยวไม่ทันพระมาพอดี แล้วเราก็ตื่นเลยค่ะ

ตอนนั้นทุกคนในบ้านก็เลยลงความเห็นกันว่า สงสัยย่ากับอาม่าจะมาตรวจความเรียบร้อยของงาน ว่าเป็นไปด้วยดีไหม แถมยังช่วยรับแขกอีกด้วย

เราเลยเชื่อว่าสายใยสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวก็จะเชื่อมถึงกันเสมอค่ะ

เล่างงๆวนๆยังไง ขออภัยด้วยนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่