เคยอ่านพบในหนังสือบางเล่ม อ้างว่า ในพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าเคยตรัสสอนว่า หากบุคคลละกิเลส คือ ความโลภ ความโกรธ หรือ ความหลง ได้เด็ดขาด 1 ครั้ง จะมีอานิสงค์ ผลบุญมากกว่าการทำบุญเลี้ยงพระสงฆ์ทั่วทั้งโลก พร้อมกัน โดยมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน ลักษณะนี้เป็นการเน้นย้ำถึงอานิสงค์แห่งการตัดกิเลส ละกิเลส ว่ามีอานิสงส์สูงมาก
จึงสงสัยว่า ฆราวาสที่บรรลุธรรมขั้นโสดาบัน ละสังโยชน์ 3 แล้ว แต่ตลอดชีวิตมีเงินไม่มาก จึงไม่ค่อยได้มีโอกาสทำบุญใส่บาตรเลี้ยงพระ ทำบุญ ทำทาน หรือบริจาคสงเคาะห์เลี้ยงคนยากคนจน หรือสัตว์ต่าง ๆ
เมื่อฆราวาสท่านนั้นเสียชีวิต อาจไปเกิดบนสวรรค์ในดินแดนที่ตั้งใจจะไปปฏิบัติธรรมเพื่อมุ่งสู่นิพพาน
หรืออาจเกิดมาเป็นมนุษย์อีก เพื่อปฏิบัติธรรมจนละสังโยชน์ 10 ละกิเลสได้หมดสิ้น
ในพบชาติใหม่ที่เกิดนั้น ไม่ว่าบนสวรรค์หรือในโลกมนุษย์ จะมีอาหาร รับประทานยังชีพเพียงพอหรือไม่ ในเมื่ออดีตชาติไม่ค่อยได้ทำบุญทำทานใส่บาตร ลำพังแต่การละกิเลส ความโลภ โกรธ หลง จะช่วยให้ท่านมีอาหาร ปัจจัยเลี้ยงชีพได้เพียงพอหรือไม่
ขอ ขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับทุก ๆ คำตอบ ครับ
พระโสดาบัน การทำบุญใส่บาตร การให้ทานผู้ยากไร้ การบริจาครัพย์
จึงสงสัยว่า ฆราวาสที่บรรลุธรรมขั้นโสดาบัน ละสังโยชน์ 3 แล้ว แต่ตลอดชีวิตมีเงินไม่มาก จึงไม่ค่อยได้มีโอกาสทำบุญใส่บาตรเลี้ยงพระ ทำบุญ ทำทาน หรือบริจาคสงเคาะห์เลี้ยงคนยากคนจน หรือสัตว์ต่าง ๆ
เมื่อฆราวาสท่านนั้นเสียชีวิต อาจไปเกิดบนสวรรค์ในดินแดนที่ตั้งใจจะไปปฏิบัติธรรมเพื่อมุ่งสู่นิพพาน
หรืออาจเกิดมาเป็นมนุษย์อีก เพื่อปฏิบัติธรรมจนละสังโยชน์ 10 ละกิเลสได้หมดสิ้น
ในพบชาติใหม่ที่เกิดนั้น ไม่ว่าบนสวรรค์หรือในโลกมนุษย์ จะมีอาหาร รับประทานยังชีพเพียงพอหรือไม่ ในเมื่ออดีตชาติไม่ค่อยได้ทำบุญทำทานใส่บาตร ลำพังแต่การละกิเลส ความโลภ โกรธ หลง จะช่วยให้ท่านมีอาหาร ปัจจัยเลี้ยงชีพได้เพียงพอหรือไม่
ขอ ขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับทุก ๆ คำตอบ ครับ