ช่วยแนะนำเราหน่อยค่ะ เรารู้สึกแย่ ระแวง และสับสนไปหมดเลยค่ะ *ยาวหน่อยนะคะ
*
* ตอนนี้เราอายุ 18 เรียนอยู่ ม.6 กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย เรามีพี่ชาย 1 คน แต่เขาทนกฎในบ้านไม่ไหวเลยออกไปอยู่หอค่ะ(ปัจจุบันอยู่กับแฟน) เราอยู่กับพ่อและแม่เลี้ยง ตามกฎหมายแล้วเราได้อยู่กับพ่อค่ะ แต่พ่อใจดีให้เราอยู่กับทางฝั่งแม่ก่อน พอตอนเราจบป.4 ก็ได้ย้ายมาอยู่กับพ่อตอนป.5 จนถึงปัจจุบัน(ในบ้านจะมีห้องนอนอยู่ 2 ห้อง ห้องพ่อแม่1 ลูกๆอยู่ด้วยกัน1) ซึ่งระหว่างนั้นก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับเราเยอะมากค่ะแล้วเราก็จะมาเล่าว่าสิ่งที่เราเจอมีอะไรบ้าง ที่ทำให้เราอยากออกจากบ้านหลังนี้ค่ะ (เขา=แม่เลี้ยง) (ไม่เรียงไทม์ไลน์)
- ตอนเด็ก เราชอบดูทีวี เวลาไม่มีใครดู เราก็จะไปเปิดดูเอง พอเขากลับจากทำงานแล้วเขาอยากดูช่องอะไรก็จะเปลี่ยนช่องไปดื้อๆเลยค่ะ ไม่สนใจเราที่กำลังนั่งดูอยู่ / ตอนเขาเปิดทีวีค้างไว้แล้วมัวไปทำกับข้าว(ตาไม่ได้มองทีวี) เราก็จะเปลี่ยนช่องดูเองค่ะ(เราไม่ได้ถามเพราะคิดว่าเขาไม่ได้ดู) เขาก็จะดุเราเรื่องที่ไปเปลี่ยนช่องทีวีของเขา ตั้งแต่นั้นมาจนปัจจุบัน เราก็ไม่ดูทีวีอีกเลยทำให้เปิดทีวีไม่เป็นด้วยค่ะ
- วันหยุด เรากินข้าวคนเดียวไม่ได้เปิดทีวี เราก็จะเปิดยูทูปดูค่ะ เขาก็จะดุเราว่า ตอนกินข้าวไม่ควรเล่นโทรศัพท์ แต่เวลานั่งกินด้วยกันทั้งครอบครัวจะมีการเปิดทีวีดูกันนะคะ แล้วหลายครั้งเขาเองก็จะเล่นโทรศัพท์เพราะมัวดูไลฟ์สดขายของค่ะ
- ตอนเย็นต้องกินข้าวพร้อมกันทั้งบ้าน เรากินก่อนไม่ได้ต้องรอคนมานั่งครบแล้วถึงจะได้กิน เราเคยหิวมากๆแล้วกินก่อนก็โดนพ่อดุเลยค่ะว่าควรรอคนอื่นด้วย ส่วนเขาไม่เคยรอใครเลยค่ะ หิวเมื่อไหร่ก็กินเมื่อนั้น พ่อไม่เคยว่าอะไรเลย
- ครอบครัวเราจะไหว้สวัสดีกันตลอด แต่ครอบครัวฝั่งเขาไม่ได้ไหว้กันภายในครอบครัว แต่เราก็ไม่ได้ติดปัญหานะคะ เราไหว้สวัสดีเขาตลอด นานๆทีเขาจะพยักหน้า แต่ส่วนมากก็เมินค่ะ มีครั้งหนึ่งเขากลับบ้านมา แล้วเรากับพี่ชายเราก็ไหว้ปกติ แต่เขาคิดว่าพี่ชายเราไม่ได้ไหว้ เลยโทรไปฟ้องพ่อ สรุปโดนดุค่ะ
- เวลานอนห้ามเกิน 4 ทุ่ม(22.00น.) ตอนนั้นเรางานเยอะค่ะ อยากปั่นให้มันเสร็จๆ เลยขอเลทเวลา ที่บ้านก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ แต่เขาจะมายืนคุมเลย ฟิลเหมือนกดดันให้รีบทำให้เสร็จ
- ตอนเด็กเราเป็นคนพูดเก่งมาก แต่เราโดยเขาดุบ่อย(ว่าเราพูดมาก)ทำให้เราไม่พูดเลยค่ะ ถ้าไม่ถาม เราก็ไม่พูดอะไร
- คนในบ้าน(ทั้งพ่อทั้งเขา)จะชอบมีปัญหากับการที่เราทำหน้านิ่ง เขาเลยมักจะดุว่าอย่าทำหน้าบึ้ง แต่เราก็มองว่ามันก็หน้าปกติอะ จะให้ยิ้มแย้มแจ่มใสยังไงในเมื่อมันไม่มีความสุข
- ตอนเราอยู่กับครอบครัวฝั่งแม่ เราได้ไปวัดบ่อยมากซึ่งเราชอบค่ะ(ไม่ได้ชอบทำบุญหรือสวดมนต์ แต่ชอบบรรยากาศกับประติมากรรมมากกว่า) แต่มาอยู่กับฝั่งพ่อ คือไม่ได้ไปเลยค่ะ / อยู่ฝั่งแม่ เราได้ไปงานทุกเทศกาล แต่อยู่กับฝั่งพ่อ ไม่เคยออกบ้านซักเทศกาล พี่เราเคยขอพาเราไปลอยกระทงค่ะ พี่มาขอพาเราไปทุกปีเพราะเราอยากไป แต่ก็ทะเลาะกับที่บ้านทุกครั้งเพราะเขาไม่ให้ไป เขาบอกว่าเป็นห่วงค่ะ (ทั้งที่เป็นพี่แท้ๆนะคะ พ่อแม่เดียวกัน)
- ตะกร้าผ้าเราจะอยู่ใกล้ๆใต้อ่างล้างจาน ซึ่งจะมีน้ำพริก น้ำนู่นน้ำนี่หกใส่เสื้อผ้าเราบ่อยมาก ทำให้เราไม่มีชุดดีๆใส่สักชุดเลยค่ะ(ประกอบกับเขาไม่ให้ออกบ้านไปไหนอยู่แล้ว) เราล้างจานให้ที่บ้านทุกวันแต่ทุกครั้งที่เราล้าง มันก็ไม่มีอะไรหกใส่นะคะ เราบอกพ่อ แต่พ่อก็บอกว่ามันไม่มีที่ไว้ที่อื่น / กระโปรงนร.เราก็โดนค่ะ จริงๆมี 3 ตัว 1โดนข้างนอกเต็มๆ 2โดนข้างในได้ใส่แล้วไม่เห็น 3รอด ตัวแรกเราไม่ได้ใส่อีกเลยค่ะ
- เราว่างซักผ้าแค่เสาร์-อาทิตย์(ซักในที่นี่คือใช้เครื่องนะคะ) ซึ่งปกติเขาจะให้เราซักวันเสาร์ แต่ช่วงหลังๆเริ่มหนักขึ้นคือเขายึดวันนั้นไปเลย วันเสาร์เขาจะซักผ้า แม้ว่าเขาจะซักเสร็จแล้วผ้าตากแล้ว เขาจะไม่ให้ซัก ถึงซักเสร็จแล้วผ้าเขาอยู่ในเครื่อง เขาก็ไม่ให้เอาออก แล้ววันนั้นก็ห้ามซัก เลยต้องเลื่อนเป็นวันอาทิตย์ ฤดูฝนก็หนักเลยค่ะ เพราะเสี่ยงที่ผ้าจะไม่แห้งพอให้เราใส่ไปวันจันทร์ ช่วงหลังมานี่หนักสุดหลังจากโควิดซา เขาไปทำงาน 1 วันต่ออาทิตย์(บ้านเราไกลจากที่ทำงานเขามาก) เขาซักผ้าทุกวัน ไม่เว้นให้เราซักเลย(ต้องซักมือเอา) แล้วเราก็ห้ามซักแล้วตากตอนกลางคืนเพราะเขาเหม็น(แต่ลูกเขาซักได้)
- โฟมล้างหน้าเรามักจะมีผงๆสีขาวๆอยู่รอบๆปากขวด ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ไปๆมาๆมันก็เหมือนผงซักฟอกที่บ้านขึ้นทุกวัน เราขอพ่อซื้อใหม่แล้วไม่เอาไปไว้ในห้องน้ำเลยค่ะ(กว่าจะซื้อใหม่ให้นี่รอเป็นอาทิตย์ แต่เขาสั่งของมาที่บ้านเกือบทุกวัน หลังๆอาทิตย์ละครั้ง) / แชมพูเราก็เป็นค่ะ แชมพูอันที่แล้วคือมีผงซักฟอกเป็นก้อนเลยค่ะ
- พอเอาไว้ในห้องแบบวางโต้งๆ แรกๆไม่เป็นไร พอนานไปก็กลับมาเป็นอีก เราสังเกตเห็นว่ามันขยับจากที่เดิม เลยเขียนป้ายติดไว้ที่โฟมประมาณว่า "อย่าแตะอันนี้" หลังจากนั้นทะเลาะกันหนักเลยค่ะ เราก็อธิบายว่าทำไมถึงเขียน เขาก็มองว่าเราไปกล่าวหาเขาว่าเขาเป็นคนทำซึ่งเขาไม่โอเค แต่เราก็งงว่าเราไม่ได้เขียนชื่อติดไว้ อีกอย่าง ถ้าไม่ได้ทำก็ไม่ต้องอะไรสิ เพราะเราเองก็ไม่เคยไปว่าอะไรเขาเลยสักครั้ง
- มีครั้งนึงโฟมล้างหน้าเราหมด เราเลยขอให้ซื้อใหม่ให้ พ่อก็บอกว่าอยากได้โฟมอันไหนก็ส่งให้พ่อดูทางไลน์ เราก็ส่งไปสรุปซื้ออันเดิมกลับมาแล้วบอกว่าอันนี้เหมาะกับเด็กอย่างเรามากกว่า(แต่เราก็มองว่าเราไม่เหมาะกับอันนี้)
- มีครั้งนึงเรารู้สึกว่าน้ำเข้าไปในโฟมล้างหน้าเราเยอะแปลกๆเลยส่องดู สรุปมีขนอยู่ข้างในนั้น เรางงมาก มันเป็นขนหยิกฟิลเหมือนขนตรงนั้นไม่ก็ขนขาแข็งๆเลยค่ะ เรามั่นใจว่าไม่ใช่ของเราแน่นอน เพราะเราจะสระผมก่อนอาบทุกครั้ง สระเสร็จก็จะล้างหน้าแปรงฟัน ก่อนที่จะอาบตัว เราจะไม่ไปแตะที่อื่นก่อนเลย
- ห้องเรารก เขาเลยชอบพูดว่าห้องเราสกปรก ห้องเราเหม็น แต่ถึงแบบนั้น เขาก็ชอบมาค้นของในห้องเราประจำ ซึ่งเราไม่โอเคและไม่เข้าใจว่าทำไม เราเคยบอกพ่อว่าไม่โอเคนะ พ่อก็บอกว่าเขาแค่จะเช็ค เขาไม่อยากให้เรามีความลับ ซึ่งเรามองว่ามันไม่ใช่ ตายายหรือแม่แท้ๆของเรายังไม่ค้นขนาดนี้ แล้วเขาเป็นใคร ทำไมถึงได้มาค้นของๆเรา จากนั้นเขาเลิกค้นห้องเราไปอาทิตย์กว่า หลังจากนั้นก็มีมาค้นเรื่อยๆ เช่น อาทิตย์ละครั้ง มันไม่มีอะไรหาย แต่เขามาเปิดของมารื้อนู่นนี่
- หลังๆมานี้ เขาเริ่มรู้จักกับยาฆ่าเชื้อ เขาเป็นภูมิแพ้ ทำให้เขาฉีดบ่อย แล้วเขาก็มาฉีดในห้องเราซึ่งมันเหม็นมาก เราไม่โอเคเพราะเราอยู่ในห้องนี้ เขาไม่ได้อยู่ห้องนี้ แล้วมาฉีดใส่ที่เราทำไม คืออ?
- ล่าสุดเมื่อวันก่อนจะลงกระทู้เขาน่าจะเปลี่ยนกลิ่น(ไม่รู้น้ำยาฆ่าเชื้อเหมือนเดิมรึป่าว) แต่ฉีดเหมือนเดิม กลิ่นนี้หอมขึ้นแต่ดมไปเรื่อยๆนิดๆคือฉุนมากก แล้วมาฉีดลงพื้นคือพื้นเหนียวเลย บางครั้งเราปิดประตูห้อง เขาก็เปิดเข้ามาฉีด ละก็ปิด ปล่อยไปเราทรมาณกับกลิ่นฉุนๆที่เขาทำ ที่เราไม่โอเคเรื่องฉีดนี้สุดๆคือเขาเอาที่ฉีดนั้นมาฉีดที่ทิชชู่เรา ซึ่งเราเอาไว้เช็ดหน้า เราสังเกตเห็นว่าเขามาค้นห้องอีก แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ ตอนแรกเรานึกว่าเขาฉีดรอบๆซองทิชชู่ สรุปฉีดลงตรงกลางทิชชู่เลย ดึงกี่แผ่นๆก็คือจะมีกลิ่นที่เขาฉีดติด คือเราเอาไว้เช็ดหน้า แล้วน้ำยาที่เขามาฉีดคืออยู่ในทิชชู่ทุกแผ่น ตอนนั้นเรารู้สึกแย่มากค่ะ
- บางครั้งแปรงฟันเราก็จะมีสีดำๆติด เหมือนเอาไปถูอะไรมา อันนี้เราก็เคยบอกพ่อนะคะ พ่อก็บอกแค่ว่าให้ล้างออก
- แชมพูอันปัจจุบันของเรา เราเริ่มรู้สึกว่ากลิ่นมันไม่เหมือนเดิม กลิ่นเหมือนใส่น้ำยาอะไรไม่รู้เขาไปซึ่งมันกลิ่นฟิลสารเคมีเลย แล้วมันก็เหลวขึ้น เราเลยเริ่มสังเกตตำแหน่งแชมพูของเรา สรุปมีวันนึงมันขยับ แล้วก็มีน้ำอะไรไม่รู้ใสๆอยู่รอบฝาขวด ทั้งๆที่เราไม่เคยเอาขวดไปโดนน้ำเลย เราบอกพ่อ พ่อก็บอกว่าไม่ต้องใช้ ให้เปลี่ยนไปใช้ของพ่อแทน(ที่บ้านเราแยกแชมพูกันใช้ค่ะ)
- ตอนเด็ก เราขี้เกียจซักถุงเท้า(ที่บ้านจะมีกฎคือวันไหนใส่ถุงเท้า พออาบน้ำตอนเย็นต้องเอาไปซัก) เราเลยใส่ตะกร้าไว้รอซักวันหยุด สรุปเราโดนขโมยถุงเท้าค่ะ555 พอเราไปถามที่บ้านปรากฏว่าเขาเอาไปซ่อนค่ะ55555 ฟิลเหมือนอยากดัดนิสัยมา หลังจากนั้นคือเราก็ไม่ตามเลยค่ะ อยากได้ถุงเท้าเรานักก็เอาไปเลย แต่ปัจจุบันเราก็ซักถุงเท้าทุกวันนะคะ เพราะไม่มีตังซื้อถุงเท้าแล้วเลยมีแค่สองคู่
- ต่อจากถุงเท้า มีอีกเรื่องที่คล้ายๆกันคือเสื้อนร.ค่ะ(เสื้อสีขาว) เขาจะให้ซักหลังอาบน้ำเสร็จทุกครั้ง มีวันนึงเราเหนื่อยมากเลยไม่ได้ซักเพราะจะรีบอาบรีบนอน หลังจากวันนั้นเราเห็นเสื้ออีกทีคือมีปากกามาขีด ทั้งสีดำ สีน้ำเงิน สีแดง ประมาณ 3-4 จุด แล้วเป็นการขีดย้ำๆ ปากกาน้ำเงินกับแดงซักออก แต่สีดำปากกาเมจิกซักไม่ออกจนปัจจุบัน
- เวลามีปัญหาที่บ้าน พ่อมักจะบอกให้เราปรับตัว เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่ เขาปรับยาก เราเป็นเด็ก=ปรับตัวง่าย แต่นั่นทำให้เรารู้สึกเป็นทุกข์ เพราะมันเหมือนเราเสียเปรียบ เสียสละทุกอย่าง ทั้งที่เขาเริ่มก่อนแต่ไม่ต้องมาขอโทษหรืออะไรเราเลยค่ะ
- เวลาเขาทะเลาะกับพ่อ เขามักพาลมาที่เราตลอด มีวันนึงเราไม่ได้ทำอะไรให้เลย แล้วอยู่ๆตอนตี 3 พ่อก็มาปลุกให้เราไปขอโทษเขา เราไม่รู้เรื่องก็ขอโทษไป ละคือเราเป็นคนที่ถ้าตื่นแล้วจะนอนไม่หลับอีก เราก็ยันเช้าจนไปรร.เลยค่ะ
- มีช่วงนึงที่เราอยากติวแกรมม่าที่รร.ทุกวันอังคารแล้วมันต้องกลับเย็น เราไม่อยากขึ้นรถสองแถวเพราะเราไม่รู้ว่ามันจะมาเมื่อไหร่ หรือมันจะมามั้ย เราเลยขอพ่อไปรับ สรุปเขาไม่ให้พ่อไปรับเราที่รร. เหตุเพราะกลัวพ่อเจอกับแม่เรา(แม่เราอยู่อำเภอเดียวกันแต่ไม่ได้อยู่แถวเราเลยนะคะ ไม่ใกล้เลย) ทำให้เราต้องนั่งรถสองแถวกลับค่ะ มีอยู่สองอาทิตย์ที่รถหมด ตอนนั้นโชคดีมาก คือ เจอคนใจดีไปส่ง(ตอนนั้นอยากกลับมาก พ่อไม่มารับแน่นอน เราเลยตกลงไปค่ะ ไม่สนความปลอดภัย คิดซะว่าถ้าไม่รอดก็ถือว่าได้หลุดพ้นจากบ้านนี้แล้ว) แล้วก็เจอคุณลุงรถสองแถวที่ผ่านมา ทั้งๆที่คนสายกัน แต่ลุงเขาก็ใจดีไปส่ง / มีครั้งนึงแม่เราจะมารับไปเลี้ยงข้าว สรุปเขากับพ่อรีบมารับเราเลยค่ะ แล้วก็ให้ยกเลิกกับแม่ไป
- เรื่องค้นห้อง หนักสุดคือ มีช่วงนึงเขาไม่ให้เงินเราไปรร. เราก็ไม่ได้คิดอะไร เราก็ออกเงินเองไปก่อน จนมันยาวมาเป็นอาทิตย์กว่า เงินส่วนนั้นเราเริ่มหมด เราเลยบอกไปตามตรงว่ามันจะพอ สรุปตกเย็นตอนกินข้าว เขาโยนเงินใส่โต๊ะ แล้วก็ถามเราว่าไหนบอกไม่มี คือเขาไปค้นมาค่ะ เราก็อธิบายไปว่านั่นมันเงินเก็บส่วนอนาคต แต่เขาก็ไม่ฟังเลย ทะเลาะกันหนักอยู่ค่ะ
- 1 เดือนจะมีประมาณ 2-3 ครั้งที่ฝุ่น/เศษขยะจะมาอยู่ใตู้เสื้อผ้าเรา / เขาเคยหาว่าเราเหยียบอึมาแล้วไม่เช็ด ทั้งๆที่เราไม่ได้เหยียบเพราะถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้านตลอด เขาก็พูดว่าถ้าไม่ใช่เราแล้วใคร(รอยมันอยู่หน้าที่วางรองเท้าเรา) / เราลืมล้างจาน=โดนดุ เขาไม่ล้างแล้วเราเห็นละไม่ล้าง=ไม่มีน้ำใจ / มีขนแมวอยู่ในเซรั่มเรา เราซื้อเองมันแพง อันนี้เสียใจมากค่ะ
* ประมาณนี้นะคะ ที่เราไม่ไปอยู่กับแม่เพราะเราเกรงใจพ่อเลี้ยงด้วยค่ะ เขาเป็นคนดีนะคะ แต่ที่บ้านเราคืออยากให้เราตัดกับทางแม่เลยเวลาอยู่บ้านเขา ค่อยไปเจอแม่ตอนไปบ้านยายเท่านั้น
* ไม่สู้/พูดตรงๆกับเขาบ้างหรอ? เราเคยพูดไปหมดแล้วค่ะ แต่ทั้งบ้านไม่มีใครอยู่ข้างเราเลย รวมถึงพ่อเรา มีแค่เราเองและเราก็ยังต้องพึ่งเขาอยู่เลยไม่ได้โต้ค่ะ
* เราเก็บกดรึป่าว? อันนี้เราไม่แน่ใจค่ะ อาจจะหน่อยๆ555 แต่เราไม่เคยคิดจะกรีดแขนหรืออะไรแบบนั้นเลยนะคะ
* เราไม่คิดว่าเราอยู่ขั้นซึมเศร้า เพราะเราอยู่กับเพื่อนคือสนุกมาก เฮฮาปกติ เรามีคิดฆตตบ้างแต่ไม่ใช่เพราะอยากตายนะคะ เราไม่เคยอยากตายเลย แต่อยากหลุดพ้นจากที่นี่มากกว่า
* พอเจอเรื่องบ้านนี้ ทำให้เราไม่อยากอยู่ร่วมกับใครเลยค่ะ กลัวว่าจะเป็นแบบที่นี่
* บางอย่างเราถ่ายไว้นะคะ
* ที่เล่ามามีแค่เหตุการณ์ฝั่งเรา เขาอาจจะไม่ได้ทำเสมอไป แต่เขาชอบค้นของค้นห้องเรา เราเลยโทษเขาเลยค่ะ
เราปรึกษาคนอื่นรอบตัว ก็จะพูดกันว่าให้อดทน สำหรับเรา เราทนมาตลอด และคิดว่าความอดทนมันมีจำกัด เราเหนื่อยใจกับที่นี่ พอจะมีทางออกอย่างอื่นนอกจากอดทนมั้ยคะ? หรืออยากให้เราปรับพฤติกรรมตรงไหนบอกได้นะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ทนกับเรื่องที่บ้านไม่ไหว จนอยากหนีออกไปทำยังไงดีคะ?
* ตอนนี้เราอายุ 18 เรียนอยู่ ม.6 กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย เรามีพี่ชาย 1 คน แต่เขาทนกฎในบ้านไม่ไหวเลยออกไปอยู่หอค่ะ(ปัจจุบันอยู่กับแฟน) เราอยู่กับพ่อและแม่เลี้ยง ตามกฎหมายแล้วเราได้อยู่กับพ่อค่ะ แต่พ่อใจดีให้เราอยู่กับทางฝั่งแม่ก่อน พอตอนเราจบป.4 ก็ได้ย้ายมาอยู่กับพ่อตอนป.5 จนถึงปัจจุบัน(ในบ้านจะมีห้องนอนอยู่ 2 ห้อง ห้องพ่อแม่1 ลูกๆอยู่ด้วยกัน1) ซึ่งระหว่างนั้นก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับเราเยอะมากค่ะแล้วเราก็จะมาเล่าว่าสิ่งที่เราเจอมีอะไรบ้าง ที่ทำให้เราอยากออกจากบ้านหลังนี้ค่ะ (เขา=แม่เลี้ยง) (ไม่เรียงไทม์ไลน์)
- ตอนเด็ก เราชอบดูทีวี เวลาไม่มีใครดู เราก็จะไปเปิดดูเอง พอเขากลับจากทำงานแล้วเขาอยากดูช่องอะไรก็จะเปลี่ยนช่องไปดื้อๆเลยค่ะ ไม่สนใจเราที่กำลังนั่งดูอยู่ / ตอนเขาเปิดทีวีค้างไว้แล้วมัวไปทำกับข้าว(ตาไม่ได้มองทีวี) เราก็จะเปลี่ยนช่องดูเองค่ะ(เราไม่ได้ถามเพราะคิดว่าเขาไม่ได้ดู) เขาก็จะดุเราเรื่องที่ไปเปลี่ยนช่องทีวีของเขา ตั้งแต่นั้นมาจนปัจจุบัน เราก็ไม่ดูทีวีอีกเลยทำให้เปิดทีวีไม่เป็นด้วยค่ะ
- วันหยุด เรากินข้าวคนเดียวไม่ได้เปิดทีวี เราก็จะเปิดยูทูปดูค่ะ เขาก็จะดุเราว่า ตอนกินข้าวไม่ควรเล่นโทรศัพท์ แต่เวลานั่งกินด้วยกันทั้งครอบครัวจะมีการเปิดทีวีดูกันนะคะ แล้วหลายครั้งเขาเองก็จะเล่นโทรศัพท์เพราะมัวดูไลฟ์สดขายของค่ะ
- ตอนเย็นต้องกินข้าวพร้อมกันทั้งบ้าน เรากินก่อนไม่ได้ต้องรอคนมานั่งครบแล้วถึงจะได้กิน เราเคยหิวมากๆแล้วกินก่อนก็โดนพ่อดุเลยค่ะว่าควรรอคนอื่นด้วย ส่วนเขาไม่เคยรอใครเลยค่ะ หิวเมื่อไหร่ก็กินเมื่อนั้น พ่อไม่เคยว่าอะไรเลย
- ครอบครัวเราจะไหว้สวัสดีกันตลอด แต่ครอบครัวฝั่งเขาไม่ได้ไหว้กันภายในครอบครัว แต่เราก็ไม่ได้ติดปัญหานะคะ เราไหว้สวัสดีเขาตลอด นานๆทีเขาจะพยักหน้า แต่ส่วนมากก็เมินค่ะ มีครั้งหนึ่งเขากลับบ้านมา แล้วเรากับพี่ชายเราก็ไหว้ปกติ แต่เขาคิดว่าพี่ชายเราไม่ได้ไหว้ เลยโทรไปฟ้องพ่อ สรุปโดนดุค่ะ
- เวลานอนห้ามเกิน 4 ทุ่ม(22.00น.) ตอนนั้นเรางานเยอะค่ะ อยากปั่นให้มันเสร็จๆ เลยขอเลทเวลา ที่บ้านก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ แต่เขาจะมายืนคุมเลย ฟิลเหมือนกดดันให้รีบทำให้เสร็จ
- ตอนเด็กเราเป็นคนพูดเก่งมาก แต่เราโดยเขาดุบ่อย(ว่าเราพูดมาก)ทำให้เราไม่พูดเลยค่ะ ถ้าไม่ถาม เราก็ไม่พูดอะไร
- คนในบ้าน(ทั้งพ่อทั้งเขา)จะชอบมีปัญหากับการที่เราทำหน้านิ่ง เขาเลยมักจะดุว่าอย่าทำหน้าบึ้ง แต่เราก็มองว่ามันก็หน้าปกติอะ จะให้ยิ้มแย้มแจ่มใสยังไงในเมื่อมันไม่มีความสุข
- ตอนเราอยู่กับครอบครัวฝั่งแม่ เราได้ไปวัดบ่อยมากซึ่งเราชอบค่ะ(ไม่ได้ชอบทำบุญหรือสวดมนต์ แต่ชอบบรรยากาศกับประติมากรรมมากกว่า) แต่มาอยู่กับฝั่งพ่อ คือไม่ได้ไปเลยค่ะ / อยู่ฝั่งแม่ เราได้ไปงานทุกเทศกาล แต่อยู่กับฝั่งพ่อ ไม่เคยออกบ้านซักเทศกาล พี่เราเคยขอพาเราไปลอยกระทงค่ะ พี่มาขอพาเราไปทุกปีเพราะเราอยากไป แต่ก็ทะเลาะกับที่บ้านทุกครั้งเพราะเขาไม่ให้ไป เขาบอกว่าเป็นห่วงค่ะ (ทั้งที่เป็นพี่แท้ๆนะคะ พ่อแม่เดียวกัน)
- ตะกร้าผ้าเราจะอยู่ใกล้ๆใต้อ่างล้างจาน ซึ่งจะมีน้ำพริก น้ำนู่นน้ำนี่หกใส่เสื้อผ้าเราบ่อยมาก ทำให้เราไม่มีชุดดีๆใส่สักชุดเลยค่ะ(ประกอบกับเขาไม่ให้ออกบ้านไปไหนอยู่แล้ว) เราล้างจานให้ที่บ้านทุกวันแต่ทุกครั้งที่เราล้าง มันก็ไม่มีอะไรหกใส่นะคะ เราบอกพ่อ แต่พ่อก็บอกว่ามันไม่มีที่ไว้ที่อื่น / กระโปรงนร.เราก็โดนค่ะ จริงๆมี 3 ตัว 1โดนข้างนอกเต็มๆ 2โดนข้างในได้ใส่แล้วไม่เห็น 3รอด ตัวแรกเราไม่ได้ใส่อีกเลยค่ะ
- เราว่างซักผ้าแค่เสาร์-อาทิตย์(ซักในที่นี่คือใช้เครื่องนะคะ) ซึ่งปกติเขาจะให้เราซักวันเสาร์ แต่ช่วงหลังๆเริ่มหนักขึ้นคือเขายึดวันนั้นไปเลย วันเสาร์เขาจะซักผ้า แม้ว่าเขาจะซักเสร็จแล้วผ้าตากแล้ว เขาจะไม่ให้ซัก ถึงซักเสร็จแล้วผ้าเขาอยู่ในเครื่อง เขาก็ไม่ให้เอาออก แล้ววันนั้นก็ห้ามซัก เลยต้องเลื่อนเป็นวันอาทิตย์ ฤดูฝนก็หนักเลยค่ะ เพราะเสี่ยงที่ผ้าจะไม่แห้งพอให้เราใส่ไปวันจันทร์ ช่วงหลังมานี่หนักสุดหลังจากโควิดซา เขาไปทำงาน 1 วันต่ออาทิตย์(บ้านเราไกลจากที่ทำงานเขามาก) เขาซักผ้าทุกวัน ไม่เว้นให้เราซักเลย(ต้องซักมือเอา) แล้วเราก็ห้ามซักแล้วตากตอนกลางคืนเพราะเขาเหม็น(แต่ลูกเขาซักได้)
- โฟมล้างหน้าเรามักจะมีผงๆสีขาวๆอยู่รอบๆปากขวด ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ไปๆมาๆมันก็เหมือนผงซักฟอกที่บ้านขึ้นทุกวัน เราขอพ่อซื้อใหม่แล้วไม่เอาไปไว้ในห้องน้ำเลยค่ะ(กว่าจะซื้อใหม่ให้นี่รอเป็นอาทิตย์ แต่เขาสั่งของมาที่บ้านเกือบทุกวัน หลังๆอาทิตย์ละครั้ง) / แชมพูเราก็เป็นค่ะ แชมพูอันที่แล้วคือมีผงซักฟอกเป็นก้อนเลยค่ะ
- พอเอาไว้ในห้องแบบวางโต้งๆ แรกๆไม่เป็นไร พอนานไปก็กลับมาเป็นอีก เราสังเกตเห็นว่ามันขยับจากที่เดิม เลยเขียนป้ายติดไว้ที่โฟมประมาณว่า "อย่าแตะอันนี้" หลังจากนั้นทะเลาะกันหนักเลยค่ะ เราก็อธิบายว่าทำไมถึงเขียน เขาก็มองว่าเราไปกล่าวหาเขาว่าเขาเป็นคนทำซึ่งเขาไม่โอเค แต่เราก็งงว่าเราไม่ได้เขียนชื่อติดไว้ อีกอย่าง ถ้าไม่ได้ทำก็ไม่ต้องอะไรสิ เพราะเราเองก็ไม่เคยไปว่าอะไรเขาเลยสักครั้ง
- มีครั้งนึงโฟมล้างหน้าเราหมด เราเลยขอให้ซื้อใหม่ให้ พ่อก็บอกว่าอยากได้โฟมอันไหนก็ส่งให้พ่อดูทางไลน์ เราก็ส่งไปสรุปซื้ออันเดิมกลับมาแล้วบอกว่าอันนี้เหมาะกับเด็กอย่างเรามากกว่า(แต่เราก็มองว่าเราไม่เหมาะกับอันนี้)
- มีครั้งนึงเรารู้สึกว่าน้ำเข้าไปในโฟมล้างหน้าเราเยอะแปลกๆเลยส่องดู สรุปมีขนอยู่ข้างในนั้น เรางงมาก มันเป็นขนหยิกฟิลเหมือนขนตรงนั้นไม่ก็ขนขาแข็งๆเลยค่ะ เรามั่นใจว่าไม่ใช่ของเราแน่นอน เพราะเราจะสระผมก่อนอาบทุกครั้ง สระเสร็จก็จะล้างหน้าแปรงฟัน ก่อนที่จะอาบตัว เราจะไม่ไปแตะที่อื่นก่อนเลย
- ห้องเรารก เขาเลยชอบพูดว่าห้องเราสกปรก ห้องเราเหม็น แต่ถึงแบบนั้น เขาก็ชอบมาค้นของในห้องเราประจำ ซึ่งเราไม่โอเคและไม่เข้าใจว่าทำไม เราเคยบอกพ่อว่าไม่โอเคนะ พ่อก็บอกว่าเขาแค่จะเช็ค เขาไม่อยากให้เรามีความลับ ซึ่งเรามองว่ามันไม่ใช่ ตายายหรือแม่แท้ๆของเรายังไม่ค้นขนาดนี้ แล้วเขาเป็นใคร ทำไมถึงได้มาค้นของๆเรา จากนั้นเขาเลิกค้นห้องเราไปอาทิตย์กว่า หลังจากนั้นก็มีมาค้นเรื่อยๆ เช่น อาทิตย์ละครั้ง มันไม่มีอะไรหาย แต่เขามาเปิดของมารื้อนู่นนี่
- หลังๆมานี้ เขาเริ่มรู้จักกับยาฆ่าเชื้อ เขาเป็นภูมิแพ้ ทำให้เขาฉีดบ่อย แล้วเขาก็มาฉีดในห้องเราซึ่งมันเหม็นมาก เราไม่โอเคเพราะเราอยู่ในห้องนี้ เขาไม่ได้อยู่ห้องนี้ แล้วมาฉีดใส่ที่เราทำไม คืออ?
- ล่าสุดเมื่อวันก่อนจะลงกระทู้เขาน่าจะเปลี่ยนกลิ่น(ไม่รู้น้ำยาฆ่าเชื้อเหมือนเดิมรึป่าว) แต่ฉีดเหมือนเดิม กลิ่นนี้หอมขึ้นแต่ดมไปเรื่อยๆนิดๆคือฉุนมากก แล้วมาฉีดลงพื้นคือพื้นเหนียวเลย บางครั้งเราปิดประตูห้อง เขาก็เปิดเข้ามาฉีด ละก็ปิด ปล่อยไปเราทรมาณกับกลิ่นฉุนๆที่เขาทำ ที่เราไม่โอเคเรื่องฉีดนี้สุดๆคือเขาเอาที่ฉีดนั้นมาฉีดที่ทิชชู่เรา ซึ่งเราเอาไว้เช็ดหน้า เราสังเกตเห็นว่าเขามาค้นห้องอีก แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ ตอนแรกเรานึกว่าเขาฉีดรอบๆซองทิชชู่ สรุปฉีดลงตรงกลางทิชชู่เลย ดึงกี่แผ่นๆก็คือจะมีกลิ่นที่เขาฉีดติด คือเราเอาไว้เช็ดหน้า แล้วน้ำยาที่เขามาฉีดคืออยู่ในทิชชู่ทุกแผ่น ตอนนั้นเรารู้สึกแย่มากค่ะ
- บางครั้งแปรงฟันเราก็จะมีสีดำๆติด เหมือนเอาไปถูอะไรมา อันนี้เราก็เคยบอกพ่อนะคะ พ่อก็บอกแค่ว่าให้ล้างออก
- แชมพูอันปัจจุบันของเรา เราเริ่มรู้สึกว่ากลิ่นมันไม่เหมือนเดิม กลิ่นเหมือนใส่น้ำยาอะไรไม่รู้เขาไปซึ่งมันกลิ่นฟิลสารเคมีเลย แล้วมันก็เหลวขึ้น เราเลยเริ่มสังเกตตำแหน่งแชมพูของเรา สรุปมีวันนึงมันขยับ แล้วก็มีน้ำอะไรไม่รู้ใสๆอยู่รอบฝาขวด ทั้งๆที่เราไม่เคยเอาขวดไปโดนน้ำเลย เราบอกพ่อ พ่อก็บอกว่าไม่ต้องใช้ ให้เปลี่ยนไปใช้ของพ่อแทน(ที่บ้านเราแยกแชมพูกันใช้ค่ะ)
- ตอนเด็ก เราขี้เกียจซักถุงเท้า(ที่บ้านจะมีกฎคือวันไหนใส่ถุงเท้า พออาบน้ำตอนเย็นต้องเอาไปซัก) เราเลยใส่ตะกร้าไว้รอซักวันหยุด สรุปเราโดนขโมยถุงเท้าค่ะ555 พอเราไปถามที่บ้านปรากฏว่าเขาเอาไปซ่อนค่ะ55555 ฟิลเหมือนอยากดัดนิสัยมา หลังจากนั้นคือเราก็ไม่ตามเลยค่ะ อยากได้ถุงเท้าเรานักก็เอาไปเลย แต่ปัจจุบันเราก็ซักถุงเท้าทุกวันนะคะ เพราะไม่มีตังซื้อถุงเท้าแล้วเลยมีแค่สองคู่
- ต่อจากถุงเท้า มีอีกเรื่องที่คล้ายๆกันคือเสื้อนร.ค่ะ(เสื้อสีขาว) เขาจะให้ซักหลังอาบน้ำเสร็จทุกครั้ง มีวันนึงเราเหนื่อยมากเลยไม่ได้ซักเพราะจะรีบอาบรีบนอน หลังจากวันนั้นเราเห็นเสื้ออีกทีคือมีปากกามาขีด ทั้งสีดำ สีน้ำเงิน สีแดง ประมาณ 3-4 จุด แล้วเป็นการขีดย้ำๆ ปากกาน้ำเงินกับแดงซักออก แต่สีดำปากกาเมจิกซักไม่ออกจนปัจจุบัน
- เวลามีปัญหาที่บ้าน พ่อมักจะบอกให้เราปรับตัว เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่ เขาปรับยาก เราเป็นเด็ก=ปรับตัวง่าย แต่นั่นทำให้เรารู้สึกเป็นทุกข์ เพราะมันเหมือนเราเสียเปรียบ เสียสละทุกอย่าง ทั้งที่เขาเริ่มก่อนแต่ไม่ต้องมาขอโทษหรืออะไรเราเลยค่ะ
- เวลาเขาทะเลาะกับพ่อ เขามักพาลมาที่เราตลอด มีวันนึงเราไม่ได้ทำอะไรให้เลย แล้วอยู่ๆตอนตี 3 พ่อก็มาปลุกให้เราไปขอโทษเขา เราไม่รู้เรื่องก็ขอโทษไป ละคือเราเป็นคนที่ถ้าตื่นแล้วจะนอนไม่หลับอีก เราก็ยันเช้าจนไปรร.เลยค่ะ
- มีช่วงนึงที่เราอยากติวแกรมม่าที่รร.ทุกวันอังคารแล้วมันต้องกลับเย็น เราไม่อยากขึ้นรถสองแถวเพราะเราไม่รู้ว่ามันจะมาเมื่อไหร่ หรือมันจะมามั้ย เราเลยขอพ่อไปรับ สรุปเขาไม่ให้พ่อไปรับเราที่รร. เหตุเพราะกลัวพ่อเจอกับแม่เรา(แม่เราอยู่อำเภอเดียวกันแต่ไม่ได้อยู่แถวเราเลยนะคะ ไม่ใกล้เลย) ทำให้เราต้องนั่งรถสองแถวกลับค่ะ มีอยู่สองอาทิตย์ที่รถหมด ตอนนั้นโชคดีมาก คือ เจอคนใจดีไปส่ง(ตอนนั้นอยากกลับมาก พ่อไม่มารับแน่นอน เราเลยตกลงไปค่ะ ไม่สนความปลอดภัย คิดซะว่าถ้าไม่รอดก็ถือว่าได้หลุดพ้นจากบ้านนี้แล้ว) แล้วก็เจอคุณลุงรถสองแถวที่ผ่านมา ทั้งๆที่คนสายกัน แต่ลุงเขาก็ใจดีไปส่ง / มีครั้งนึงแม่เราจะมารับไปเลี้ยงข้าว สรุปเขากับพ่อรีบมารับเราเลยค่ะ แล้วก็ให้ยกเลิกกับแม่ไป
- เรื่องค้นห้อง หนักสุดคือ มีช่วงนึงเขาไม่ให้เงินเราไปรร. เราก็ไม่ได้คิดอะไร เราก็ออกเงินเองไปก่อน จนมันยาวมาเป็นอาทิตย์กว่า เงินส่วนนั้นเราเริ่มหมด เราเลยบอกไปตามตรงว่ามันจะพอ สรุปตกเย็นตอนกินข้าว เขาโยนเงินใส่โต๊ะ แล้วก็ถามเราว่าไหนบอกไม่มี คือเขาไปค้นมาค่ะ เราก็อธิบายไปว่านั่นมันเงินเก็บส่วนอนาคต แต่เขาก็ไม่ฟังเลย ทะเลาะกันหนักอยู่ค่ะ
- 1 เดือนจะมีประมาณ 2-3 ครั้งที่ฝุ่น/เศษขยะจะมาอยู่ใตู้เสื้อผ้าเรา / เขาเคยหาว่าเราเหยียบอึมาแล้วไม่เช็ด ทั้งๆที่เราไม่ได้เหยียบเพราะถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้านตลอด เขาก็พูดว่าถ้าไม่ใช่เราแล้วใคร(รอยมันอยู่หน้าที่วางรองเท้าเรา) / เราลืมล้างจาน=โดนดุ เขาไม่ล้างแล้วเราเห็นละไม่ล้าง=ไม่มีน้ำใจ / มีขนแมวอยู่ในเซรั่มเรา เราซื้อเองมันแพง อันนี้เสียใจมากค่ะ
* ประมาณนี้นะคะ ที่เราไม่ไปอยู่กับแม่เพราะเราเกรงใจพ่อเลี้ยงด้วยค่ะ เขาเป็นคนดีนะคะ แต่ที่บ้านเราคืออยากให้เราตัดกับทางแม่เลยเวลาอยู่บ้านเขา ค่อยไปเจอแม่ตอนไปบ้านยายเท่านั้น
* ไม่สู้/พูดตรงๆกับเขาบ้างหรอ? เราเคยพูดไปหมดแล้วค่ะ แต่ทั้งบ้านไม่มีใครอยู่ข้างเราเลย รวมถึงพ่อเรา มีแค่เราเองและเราก็ยังต้องพึ่งเขาอยู่เลยไม่ได้โต้ค่ะ
* เราเก็บกดรึป่าว? อันนี้เราไม่แน่ใจค่ะ อาจจะหน่อยๆ555 แต่เราไม่เคยคิดจะกรีดแขนหรืออะไรแบบนั้นเลยนะคะ
* เราไม่คิดว่าเราอยู่ขั้นซึมเศร้า เพราะเราอยู่กับเพื่อนคือสนุกมาก เฮฮาปกติ เรามีคิดฆตตบ้างแต่ไม่ใช่เพราะอยากตายนะคะ เราไม่เคยอยากตายเลย แต่อยากหลุดพ้นจากที่นี่มากกว่า
* พอเจอเรื่องบ้านนี้ ทำให้เราไม่อยากอยู่ร่วมกับใครเลยค่ะ กลัวว่าจะเป็นแบบที่นี่
* บางอย่างเราถ่ายไว้นะคะ
* ที่เล่ามามีแค่เหตุการณ์ฝั่งเรา เขาอาจจะไม่ได้ทำเสมอไป แต่เขาชอบค้นของค้นห้องเรา เราเลยโทษเขาเลยค่ะ
เราปรึกษาคนอื่นรอบตัว ก็จะพูดกันว่าให้อดทน สำหรับเรา เราทนมาตลอด และคิดว่าความอดทนมันมีจำกัด เราเหนื่อยใจกับที่นี่ พอจะมีทางออกอย่างอื่นนอกจากอดทนมั้ยคะ? หรืออยากให้เราปรับพฤติกรรมตรงไหนบอกได้นะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ