คือเราก็จะจบม.ปลายแล้วอะค่ะแต่พ่อยังมองว่าเด็ก แบบห่วงอันนี้เข้าใจ บางทีเขาก็เกินเหตุเพราะเครียดด้วยแหละ เครียดจากแม่เราที่ป่วยจนต้องจ้างคนมาดูแล แต่ทีนี้พ่ออาจจะละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเป็นปกติ เราโดนประจำตั้งแต่เด็กจนโตอะนะดูไม่ค่อยออกหรอกพึ่งมารู้ตัวตอนจะเข้ามหาลัย คือเขาเวลาจะมาหาเราที่ห้องนอนเราคนปกติจะเคาะประตูก่อนเนาะ แต่นี่ขนาดล็อคละ พ่อมีกุญแจคือเปิดเข้ามาเลย ไม่เคาะ หรือบางทีก็เคาะแต่ก็เปิดอยู่ดี มีบ่นว่าล็อคทำไมด้วย ก่อนหน้านี้ห้องมีกลอนเลยล็อคกลอนแทน ตอนหลังเขามาถอดกลอนออกแล้วถามเราว่าจะล็อคทำไม เราเลยได้ซื้อตัวล็อคประตูมาล็อคช่วยมาล็อคเพื่อให้เราได้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นโดยไม่มีคนมารบกวนโดยพลการ จะว่าเราประสาทกินก็ได้ คือเป็นจริงๆจากเรื่องนี้ เคยเกือบคิดว่าตัวเองบ้าเพราะเรื่องแค่นี้อะ รู้สึกไร้สาระเลยแฮะ เข้าใจเขาแหละว่าเป็นห่วง กลัวนอนกลางวันมากบางวันไปเลยแวะมาดูทุก 2 ชม. แต่บางทีก็ถี่จนหงุดหงิด เรามีไปหาจิตแพทย์ด้วยค่ะ ทางบ้านรับรู้ แต่พ่อก็มองว่าไร้สาระ(มั้ง)เพราะบอกว่าตัวเองเครียดกว่าเยอะยังไม่เห็นต้องไปหาหมอกินยาเลย เราก็แหะๆ พูดไรมากไม่ได้ ความคิดยิ่งไม่ค่อยลงรอยกันอยู่ ตอนนี้อยากจะบอกว่าเราคิดว่าเราไม่มีเซฟโซนที่จะทำอะไรได้โดยที่ไม่พะวงหน้าพะวงหลังว่ามีคนไหม หรือเราอาจจะคิดมากจนเป็นบ้านแต่ไม่รู้ตัวก็ได้ กลับมาเรื่องความเป็นส่วนตัว คือเข้าใจว่าหัวอกคนเป็นพ่อแม่ก็ห่วงลูกเป็นธรรมดา แต่อยากให้คิดว่าวันนึงถ้าลูกมีเส้นทางของตัวเองแล้วจะปล่อยให้เขาใช้ชีวิตไปหรือจะไปก้าวก่ายสิทธิความเป็นส่วนตัวในชีวิตไหม เช่นลูกเรียนจบมีงานทำแต่งงานแล้ว พ่อแม่ยังสามารถใช้กุญแจเปิดประตูเข้าหาลูกได้ 24/7 ได้ไหม หรือควรปล่อยให้เขามีชีวิตของเขาเอง เราเลยอยากฟังความเห็นจากนักอ่านหลายๆท่านว่าจริงๆแล้ว เรามีการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลกันมาตั้งแต่ในครอบครัวแต่เพียงแค่คนโดนละเมิดเป็นผู้น้อยและรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติเลยสามารถทำได้แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจก็ตาม แต่เราเพียงไม่รู้ตัวเท่านั้น ทางเราคือยังไม่ได้คุยกับพ่อเรื่องนี้ กำลังหาทางพูดด้วยสันติวิธีอยู่ เราเพียงอยากรู้ว่านักอ่านท่านอื่นๆคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้
ขอบคุณที่อ่านจนจบ
สิทธิส่วนบุคคลของเด็กในบ้าน พ่อแม่ได้ละเมิดไหม
ขอบคุณที่อ่านจนจบ