สงครามอิสราเอล-ฮามาสอาจดันราคาน้ำมันทุบสถิติตลอดกาล
https://www.pptvhd36.com/news/เศรษฐกิจ/209222

ธนาคารโลกเตือนสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส อาจทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งทะยานสร้างสถิติใหม่เกิน 150 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

รายงานที่จัดทำโดยธนาคารโลก หรือ World Bank ระบุว่านับตั้งแต่เกิดการสู้รบรอบใหม่ หลังกลุ่มติดอาวุธฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวสูงขึ้นแล้ว 6%
 
โดยธนาคารโลกเตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่สงครามระหว่างทั้งสองฝ่ายจะทำให้ราคาสินค้าวัตถุดิบทั้งสินค้าเกษตรและพลังงานถีบตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการสู้รบดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับสงครามยูเครน-รัสเซีย ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว ละทำให้ราคาโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1970

รายงานของธนาคารโลกได้แบ่งการคาดการณ์ราคาน้ำมันออกเป็น 3 ระดับ โดยสถานการณ์ที่ดีที่สุดคือราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้น 3-13% มาอยู่ที่ระดับ 93-102 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลล์
 
แต่หากเป็นสถานการณ์ในระดับปานกลาง ราคาน้ำมันจะปรับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 121 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และหากสถานการณ์เข้าขั้นเลวร้ายที่สุด ราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 140-157 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งจะเป็นการทำลายสถิติราคาน้ำมันสูงสุดตลอดกาลในเดือน ก.ค. 2008 ที่ราคาน้ำมันอยู่ที่ 147 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลล์
 
ธนาคารโลกได้แนะนำให้บุคคลหรือองค์กรของประเทศต่าง ๆ ที่มีหน้าที่กำหนดนโยบายต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะหากการสู้รบขยายวง ทั่วโลกจะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงด้านราคาพลังงานอย่างกะทันหันที่เกิดจาก 2 ปัจจัยพร้อมๆกัน นั่นคือความขัดแย้งในตะวันออกกลางและสงครามยูเครน-รัสเซีย
 
เช่นเดียวกับ เอ็นโกซี โอคอนโจ อิเวลา ผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก หรือ WTO ที่เตือนว่า หากสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ลุกลามขยายวงออกไปทั่วตะวันออกกลาง เศรษฐกิจและการค้าโลกจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน เนื่องจากภูมิภาคดังกล่าวเป็นแหล่งพลังงานสำคัญทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
 
ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นเดือน ต.ค. WTO ได้ปรับลดการคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตการค้าทั่วโลก ท่ามกลางการชะลอตัวลงของภาคการผลิต โดยคาดว่าในปีนี้การค้าสินค้าที่ไม่ใช่วัตถุดิบทั่วโลกจะเติบโตเพียง 0.8% ซึ่งเป็นการปรับคาดการณ์ลงถึงครึ่งหนึ่งจากเดือน เม.ย.ที่คาดว่าการค้าโลกจะเติบโต 1.7%
 
อิเวลาระบุว่า ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หลายชาติกำลังมีปัญหา เช่น จีน ที่การฟื้นตัวยังไม่คึกคัก ส่วนการขยายตัวของเศรษฐกิจในสหภาพยุโรปยังต่ำกว่าที่คาดไว้

---

ไร้ปาฏิหาริย์! ชานี ลูค เหยื่อฮามาสที่ถูกจับแห่ท้ายรถ เสียชีวิตแล้ว พบเพียงกะโหลก
https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_7940237
 
ไร้ปาฏิหาริย์! ชานี ลูค เหยื่อฮามาสที่ถูกจับแห่ท้ายรถ ยืนยันเสียชีวิตแล้ว ครอบครัวบีบหัวใจเผยพบเพียงกะโหลก
 
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงาน ชานี ลูค ช่างสักแทตทูหญิงชาวเยอรมัน-อิสราเอลวัย 23 ปี ที่ถูกกลุ่มฮามาสลักพาตัวขณะบุกงานเทศกาลดนตรีในทะเลทรายของอิสราเอล เสียชีวิตแล้ว กระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอล ระบุเมื่อวันจันทร์

โดยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล เผยข่าวเศร้านี้ผ่านข้อความบนทวิตเตอร์หรือเอ็กซ์ ในขณะที่กระทรวงยืนยันการเสียชีวิตของชานี ลุค 
 
“ชานี ซึ่งถูกลักพาตัวไปจากงานเทศกาลดนตรี และถูกกลุ่มก่อการร้ายฮามาสทรมานและพาแห่ขบวนไปรอบ ๆ ฉนวนกาซา ประสบกับความสยดสยองที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้ ใจเราแตกสลาย” รายงานระบุ
 
นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี กล่าวถึงข่าวการเสียชีวิตของเธอว่า “เลวร้ายมาก เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ อีกหลายคน เธอถูกฆาตกรรมอย่างโหดร้าย นี่แสดงให้เห็นถึงความป่าเถื่อนเบื้องหลังการโจมตีของกลุ่มฮามาส ซึ่งต้องรับผิดชอบ นี่คือความหวาดกลัว และอิสราเอลมีสิทธิ์ที่จะปกป้องตัวเอง” โอลาฟกล่าว
 
ผู้เข้าร่วมงานราว 270 คนถูกสังหารในงานซุปเปอร์โนวา ไม่นานหลังการโจมตี ภาพเริ่มแพร่สะพัดทางออนไลน์ของหญิงสาวคนหนึ่งนอนคว่ำหน้าและกึ่งเปลือยอยู่บนหลังรถกระบะในฉนวนกาซาที่เต็มไปด้วยกลุ่มชายติดอาวุธ
 
ครอบครัวของชานี กล่าวว่า ในวิดีโอเพราะเธอมีผมทรงเดรดล็อคและรอยสักที่โดดเด่น ในตอนแรกแหล่งข่าวชาวปาเลสไตน์บอกว่า ชานีได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ศีรษะและกำลังเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในฉนวนกาซา ซึ่งครอบครัวเริ่มมีความหวัง
 
ต่อมา ริคาร์ดา ลูค แม่ของชานีเผยกับสถานีโทรทัศน์ RTL/ntv ของเยอรมนีว่า ครอบครัวได้รับแจ้งเกี่ยวกับการเสียชีวิตของชานีจากกองทัพอิสราเอล เจ้าหน้าที่อิสราเอลกล่าวว่า ชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะนั้นเป็นของลูกสาวของเธอตามหลักฐานการวิเคราะห์ดีเอ็นเอ
 
ริคาร์ดากล่าวว่าตอนนี้เธอเชื่อว่าลูกสาวของเธอเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ไม่มีการให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับสถานการณ์การเสียชีวิตของชานีและชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะของเธอถูกพบที่ไหน
 

---

 
"เป็นธรรม" รับรอง "ปดิพัทธ์" เข้าพรรคแล้ว เตรียมขยายฐาน-วางตัวส่งผู้สมัคร สส.เขต เกิน 20 คน
https://siamrath.co.th/n/489016

วันที่ 31 ต.ค 2566 นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคได้รับรองให้นายปดิพัทธ์ สันติภาดา  สส.พิษณุโลก และรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง สังกัดพรรคเป็นธรรมอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา และได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังคณะกรรมการการเลือกกตั้ง (กกต.) แล้ว อย่างไรก็ดีการประกาศตัวอย่างเป็นทางการนั้น ตนจะรอพร้อมกับการประกาศตนให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ซึ่งขณะนี้ทราบว่ารอนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ลงนามแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
 
เมื่อถามถึงการขับเคลื่อนงานการเมืองร่วมกันกับนายปดิพัทธ์ หลังจากนี้ นายปิติพงศ์ กล่าวว่า เนื่องจากนายปดิพัทธ์ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่งทำให้ไม่สามารถเป็นกรรมการบริหารพรรคได้ ดังนั้นการทำงานในพรรคจะมีสถานะเป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่ง อย่างไรก็ดีขณะนี้ยังไม่ได้หารือถึงแนวทางของพื้นที่กับนายปดิพัทธ์ แต่พรรคเป็นธรรมมีสาขาพรรคที่ จ.พิจิตร ซึ่งครอบคลุมถึง จ.พิษณุโลกด้วย ดังนั้นอยู่ที่นายปดิพัทธ์ว่าจะควบรวมทีมงานให้ทำพื้นที่กับสาขาพรรคที่จ.พิจิตร หรือตั้งสำนักงานในพื้นที่จ.พิษณุโลก อย่างไรก็ดีการทำงานในพื้นที่เพื่อขยายฐานสมาชิกพรรคในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างเป็นโจทย์ที่พรรคต้องดำเนินการแน่นอน
 
"ยุทธศาสตร์สำคัญของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้าคือการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบเขตให้มากกว่า 20 คน ซึ่งขณะนี้มีนักการเมืองที่เคยสังกัดพรรคการเมืองต่างๆ ในฟากฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล สนใจที่จะดำเนินงานการเมืองร่วมกับพรรคเป็นธรรม โดยวันที่ 4 พ.ย.นี้ ผมจะหารือกับผู้ที่เตรียมวางตัวลงสมัครสส.ในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามันด้วย” นายปิติพงศ์ กล่าว
 
เมื่อถามถึงกติกาเลือกตั้ง และรัฐธรรมนูญเตรียมเปลี่ยนแปลงในการเลือกตั้งครังหน้าพรรคจะเตรียมรับมืออย่างไร หัวหน้าพรรคเป็นธรรม กล่าวว่า ถือเป็นความโชคดีเพราะพรรคเป็นธรรมเกิดจากการปรับเปลี่ยนกติกาทางการเมืองของรัฐธรรมนูญ 2560 ทำให้การทำงานของพรรคมีความยืดหยุ่นสูง ไม่เหมือนกับพรรคการเมืองอื่น