สวัสดีคะ วันนี้เราขอเอาประสบการณ์ของตัวเองที่เจอเมื่อ 18 ปีที่แล้วที่เกิดกับตัวเองมาเล่าให้ฟังคะ เมื่อ 18 ปีที่ปลเวเราได้มีโอกาสเดินทางไปกัมพูชาบ่อยๆกับแฟน ปกติส่วนใหญ่จะอยุ่ที่พนมเปญไปทำงาน ไปรับรองลูกค้า จะอยุ่ที่กัมพูชาส่วนใหญ่ ประมาณ 10-15 วัน แต่ทุกครั้งที่เราไปไม่เคยมีเหตุการณ์อะไรจนกระทั่ง วันนึงที่เพื่อนของแฟนมาจากมาเลเซีย มาเที่ยวกัมพูชาแล้วอยากไปเที่ยวเสียมเรียบหรือนครวัดนครธม เราเคยได้ยินชื่อแต่ไม่เคยได้ไป ส่วนตัวคือไม่ชอบโบราณสถานอะไรแบบนี้ด้วยวันนั้นพอเพือนชวนเราเลยยังๆม่ตอบตกลงแล้ววันต่อมาเพื่อนชวนแฟนอีกครั้งแต่เราปฏิเสธ วันที่กลุ่มเพื่อนจะเดินทางเรานอนตื่นสายแบบแกล้งคิดว่าเขาคงออกไปกันแล้ว แต่มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นว่าเก็บกระเป๋าไปด้วยกันเถอะพวกเรากำลังไปรับที่หน้าบ้านแล้วด้วยความจำใจเราจึงต้องไปพวกเราเดอนทางไปเสียมเรียบด้วยทางรถยนต์ใช้เวลาเดินทาง 8-9 ชม. ไปถึงเสียมเรียบคือค่ำพอดี เราแยกย้ายเข้าห้องพักแล้วนัดเจอกันตอนตี4.30 เพื่อจะไปให้ทันดูพระอาทิตย์ขึ้นที่นครวัด รุ่งเช้าเราทั้งหมดออกเดินทางไปเจอไกด์ที่รอเราอยุ่ที่นครวัดแล้ว ไกด์จัดการเครื่องเอกสารให้กลุ่มของเรา นักท่องเที่ยวกำลังทยอยมาทำให้คนเริ่มเยอะปกติเราจะไม่ชอบความแออัดเลยเลี่ยงออกไปนั่งรับลมตรงสะพานทางเดินข้ามเข้าไปในตัวปราสาท ตอนที่เรากำลังนั่งเล่นเพลินๆ ดูดอกบัวในสระ สายตาเราพละนไปเห็นอะไรสีขาวอยู่ใต้ใบบัวที่ปิดอยู่เราเลยไปหาไม้ตรงบริเวณนั้นมาเขี่ยเราเขี่ยไปโดนคนจมน้ำเสียชีวิตคะ เป็นก้นของคนพอเราเปิดใบบัวออกเท่านั้นหละคะ หลังคน เรากรี๊ดออกมาเสียงดังมาด้วยความตกใจ แฟนเราและกลุ่มเพื่อนรงมทั้งนักท่องเที่ยวแถวนั้นต่างตื่นตกใจกับศพผู้หญิงในสระบัวเราเสียขวัญมากตอนนั้นตำรวจสอบปากคำเราแต่เราไม่รุ้เรื่องจนไกด์ของเราต้องดข้ามาอธิบายว่าเราเป็นนักท่องเที่ยวตำรวจเลยยอมให้เราไป แต่ใจเราตอนนั้นคืออยากกลับบ้านภาพผุ้หญิงคนนั้นยังติดตาเราจนทุกวันนี้ ระหว่าที่เราเดินเข้าไปในปราสาทความรุ้สึกเราคือขนลุกตลอดเวลา เหมือนมีคนกำลังจ้องมอง พอเราเที่ยวบริเวณปราสาทเสร็จเขาจะพานั่งรถเข้าไปในส่วนที่ลึกกว่านั้นเราจำชื่อๆม่ได้ละแต่ทีต้นไม่ มีหน้าคนตลอดทาง เราบอกแฟนว่าเรากลัวเราขอไม่ลงรถนะเพราะเรารุ้สึกไม่สบาย ตลอดทริปเราไม่ลงจากรถเลยคะ แล้วเหมือนหูเราจะแว่วได้ยินเสียงคนคุยกันแบบเป็นภาษาอะไรไม่รู้แต่ไม่ใช่จีน ไทย หรืออังกฤษแน่นอน พอหลังจากเที่ยวเสร็จเราก้อเดินทางกลับพนมเปญทันที ระหว่าที่กลับก้อจะเป็นเวลาบ่ายๆ กระจำรถตุ้มันจะมืดมาก แดดร้อน เราเพลีย เลยนอนหลับระหว่างนั่งรถเดินทางกลับเราได้ยินเสียงฝนตกตลอดทางซึ่งเราเองก้อเข้าใจว่าฝนตกเลยไม่ได้เอะใจอะไรจนมาถึงปั๊มน้ำมันเราแวะเข้าห้องน้ำ พอเราลงจากรถเท่านั้นละ พื้นดินแห้งแดดห้าโมงเย๋ฝ็นคืแรงมาก แลเวเสียงที่เราได้ยินในรถละคือเสียงอะไร?? เราก้อคิดในใจคงไม่มีอะไรมั้งหูเราคงฝาก หรือเราคงยังตกใจกับเหตุการณ์เมื่อเช้าอยุ่ แล้วเราก้อนั่งรถจนถึงบ้านพักที่พนมเปญ บ้านที่เราพักจะมี 2 ห้องนอน 2 ชั้น บ้านจะเป็นหมู่บ้านจัดสรร แบบทาวน์เฮ้าส์ หันหลังชนกันแต่มันเป็นหมู่บ้านใหม่เราเลยยังไม่ทราบว่ามีใครอยุ่ในละแวกบ้านเราบ้าง เรามาถึงบ้านพักคือ 2 ทุ่ม เรารู้สึกเพลีย เหนื่อยล้าแบบบอกไม่ถูก เลยขอแฟนว่าเราไม่ไปกินข้าวด้วยนะ ขอนอนกินยาดีกว่าแฟนเราก้อโอเค แกเปิดแอร์ให้ ห่มผ้าแล้วก้อเปิดไฟหัวเตียงไว้ให้เราแล้วแกก้อไปกินข้าวกับเพื่อนเราหลับไปสักพัก เรารุ้สึกมีมือมาลูบที่ต้นขาขอเรา เราคิดว่าแฟนแกล้งอยากทีอะไรด้วยเราเลยเอามือปัดออก พอเราปัดมือนั้นก้อวนมาลูบอีก ลูบจนเกือบถึงอวัยวะเพศ เราก้อเอามือปัดออกด้วยความรำคาญคิดว่าแฟนเพราะเราไม่มีอารมณ์ จนครั้งสุดท้ายคือเหมือนจะเป็นหน้าที่พยายามจะดมต้นขาเราเราเลยเอามือไปจับหน้าเพื่อจะให้หยุด แต่สิ่งที่เราตกใจสุดขีดคือใบหน้านั้นไม่ใช่แฟนเราคะ เราไม่เห็นว่าหน้าตาเป็นแบบไหนแต่มือเราสัมผัสได้คือหนวดที่ข้างแก้มมันสากมือ ส่วนแฟนเราเขาไม่มีหนวดคะ พอจังหวะที่เราจับโดนหน้าแล้วเรารู้แล้วว่าไม่ใช่แฟนเราพยายามดิ้นขัดขืนมือของชายคนนั้นเขาบีบคอเราเราดิ้นเหมือนกำลังจะขาดใจแต่จังหวะที่ดวงเรายังดีแฟนเรากลับมาทันเปิดเข้ามาในห้องคือเขาเห็นเราเอาผ้าห่มมายัดปากตัวเองเขาตบหน้าเราสองครั้งเรียกให้เรามีสติ พอเราได้สติเราก้อร้องไห้แฟนบอกว่าแกเข้ามาแล้วเห็นเราเอามือยัดผ้าเข้าปากตัวเองตาเหลือใกล้ตายแล้วเลยจับเราเขย่าและตบหน้าเราเรียกสติ เราทั้งร้องทั้งเล่าให้แฟนฟังแบบกลัวมากคะ คืนนั้นเราไม่ได้นอนเลยหลอนมาก แฟนเราปลอบไม่เป็นไร แกนอนข้างเราแล้วทีนี้สักพักความหลอนมาเลยคะ บ้านข้างหลังไม่มีคนอยุ่แต่มีเสียงคนคุยกันไม่รุ้ว่าภาษาอะไรคือคุยกันบนชนสองที่ติดกับห้องเรา เสียงดังมาก เราหันไปถามแฟนเธอได้ยินเหมือนเราไหม แฟนบอกว่าได้ยิน แล้วก้อจะมีเสียงเหมือนฝนตก ดสียวคุยกันแบบนี้ตลอด เราเลยบอกแฟนว่าเรานอนไม่ได้นะ ออกไปนอน รร เถอะ เรากับแฟนรีบลุกจากที่นอนแล้วออกมานอน รร เลยคะ แล้วเราก้อโทรหาแม่ที่อยู่ไทย เล่าเหตุการณ์ให้แม่ฟัง แม่เลยโทรไปหาตาซึ่งแกเป็นคนทรงเจ้า ตาบอกผ่านแม่เราว่า ให้เราออกมาจากบ้านหลังนั้นนะ เพราะมี ผช ร่างสูงใหญ่ตามเรามาจากนครวัดเขาต้องการเอาเราไปทำเมียเมื่อกี้เขาจะพยายามมีอะไรกับเราแล้วแต่ไม่สำเร็จตอนนี้คือเขาโกรธมากเขาจะเอาให้ตายแล้วจะเอาไปอยู่ด้วย ห้ามกลับไปที่บ้านหลังนั้นเด็ดขาด ถ้าเป็นไปได้ให้กลับเมืองไทยทันที เราเชื่อตาเรามาตลอดและเป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ หลังจากที่เราออกมา เราไม่ได้เอาอะไรออกมาจากบ้านเลย รุ่งเช้า เราให้แฟนไปเก็บของจากบ้าน แล้วเราก้อจองตั๋วกลับไทยทันทีตอนเช้า แล้วจนทุกวันนี้ เราไม่กลับไปที่กัมพูชาอีกเลยคะ แม้แต่อะไรก้อตามที่เกี่ยวอารยธรรมสิ่งที่คล้ายๆกับนครวัดเราจะกลัวมากไม่กล้าเข้าไป ถ้าหากวันนั้นเราไม่ได้แฟนเข้ามาปลูกป่านนี้เราก้อไม่มีชีวิตอยุ่แน่นอน เราขอเอาเรื่องประสบการณ์หลอนนี้มาเล้าให้ทุกคนฟัง โปรดใช้วิจารณญาณนะคะ และเราขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผุ้หญิงคนนั้นที่เสียชีวิตที่สระบัวของนครวัดคนนั้นด้วย ไม่ว่าคุณจะเป็นใครขอให้ได้รับผลบุญด้วยนะคะ ขอให้ไปสู่สุคติ รวมทั้งเจ้ากรรมนายเวรที่เคยทำกรรมร่วมกันมาด้วยคะ
ประสบการณ์หลอนในกัมพูชา