เกริ่นก่อนนะคะพ่อเราเลิกกับแม่มาได้8ปีแล้วและเคยมีแฟนหลังเลิกกับแม่มาแล้ว2คน แฟนคนแรกคบกันมาได้7ปีเพราะคบหลังจากเลิกกับแม่เรา ส่วนแฟนคนที่2 คบกันได้ปีเดียวแล้วก็เลิกกันไปค่ะ
เวลาพ่อเรามีแฟนพ่อไม่เคยพาใครเข้ามาบ้านส่วนมากจะออกไปหาแฟนข้างนอกเองค่ะ เราก็แกล้งบ่นกึ่งแซวๆเค้าไปนะคะว่า เพลาๆบ้างเรื่องผู้หญิง อายุ50แล้วนะแต่ก็นั้นแหละค่ะ
จนมาแฟนคนที่3 พ่อเราแนะนำให้รู้จักผ่านไลน์เราก็โอเคนี้แฟนใหม่รู้จักไว้ไม่ได้เสียหทวแต่ก็ไม่ถึงขั้นสุงสิงอะไร พ่อบอกว่าแฟนคนนี้ทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่นค่ะแต่ว่าเนื่องด้วยโควิดเค้าจะกลับไทยเลยขอมานอนบ้านเราบ้างวัน-สองวันแบบนี้ได้ไหม เราก็ไม่ได้ติดใจอะไรค่ะมานอนได้ แต่เราพูดกับพ่อไปแล้วว่า มานอนได้แต่ไม่ได้จะเอาเค้าเข้ามาอยู่ในบ้านใช่ไหม พ่อเราบอกว่า“ไม่แน่นอน”เราก็โอเค พอแฟนพ่อมาถึงเราก็ทักทายแกปกติค่ะ บางเรื่องที่รู้สึกตะหงิดกับแฟนพ่อคนนี้เราก็ปล่อยผ่านเพราะคิดว่าเค้าอาจจะชินกับการทำแบบนี้อยู่แล้วอย่าง เช่น นุ่งผ้าขนหนูสั้นๆสั้นแบบสั้นจริงๆค่ะ นุ่งออกมาอาบน้ำบ้าง หรืออาบน้ำเสร็จแทนที่จะรีบเข้าไปแต่งตัวแต่ก็นุ่งผ้าขนหนูอยู่แบบนั้นเดินไปเดินมาในบ้าน หรือบางทีก็นอนคร่อมพ่อเราอยู่ในเปล คือไม่รู้ว่าเค้าคิดว่าเราเห็นหรือไม่เห็นไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เราก็พยายามปิดหูปิดตาไปค่ะ ทุกอย่างเหมือนจะสงบจนสักพักนึงพ่อบอกว่า แฟนพ่ออยากเปิดร้านกาแฟน่าจะเปิดแถวๆบ้านเรา ”เค้าอาจจะต้องอยู่บ้านเราสักพักเพื่อขายกาแฟแต่เค้าไม่ได้อยู่ตลอดนะไปๆกลับ“ เราก็โอเคแต่ไม่รู้ยังไงร้านกาแฟที่บอกจะหาที่เปิดนู้นนี่กลายเป็นมาเปิดร้านกาแฟหน้าบ้านแทน เราก็ไม่อยากพูดอะไร และจุดเริ่มต้นที่ทำให้พ่อเราเปลี่ยนไปคือ มันเริ่มลามมาตรงที่ว่า พ่อมาบอกว่า”จะขอเอาลูกติดของแฟนใหม่พ่อเข้ามาอยู่บ้าน“ เราไม่ให้บอกตรงๆนะคะบ้านเราไม่ได้ใหญ่โตเป็นบ้านไม้ธรรมดาและลูกติดของแฟนใหม่พ่อเราเคยเจอแล้วซึ่งเราไม่ค่อยชอบเด็กแบบนี้ค่ะ คือลูกติดแฟนพ่อแกชอบกรี๊ดกรี๊ดเสียงดังมากบางทีเราจะต้องทำงานก็ไม่มีสมาธิจริงๆ
พ่อเค้าบอกต่อว่า“ถ้ายอมให้ลูกแฟนพ่อเค้ามาอยู่ในบ้านพ่อจะให้ลูกทุกอย่างเลยนะ พ่อจะให้ลูกเดือนละ1,000บาทปีหน้าอะไรที่ลูกอยากได้ลูกจะได้แน่นอนถ้าพ่อมีตัง” คือเราไม่ได้ต้องการเราแค่ไม่อยากให้เด็กคนนี้เข้ามาอยู่ในบ้าน พ่อเค้าก็พยายามกล่อมเราทุกทางให้เอาเด็กคนนี้มาอยู่ในบ้านให้ได้ จนเราแปลกใจทำไมต้องเอาเด็กคนนี้มาอยู่บ้านให้ได้ขนาดนั้น สรุปพ่อกำลังจะเลิกกับแฟนคนนี้เลยอยากให้เด็กคนนี้เข้ามาอยู่ในบ้านเผื่อที่จะได้ไม่เลิกกะแฟนเค้า ซึ่งเราได้คุยกับแฟนของพ่อแล้วว่าไม่สะดวกจริงๆที่จะให้น้องมาอยู่เหมือนแฟนพ่อก็เข้าใจเราก็จบไป แต่พ่อก็ไม่ได้เลิกกับเค้านะคะ เราไปได้ยินมาอีกว่าแฟนพ่อไปพูดกับคนอื่นว่า”ทำดีด้วยขนาดนี้แล้วนึกว่าจะรับเค้าเป็นคนในครอบครัวอีก“ เราโกรธนะคะเพราะเราไม่เคยรับแฟนพ่อคนไหนเป็นคนในครอบครัวเรารับรู้แค่ว่าพ่อมีแฟนรับรู้แค่ฐานะแฟนพ่อเฉยๆ หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้พูดกับแฟนพ่ออีกค่ะจากที่เจอจะยิ้มให้หรืออะไรก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก ขอแยกอีกนิดนึงว่าแฟนพ่อเค้ามีรถนะคะแต่ก็ขายรถออกไปไม่รู้เพราะสาเหตุอะไรกลายเป็นว่ารถพ่อต้องผลัดกันใช้ทั้งเรา พ่อ และแฟนพ่อ จากปกติที่เราจะเอารถขับออกไปเรียนกลายเป็นว่าเหมือนถูกแกล้งเวลาเราจะใช้รถพ่อจะบอกว่าพ่อต้องใช้นู้นนี่แต่จริงๆแล้วพ่อเอาไปให้แฟนเค้าใช้ค่ะ เราพยายามปล่อยผ่านแต่มันเริ่มเก็บสะสมมาเรื่อยๆเพราะผู้หญิงบางทีเหมือนกวนประสาทเรา ชอบเดินเสียงดังตึงตังแรงๆบนบ้านเวลาพ่อเราไม่อยู่บ้าน (บนบ้านจะมีแค่ห้องเราและห้องพ่อ) เราตะหงิดๆว่าทำใส่เรารึเปล่าเพราะตอนมาแรกๆแฟนพ่อเค้าไม่เคยเดินเสียงเท้าดังๆแบบนี้ใส่ บางทีก็ไปนอนคร่อมพ่อเราอยู่ในเปลให้เราเห็นจนมันเก็บสะสมกับเราทำให้เรากับพ่อต้องทะเลาะกัน เราเรียกพ่อมาคุยกันบนห้องว่าแฟนพ่อทำแบบนี้ไม่ถูกนะเหมือนไม่เกรงใจหนูที่เป็นลูกพ่อบ้างเลยแถมยังทำตึงตันบนบ้านอีกด้วยแล้วตอนนี้เหมือนจะมาอาศัยอยู่ในบ้านเลย“ เราก็ร้องไห้ร้องไห้หนักมากๆเพราะมันสะสมเราไม่ได้บอกใครไม่ได้ระบายกับใคร เราร้องไห้ออกมาหนักมากจริงๆ แต่พ่อพูดกับมาว่า “ จะร้องเสียงดังทำไมเดี๋ยวคนอื่นได้ยิน” “เลิกร้องได้ยังอ่ะจะไปทำงานละ” จริงๆเราจุกกับคำพูดพ่อมากๆเพราะเราเวลาร้องไห้พ่อจะปลอบเราตลอดแต่วันนั้นเป็นครั้งแรกที่พ่อพูดกับเราแบบนี้ไม่มีการปลอบ เราเลยบอกพ่อไปว่า “งั้นพ่อก็ออกไปทำงานเลย” พ่อเค้าก็ออกไปเราคิดว่าพ่อเราน่าจะเข้าใจเราแต่เปล่าเลย เราเปิดกล้องวงจรปิดดู พ่อเราไปยืนหอมแก้มกับแฟนของเค้าหน้าบ้านแล้วขับรถกันออกไป2คนไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลย เราเสียใจมากตั้งแต่วันนั้นและพ่อก็เปลี่ยนไปแต่ก่อนเราเคยหยอกล้อกับพ่อได้มีไรคุยกับพ่อแคปอะไรตลกๆคุยกันแต่ตอนนี้ไม่คุยกันจะคุยเฉพาะตอนใช้งานเราเท่านั้น เราเคยพูดกับเค้าว่าเอาผู้หญิงคนนี้ออกไปจากบ้านเราได้ไหมแล้วพ่อก็ค่อยไปหาเค้าเอาก็ได้ แต่พ่อบอกกับเราว่า เค้าต้องขายกาแฟจะให้เค้าไปไหน เหมือนเราโดนพ่อหลอกในทุกๆอย่างกับผู้หญิงคนนี้จนถึงตอนนี้เรากับพ่อไม่ได้คุยกันอีกเลยไม่ได้คุยกันมาจะ4เดือนแล้ว และล่าสุดบทสนทนายาวๆระหว่างเรากับพ่อคือ เราพาย่าไปหาหมอและค่ายาย่าเกือบ20,000บาทแต่เค้าโอนตังให้เราแค่10,000เดียวแล้วเราก็เลยบอกเค้าไปว่าตังมันไม่พอเค้าก็บอกว่าเดี๋ยวจะไปหายืมคนนู้นคนนี้สักพักเค้าบอกเดี๋ยวจะโทรไปยืมแฟนพ่อแล้วอยู่ๆพ่อก็ทักมาในไลน์ว่าขอดูใบเสร็จค่ายาหน่อย เราก็ถ่ายส่งให้ดูแล้วพ่อก็บอกสรุปทุกอย่างมาให้หน่อย คือปกติพ่อไม่เคยถามเราอะไรมากขนาดนี้เพราะค่ายา20,000แบบนี้มันเป็นปกติถ้าต้องหาหมอ2หมอ เราเลยรู้วึกว่าเหมือนเค้าคิดว่าเราอมเงินเค้าเพราะปกติเค้าไม่เคยถามหรือถามเรามากขนาดนี้มาก่อนนี้แหละค่ะตั้งแต่มีผู้หญิงคนนี้พ่อเราก็เปลี่ยนไปเลย นี้เป็นเรื่ิองคร่าวๆที่เราย่อมาแล้วนะคะ
เราทำใจไม่ได้จริงๆไม่สามารถอยู่บ้านเดียวกันกับผู้หญิงคนนี้ได้ทนเห็นพ่อกับผู้หญิงทำอะไรไม่เกรงใจเราแบบนี้ไม่ได้จริงๆ เราพยายามควบคุมสติไม่ให้ทำอะไรโดยขาดสติ เพราะเราอีกปีเดียวก็จะเรียนจบเราว่าจะออกมาจากบ้านพ่อแล้ว
อยากถามทุกคนที่เข้ามาอ่านว่าเราควรจัดการยังไงดีคะเราทนเงียบไปก็ไม่มีทีท่าว่าผู้หญิงจะหยุดกวนประสาทเราเลย เราควรจัดการยังไงดี
พ่อเปลี่ยนไปตั้งแต่มีแฟนคนนี้
เวลาพ่อเรามีแฟนพ่อไม่เคยพาใครเข้ามาบ้านส่วนมากจะออกไปหาแฟนข้างนอกเองค่ะ เราก็แกล้งบ่นกึ่งแซวๆเค้าไปนะคะว่า เพลาๆบ้างเรื่องผู้หญิง อายุ50แล้วนะแต่ก็นั้นแหละค่ะ
จนมาแฟนคนที่3 พ่อเราแนะนำให้รู้จักผ่านไลน์เราก็โอเคนี้แฟนใหม่รู้จักไว้ไม่ได้เสียหทวแต่ก็ไม่ถึงขั้นสุงสิงอะไร พ่อบอกว่าแฟนคนนี้ทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่นค่ะแต่ว่าเนื่องด้วยโควิดเค้าจะกลับไทยเลยขอมานอนบ้านเราบ้างวัน-สองวันแบบนี้ได้ไหม เราก็ไม่ได้ติดใจอะไรค่ะมานอนได้ แต่เราพูดกับพ่อไปแล้วว่า มานอนได้แต่ไม่ได้จะเอาเค้าเข้ามาอยู่ในบ้านใช่ไหม พ่อเราบอกว่า“ไม่แน่นอน”เราก็โอเค พอแฟนพ่อมาถึงเราก็ทักทายแกปกติค่ะ บางเรื่องที่รู้สึกตะหงิดกับแฟนพ่อคนนี้เราก็ปล่อยผ่านเพราะคิดว่าเค้าอาจจะชินกับการทำแบบนี้อยู่แล้วอย่าง เช่น นุ่งผ้าขนหนูสั้นๆสั้นแบบสั้นจริงๆค่ะ นุ่งออกมาอาบน้ำบ้าง หรืออาบน้ำเสร็จแทนที่จะรีบเข้าไปแต่งตัวแต่ก็นุ่งผ้าขนหนูอยู่แบบนั้นเดินไปเดินมาในบ้าน หรือบางทีก็นอนคร่อมพ่อเราอยู่ในเปล คือไม่รู้ว่าเค้าคิดว่าเราเห็นหรือไม่เห็นไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เราก็พยายามปิดหูปิดตาไปค่ะ ทุกอย่างเหมือนจะสงบจนสักพักนึงพ่อบอกว่า แฟนพ่ออยากเปิดร้านกาแฟน่าจะเปิดแถวๆบ้านเรา ”เค้าอาจจะต้องอยู่บ้านเราสักพักเพื่อขายกาแฟแต่เค้าไม่ได้อยู่ตลอดนะไปๆกลับ“ เราก็โอเคแต่ไม่รู้ยังไงร้านกาแฟที่บอกจะหาที่เปิดนู้นนี่กลายเป็นมาเปิดร้านกาแฟหน้าบ้านแทน เราก็ไม่อยากพูดอะไร และจุดเริ่มต้นที่ทำให้พ่อเราเปลี่ยนไปคือ มันเริ่มลามมาตรงที่ว่า พ่อมาบอกว่า”จะขอเอาลูกติดของแฟนใหม่พ่อเข้ามาอยู่บ้าน“ เราไม่ให้บอกตรงๆนะคะบ้านเราไม่ได้ใหญ่โตเป็นบ้านไม้ธรรมดาและลูกติดของแฟนใหม่พ่อเราเคยเจอแล้วซึ่งเราไม่ค่อยชอบเด็กแบบนี้ค่ะ คือลูกติดแฟนพ่อแกชอบกรี๊ดกรี๊ดเสียงดังมากบางทีเราจะต้องทำงานก็ไม่มีสมาธิจริงๆ
พ่อเค้าบอกต่อว่า“ถ้ายอมให้ลูกแฟนพ่อเค้ามาอยู่ในบ้านพ่อจะให้ลูกทุกอย่างเลยนะ พ่อจะให้ลูกเดือนละ1,000บาทปีหน้าอะไรที่ลูกอยากได้ลูกจะได้แน่นอนถ้าพ่อมีตัง” คือเราไม่ได้ต้องการเราแค่ไม่อยากให้เด็กคนนี้เข้ามาอยู่ในบ้าน พ่อเค้าก็พยายามกล่อมเราทุกทางให้เอาเด็กคนนี้มาอยู่ในบ้านให้ได้ จนเราแปลกใจทำไมต้องเอาเด็กคนนี้มาอยู่บ้านให้ได้ขนาดนั้น สรุปพ่อกำลังจะเลิกกับแฟนคนนี้เลยอยากให้เด็กคนนี้เข้ามาอยู่ในบ้านเผื่อที่จะได้ไม่เลิกกะแฟนเค้า ซึ่งเราได้คุยกับแฟนของพ่อแล้วว่าไม่สะดวกจริงๆที่จะให้น้องมาอยู่เหมือนแฟนพ่อก็เข้าใจเราก็จบไป แต่พ่อก็ไม่ได้เลิกกับเค้านะคะ เราไปได้ยินมาอีกว่าแฟนพ่อไปพูดกับคนอื่นว่า”ทำดีด้วยขนาดนี้แล้วนึกว่าจะรับเค้าเป็นคนในครอบครัวอีก“ เราโกรธนะคะเพราะเราไม่เคยรับแฟนพ่อคนไหนเป็นคนในครอบครัวเรารับรู้แค่ว่าพ่อมีแฟนรับรู้แค่ฐานะแฟนพ่อเฉยๆ หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้พูดกับแฟนพ่ออีกค่ะจากที่เจอจะยิ้มให้หรืออะไรก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก ขอแยกอีกนิดนึงว่าแฟนพ่อเค้ามีรถนะคะแต่ก็ขายรถออกไปไม่รู้เพราะสาเหตุอะไรกลายเป็นว่ารถพ่อต้องผลัดกันใช้ทั้งเรา พ่อ และแฟนพ่อ จากปกติที่เราจะเอารถขับออกไปเรียนกลายเป็นว่าเหมือนถูกแกล้งเวลาเราจะใช้รถพ่อจะบอกว่าพ่อต้องใช้นู้นนี่แต่จริงๆแล้วพ่อเอาไปให้แฟนเค้าใช้ค่ะ เราพยายามปล่อยผ่านแต่มันเริ่มเก็บสะสมมาเรื่อยๆเพราะผู้หญิงบางทีเหมือนกวนประสาทเรา ชอบเดินเสียงดังตึงตังแรงๆบนบ้านเวลาพ่อเราไม่อยู่บ้าน (บนบ้านจะมีแค่ห้องเราและห้องพ่อ) เราตะหงิดๆว่าทำใส่เรารึเปล่าเพราะตอนมาแรกๆแฟนพ่อเค้าไม่เคยเดินเสียงเท้าดังๆแบบนี้ใส่ บางทีก็ไปนอนคร่อมพ่อเราอยู่ในเปลให้เราเห็นจนมันเก็บสะสมกับเราทำให้เรากับพ่อต้องทะเลาะกัน เราเรียกพ่อมาคุยกันบนห้องว่าแฟนพ่อทำแบบนี้ไม่ถูกนะเหมือนไม่เกรงใจหนูที่เป็นลูกพ่อบ้างเลยแถมยังทำตึงตันบนบ้านอีกด้วยแล้วตอนนี้เหมือนจะมาอาศัยอยู่ในบ้านเลย“ เราก็ร้องไห้ร้องไห้หนักมากๆเพราะมันสะสมเราไม่ได้บอกใครไม่ได้ระบายกับใคร เราร้องไห้ออกมาหนักมากจริงๆ แต่พ่อพูดกับมาว่า “ จะร้องเสียงดังทำไมเดี๋ยวคนอื่นได้ยิน” “เลิกร้องได้ยังอ่ะจะไปทำงานละ” จริงๆเราจุกกับคำพูดพ่อมากๆเพราะเราเวลาร้องไห้พ่อจะปลอบเราตลอดแต่วันนั้นเป็นครั้งแรกที่พ่อพูดกับเราแบบนี้ไม่มีการปลอบ เราเลยบอกพ่อไปว่า “งั้นพ่อก็ออกไปทำงานเลย” พ่อเค้าก็ออกไปเราคิดว่าพ่อเราน่าจะเข้าใจเราแต่เปล่าเลย เราเปิดกล้องวงจรปิดดู พ่อเราไปยืนหอมแก้มกับแฟนของเค้าหน้าบ้านแล้วขับรถกันออกไป2คนไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลย เราเสียใจมากตั้งแต่วันนั้นและพ่อก็เปลี่ยนไปแต่ก่อนเราเคยหยอกล้อกับพ่อได้มีไรคุยกับพ่อแคปอะไรตลกๆคุยกันแต่ตอนนี้ไม่คุยกันจะคุยเฉพาะตอนใช้งานเราเท่านั้น เราเคยพูดกับเค้าว่าเอาผู้หญิงคนนี้ออกไปจากบ้านเราได้ไหมแล้วพ่อก็ค่อยไปหาเค้าเอาก็ได้ แต่พ่อบอกกับเราว่า เค้าต้องขายกาแฟจะให้เค้าไปไหน เหมือนเราโดนพ่อหลอกในทุกๆอย่างกับผู้หญิงคนนี้จนถึงตอนนี้เรากับพ่อไม่ได้คุยกันอีกเลยไม่ได้คุยกันมาจะ4เดือนแล้ว และล่าสุดบทสนทนายาวๆระหว่างเรากับพ่อคือ เราพาย่าไปหาหมอและค่ายาย่าเกือบ20,000บาทแต่เค้าโอนตังให้เราแค่10,000เดียวแล้วเราก็เลยบอกเค้าไปว่าตังมันไม่พอเค้าก็บอกว่าเดี๋ยวจะไปหายืมคนนู้นคนนี้สักพักเค้าบอกเดี๋ยวจะโทรไปยืมแฟนพ่อแล้วอยู่ๆพ่อก็ทักมาในไลน์ว่าขอดูใบเสร็จค่ายาหน่อย เราก็ถ่ายส่งให้ดูแล้วพ่อก็บอกสรุปทุกอย่างมาให้หน่อย คือปกติพ่อไม่เคยถามเราอะไรมากขนาดนี้เพราะค่ายา20,000แบบนี้มันเป็นปกติถ้าต้องหาหมอ2หมอ เราเลยรู้วึกว่าเหมือนเค้าคิดว่าเราอมเงินเค้าเพราะปกติเค้าไม่เคยถามหรือถามเรามากขนาดนี้มาก่อนนี้แหละค่ะตั้งแต่มีผู้หญิงคนนี้พ่อเราก็เปลี่ยนไปเลย นี้เป็นเรื่ิองคร่าวๆที่เราย่อมาแล้วนะคะ
เราทำใจไม่ได้จริงๆไม่สามารถอยู่บ้านเดียวกันกับผู้หญิงคนนี้ได้ทนเห็นพ่อกับผู้หญิงทำอะไรไม่เกรงใจเราแบบนี้ไม่ได้จริงๆ เราพยายามควบคุมสติไม่ให้ทำอะไรโดยขาดสติ เพราะเราอีกปีเดียวก็จะเรียนจบเราว่าจะออกมาจากบ้านพ่อแล้ว
อยากถามทุกคนที่เข้ามาอ่านว่าเราควรจัดการยังไงดีคะเราทนเงียบไปก็ไม่มีทีท่าว่าผู้หญิงจะหยุดกวนประสาทเราเลย เราควรจัดการยังไงดี