คือหนูเป็นเด็กที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปีนี้ค่ะแล้วตอนนี้ปิดเทอมอยู่ แต่ว่าใกล้จะเปิดแล้วค่ะ ที่บ้านมีกัน7คน แต่ตอนนี้ตาหนูผู้ป่วยติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ครึ่งซีก แล้วตอนนี้หนูเลยเป็นคนเดียวที่ช่วยดูแลตลอดทั้งวันค่ะ แม่กับลุงทำงาน แล้วก็ค่อนข้างกลับดึก ยายมีปัญหาด้านการเดินตามอายุแล้วก็เป็นคนอารมณ์แปรป่วน พี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องหนูก็ทำงานแล้วเขาก็ไม่ได้คิดจะมาช่วยเลยค่ะ ให้ช่วยพลิกคัวเขาก็รีบหนีไปทำงานก่อนไม่เคยมาช่วยดูแล ส่วนคนสุดท้ายก็ไม่คิดจะช่วยเลยค่ะ
ตอนนี้เลยมีหนูดูแลแทบจะคนเดียว ตาต้องให้อาหารทางสายยาง แล้วก็ชอบฉีกแพมเพิส พูดไม่ค่อยได้ แล้วก็ชอบดึงสายออกจากจมูกอีกด้วยค่ะ ทำให้ต้องค่อยอยู่ด้วยตลอด ไม่มีเวลาส่วนตัว ตอนนี้ดูแลมาได้เกินครึ่งเดือนแล้วค่ะ แต่ว่ารู้สึกว่าสุขภาพจิตลดลงเรื่อยๆ เครียดมากขึ้น จากปกติที่เครื่องที่เรื่องการเตรียมยื่นพอต แต่ว่าตั้งแต่ตาเป็นผู้ป่วยติดเตียงทำให้ไม่มีเวลาทำพอตเลยค่ะ เพราะว่าหนูจะยื่นเข้าคณะเกี่ยวกับศิลปะ ไม่มีเวลานั่งทำพอตเพราะว่าแค่ดูแลตาก็เหนื่อยมากแล้ว กว่าจะมีคนมาเปลี่ยนก็ดึกมากแล้วค่ะหนูทำทุกอย่างไปหมดแล้ว แล้วตอนเย็นต้องเตรียมหาข้าวให้แม่อีกค่ะ ถ้าแม่กลับมากินเสร็จก็ต้องล้างจาน แล้วรอทายาให้ บางวันก็โดนใช้ให้ดูผมเป็นชั่วโมง ซักผ้าหนูก็เป็นคนซักค่ะของทั้งแม่และหนูเอง ช่วงนี้เลยเหนื่อยมากๆ ร้องไห้ทุกวันเลยค่ะ พอตยื่นทุนของมหาลัยที่อยากจะเข้าก็ไม่ได้ยื่นไปค่ะจนจะปิดรับรอบแล้ว ก็เลยทำใจเอาไว้แล้วค่ะ แต่ก็ยังคงเครียดอยู่เพราะว่าอยากยื่นเข้าคณะนี้ ผลงานหนูค่อนข้างน้อยค่ะ แล้วก็ช่วงเปิดเทอมไม่มีเวลาทำเพราะที่โรงเรียนสั่งงานเยอะ ตอนมีงานครูก็จะให้ไปช่วย พอปิดเทอมจะทำพอตมันก็กลายเป็นแบบนี้ค่ะจนจะเปิดเทอมแล้ว ตอนนี้หนูเลยยิ่งเครียดกว่าเก่ามากขึ้น เพราะว่าถ้าเปิดเทอมมามีงานมีการบ้าน ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงเพราะทุกอย่างรัดตัวไปหมด เครียดมากค่ะแต่ก็พูดให้คนในครอบครัวฟังไม่ได้เพราะเขาบอกว่าให้เราช่วยดูแล ปกติหนูก็เป็นคนที่คิดมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะว่าที่บ้านก็บ่นเรื่องที่หนูยังหางานทำไม่ได้ ตอนนี้เลยไม่รู้จะทำยังไงดีเลยค่ะ เพราะว่าพูดให้ใครฟังไม่ได้ เลยอยากสอบถามค่ะว่าควรจัดการกับตัวเองยังไง ตอนนี้หนูคิดภาพในหัวไม่ออกเลยจริงๆ เครียดมากจนคิดว่าถ้าหายไปหรือตายไปมันคงจะดีกว่าไม่ต้องมานั่งปวดหัวอยู่เหมือนทุกวันนี้
เครียดจากการดูแลผู้ป่วยติดเตียง(อายุ17)
ตอนนี้เลยมีหนูดูแลแทบจะคนเดียว ตาต้องให้อาหารทางสายยาง แล้วก็ชอบฉีกแพมเพิส พูดไม่ค่อยได้ แล้วก็ชอบดึงสายออกจากจมูกอีกด้วยค่ะ ทำให้ต้องค่อยอยู่ด้วยตลอด ไม่มีเวลาส่วนตัว ตอนนี้ดูแลมาได้เกินครึ่งเดือนแล้วค่ะ แต่ว่ารู้สึกว่าสุขภาพจิตลดลงเรื่อยๆ เครียดมากขึ้น จากปกติที่เครื่องที่เรื่องการเตรียมยื่นพอต แต่ว่าตั้งแต่ตาเป็นผู้ป่วยติดเตียงทำให้ไม่มีเวลาทำพอตเลยค่ะ เพราะว่าหนูจะยื่นเข้าคณะเกี่ยวกับศิลปะ ไม่มีเวลานั่งทำพอตเพราะว่าแค่ดูแลตาก็เหนื่อยมากแล้ว กว่าจะมีคนมาเปลี่ยนก็ดึกมากแล้วค่ะหนูทำทุกอย่างไปหมดแล้ว แล้วตอนเย็นต้องเตรียมหาข้าวให้แม่อีกค่ะ ถ้าแม่กลับมากินเสร็จก็ต้องล้างจาน แล้วรอทายาให้ บางวันก็โดนใช้ให้ดูผมเป็นชั่วโมง ซักผ้าหนูก็เป็นคนซักค่ะของทั้งแม่และหนูเอง ช่วงนี้เลยเหนื่อยมากๆ ร้องไห้ทุกวันเลยค่ะ พอตยื่นทุนของมหาลัยที่อยากจะเข้าก็ไม่ได้ยื่นไปค่ะจนจะปิดรับรอบแล้ว ก็เลยทำใจเอาไว้แล้วค่ะ แต่ก็ยังคงเครียดอยู่เพราะว่าอยากยื่นเข้าคณะนี้ ผลงานหนูค่อนข้างน้อยค่ะ แล้วก็ช่วงเปิดเทอมไม่มีเวลาทำเพราะที่โรงเรียนสั่งงานเยอะ ตอนมีงานครูก็จะให้ไปช่วย พอปิดเทอมจะทำพอตมันก็กลายเป็นแบบนี้ค่ะจนจะเปิดเทอมแล้ว ตอนนี้หนูเลยยิ่งเครียดกว่าเก่ามากขึ้น เพราะว่าถ้าเปิดเทอมมามีงานมีการบ้าน ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงเพราะทุกอย่างรัดตัวไปหมด เครียดมากค่ะแต่ก็พูดให้คนในครอบครัวฟังไม่ได้เพราะเขาบอกว่าให้เราช่วยดูแล ปกติหนูก็เป็นคนที่คิดมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะว่าที่บ้านก็บ่นเรื่องที่หนูยังหางานทำไม่ได้ ตอนนี้เลยไม่รู้จะทำยังไงดีเลยค่ะ เพราะว่าพูดให้ใครฟังไม่ได้ เลยอยากสอบถามค่ะว่าควรจัดการกับตัวเองยังไง ตอนนี้หนูคิดภาพในหัวไม่ออกเลยจริงๆ เครียดมากจนคิดว่าถ้าหายไปหรือตายไปมันคงจะดีกว่าไม่ต้องมานั่งปวดหัวอยู่เหมือนทุกวันนี้