SETHD ย่อมาจาก SET High Dividend 30 Index เป็นดัชนีราคาหลักทรัพย์ที่สะท้อนความเคลื่อนไหวราคาของกลุ่มหลักทรัพย์หุ้นที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูง (Market Capitalization) มีสภาพคล่องสูงอย่างสม่ำเสมอ และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและต่อเนื่อง โดยเริ่มเผยแพร่อย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม 2554 เป็นต้นไป
ดัชนี SETHD ประกอบด้วยหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จำนวน 30 หลักทรัพย์ คัดเลือกโดยพิจารณาจากปัจจัยหลัก 3 ประการ ดังนี้
- มูลค่าตามราคาตลาดสูง (Market Capitalization) หมายถึง มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คำนวณจากราคาปิดของหุ้นสามัญในแต่ละวันคูณด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่จดทะเบียนและชำระแล้ว
- สภาพคล่องสูงอย่างสม่ำเสมอ (Liquidity) หมายถึง ความสามารถในการซื้อขายหลักทรัพย์ได้อย่างสะดวกรวดเร็วและง่ายดาย โดยพิจารณาจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวัน
- อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและต่อเนื่อง (Dividend Yield) หมายถึง อัตราส่วนระหว่างเงินปันผลต่อราคาหุ้นสามัญ
หุ้นสามัญที่จะเข้าคำนวณในดัชนี SETHD จะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์ที่กำหนด ดังนี้
- จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด
- มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
- มีมูลค่าตามราคาตลาดไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท
- มีสภาพคล่องการซื้อขายสูง โดยพิจารณาจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท
- มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลไม่น้อยกว่า 3%
การคัดเลือกหุ้นสามัญเข้าคำนวณในดัชนี SETHD กระทำโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยใช้เกณฑ์คัดเลือกตามปัจจัยหลัก 3 ประการข้างต้น โดยพิจารณาจากข้อมูลย้อนหลัง 1 ปี คำนวณเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยต่อปี
มูลค่าของดัชนี SETHD คำนวณโดยใช้วิธีถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization-Weighted Index) โดยคำนวณจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของหุ้นสามัญในแต่ละหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี หารด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของดัชนี
นักลงทุนสามารถใช้ดัชนี SETHD เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนในหุ้นกลุ่มปันผลสูง โดยพิจารณาจากปัจจัยหลัก 3 ประการข้างต้น ได้แก่ มูลค่าตามราคาตลาดสูง สภาพคล่องสูง และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและต่อเนื่อง
การลงทุนใน SETHD มีจุดแข็งและจุดอ่อนดังต่อไปนี้
จุดแข็ง
- มีรายได้ประจำเป็นเงินปันผล หุ้นที่อยู่ในดัชนี SETHD นั้นมีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นรายได้ประจำที่นักลงทุนจะได้รับ
- มีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในหุ้นทั่วไป หุ้นที่อยู่ในดัชนี SETHD นั้นส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดใหญ่และมั่นคง จึงมีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในหุ้นทั่วไป
- มีสภาพคล่องสูง หุ้นที่อยู่ในดัชนี SETHD นั้นมีการซื้อขายกันเป็นจำนวนมาก จึงมีสภาพคล่องสูง
จุดอ่อน
- ผลตอบแทนอาจไม่สูงเท่าการลงทุนในหุ้นทั่วไป หุ้นที่อยู่ในดัชนี SETHD นั้นมีการจ่ายเงินปันผลสูง แต่ผลตอบแทนจากส่วนต่างราคาอาจไม่สูงเท่าการลงทุนในหุ้นทั่วไป
- อาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ หุ้นที่อยู่ในดัชนี SETHD นั้นอาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ เช่น หากเศรษฐกิจชะลอตัว ความต้องการสินค้าและบริการของบริษัทอาจลดลง ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทลดลง และอาจส่งผลกระทบต่อเงินปันผลของบริษัท
โดยสรุปแล้ว การลงทุนใน SETHD เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างรายได้ประจำจากเงินปันผล และต้องการลดความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นทั่วไป อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในดัชนี SETHD อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน
ต่อไปนี้เป็นข้อควรพิจารณาเพิ่มเติมสำหรับการลงทุนใน SETHD
- กระจายความเสี่ยง ควรลงทุนในหุ้นหลายตัวที่อยู่ในดัชนี SETHD เพื่อกระจายความเสี่ยง
- ติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ควรติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในดัชนี SETHD เป็นประจำ เพื่อประเมินความสามารถในการจ่ายเงินปันผลของบริษัท
** การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน **
SETHD คืออะไร? ยังน่าสนใจอยู่ไหม?
SETHD ย่อมาจาก SET High Dividend 30 Index เป็นดัชนีราคาหลักทรัพย์ที่สะท้อนความเคลื่อนไหวราคาของกลุ่มหลักทรัพย์หุ้นที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูง (Market Capitalization) มีสภาพคล่องสูงอย่างสม่ำเสมอ และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและต่อเนื่อง โดยเริ่มเผยแพร่อย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม 2554 เป็นต้นไป
ดัชนี SETHD ประกอบด้วยหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จำนวน 30 หลักทรัพย์ คัดเลือกโดยพิจารณาจากปัจจัยหลัก 3 ประการ ดังนี้
- มูลค่าตามราคาตลาดสูง (Market Capitalization) หมายถึง มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คำนวณจากราคาปิดของหุ้นสามัญในแต่ละวันคูณด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่จดทะเบียนและชำระแล้ว
- สภาพคล่องสูงอย่างสม่ำเสมอ (Liquidity) หมายถึง ความสามารถในการซื้อขายหลักทรัพย์ได้อย่างสะดวกรวดเร็วและง่ายดาย โดยพิจารณาจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวัน
- อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและต่อเนื่อง (Dividend Yield) หมายถึง อัตราส่วนระหว่างเงินปันผลต่อราคาหุ้นสามัญ
หุ้นสามัญที่จะเข้าคำนวณในดัชนี SETHD จะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์ที่กำหนด ดังนี้
- จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด
- มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
- มีมูลค่าตามราคาตลาดไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท
- มีสภาพคล่องการซื้อขายสูง โดยพิจารณาจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท
- มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลไม่น้อยกว่า 3%
การคัดเลือกหุ้นสามัญเข้าคำนวณในดัชนี SETHD กระทำโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยใช้เกณฑ์คัดเลือกตามปัจจัยหลัก 3 ประการข้างต้น โดยพิจารณาจากข้อมูลย้อนหลัง 1 ปี คำนวณเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยต่อปี
มูลค่าของดัชนี SETHD คำนวณโดยใช้วิธีถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization-Weighted Index) โดยคำนวณจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของหุ้นสามัญในแต่ละหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี หารด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของดัชนี
นักลงทุนสามารถใช้ดัชนี SETHD เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนในหุ้นกลุ่มปันผลสูง โดยพิจารณาจากปัจจัยหลัก 3 ประการข้างต้น ได้แก่ มูลค่าตามราคาตลาดสูง สภาพคล่องสูง และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและต่อเนื่อง
การลงทุนใน SETHD มีจุดแข็งและจุดอ่อนดังต่อไปนี้
จุดแข็ง
- มีรายได้ประจำเป็นเงินปันผล หุ้นที่อยู่ในดัชนี SETHD นั้นมีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นรายได้ประจำที่นักลงทุนจะได้รับ
- มีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในหุ้นทั่วไป หุ้นที่อยู่ในดัชนี SETHD นั้นส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดใหญ่และมั่นคง จึงมีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในหุ้นทั่วไป
- มีสภาพคล่องสูง หุ้นที่อยู่ในดัชนี SETHD นั้นมีการซื้อขายกันเป็นจำนวนมาก จึงมีสภาพคล่องสูง
จุดอ่อน
- ผลตอบแทนอาจไม่สูงเท่าการลงทุนในหุ้นทั่วไป หุ้นที่อยู่ในดัชนี SETHD นั้นมีการจ่ายเงินปันผลสูง แต่ผลตอบแทนจากส่วนต่างราคาอาจไม่สูงเท่าการลงทุนในหุ้นทั่วไป
- อาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ หุ้นที่อยู่ในดัชนี SETHD นั้นอาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ เช่น หากเศรษฐกิจชะลอตัว ความต้องการสินค้าและบริการของบริษัทอาจลดลง ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทลดลง และอาจส่งผลกระทบต่อเงินปันผลของบริษัท
โดยสรุปแล้ว การลงทุนใน SETHD เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างรายได้ประจำจากเงินปันผล และต้องการลดความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นทั่วไป อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในดัชนี SETHD อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน
ต่อไปนี้เป็นข้อควรพิจารณาเพิ่มเติมสำหรับการลงทุนใน SETHD
- กระจายความเสี่ยง ควรลงทุนในหุ้นหลายตัวที่อยู่ในดัชนี SETHD เพื่อกระจายความเสี่ยง
- ติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ควรติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในดัชนี SETHD เป็นประจำ เพื่อประเมินความสามารถในการจ่ายเงินปันผลของบริษัท
** การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน **