JJNY : ระเบิดใกล้โรงพยาบาลหลายแห่งในกาซา│ฮามาสปล่อยตัวประกันเพิ่ม 2│มหากาพย์ ‘เรือดำน้ำ’ คว่ำ│ราคาน้ำมันร่วงลงกว่า 2%

ระเบิดใกล้โรงพยาบาลหลายแห่งในกาซา ด้านจำนวนตัวประกันเพิ่มเป็น 222 ราย
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/208660

มีรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดใกล้โรงพยาบาลหลายแห่งในฉนวนกาซา ขณะที่สถานการณ์ตัวประกันทั้งหมดที่ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไปนั้น ตัวเลขเพิ่มเป็น 222 คน
 
เมื่อคืนนี้ (22 ต.ค.) มีรายงานว่า อิสราเอลโจมตีใส่พื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซาหนักหน่วงขึ้น โดยมีรายงานการโจมตีทางอากาศใส่ค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลีย และใกล้กับโรงพยาบาลหลายแห่ง
 
สื่อปาเลสไตน์รายงานว่า เกิดเหตุระเบิดใกล้โรงพยาบาลหลายแห่งในฉนวนกาซา โดยโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้จุดที่เกิดเหตุระเบิดได้แก่ โรงพยาบาลอัลชีฟา (Al-Shifa) ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในกาซา โรงพยาบาลอัลกุดส์ (Al-Quds) และโรงพยาบาลอินโดนีเซีย (Indonesian Hospital)

ก่อนหน้านี้ ผู้อำนวยการด้านสื่อของสมาคมเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์เปิดเผยว่า โรงพยาบาลออัลกุดส์อยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกทิ้งระเบิดใส่ได้ทุกเมื่อ

โรงพยาบาลทั่วฉนวนกาซากำลังประสบปัญหาขาดแคลนยาและเวชภัณฑ์ แม้ว่าขบวนรถบรรทุกความช่วยเหลือ 20 คันแรกจะเข้าไปยังกาซาแล้วตั้งแต่วันเสาร์ ซึ่งความช่วยเหลือนี้ไม่มีเชื้อเพลิงรวมอยู่ด้วย
 
นพ.โมฮัมหมัด อาบู ซัลมียา (ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอัลชีฟาบอกว่า โรงพยาบาลกำลังเผชิญกับหายนะที่แท้จริง เนื่องจากน้ำมันสำหรับเครื่องปั่นไฟอาจหมดลงภายใน 48 ชั่วโมงข้างหน้า ขณะที่ความช่วยเหลือของยูเอ็นก็ยังมาไม่ถึง
 
โรงพยาบาลในกาซาต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากเครื่องปั่นไฟ  หลังจากอิสราเอลตัดไฟฟ้าที่ส่งให้กาซาตามมาตราการปิดล้อมแบบเบ็ดเสร็จ ขณะที่โรงไฟฟ้าแห่งเดียวในกาซาก็หยุดทำงานไปตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. เนื่องจากปริมาณเชื้อเพลิงไม่เพียงพอ
 
ด้านองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือยูนิเซฟ (Unicef) เตือนว่า ชีวิตทารกที่อยู่ในตู้อบ 120 คน ซึ่งรวมถึง 70 คนที่คลอดก่อนกำหนดและต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ตอนนี้ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่เชื่อมกับเครื่องปั่นไฟสำรอง ซึ่งหากเครื่องปั่นไฟเหล่านี้หยุดทำงาน ทารกที่ตลอดก่อนกำหนดก็อาจจะไม่รอด
 
ส่วนที่ค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลีย ทางตอนเหนือของกาซา เครื่องบินรบของอิสราเอลได้โจมตีใส่มัสยิดสองแห่ง ซึ่งกองทัพอิสราเอลอ้างว่าถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการโจมตีโดยนักรบปาเลสไตน์
 
ชาวปาเลสไตน์คนหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยดังกล่าวระบุว่า มัสยิดดังกล่าวรองรับคนได้ระหว่าง 2,000 ถึง 3,000 คน ในช่วงละหมาดวันศุกร์  ขณะที่รายงานข่าวระบุว่า การโจมตีเมื่อวานนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน
 
ทั้งนี้ กองทัพอิสราเอลได้เผยภาพถ่ายทางอากาศที่แสดงการทิ้งระเบิดเป้าหมายหลายแห่งในกาซา ใกล้โรงเรียน มัสยิด และอาคารของสหประชาชาติ โดยอ้างว่าเป็นจุดยิงขีปนาวุธของกลุ่มฮามาส
 
นอกจากนี้ ยังกล่าวหากลุ่มติดอาวุธฮามาสว่า ใช้พลเรือนตัวเองเป็นเครื่องมือ และจงใจยิงจรวดใส่พลเรือนอิสราเอล
 
ส่วนประเด็นที่ว่าปฏิบัติโจมตีภาคพื้นดินจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่นั้น พันโทปีเตอร์ เลอร์เนอร์ บอกว่า “กำหนดเวลาจะคำนึงถึงความพยายามที่จะปล่อยตัวประกันโดยกลุ่มฮามาส การโจมตีภาคพื้นดินจะเกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการทำปฏิบัติการ”
 
ขณะที่พันโทโจนาธาน คอนริคัส โฆษกกองทัพอิสราเอล บอกว่า “สงครามจะยุติหากกลุ่มฮามาสยอมแพ้และปล่อยตัวประกัน ซึ่งหากกลุ่มฮามาสปฏิเสธ เราก็อาจจะต้องเข้าไปและจัดการ
 
โดยในเรื่องของตัวประกันนั้น ล่าสุดอิสราเอลปรับตัวเลขจำนวนผู้ที่ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไปเพิ่มเป็น 222 คน มีทั้งชาวอิสราเอลและชาวต่างชาติ
ทั้งนี้ หนึ่งในผู้ที่ก่อนหน้านี้คาดว่าถูกจับไปเป็นตัวประกันอย่าง นอยยา ชาราบี วัยรุ่นชาวอังกฤษอายุ 16 ปีนั้น ล่าสุดมีรายงานยืนยันว่า เธอไม่ได้ถูกจับไปแต่เสียชีวิตแล้ว ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ที่ชุมชนเกษตรกรรมเบเอรีที่อยู่ห่างจากฉนวนกาซาเพียง 2 กม. พร้อมกับแม่และน้องสาวของเธอ
 
ส่วนตัวประกันไทยนั้น ครอบครัวแรงงานไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสจับไปเป็นตัวประกัน ยังคงมีความหวังให้ลูก ได้รับการปล่อยตัวกลับมาอย่างปลอดภัย กินไม่ได้นอนไม่หลับ จนเพื่อนบ้านต้องคอยมาแวะเวียนให้กำลังใจ พร้อมวอนขอทางการอิสราเอลให้เจรจาช่วยเหลือลูกชายออกมาอย่างปลอดภัย
 
ที่บ้านเกิดของนายคมกริช  ชมบัว อายุ 29 ปี ชาวต.โชกเหนือ อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแรงงานไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสจับไปเป็นตัวประกัน   มีเพื่อนบ้านแวะเวียนไปให้กำลังใจนายสุนันท์ และนางพรทิพย์  ชมบัว พ่อกับแม่ของนายคมกริช ตลอดทั้งวัน 
 
ทั้งคู่สีหน้าเคร่งเครียดและเป็นกังวล  กินไม่ได้นอนไม่หลับสลับกับร้องไห้ หลังลูกชายถูกกลุ่มฮามาสจับไปเป็นตัวประกันตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา และเป็นชุดแรกที่มีการปล่อยภาพออกมา  จนถึงวันนี้ผ่านมากว่าครึ่งเดือนแล้ว ก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้รับการปล่อยตัว 
 
ล่าสุดเจ้าหน้าที่จากกระทรวงแรงงาน จะให้ข้อมูลว่าตอนนี้ลูกชายยังปลอดภัย  ก็ทำให้พอกินข้าวได้บ้าง แต่ก็ยังไม่ไว้วางใจกับสถานการณ์ เพราะอยากเห็นภาพกับตาว่าลูกยังปลอดภัยดีมากกว่า ตอนนี้ทางครอบครัวอยากฝากไปถึงรัฐบาลอิสราเอลเร่งเจรจาช่วยเหลือตัวประกันออกมาให้เร็วที่สุด  ก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายไปกว่านี้
 
พ่อ-แม่ของนายคมกริช บอกว่าตอนนี้ เดินหน้าทำทุกวิถีทาง หาที่พึ่งทางใจ ทั้งทำบุญสวดมนต์ไหว้พระ  ทำพิธีต่อดวงชะตา  ดูดวง  ทำพิธีทางไสยศาสตร์ตามความเชื่อ  เรียกได้ว่าทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกรอดปลอดภัยกลับมา
 
ตอนนี้ก็ใจชื้นและเริ่มมีความหวัง  หลังจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีข่าวว่ากลุ่มฮามาสได้ปล่อยตัวประกัน 2 คน ก็หวังว่ารายชื่อต่อไปจะเป็นลูกชายตัวเองบ้าง



ฮามาสปล่อยตัวประกันเพิ่ม 2 คน
https://tna.mcot.net/world-1260260

24 ต.ค. – กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันเพิ่มอีก 2 คน เป็นหญิงสูงอายุชาวอิสราเอล รวมเป็น 4 คนแล้วที่ได้รับการปล่อยตัว
 
กลุ่มฮามาสเผยว่า ได้ปล่อยตัวประกันพลเรือนหญิงเพิ่มอีก 2 คนเมื่อวานนี้ เนื่องจากปัญหาสุขภาพ สนองตอบความพยายามไกล่เกลี่ยของรัฐบาลอียิปต์และกาตาร์ ตัวประกันทั้งสองคนคือ นูริต ยิตซัค และโยเชเวด ลิฟชิตซ์ หญิงสูงอายุชาวอิสราเอล ทั้ง 2 คน เดินทางจากกาซาถึงจุดผ่านแดนราฟาห์ของอียิปต์แล้ว และว่าครอบครัวของทั้งคู่ได้รับแจ้งแล้วเช่นกัน
 
ก่อนหน้านี้ กลุ่มฮามาสได้ปล่อยตัว 2 แม่ลูกชาวอเมริกัน คือจูดิธ และนาตาลี รานัน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เกือบสองสัปดาห์หลังจากกลุ่มติดอาวุธฮามาส บุกข้ามพรมแดนเข้าอิสราเอล สังหารผู้คนไป 1,400 คน และจับตัวประกันมากกว่า 200 คน เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา คาดว่าจำนวนที่แน่ชัดของตัวประกันที่ยังอยู่ในความดูแลของกลุ่มฮามาส อยู่ที่ 220 คน ในจำนวนนี้เป็นแรงงานชาวไทย 19 คน
 
ด้าน โยอาฟ กัลแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล แถลงว่า อิสราเอลกำลังเตรียมความพร้อมอย่างละเอียดสำหรับการทำสงครามในขั้นตอนต่อไป ขณะที่ทหารตรึงกำลังตามแนวพรมแดนกาซา เพื่อบุกภาคพื้นดินตามแผน หลังจากเมื่อวานนี้ อิสราเอลโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายหลายร้อยแห่งในกาซา ทั้งเป้าหมายโครงสร้างพื้นฐานของฮามาส รวมทั้งเครือข่ายอุโมงค์ลับ มีผู้เสียชีวิต 436 รายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ถือเป็นวันที่นองเลือดที่สุดของสงครามอิสราเอล-ฮามาส เพิ่มยอดผู้เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในฉนวนกาซาเป็นกว่า 5,000 ราย
 
ก่อนหน้านี้มีรายงานจากสื่ออเมริกันว่า สหรัฐพยายามที่จะให้อิสราเอลชะลอการบุกภาคพื้นดิน ด้วยความหวังว่าตัวประกันจะได้รับการปล่อยตัวเพิ่ม พร้อมกับผลักดันความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่กาซาเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอล กล่าวว่า จะไม่มีการหยุดยิง ซึ่งอิสราเอลให้คำมั่นกวาดล้างกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก เพื่อตอบโต้การโจมตีและการลักพาตัวของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา .-สำนักข่าวไทย



มหากาพย์ ‘เรือดำน้ำ’ คว่ำ U206A เยอรมนี รื้อ S26T ซื้อ ‘ฟริเกต’
https://www.matichon.co.th/politics/news_4247429

มหากาพย์ ‘เรือดำน้ำ’ คว่ำ U206A เยอรมนี รื้อ S26T ซื้อ ‘ฟริเกต’
 
ปิดฉากเกือบ 100% สำหรับ “เรือดำน้ำ S26T” ชั้นหยวนคลาส (Yuan Class) วงเงิน 13,500 ล้านบาท ของกองทัพเรือ (ทร.) ที่ติดปัญหาคาราคาซังเรื่องเครื่องยนต์ MTU 396 ของเยอรมนี ที่ไม่อนุมัติขายให้บริษัท China Shipbuilding & Offshore International Co., Ltd. (CSOC) จนกระทั่งจีนต้องเสนอเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็น CHD 620 ของจีน

ยื้อกันไปยื้อกันมานานร่วม 2 ปี จนในที่สุด “นายกฯนิด” นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีคิวบินไปร่วมการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง ครั้งที่ 3 (Belt and Road Forum for International Cooperation : BRF) และการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 17-19 ตุลาคมที่ผ่านมา
พร้อมหนีบ “บิ๊กทิน” นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปด้วย เพราะมีคิวเข้าพูดคุยกับ “หลี่ เฉียง” นายกฯจีน รวมทั้ง สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เพื่อเคลียร์ปม “เรือดำน้ำ” ให้จบในครั้งนี้
 
จนกระทั่ง “บิ๊กทิน” บินกลับมาตรวจเยี่ยม ทร.เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมเปิดเผยบทสรุปว่า 
 
ทร.ขอให้รัฐบาลพยายามให้ได้เครื่องยนต์นั้น นายกฯรับปาก ไปเจรจาก็ไม่เป็นผล จึงมาสู่แนวทางว่า ถ้าไม่สามารถที่จะให้เครื่องยนต์ตามข้อตกลงตามสเปก ทร.ขอ 2 แนวทาง
 
1. ขอเปลี่ยนรายการไม่เอาเรือดำน้ำก็ได้ แต่ขอเป็นเรือฟริเกต 3 ระบบ สามารถต่อสู้ทางอากาศ ผิวน้ำ ใต้น้ำ ส่วนราคาก็จะประมาณเรือดำน้ำ
2. ถ้าไม่ได้เรือฟริเกต ขอเป็นเรือ OPV เรือตรวจการณ์ระยะไกลทดแทน
 
ผมและรัฐบาลพิจารณาแล้วว่าขอเลือกแนวทางที่ 1 คือเรือฟริเกต ซึ่งราคาสูงกว่าเรือดำน้ำ 1,000 ล้านบาท โดยนำเงินการสร้างอู่เรือดำน้ำ ระยะที่ 3 ที่ยังไม่ทำสัญญา จะไม่กระทบงบประมาณ
 
ไม่ใช่การยกเลิกสัญญาแต่เป็นการปรับปรุง หรือเปลี่ยนเงื่อนไขใหม่ “บิ๊กทิน” ยืนยัน พร้อมระบุว่า ภายใต้สัญญาภายใต้ข้อตกลงเดิมรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เป็นข้อตกลงเดิม รัฐบาลไทยและจีน ถ้าบรรลุคือให้ระงับเรื่องเรือดำน้ำแล้วมาเขียนข้อตกลงขึ้นใหม่ว่าจะเอาเรือฟริเกต ส่วนเงินที่ไทยจ่ายไปแล้ว ไทยเสนอว่าขอให้เป็นเคลมเป็นค่าเรือฟริเกต ราว 7 พันล้านบาท เมื่อหักลบกับที่ยังไม่ได้จ่าย อีก 6,000 ล้านบาท อาจจะต้องเพิ่มอีก 1,000 ล้านบาท ส่วนราคารวมของเรือฟริเกตลำใหม่จากการศึกษาอยู่ที่ประมาณ 17,000 ล้าน…
 
ถึงแม้ “รบ.เศรษฐา” จะตัดสินใจเปลี่ยนเป็นเรื่องฟริเกตก็ตาม ยังต้องคุยกันในรายละเอียดเรื่องสัญญาอีกเยอะ จะแก้อย่างไร มีอะไรสุ่มเสี่ยงบ้าง โดยเฉพาะระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง
 
ขณะเดียวกัน คณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ทหาร) ที่มี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะประธาน เตรียมเรียก “บิ๊กดุง” พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) มาชี้แจงในวันที่ 26 ตุลาคม
 
อย่างไรก็ตาม โครงการ “เรือดำน้ำ S26T” ถึงแม้จะทำให้ ทร.ต้องฝันค้าง แต่ก็มาไกลสุดนับตั้งแต่คิดริเริ่มที่จะจัดซื้อ หากไม่นับ “เรือดำน้ำ” ยี่ห้อปลาดิบยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 ทั้ง 4 ลำแรกของไทย คือ ร.ล.มัจฉาณุ ลำที่สอง, ร.ล.วิรุณ, ร.ล.สินสมุทร, ร.ล.พลายชุมพล ในปี พ.ศ.2494
แต่ที่ ทร.คงเซ็งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูก “รัฐบาล” จากพรรคเพื่อไทยคว่ำ หรือจมเรือดำน้ำ!! ถึงแม้จะไม่ตั้งใจก็ตาม ก็ถือว่ามีการยอมรับความจำเป็นในการจัดหา “เรือดำน้ำ” แล้ว เพียงแต่มีอุปสรรคมาขัดขวางไว้…
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่