สันตะสำนักปฏิเสธการประจักษ์ของแม่พระต่อไอด้า เพียร์เดอมาน
“การประจักษ์ที่อัมสเตอร์ดัมเป็นเรื่องเท็จ จะต้องไม่มีการแสดงความเคารพนับถือ“แม่พระแห่งปวงชน” และผู้มีความเชื่อจะต้องยุติการโฆษณาชวนเชื่อทั้งหมด” นี่เป็นการประกาศของสภาหลักคำสอนแห่งความเชื่อ ที่ได้ออกจดหมายลงวันที่ 20 ก.ค. 2020 แต่เพิ่งเปิดเผยต่อสาธารณะ หลังจากการโต้เถียงกันหลายสิบปีเกี่ยวกับการประจักษ์ของพระแม่มารีย์ต่อไอด้า เพียร์เดอมาน (Ida Peerdeman) 56 ครั้ง เวลานี้ถูกปฏิเสธอย่างเป็นทางการแล้วจากทางสันตสำนัก
ตอนนี้กรณีของเพียร์เดอมาน สิ้นสุดแล้วหรือยัง? หญิงสาวชาวดัตช์🇳🇱แห่งศตวรรษที่ 20 ไอด้า เพียร์เดอมาน ที่อ้างว่าเธอได้รับการประจักษ์จากแม่พระถึง 56 ครั้ง ระหว่างปี 1945 ถึง 1959 และแม่พระประจักษ์มาในฐานะ "แม่พระแห่งนานาชาติ (Lady of All Nations)" การเปิดเผยอันลึกลับนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันจนถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2020 และตามคำร้องขอของพระคาร์ดินัล เบชารา บูทรอส ราส (Cardinal Béchara Boutros Raï, Patriarch)พระสังฆราชแห่งอันติโอคแห่งมาโรไนท์, สภาหลักคำสอนแห่งความเชื่อ Congregation for the Doctrine of the Faith (CDF) ซึ่งเดิมเรียกว่า “สันตะสำนักศักดิ์สิทธิ์(Holy Office)” ได้ชี้แจงในจดหมายถึงบรรดาพระสังฆราชถึงจุดยืนของสันตะสำนักเกี่ยวกับนิมิตของไอด้า เพียร์เดอมานดังนี้
ถึงแม้ว่าตามคำบอกเล่า , พระแม่มารีย์ประจักษ์แก่ไอด้า เพียร์มาน คล้ายกันหลายประการกับการประจักษ์ของแม่พระต่อ(นักบุญ)คัทรีน ลาบูเร (Catherine Laboure) ในปี 1830 คือมีลูกโลกอยู่ใต้พระบาทของแม่พระ , มีแสงที่ออกมาจากพระหัตถ์พุ่งลงมาเบื้องล่าง แต่อดีตเจ้าหน้าที่สันตะสำนักได้เขียนยืนยันเป็นข้อสังเกตุในปีค. ศ. 1974 ซึ่งกล่าวว่า “มีความเห็นว่าเป็นเรื่องไม่สมควรที่จะมีส่วนในการเผยแพร่ความเคารพนับถือพระนางมารีย์ในฐานะ “แม่พระแห่งปวงชน” (Our Lady of all peoples)
❓ การประจักษ์หลอก 56 ครั้ง?
ตามเรื่องราวที่รายงานโดยไอด้า เพียร์เดอมาน , หญิงสาวชาวดัตช์🇳🇱ที่เกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 1905 ที่เมืองอัลก์มาร์ (เนเธอร์แลนด์🇳🇱) พระแม่มารีย์ประจักษ์แก่เธอเป็นครั้งแรกในวันที่ 13 ตุลาคม 1917 ซึ่งตรงกับวันที่แม่พระประจักษ์ที่ฟาติมาและเกิด ”อัศจรรย์แห่งดวงอาทิตย์🌞” เวลานั้นไอด้า มีอายุ 12 ปีเธอเห็นแม่พระประจักษ์มาในระหว่างเดินทางกลับบ้านที่อัมสเตอร์ดัม เธอเล่าว่าเป็น "สตรีที่สดใสเปล่งประกายแห่งความงามอย่างยิ่ง และเธอรู้ได้ทันทีว่าเป็นพระแม่มารีย์"
การประจักษ์ครั้งต่อมา ซึ่งทำให้เกิดการประจักษ์อีกหลายครั้งตามมานั้น , เกิดในวันที่ 25 มีนาคม 1945 ซึ่งตรงกับวันแม่พระรับสาร , หลังจากนี้เธอได้รับการประจักษ์อีก 56 ครั้ง สิ้นสุดในปี 1959 หลังจากการประจักษ์ไม่กี่ครั้ง , พระแม่มารีย์ทรงบอกพระนามแก่ไอด้า เพียร์เดอมานว่า : “ฉันคือพระนางมารีย์, พระมารดาของมนุษย์ทุกคน” และตรัสว่า "พระบิดาและพระบุตรทรงส่งมาเพื่อช่วยเหลือมนุษยชาติ" เพื่อประกาศการยุติสงคราม และเพื่อเตือนโลกในเรื่องของ "ความเสื่อมถอย , ภัยพิบัติ และสงคราม" และอันตรายจาก "ภัยพิบัติครั้งที่สามของโลก"
มีการให้คำพยากรณ์มากมายเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางการเมือง , เศรษฐกิจ และสังคมที่จะเกิดในศตวรรษที่ 20 อาทิเช่น สงครามเย็น , การล่มสลายของสหภาพโซเวียต , สงครามเกาหลี , ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ , ความวุ่นวายทางการเมืองในปาเลสไตน์และตะวันออกกลาง ฯลฯ
ในช่วงต้นปี 1951 พระแม่มารีย์ได้แสดงภาพนิมิตให้ไอด้า เห็นเกี่ยวกับ สังคายนาวาติกันครั้งที่2 ซึ่งจะเกิดขึ้นในทศวรรษต่อมา จากนั้นมีการยืนยันถึงความจำเป็นในการปฏิรูปและการเปลี่ยนแปลง , การเปลี่ยนแปลงทางวินัยซึ่งรวมถึงการฝึกอบรมพระสงฆ์และนักบวช พระนางทรงมีความกังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับกรุงโรมและวาติกัน🇻🇦ที่ตกอยู่ในอันตราย ไอด้าอธิบายถึงนิมิต(ตามที่เธอเรียก) ไว้ดังนี้ :
ตอนนี้ ฉันสังเกตเห็นว่าแม่พระทรงวางพระหัตถ์ของพระนางเหนือพระสันตะปาปาและนักบุญเปโตร พระสันตะปาปาทรงประทับนั่งโดยยกนิ้วขึ้น และเหนือศีรษะของพระองค์มีตัวหน้งสือเขียนว่า "สู้" ฉันเห็นการต่อสู้มากขึ้นเรื่อยๆ ทันใดนั้นฉันเห็นทหารสวมหมวกทรงสูงยืนอยู่ด้านหลังพระสันตะปาปา พวกเขาชูสองนิ้ว นี่อาจเป็นการอ้างอิงถึงลัทธิฟรีเมซอนหรือไม่?
🧐 การโต้เถียงและการยอมรับ
ตามธรรมเนียมในพระศาสนจักรคาทอลิก การตัดสินลักษณะเหนือธรรมชาติของการประจักษ์ขึ้นอยู่กับพระสังฆราชของสังฆมณฑลซึ่งการประจักษ์นั้นได้เกิดขึ้น : ในกรณีนี้การตัดสินอยู่ในอำนาจของ สังฆมณฑลฮาร์เลม-อัมสเตอร์ดัม (Diocese of Haarlem-Amsterdam) ความยากลำบากในกรณีของเพียร์เดอมาน อยู่ที่บรรดาพระสังฆราชที่สืบต่อกันมาในสังฆมณฑลนี้จะได้ทำการตัดสินกัน
บุคคลแรกคือ Mgr Johannes Huibers บิชอปในช่วงเวลาของการประจักษ์ , ท่านได้ให้ความเห็นชอบ (nihil obat) ต่อพระนามแม่พระใหม่นี้และบทภาวนาที่เกี่ยวข้องกับการประจักษ์ อย่างไรก็ตามในวันที่ 7 พฤษภาคม 1956 หลังจากได้ตรวจสอบอย่างรอบคอบเกี่ยวกับกรณีการประจักษ์และการเปิดเผยพระนามของ "พระแม่มารีย์แห่งปวงชน" บิชอปคนเดียวกันกลับคำตัดสินของท่าน ท่านบอกว่าท่านพบว่า "ไม่มีหลักฐานของลักษณะเหนือธรรมชาติของการประจักษ์"
หลายต่อหลายครั้งในปี 1957 , 1972 และ 1974 ทางสันตะสำนัก CDF ยืนยันจุดยืนของบิชอปชาวดัตช์🇳🇱 อย่างไรก็ตามในวันที่ 31 พฤษภาคม 1996 บิชอปเฮนดริก โบเมอร์ (Hendrik Bomers) ผู้สืบทอดตำแหน่ง โดยได้รับอนุญาตจาก CDF อนุญาติให้ประชาชนเคารพพระนางพรหมจารีย์แห่งปวงชนได้ ขณะนั้นยังไม่มีคำถามเกี่ยวกับลักษณะเหนือธรรมชาติของการประจักษ์ ยังไม่มีการยืนยัน บิชอปย้ำการตัดสินใจของท่านในจดหมายลงวันที่ 3 ธันวาคม 1997
วันที่ 31 พฤษภาคม 2002 บิชอปโจเซฟ มาริอานุส ปุนต์ (Jozef Marianus Punt) พระสังฆราชคนต่อมา ได้ประกาศว่าการประจักษ์นั้นมีต้นกำเนิดที่เหนือธรรมชาติ ตั้งแต่นั้นมาก็มีคำถามว่า Bishop Punt มีอำนาจที่จะคว่ำการตัดสินของพระสังฆราชเดิมก่อนท่านหรือไม่? เนื่องจากการตัดสินก่อนหน้านี้ได้รับการยืนยันจาก CDF ในจดหมายที่ไม่ได้ตีพิมพ์ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2005 , CDF ขอให้เปลี่ยนบทภาวนาที่เกี่ยวข้องกับการประจักษ์ โดยแทนที่คำว่า "ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นมารีย์" ด้วยคำว่า "พระนางพรหมจารีย์มารีย์ผู้ทรงบุญ" ผู้สนับสนุนในเรื่องการประจักษ์จึงได้คิดเอาเองว่า CDF ยอมรับการรับรองของ Bishop Punt โดยปริยาย
❓ กรณีของเพียร์เดอมานสิ้นสุดแล้วหรือไม่?
มีคำถามจากพระคาร์ดินัลชาวเลบานอน🇱🇧ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่สันตะสำนักงานศักดิ์สิทธิ์ ท่านพูดถึงจดหมายที่ลงนามเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมว่าการตัดสินของพระศาสนจักรยังคงเป็นที่เผยแพร่โดยสังฆมณฑลอัมสเตอร์ดัม🇳🇱เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 ซึ่งกล่าวไว้ว่า – หลังจากการศึกษาอย่างดีแล้ว เห็นว่า ไอด้า เพียร์เดอมาน "ไม่รู้เรื่องลักษณะเหนือธรรมชาติของการประจักษ์เลย" นี่คือเหตุผลที่เราอ่านพบในจดหมายของวาติกันว่า ผู้มีความเชื่อควร "ยุติการโฆษณาชวนเชื่อทั้งหมดเกี่ยวกับการประจักษ์และการเปิดเผยที่อ้างว่าประทานให้โดยแม่พระแห่งปวงชนและขอให้แสดงความเคารพนับถือพระนางพรหมจารีย์มารีย์ , ราชินีแห่งจักรวาลในรูปแบบที่พระศาสนจักรรับรองและแนะนำแทน"
CR. : จิตอิสระ
📚 อ้างอิง : 1. Notification regarding the alleged apparitions and revelations of Our Lady of All Nations
https://www.vatican.va/.../rc_con_cfaith_doc_19740525...
2. Vatican's doctrinal office: Don't promote alleged apparitions connected to 'Lady of All Nations’
https://www.catholicnewsagency.com/.../vaticans-doctrinal...
3. Vatican reaffirms rejection of so-called apparitions of Our Lady of All Nations
https://aleteia.org/.../vatican-reaffirms-rejection-of.../
CR. : คริสต์ศรัทธา
https://www.facebook.com/FaithOfLord/posts/pfbid032RFqwU9a7MzgQw5yaprfgjR8Q8UpBkT2wDtBMBxiTy9JnuVAEYhqZaxyocRE65Gql
😈 Collyridianism ลัทธิที่บูชาพระแม่มารีย์เป็นพระเจ้า
ลัทธิคอลลีริเดียนนี้เป็นลัทธิหนึ่งในช่วงยุคแรกของคริสตศาสนา ซึ่งจัดว่าเป็นลัทธิที่นอกรีตตามความเชื่อของคริสตศาสนา เพราะเป็นลัทธิที่บูชาพระแม่มารีย์เป็นบูชาเป็นเทพีหรือGoddessเลยทีเดียวครับ ถือกันว่าพระตรีเอกนุภาพนั้นมีพระบิดา พระบุตร(พระเยซู)และพระแม่มารีย์ ลัทธินี้เป็นการยกย่องให้เกียรติพระแม่มารีย์มากเกินไปจนกลายเป็นลัทธิบูชารูปเคารพ บูชาพระแม่มารีย์เป็นพระเจ้าซึ่งอาจจะมาจากการที่ศาสนจักรสมัยก่อนยกย่องพระแม่มารีย์เป็นพระมารดาพระเจ้าและเป็นผู้ภาวนาวิงวอนต่อพระเจ้าที่ทรงพลัง ชาวคริสต์บางคนเลยอาจล้ำเส้น ไปบูชาพระแม่มารีย์เป็นพระเจ้าแทนไปเสียอย่างนั้น
สำหรับลัทธินี้ไม่ค่อยมีข้อมูลมากนัก ไม่ปรากฏว่าลัทธินี้มาจากใคร ใครเป็นผู้นำหรือหลักเทววิทยา พิธีกรรมก็ทราบเพียงแค่ขนมปังในพิธีกรรมของเขานั้นจะใช้เป็นเครื่องบูชาแด่พระแม่มารีย์เท่านั้น
ข้อมูลเกี่ยวกับลัทธินี้ที่พอมีอยู่ หลักๆแล้วมาจากนักบุญเอพิฟานิอุสแห่งซาลามิส(St. Epiphanius of Salamis) ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงคริสตศตวรรษที่ 4 เขาได้เขียนไว้ว่ามีผู้หญิงบางคนในแถบคาบสมุทรอาราเบีย(ในยุคก่อนอิสลาม)ได้นำเอาก้อนขนมปังมาถวายเป็นเครื่องบูชาในนามของพระแม่มารีย์ เป็นการผสานความเชื่อคริสตศาสนากับการบูชาเทพีของลัทธินอกศาสนา
แม้จะไม่สามารถสืบหาหลักฐานได้ว่าลัทธินี้ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบันหรือไม่ แต่ก็มีคริสตศาสนิกชนในปัจจุบันจัดตั้งกลุ่มบางกลุ่มขึ้นมาซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงกับแนวคิดของลัทธินี้เช่นกลุ่ม Collyridian Episcopal Ecumenical Convocation หรืออย่างกลุ่ม Community of the Lady of All Nations กลุ่มนี้ถูกวาติกันบัพพาชนียกรรมตัดขาดจากศาสนจักรโรมันคาทอลิกทั้งเรื่องที่จัดการบวชพระสงฆ์เองและหลักความเชื่อที่เชื่อกันว่าผู้ก่อตั้งกลุ่มนั้นเป็นพระแม่มารีย์ลงมาบังเกิดใหม่ในร่างของเธอ
/AdminMichael
ข้อมูลอ้างอิง:
https://www.ewtn.com/library/HOMELIBR/COLLYRID.TXT
http://taylormarshall.com/.../01/6-heresies-virgin-mary.html
http://www.catholicnewsagency.com/.../army_of_mary.../
CR. : ประวัติศาสตร์คริสตศาสนา - ทั้งตะวันตกและตะวันออก
https://www.facebook.com/HistoryofChristianitybothWestandEast/photos/a.1674135972858011/1789490204655920?type=3
วาติกันไม่รับรองการประจักษ์ที่อัมสเตอร์ดัม Don’t promote alleged apparitions connected to ‘Lady of All Nations’
สันตะสำนักปฏิเสธการประจักษ์ของแม่พระต่อไอด้า เพียร์เดอมาน
“การประจักษ์ที่อัมสเตอร์ดัมเป็นเรื่องเท็จ จะต้องไม่มีการแสดงความเคารพนับถือ“แม่พระแห่งปวงชน” และผู้มีความเชื่อจะต้องยุติการโฆษณาชวนเชื่อทั้งหมด” นี่เป็นการประกาศของสภาหลักคำสอนแห่งความเชื่อ ที่ได้ออกจดหมายลงวันที่ 20 ก.ค. 2020 แต่เพิ่งเปิดเผยต่อสาธารณะ หลังจากการโต้เถียงกันหลายสิบปีเกี่ยวกับการประจักษ์ของพระแม่มารีย์ต่อไอด้า เพียร์เดอมาน (Ida Peerdeman) 56 ครั้ง เวลานี้ถูกปฏิเสธอย่างเป็นทางการแล้วจากทางสันตสำนัก
ตอนนี้กรณีของเพียร์เดอมาน สิ้นสุดแล้วหรือยัง? หญิงสาวชาวดัตช์🇳🇱แห่งศตวรรษที่ 20 ไอด้า เพียร์เดอมาน ที่อ้างว่าเธอได้รับการประจักษ์จากแม่พระถึง 56 ครั้ง ระหว่างปี 1945 ถึง 1959 และแม่พระประจักษ์มาในฐานะ "แม่พระแห่งนานาชาติ (Lady of All Nations)" การเปิดเผยอันลึกลับนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันจนถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2020 และตามคำร้องขอของพระคาร์ดินัล เบชารา บูทรอส ราส (Cardinal Béchara Boutros Raï, Patriarch)พระสังฆราชแห่งอันติโอคแห่งมาโรไนท์, สภาหลักคำสอนแห่งความเชื่อ Congregation for the Doctrine of the Faith (CDF) ซึ่งเดิมเรียกว่า “สันตะสำนักศักดิ์สิทธิ์(Holy Office)” ได้ชี้แจงในจดหมายถึงบรรดาพระสังฆราชถึงจุดยืนของสันตะสำนักเกี่ยวกับนิมิตของไอด้า เพียร์เดอมานดังนี้
ถึงแม้ว่าตามคำบอกเล่า , พระแม่มารีย์ประจักษ์แก่ไอด้า เพียร์มาน คล้ายกันหลายประการกับการประจักษ์ของแม่พระต่อ(นักบุญ)คัทรีน ลาบูเร (Catherine Laboure) ในปี 1830 คือมีลูกโลกอยู่ใต้พระบาทของแม่พระ , มีแสงที่ออกมาจากพระหัตถ์พุ่งลงมาเบื้องล่าง แต่อดีตเจ้าหน้าที่สันตะสำนักได้เขียนยืนยันเป็นข้อสังเกตุในปีค. ศ. 1974 ซึ่งกล่าวว่า “มีความเห็นว่าเป็นเรื่องไม่สมควรที่จะมีส่วนในการเผยแพร่ความเคารพนับถือพระนางมารีย์ในฐานะ “แม่พระแห่งปวงชน” (Our Lady of all peoples)
❓ การประจักษ์หลอก 56 ครั้ง?
ตามเรื่องราวที่รายงานโดยไอด้า เพียร์เดอมาน , หญิงสาวชาวดัตช์🇳🇱ที่เกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 1905 ที่เมืองอัลก์มาร์ (เนเธอร์แลนด์🇳🇱) พระแม่มารีย์ประจักษ์แก่เธอเป็นครั้งแรกในวันที่ 13 ตุลาคม 1917 ซึ่งตรงกับวันที่แม่พระประจักษ์ที่ฟาติมาและเกิด ”อัศจรรย์แห่งดวงอาทิตย์🌞” เวลานั้นไอด้า มีอายุ 12 ปีเธอเห็นแม่พระประจักษ์มาในระหว่างเดินทางกลับบ้านที่อัมสเตอร์ดัม เธอเล่าว่าเป็น "สตรีที่สดใสเปล่งประกายแห่งความงามอย่างยิ่ง และเธอรู้ได้ทันทีว่าเป็นพระแม่มารีย์"
การประจักษ์ครั้งต่อมา ซึ่งทำให้เกิดการประจักษ์อีกหลายครั้งตามมานั้น , เกิดในวันที่ 25 มีนาคม 1945 ซึ่งตรงกับวันแม่พระรับสาร , หลังจากนี้เธอได้รับการประจักษ์อีก 56 ครั้ง สิ้นสุดในปี 1959 หลังจากการประจักษ์ไม่กี่ครั้ง , พระแม่มารีย์ทรงบอกพระนามแก่ไอด้า เพียร์เดอมานว่า : “ฉันคือพระนางมารีย์, พระมารดาของมนุษย์ทุกคน” และตรัสว่า "พระบิดาและพระบุตรทรงส่งมาเพื่อช่วยเหลือมนุษยชาติ" เพื่อประกาศการยุติสงคราม และเพื่อเตือนโลกในเรื่องของ "ความเสื่อมถอย , ภัยพิบัติ และสงคราม" และอันตรายจาก "ภัยพิบัติครั้งที่สามของโลก"
มีการให้คำพยากรณ์มากมายเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางการเมือง , เศรษฐกิจ และสังคมที่จะเกิดในศตวรรษที่ 20 อาทิเช่น สงครามเย็น , การล่มสลายของสหภาพโซเวียต , สงครามเกาหลี , ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ , ความวุ่นวายทางการเมืองในปาเลสไตน์และตะวันออกกลาง ฯลฯ
ในช่วงต้นปี 1951 พระแม่มารีย์ได้แสดงภาพนิมิตให้ไอด้า เห็นเกี่ยวกับ สังคายนาวาติกันครั้งที่2 ซึ่งจะเกิดขึ้นในทศวรรษต่อมา จากนั้นมีการยืนยันถึงความจำเป็นในการปฏิรูปและการเปลี่ยนแปลง , การเปลี่ยนแปลงทางวินัยซึ่งรวมถึงการฝึกอบรมพระสงฆ์และนักบวช พระนางทรงมีความกังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับกรุงโรมและวาติกัน🇻🇦ที่ตกอยู่ในอันตราย ไอด้าอธิบายถึงนิมิต(ตามที่เธอเรียก) ไว้ดังนี้ :
ตอนนี้ ฉันสังเกตเห็นว่าแม่พระทรงวางพระหัตถ์ของพระนางเหนือพระสันตะปาปาและนักบุญเปโตร พระสันตะปาปาทรงประทับนั่งโดยยกนิ้วขึ้น และเหนือศีรษะของพระองค์มีตัวหน้งสือเขียนว่า "สู้" ฉันเห็นการต่อสู้มากขึ้นเรื่อยๆ ทันใดนั้นฉันเห็นทหารสวมหมวกทรงสูงยืนอยู่ด้านหลังพระสันตะปาปา พวกเขาชูสองนิ้ว นี่อาจเป็นการอ้างอิงถึงลัทธิฟรีเมซอนหรือไม่?
🧐 การโต้เถียงและการยอมรับ
ตามธรรมเนียมในพระศาสนจักรคาทอลิก การตัดสินลักษณะเหนือธรรมชาติของการประจักษ์ขึ้นอยู่กับพระสังฆราชของสังฆมณฑลซึ่งการประจักษ์นั้นได้เกิดขึ้น : ในกรณีนี้การตัดสินอยู่ในอำนาจของ สังฆมณฑลฮาร์เลม-อัมสเตอร์ดัม (Diocese of Haarlem-Amsterdam) ความยากลำบากในกรณีของเพียร์เดอมาน อยู่ที่บรรดาพระสังฆราชที่สืบต่อกันมาในสังฆมณฑลนี้จะได้ทำการตัดสินกัน
บุคคลแรกคือ Mgr Johannes Huibers บิชอปในช่วงเวลาของการประจักษ์ , ท่านได้ให้ความเห็นชอบ (nihil obat) ต่อพระนามแม่พระใหม่นี้และบทภาวนาที่เกี่ยวข้องกับการประจักษ์ อย่างไรก็ตามในวันที่ 7 พฤษภาคม 1956 หลังจากได้ตรวจสอบอย่างรอบคอบเกี่ยวกับกรณีการประจักษ์และการเปิดเผยพระนามของ "พระแม่มารีย์แห่งปวงชน" บิชอปคนเดียวกันกลับคำตัดสินของท่าน ท่านบอกว่าท่านพบว่า "ไม่มีหลักฐานของลักษณะเหนือธรรมชาติของการประจักษ์"
หลายต่อหลายครั้งในปี 1957 , 1972 และ 1974 ทางสันตะสำนัก CDF ยืนยันจุดยืนของบิชอปชาวดัตช์🇳🇱 อย่างไรก็ตามในวันที่ 31 พฤษภาคม 1996 บิชอปเฮนดริก โบเมอร์ (Hendrik Bomers) ผู้สืบทอดตำแหน่ง โดยได้รับอนุญาตจาก CDF อนุญาติให้ประชาชนเคารพพระนางพรหมจารีย์แห่งปวงชนได้ ขณะนั้นยังไม่มีคำถามเกี่ยวกับลักษณะเหนือธรรมชาติของการประจักษ์ ยังไม่มีการยืนยัน บิชอปย้ำการตัดสินใจของท่านในจดหมายลงวันที่ 3 ธันวาคม 1997
วันที่ 31 พฤษภาคม 2002 บิชอปโจเซฟ มาริอานุส ปุนต์ (Jozef Marianus Punt) พระสังฆราชคนต่อมา ได้ประกาศว่าการประจักษ์นั้นมีต้นกำเนิดที่เหนือธรรมชาติ ตั้งแต่นั้นมาก็มีคำถามว่า Bishop Punt มีอำนาจที่จะคว่ำการตัดสินของพระสังฆราชเดิมก่อนท่านหรือไม่? เนื่องจากการตัดสินก่อนหน้านี้ได้รับการยืนยันจาก CDF ในจดหมายที่ไม่ได้ตีพิมพ์ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2005 , CDF ขอให้เปลี่ยนบทภาวนาที่เกี่ยวข้องกับการประจักษ์ โดยแทนที่คำว่า "ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นมารีย์" ด้วยคำว่า "พระนางพรหมจารีย์มารีย์ผู้ทรงบุญ" ผู้สนับสนุนในเรื่องการประจักษ์จึงได้คิดเอาเองว่า CDF ยอมรับการรับรองของ Bishop Punt โดยปริยาย
❓ กรณีของเพียร์เดอมานสิ้นสุดแล้วหรือไม่?
มีคำถามจากพระคาร์ดินัลชาวเลบานอน🇱🇧ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่สันตะสำนักงานศักดิ์สิทธิ์ ท่านพูดถึงจดหมายที่ลงนามเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมว่าการตัดสินของพระศาสนจักรยังคงเป็นที่เผยแพร่โดยสังฆมณฑลอัมสเตอร์ดัม🇳🇱เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 ซึ่งกล่าวไว้ว่า – หลังจากการศึกษาอย่างดีแล้ว เห็นว่า ไอด้า เพียร์เดอมาน "ไม่รู้เรื่องลักษณะเหนือธรรมชาติของการประจักษ์เลย" นี่คือเหตุผลที่เราอ่านพบในจดหมายของวาติกันว่า ผู้มีความเชื่อควร "ยุติการโฆษณาชวนเชื่อทั้งหมดเกี่ยวกับการประจักษ์และการเปิดเผยที่อ้างว่าประทานให้โดยแม่พระแห่งปวงชนและขอให้แสดงความเคารพนับถือพระนางพรหมจารีย์มารีย์ , ราชินีแห่งจักรวาลในรูปแบบที่พระศาสนจักรรับรองและแนะนำแทน"
CR. : จิตอิสระ
📚 อ้างอิง : 1. Notification regarding the alleged apparitions and revelations of Our Lady of All Nations
https://www.vatican.va/.../rc_con_cfaith_doc_19740525...
2. Vatican's doctrinal office: Don't promote alleged apparitions connected to 'Lady of All Nations’
https://www.catholicnewsagency.com/.../vaticans-doctrinal...
3. Vatican reaffirms rejection of so-called apparitions of Our Lady of All Nations
https://aleteia.org/.../vatican-reaffirms-rejection-of.../
CR. : คริสต์ศรัทธา
https://www.facebook.com/FaithOfLord/posts/pfbid032RFqwU9a7MzgQw5yaprfgjR8Q8UpBkT2wDtBMBxiTy9JnuVAEYhqZaxyocRE65Gql
😈 Collyridianism ลัทธิที่บูชาพระแม่มารีย์เป็นพระเจ้า
ลัทธิคอลลีริเดียนนี้เป็นลัทธิหนึ่งในช่วงยุคแรกของคริสตศาสนา ซึ่งจัดว่าเป็นลัทธิที่นอกรีตตามความเชื่อของคริสตศาสนา เพราะเป็นลัทธิที่บูชาพระแม่มารีย์เป็นบูชาเป็นเทพีหรือGoddessเลยทีเดียวครับ ถือกันว่าพระตรีเอกนุภาพนั้นมีพระบิดา พระบุตร(พระเยซู)และพระแม่มารีย์ ลัทธินี้เป็นการยกย่องให้เกียรติพระแม่มารีย์มากเกินไปจนกลายเป็นลัทธิบูชารูปเคารพ บูชาพระแม่มารีย์เป็นพระเจ้าซึ่งอาจจะมาจากการที่ศาสนจักรสมัยก่อนยกย่องพระแม่มารีย์เป็นพระมารดาพระเจ้าและเป็นผู้ภาวนาวิงวอนต่อพระเจ้าที่ทรงพลัง ชาวคริสต์บางคนเลยอาจล้ำเส้น ไปบูชาพระแม่มารีย์เป็นพระเจ้าแทนไปเสียอย่างนั้น
สำหรับลัทธินี้ไม่ค่อยมีข้อมูลมากนัก ไม่ปรากฏว่าลัทธินี้มาจากใคร ใครเป็นผู้นำหรือหลักเทววิทยา พิธีกรรมก็ทราบเพียงแค่ขนมปังในพิธีกรรมของเขานั้นจะใช้เป็นเครื่องบูชาแด่พระแม่มารีย์เท่านั้น
ข้อมูลเกี่ยวกับลัทธินี้ที่พอมีอยู่ หลักๆแล้วมาจากนักบุญเอพิฟานิอุสแห่งซาลามิส(St. Epiphanius of Salamis) ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงคริสตศตวรรษที่ 4 เขาได้เขียนไว้ว่ามีผู้หญิงบางคนในแถบคาบสมุทรอาราเบีย(ในยุคก่อนอิสลาม)ได้นำเอาก้อนขนมปังมาถวายเป็นเครื่องบูชาในนามของพระแม่มารีย์ เป็นการผสานความเชื่อคริสตศาสนากับการบูชาเทพีของลัทธินอกศาสนา
แม้จะไม่สามารถสืบหาหลักฐานได้ว่าลัทธินี้ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบันหรือไม่ แต่ก็มีคริสตศาสนิกชนในปัจจุบันจัดตั้งกลุ่มบางกลุ่มขึ้นมาซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงกับแนวคิดของลัทธินี้เช่นกลุ่ม Collyridian Episcopal Ecumenical Convocation หรืออย่างกลุ่ม Community of the Lady of All Nations กลุ่มนี้ถูกวาติกันบัพพาชนียกรรมตัดขาดจากศาสนจักรโรมันคาทอลิกทั้งเรื่องที่จัดการบวชพระสงฆ์เองและหลักความเชื่อที่เชื่อกันว่าผู้ก่อตั้งกลุ่มนั้นเป็นพระแม่มารีย์ลงมาบังเกิดใหม่ในร่างของเธอ
/AdminMichael
ข้อมูลอ้างอิง: https://www.ewtn.com/library/HOMELIBR/COLLYRID.TXT
http://taylormarshall.com/.../01/6-heresies-virgin-mary.html
http://www.catholicnewsagency.com/.../army_of_mary.../
CR. : ประวัติศาสตร์คริสตศาสนา - ทั้งตะวันตกและตะวันออก
https://www.facebook.com/HistoryofChristianitybothWestandEast/photos/a.1674135972858011/1789490204655920?type=3