หมดแรง ท้อ จังหวะชีวิตที่แย่มันจะดีขึ้นมั้ยนะ

กระทู้สนทนา
กระทู่นี้ อาจไม่ได้มีสาระแต่เป็นการเล่าเรื่องชีวิตของดิฉันที่ตอนนี้มันหาทางออกไม่เจอเลย

เรื่องมีอยู่ว่า...
หลังจากที่ได้แต่งงานกับสามี และได้ย้ายมาอยู่กับสามีและช่วยครอบครัวของสามีทำงาน บ้านของสามีค้าขายในตลาด ทุกวันดิฉันก็จะออกมารับจ้างแม่สามีขายของชำ จนดิฉันมีลูกคนที่2 ในขณะที่ตั้งท้องได้7เดือน มีโอกาสได้แผงหมูในตลาด แผงหมูนี้เปิดมานาน มีขาประจำแต่ด้วยเหตุผลส่วนตัวของเจ้าของแผง ทำให้ไม่สามารถออกมาขายได้ และปิดร้านไปประมาณ2เดือน ทำให้ขาที่มีไปซื้อเจ้าอื่น แล้วแผงข้างกันซึ่งเป็นพี่น้องกับแผงหมูก็ไม่อยากให้แผงหมูว้าง จึงมาบอกกับแม่ย่าฉันคนแรกว่าจะให้คนเช่าขาย แม่ย่าของฉันจึงขอกับเจ้าของแผงว่าขอให้ลูกสะใภ้ขายได้มั้ย เจ้าของแผงก็กลัวว่าฉันจะทำไม่ได้ เพราะท้องแก่มาแล้ว แต่ฉันก็ขอว่าฉันทำได้ ฉันสู้ เจ้าของแผงจึงให้และฉันก็ได้ขายหมูในแผงนั้น ใครๆก็บอกว่าฉันโชคดีได้เริ่มตั้งตัวจากการขายหมู ฉันก็ดีใจนะที่ได้รับโอกาสซึ่งมันไม่ง่ายเลย....
ฉันออกมาขายทุกวันไม่มีวันหยุด ตั้งแต่ตี5ถึง6โมงเย็น ทำคนเดียวไม่มีใครช่วย แม่สามี กับสามีจะช่วยแต่ช่วงเช้าตอนตั้งแผง ฉันเหนื่อยมาก ถึงมันจะขายไม่ดี แต่มันก็พอขายได้วันนึง7-8พัน เวลาเก็บแผงจะเหนื่อยมากเพราะต้องก้มๆเงยๆล้างถาดล้างแผง จนอาทิตย์สุดท้ายก่อนไปคลอด ฉันก็คิดว่าจะทำยังไงดี ไม่อยากให้แผงว่างเพราะลูกค้าเริ่มติดแล้ว จึงให้พี่ที่สนิทกัน(ขอเรียกชื่อสมมุติว่าพี่บี) ซึ่งเป็นลูกจ้างที่แม่ย่าจ้างมาขายของชำแทนฉัน ให้เขามาขายหมูรอ โดยตกลงกันว่าฉันจะไปคลอดและเมื่อลูกฉันแข็งแรง ฉันจะออกมาขายคืน และถ้าฉันออกมาพี่บีก็ต้องกลับไปขายของชำเหมือนเดิม ฉันจึงให้พี่เขาลงทุนขายเอากำไรเองเลย  ทุกคนก็ไม่เห็นด้วยที่ฉันให้พี่คนนี้มาขายแทน แต่ฉันเห็นว่าพี่เขาเป็นคนดี ในเวลาที่ฉันเจ็บท้อง รึทำอะไรไม่ได้ ให้พี่เขามาขายแทน มาช่วยทำนู้นนี้ ก็มีแต่พี่คนนี้คอยช่วยเหลือเสมอ


หลังจากฉันคลอดลูกเลี้ยงลูกอยู่บ้านไม่มีรายได้ แต่ค่าใช้จ่ายในบ้านฉันยังต้องรับผิดชอบทุกอย่างเหมือนเดิม จึงคิดหาทางจะทำยังไงดี เริ่มจากทำในสิ่งที่ชอบแล้วกันคือไปเรียนทำขนม ทำเค้ก หลังจากเรียนแล้ว ก็ลงทุนซื้อเตาอบ เครื่องตีแป้ง อุปกรณ์ต่างๆ ใช้สินเชื้อในแอพช็อปปี้ผ่อนเอา และเปิดรับทำเค้กตามออเดอร์แบบไม่ได้มีหน้าร้าน ช่วงแรกผลตอบรับดีมาก เค้กอร่อย ลูกค้าชอบ แต่มาพักหลังออเดอร์มาวันละ1ปอนด์ บางวันก็ไม่ได้เลย จึงไปเสนอขายส่งตามคาเฟ่ แต่ก็ไม่มีใครสนใจ  จนตอนหลัง ค่าไฟสูงมากเกินกว่ายอดขาย มองดูแล้วมันไปต่อไม่ได้ เครียดมาก สงสารลูก (ลูกกินนมเต้าล้วน)จึงประหยัดค่านมไปได้อีก

สุดท้าย ตัดสินใจออกไปหางานทำ เพราะใจยังไม่อยากออกไปขายหมู เพราะตลาดเงียบ สมัครงานที่ไหนก็ไม่มีที่ไหนรับเลย จนสุดท้ายทุกอย่างมันบีบไปหมด จนต้องตัดสินใจจะออกไปขายหมู วันนั้นเลยคุยกับพี่ที่ขายอยู่ว่าพี่บี หนูจะออกไปขายหมูแล้วนะ สิ่งที่พี่เขาตอบกลับมาคือ ไม่ได้หรอก พี่ยังหาที่ทางไม่ได้ ฉันเลยบอกว่าให้เวลาพี่1เดือน แล้วหนูจะกลับไปขาย  พี่เขาบอกไม่รู้ก็แล้วแต่เจ้าของแผงแล้วกัน. ด้วยความที่เขาขายของอยู่ข้างกันพี่คนนี้เขาไปดิวกับเจ้าของแผงขอความสงสาร  จนเจ้าของแผงบอกกับฉันและแม่ย่าว่าตลาดมันเงียบ ไม่ใช่ว่าขายดี ให้บีมันขายไปเถอะ แกก็มีแผงถ้าอยากขายก็กลับไปขายแผงแกก็ได้ ฉันกับแม่ย่าจึงคุยกันว่า ในเมื่อเจ้าของแผงเขาพูดมาแบบนี้ เรากลับมาขายแผงเราแล้วกัน
.
.
.

เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ🙏
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่