ใครเคยมีอะไรกับเพื่อนสนิทบ้าง

ก่อนอื่นเราต้องขอเกริ่นก่อนว่า เราเรียนอยู่ต่างประเทศ และเราแน่นอนว่าเราจะมีเพื่อนสนิทเป็นชาวต่างชาติส่วนใหญ่ เพราะเป็นคนไทยคนเดียวในมหาวิทยาลัยนี้ 

ประเด็นคือเรามีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เราสนิทกันมากเป็นผู้ชายผิวสีคนคองโก ในทุกวันเราจะเจอจะคุย ทักทายกัน กินข้าวโต๊ะเดียวกันทุกวัน มีอะไรจะแชร์เรื่องราวต่อกันตลอดเวลา เรียกว่าเขาเป็นคนที่ดีระดับหนึ่งเลยทีเดียวในฐานะเพื่อน

จนมีมาวันหนึ่ง เขาเริ่มปลีกตัวออกห่าง ไม่ทัก ไม่คยกับเราแบบทุกวัน เราเลยคิดว่าเขาคงเครียดเรื่อง lap project เราก็ไม่รบกวนไม่ชวนคุยอะไรมากมาย แต่ที่สังเกตคือ เขาคุยกับคนอื่นปกติ กับเราเหมือนเพิกเฉยไปเลย เป็นแบบนี้ติดต่อกัน 4-5 วันได้ จนมีวันหนึ่ง เราเลยตัดสินใจว่าจะห่างกันดู เพราะคิดว่าเขาคงอึดอัดใจในบางเรื่อง แต่ทำไมถึงไม่บอกเราตรงๆ (เราคิดว่าคงเผลอไปพูดอะไรที่กระทบด้านวัฒนธรรม) เราเลยบอกเพื่อนๆ ว่า เราไปเรียนละนะ แล้วเราก็วางถาดข้าวใส่อ่างดังปัง เพราะเราหงุดหงิดที่เพื่อนคนนี้มีอะไรแต่ไม่พูด ไม่บอกให้ชัดเจน เสร็จแล้วเราได้ยินเสียงเพื่อนคองโกคนนี้ตะโกนตามหลังตอนเราเดินออกไปว่าขอไปด้วย เดินตามออกมานะ แต่เหมือนเดิม เงียบ ไม่พูดเลยซักคำ แต่เดินตามมาจนทางแยกตึกคณะ เราไปของเรา เขาไปของเขา ไม่มีบอกลา

พอตกดึก เพื่อนคนนี้มาเคาะประตูห้องเรา และเราได้ตกลงคุยกัน เรื่องที่เกิดขึ้น แต่ปรากฏว่ายังเหมือนเดิม ไม่ได้บอกว่าเป็นอะไร แค่บอกว่านางรู้สึกแปลกๆ บอกไม่ถูกกับเรา แต่นางไม่พร้อมจะพูด เพราะเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก 

วันที่เกิดเรื่อง วันนั้นเราเครียดเรื่องเรียนมาก และหลายเรื่องที่เข้ามา ประจวบเหมาะที่เพื่อนคนเดิมนางชวนดื่ม เราก็ไปดื่มปกติ แต่รอบนี้ดื่มแค่สองคน เพราะเพื่อนคนอื่นไปเที่ยววันหยุดยาวกัน เราเลยตัดสินใจคุยกันทุกเรื่อง หลังจากเมาได้ที่แล้วเราสองคนเริ่มประเด็นคุยกัน เพื่อนเราบอกว่าชอบเรา ไม่รู้ทำไมถึงชอบ ชอบจนไม่กล้าจะทักทายหรือคุยเหมือนปกติ เราก็รับฟังและถามไปว่าชอบขนาดต้องพามาดื่มเลยใช่มั้ย หรือคิดอะไรไม่ดีอยู่เปล่า เขาบอกเปล่า แต่มันสามารถเกิดได้แต่ถ้าเราไม่ยินยอม เขาไม่ทำ จะไปส่งที่ห้องให้ เราก็เลยคุยกันไปเรื่อยๆ เราก็ระดมความทุกข์ออกมาหมด ทั้งเรื่องอดีตรักหมดเปลือก จนเขาพูดว่าจะเป็นไรมั้ยถ้าขอเป็นคนต่อไปของเรา หลังจากนั้นเราก็มีอะไรกัน 

พอเริ่มรู้สึกตัวต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำธุระ (มี lap project ต้องส่งก่อนเที่ยงคืนทั้งคู่) ก่อนไปเขาทั้งกอด และจูบหน้าผากเรา เขาบอกเราว่ารอเขาที่ห้องนี่ล่ะ เดี๋ยวเขาไปคณะแปปนึง เราก็นั่งทำงานของเราในห้องเขา จนเรารู้สึกง่วงมากเลยกลับห้องของเราไป และส่งงาน จนเผลอหลับเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ พอเช้าขึ้นมาเขาก็ส่งข้อความมาว่าเป็นไงบ้าง เมื่อคืนทำไมกลับห้องล่ะ เขาซื้อได้ทอดมาเยอะเลย แต่ไม่เห็นเราอยู่ที่ห้องแล้ว ไม่โอเคหรอ เราก็บอกเราโอเค แค่ง่วงนอนและปวดหัว เราสองคนก็ไปกินข้าวปกติกันตอนเที่ยง

หลังจากนั้นในบางวันเราอยู่ด้วยกัน แล้วเขาบอกว่าเขาตื่นขึ้นมาแล้วคิดว่าทำไรลงไป เขาเสียเพื่อนสนิทไปแล้วหรือเปล่า ทำไมเขาไม่ควบคุมตัวเอง เขาคิดเยอะมาก จนไม่รู้จะยังไง เขามองหน้าเราแล้วถามเราว่า อนาคตเราจะทำยังไงกันดี เราก็บอกว่าไม่รู้เพราะเราไม่รู้จริงๆ เขาบอกว่าเขายอมรับนะ ว่าประเทศหลายประเทศยังเหยียดคนผิวสีอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าเขารู้สึกว่าเขาด้อยตรงจุดนี้มาก แล้วเขาก็เงียบไป 

พอตกเย็นเราสองคนตัดสินใจคุยกันเรื่องความสัมพันธ์ เขาบอกเขาชอบเรามากรัก 50/50 เพราะมันเร็วเกินไป จนเขากลัวจะเสียทุกอย่างไปแม้กระทั่งเพื่อน ที่สำคัญคือเขาบอกว่าอนาคตความสัมพันธ์ของเราสองคนยังไงดี เขากังวลเรื่องความสัมพันธ์มาก เขากลัวฝั่งไทยรับไม่ได้กับคนผิวสี ส่วนฝั่ง
เขาก็มีวัฒนธรรมเช่นกัน ซึ่งบุคลิกเราเป็นคนไม่ค่อยสังคมกับใครมากถ้าเทียบกับแอฟริกาเขาชอบสังคมสูงด้วย เขาบอกถ้าคบกันอาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแน่ๆ เขามีเป้าหมายของเขา เราก็มีเป้าหมายของเรา ซึ่งแน่นอนว่าต้องแยกกันอยู่ ไหนจะเรากว่าจะจบป. เอก ก็อีกนาน ส่วนเขามีเวลาอีกสองปีก็ต้องกลับประเทศ แล้วความสัมพันธ์ระยะไกลจะยังไง 

เขาคิดแบบนี้จนเขากอดเราเอาไว้ เขาไม่ขอจูบ ไม่ขอนอนด้วยแล้ว เขาบอกขอโทษซ้ำๆ เขาบอกเราสองคนจะไม่จูบ ไม่มีอะไรกันอีก เพราะว่าไม่อยากให้เสียคนใดคนนึงไป ถ้าถามว่าเราชอบเขามั้ย เราเริ่มชอบเขามากขึ้นหลังจากอยู่ด้วยกัน เขาเป็นคนดูแลดีในระดับนึง เป็นคนที่แคร์เรา เป็นคนที่คุยกันได้ทุกเรื่อง เป็นคนที่มีทัศนคติดี ไม่ใช่คนผิวสีทั่วไปที่คนเข้าใจกันผิดๆ  เขาบอกดีใจนะที่เราไม่เหยียดเขา แต่เขาบอกไม่อยากให้คนอื่นเห็นเรากับเขาอยู่ด้วยกัน โดยเฉพาะถ้าไปไทยด้วยกัน 

เราเลยตัดสินใจจบกันแบบลดความสัมพันธ์เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ถามว่าเราเศร้ามั้ย ก็ไม่ขนาดว่าดิ่งหรือซึม แต่แค่แบบว่าเขาคือคนในอุดมคติที่เราชอบเลยล่ะ แค่เสียดายว่าในชีวิตจะเจอแบบนี้มั้ย จนเราไม่กล้าถามว่าจะกลับมาลองคุยกันเหมือนเดิมเหมือนคนรักได้หรือเปล่า  เราก็แอบมีหวังนิดๆ แต่เขาบอกรอเวลา รอดูทุกอย่าง ถ้ามันมีทางในอนาคตก็อาจจะเป็นไปได้ เขาอยากให้ลองเริ่มช้าๆ ในความสัมพันธ์จะดีกว่า  เราเห็นทุกครั้งที่นางเจอเราหลังจากจบความสัมพันธ์นี้ ทักกันปกติเหมือนเดิม แต่เราจะเห็นเขาเดินวนหน้าตึกทุกคืนทางหน้าต่างจากห้องเรา นั่งเครียดคนเดียวดึกๆ พอเราลงไปถามว่าเกิดไรขึ้น เขาบอกอย่าตามมา เขาอยากเคลียร์ตัวเองจากเรา ซึ่งเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้ว เขาบอกถ้าเห็นเราบ่อยๆ เขารู้สึกแปลกๆ ทำใจไม่ได้ ถ้าอยากเห็นเขาให้มองจากหน้าต่างพอได้มั้ย กับเวลากินข้าวกัน ถ้าเจอบ่อยเขาไม่โอเค ไหนจะบ่อยครั้งเขาเดินวนหน้าห้องแถวๆ เราอยู่ จนเพื่อนข้างห้องบอกมีอะไรหรือเปล่า เขาบอกไม่มีแล้วเดินกลับไป

เอาจริงๆ คือเราตอนนี้ก็แอบมีความหวังว่าเราสองคนจะกลับมาคุยกันนะ แต่ไม่รู้เลยว่าแนวโน้มเขาจะไปทางไหน เพราะเราก็ไม่ได้สันทัดความรักกับคนต่างชาติขนาดนั้น เพื่อนๆ คิดว่ายังไงกันคะ?

ขออภัยถ้าเรื่องยาวไปหน่อยนะคะ ปกติไม่เคยฟุ้งซ่านแบบนี้มาก่อน จนต้องตั้งกระทู้ 🙏🏻🙏🏻
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่