อิสราเอลไม่หวั่น เจอศึก 2 ด้าน “ฮามาส-ฮิซบอลเลาะห์”
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/208280
กองทัพอิสราเอลยืนยันความพร้อมรับมือการทำศึก 2 ด้าน ทั้งทางทิศใต้กวาดล้างกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา และทางทิศเหนือที่มีการโจมตีของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
ปีเตอร์ เลอร์เนอร์ โฆษกกองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอล หรือ IDF ระบุว่าอิสราเอลมีความพร้อมที่จะต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ ที่มีฐานที่มั่นในประเทศเลบานอน ควบคู่ไปกับปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา
เลอร์เนอร์ ยังเรียกร้องรัฐบาลเลบานอนควบคุมกลุ่มฮิซบอลเลาะห์อย่าให้ก่อเหตุร้ายกับประชาชนชาวอิสราเอล โดยเชื่อว่าอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ต้องการให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น
"
ตามความเข้าใจของเรา อิหร่านอยากให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นเพื่อท้าทายอิสราเอล ท้าทาย IDFและปฏิบัติการของเราในทางภาคใต้ โดยอิหร่านได้ใช้กลุ่มก่อการร้ายฮิซบอลเลาะห์ในการบรรลุเป้าหมายนี้"
เลอร์เนอร์กล่าว
เขาเสริมว่า "
ผมขอเตือนกลุ่มฮิซบอลเลาห์ให้ใช้ความระมัดระวัง ผมอยากเตือนผู้นำเลบานอนด้วยนะครับว่าท่านควรศึกษาให้ดีถึงวิธีการที่เราใช้ในการขุดรากถอนโคนกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา การกำจัดแกนนำคนแล้วคนเล่า ผู้ก่อการร้ายคนแล้วคนล่า รวมถึงสถานที่ต่างๆ และเราจะตอบโต้อย่างสาสมหากพวกเขาเหล่านั้นยังคุกคามและโจมตีอิสราเอลต่อไป"
เลอร์เนอร์บอกอีกว่า "
เรามีความพร้อม หากจำเป็นที่จะต้องสู้ศึกสองด้าน เรามีศักยภาพมากพอ เราสามารถรับมือการสู้รบอีกหลายๆด้านเช่นกัน ผมขอแนะนำเลบานอนควบคุมและป้องกันอย่าให้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์โจมตีประชาชนของเรา"
คำเตือนดังกล่าวจากกองทัพอิสราเอลมีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในบริเวณพรมแดนด้านที่ติดกับประเทศเลบานอน หลังจากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้เปิดฉากโจมตีข้ามพรมแดนเข้ามาในฝั่งอิสราเอล คู่ขนานไปกับการก่อเหตุของกลุ่มฮามาส
โดยเมื่อวานนี้ กองทัพอิสราเอลเปิดเผยว่าได้สังหารกลุ่มติดอาวุธ 4 คน จากเลบานอน ที่พยายามฝ่าแนวกั้นพรมแดน เข้ามาฝังระเบิดในฝั่งอิสราเอล
ขณะที่กลุ่มฮิซบอลเลาห์เปิดเผยว่ามีแนวร่วมถูกสังหารไป 5 คน แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มติดอาวุธที่กองทัพอิสราเอลพูดถึงหรือไม่
สำหรับการยิงปะทะกันที่พรมแดนระหว่างอิสราเอลและเลบานอน แม้จะยังจำกัดวงในรัสมี 4 กิโลเมตรของแต่ละฝั่ง และอยู่ในพื้นที่ที่แทบไม่มีประชาชนอาศัยอยู่ แต่สถานการณ์ความตึงเครียดได้เพิ่มความกังวลว่าพื้นที่นี้อาจเป็นชนวนที่นำไปสู่สงครามลุกลามทั่วภูมิภาค โดยมีประเทศอื่นๆ เข้าร่วมด้วย ทั้งสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของอิสราเอลและอิหร่าน ที่หนุนหลังกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
‘กรุณพล’ แจงส.ส.คุกคามทางเพศช้า ดึงคนนอกเพิ่มเชื่อถือ อัดเฟคนิวส์ อี่ยวยาเสพติด
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4237527
‘กรุณพล’ แจงส.ส.คุกคามทางเพศช้า เหตุดึงคนนอกเพิ่มความเชื่อถือ อัดเฟคนิวส์ อี่ยวยาเสพติด
วันที่ 18 ตุลาคม เวลา 09.45 น. ที่รัฐสภา นาย
กรุณพล เทียนสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงควาคืบหน้าในการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี ส.ส.ของพรรค ถูกกล่าวหาคุกคามทางเพศว่า ต้องให้ความยุติธรรมด้วย เนื่องจากโทษที่จะได้รับค่อนข้างสูงมาก การสืบหาข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากตัดสินผิด หรือตัดสินตามกระแสสังคม จะเท่ากับหมดอนาคตทางการเมืองตลอดชีวิต เพราะฉะนั้น กรรมการบริหารพรรคจำเป็นต้องแสวงหาข้อเท็จจริง ทั้งฝั่งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง
ส่วนการเรียกผู้ร้องเข้ามาให้ถ้อยคำค่อนข้างใช้เวลานาน เนื่องจากผู้ร้องรอเพื่อน เอกสารและหลักฐาน อีกทั้งยังต้องมีการเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนฝ่ายกรรมการวินัยซึ่งเป็น ส.ส. ที่อยู่ในคณะกรรมการนั้น ก็มีงานสภาที่ต้องทำค่อนข้างมาก และยังมีฝ่ายที่เป็นคณะกรรมการภายนอก การนัดเวลาในการมาเจอจึงไม่ตรงกัน ทำให้มีการเลื่อนนัดไปเรื่อยๆ แต่ใกล้จะเสร็จแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีการเลื่อนไปเรื่อยๆ จะทำให้กรอบเวลาถูกขยายต่อไปอีกหรือไม่ นาย
กรุณพล กล่าวว่า ขณะนี้พรรคได้ตั้งคณะทำงานพิเศษขึ้นมา เพื่อทำให้จบเรื่องนี้ได้เร็วที่สุด รวมถึงการทำให้คณะทำงานมีความน่าเชื่อกับสังคมเพิ่มขึ้น เนื่องจากกระแสสังคมค่อนข้างหนักมาก เราจึงให้บุคคลภายนอกเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อทำให้ข้อครหาหมดไปอย่างชัดเจน เพราะหากใช้เพียงคณะกรรมการในพรรคอาจทำให้เกิดการตั้งข้อสงสัยได้
เมื่อถามต่อว่า สามารถเปิดเผยรายชื่อของคณะกรรมการทั้งหมดได้หรือไม่ นาย
กรุณพล กล่าวว่า เราเพิ่งเริ่มตั้งคณะกรรมการได้เพียงสองสามวัน ยังไม่สามารถเปิดชื่อได้ เพราะหลายฝ่ายต้องการเวลาในการพิจารณาว่า จะสามารถเข้ามาร่วมงานกันได้หรือไม่ เพราะเราได้ทาบบาทบุคคลที่จะอยู่ในสัดส่วนสตรี นัดกฎหมาย สิทธิต่างๆ เข้ามา
เมื่อถามถึงกรณีบุคคลคนที่ 4 ซึ่งยังไม่ปรากฏชื่อ มีการเปิดเผยว่าอาจเข้าข่ายมีคดียาเสพติด ร่วมกับการคุกคามทางเพศด้วย นาย
กรุณพล กล่าวว่า คดียาเสพติดเป็นข่าวโคมลอย เป็นเฟคนิวส์ เพราะมีแต่คำกล่าวหาว่า ส.ส.ของก้าวไกลติดยา หากเข้าไปดูในเพจที่เป็นผู้เริ่มต้นกล่าวหา ในปี 59-60 ตนยังไม่ทราบเลยว่าเป็นใคร ตอนนั้นเรายังอยู่ในรัฐบาลของ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่เลย พรรค ก.ก.ยังไม่เกิดขึ้น ตนว่าเป็นเรื่องไร้สาระมากๆ
โดยกรณีของบุคคลที่ 4 เกิดจากการที่เมื่อพรรคก้าวไกลมีข่าว จึงมีบัตรสนเทศส่งมาที่พรรค เรายังไม่ที่ทราบว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร เพราะไม่มีการบอกตัวตนของผู้ร้อง รวมถึงไม่มีการระบุชื่อของผู้ที่ถูกร้องด้วย เราจึงขึ้นเป็นตุ๊กตาไว้ แต่โอกาสที่จะมีต่ำ ย้ำว่ากรณีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และไม่มียาเสพติดในพรรคแน่นอน
เมื่อถามถึงกรณีล่าสุดที่ถูกกล่าวหาว่ามีทีมงานของพรรคใน จ.สกลนคร ทำร้ายร่างกายผู้หญิง นาย
กรุณพล กล่าวว่า ต้องดูว่าเป็นทีมงานของ สส.หรือของพรรค และทำร้ายร่างกายในรูปแบบใด ตนคิดว่าข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏ เป็นไปได้ทั้งทะเลาะวิวาท เป็นได้ทั้งการทำร้ายร่างกายจริงๆ เป็นได้ทั้งข่าวที่ไม่มีมูล ซึ่งคงต้องใช้เวลาในการสืบสวนของเท็จจริง
นาย
กรุณพล กล่าวว่า ทุกกระแสที่พรรค ก.ก.เพลี่ยงพล้ำ จะมีคนพยายามเตะตัดขา ทำให้ความน่าเชื่อถือของพรรคน้อยลง แต่ยังคงยืนยันว่าเราชัดเจน จริงจัง ตรงไปตรงมา อะไรที่ไม่ถูกต้องหรือผิดกฏหมาย พรรค ก.ก.พร้อมที่จะนำเข้าสู่กระบวนการของกฎหมายอย่างชัดเจนและไม่มีการหมกเม็ด เพราะเราไม่มีนโยบายหรืออุดมการณ์ที่จะปกป้องคนผิดหาก ยิ่งหากคนผิดนั้นเป็นคนของพรรคก้าวไกล
เมื่อถามว่า หากไปตรวจสอบพรรคการเมืองอื่นจะถูกตั้งคำถามหรือไม่ นาย
กรุณพล กล่าวว่า จะถูกตั้งคำถามอย่างแน่นอน แต่มองว่าการตั้งคำถามนั้นก็จะต้องแยกเป็นกรณี เพราะหลายครั้งก็จะเห็นว่าหากเราตรวจสอบรัฐบาลจะมีเสียงกลับมาว่าให้ไปตรวจสอบตัวเองก่อน อย่าเอาความผิดพลาดของพรรค ก.ก.มาเป็นกรอบป้องกันการตรวจสอบความถูกต้องของรัฐบาลหรือพรรคร่วมรัฐบาล เพราะสิ่งที่เราทำนั้น ไม่ใช่ตีแล้วจะถอย ถ้าตีแล้วเรายอมรับสิ่งที่เราทำผิด แต่สิ่งที่คุณทำทุจริต พรรค ก.ก.ก็พร้อมจะตรวจสอบในฐานะฝ่ายค้านเชิงรุกอยู่แล้ว
“ส.ส.โตโต้” แฉชาวบ้านร้องตลาดนัดแฝงบ่อนพนันเขตบางนา
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_628821/
“ส.ส.โตโต้-ก้าวไกล” เปิดหลักฐาน ชาวบ้านร้องเรียน มีตลาดนัดแฝงบ่อนการพนันพื้นที่เขตบางนา โวยแจ้งหน่วยงานรัฐแล้ว แต่ไม่คืบหน้า อาจมีผู้อิทธิพลหนุนหลัง
นาย
ปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. (พระโขนง-บางนา) พรรคก้าวไกลแถลงข่าวพร้อมเปิดหลักฐานเพิ่มเติมถึงกรณีข้อเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่เขตบางนาว่า มีตลาดนัดแฝงบ่อนการพนันอยู่ในพื้นที่ สร้างความเดือดร้อน หลอกลวงประชาชน แม้ได้พยายามแจ้งไปยังหลายหน่วยงานรัฐ แต่เรื่องกลับไม่คืบหน้า พร้อมตั้งข้อสังเกตอาจมีผู้อิทธิพลหนุนหลังหรือไม่ เพราะประชาชนในพื้นที่จะทราบดีว่า ตลาดดังกล่าวจะจัดขึ้นทุกๆ เดือน ครั้งหนึ่งราว 10 วัน ซึ่งจะหมุนเวียนเปลี่ยนพื้นที่จัดไปเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะในเขตบางนา
ก่อนยืนยันว่า ตนได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังทุกสำนักในพื้นที่แล้ว โดยเริ่มจากเมื่อเดือนกรกฎาคม ขณะนั้นตลาดไปจัดที่ซอยอุดมสุข 11 ได้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานเขตบางนา แต่ได้คำตอบกลับมาว่า “
ตลาดกำลังขออนุญาตแต่ยังไม่ได้อนุญาต” ซึ่งในความเป็นจริง หากยังไม่ได้อนุญาต ตลาดจะเปิดได้อย่างไร และทราบต่อมาว่าทางสำนักงานเขต ได้ทำการเปรียบเทียบปรับไปแล้ว เป็นจำนวนเงินวันละ 500 บาท แต่ปรับจากเหตุสร้างความเดือดร้อนรำคาญเท่านั้น ไม่ใช่การปรับตามข้อกฎหมายการขออนุญาตตั้งตลาด
นาย
ปิยรัฐ เปิดเผยด้วยว่า วันที่ 7 สิงหาคม ตนยังได้ทำหนังสือไปที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เพื่อทวงถามแนวทางการจัดการ ซึ่งจนถึงวันนี้ตนยังไม่ได้หนังสือตอบกลับมาเลย ตนจึงต้องนำเรื่องนี้มาอภิปรายในสภาฯ เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งก็นึกว่าเรื่องทุกอย่างจะเบาบางลง แต่ปรากฏหลังจากนั้นวันที่ 13 ตุลาคม กลับยังมีการเปิดตลาดนี้ขึ้นอีก
ประชาชนเลยร้องเรียนเข้ามาอีกครั้ง พร้อมโดนตั้งคำถามทำตนเสียหายว่า ตนรู้เห็นด้วยหรือไม่ เพราะร้องเรียนมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ได้รับการแก้ไขเลย พร้อมยกข้อกฎหมายตั้งคำถามไปยัง กทม. ว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่ด้วยหรือไม่ อีกทั้งตลาดนี้ไม่ถูกกฎหมายอย่างแน่นอน เพราะกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เปิดร้านค้าบังหน้า ส่วนด้านในเป็นสุ้มการพนันโดยมีหน้าม้ายืนเรียกลูกค้าอยู่
ส่วน สน.บางนา หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจจะอ้างว่า ไม่พบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ก็คงเป็นเรื่องปกติ ตำรวจก็มักจะไม่เจออะไร ในสิ่งที่ตำรวจไม่อยากเจอ ก่อนเล่าย้อนไปในวันที่ได้ไปยืนปราศรัยหน้าตลาด ตนได้ติดต่อไปยังผู้กำกับตั้งแต่เวลา 19.18 น. ปรากฏเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงเวลา 20.18 น. ซึ่งใช้เวลานานมากทั้งที่ สน. อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ถึง 2 กิโลเมตร แถมไฟในตลาดยังดับอีก 2 ครั้ง ทุกอย่างในตลาดเคลียร์หมดแล้ว
ทั้งนี้ จำนวนความเสียหายหลังประชาชนร้องเรียน นาย
ปิยรัฐ ระบุ หากรวมทุกกรณีเกือบหนึ่งล้านบาท แต่จะเป็นคดีความหรือไม่ ก็แล้วแต่ทางผู้เสียจะดำเนินการ ซึ่งหลายคนก็ไม่กล้า เพราะถูกถ่ายรูป ข่มขู่ ส่วนการดำเนินการหลังจากนี้ได้คุยกับทางพรรค เบื้องต้นในวันพฤหัสบดีที่ 19 ตุลาคมนี้ จะตั้งกระทู้ถามสดไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหวังว่าจะเข้ามาตอบด้วย รวมถึงอาจนำเรื่องเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ ด้วย
ส่วนกรณีที่ นาย
ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาระบุ ให้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมได้นั้น นายปิยรัฐ กล่าวว่า ตนได้ส่งเรื่องไปที่กระทรวงมหาดไทยแล้ว ซึ่งก็ยังไม่มีความคืบหน้า แต่หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ตนไม่มีปัญหา พร้อมให้ความร่วมมือ
JJNY : อิสราเอลไม่หวั่นเจอศึก 2 ด้าน│‘กรุณพล’แจงส.ส.คุกคามทางเพศช้า│โตโต้แฉชาวบ้านร้องตลาดนัดแฝงบ่อน│สงครามช็อกอสังหา
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/208280
กองทัพอิสราเอลยืนยันความพร้อมรับมือการทำศึก 2 ด้าน ทั้งทางทิศใต้กวาดล้างกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา และทางทิศเหนือที่มีการโจมตีของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
ปีเตอร์ เลอร์เนอร์ โฆษกกองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอล หรือ IDF ระบุว่าอิสราเอลมีความพร้อมที่จะต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ ที่มีฐานที่มั่นในประเทศเลบานอน ควบคู่ไปกับปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา
เลอร์เนอร์ ยังเรียกร้องรัฐบาลเลบานอนควบคุมกลุ่มฮิซบอลเลาะห์อย่าให้ก่อเหตุร้ายกับประชาชนชาวอิสราเอล โดยเชื่อว่าอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ต้องการให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น
"ตามความเข้าใจของเรา อิหร่านอยากให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นเพื่อท้าทายอิสราเอล ท้าทาย IDFและปฏิบัติการของเราในทางภาคใต้ โดยอิหร่านได้ใช้กลุ่มก่อการร้ายฮิซบอลเลาะห์ในการบรรลุเป้าหมายนี้" เลอร์เนอร์กล่าว
เขาเสริมว่า "ผมขอเตือนกลุ่มฮิซบอลเลาห์ให้ใช้ความระมัดระวัง ผมอยากเตือนผู้นำเลบานอนด้วยนะครับว่าท่านควรศึกษาให้ดีถึงวิธีการที่เราใช้ในการขุดรากถอนโคนกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา การกำจัดแกนนำคนแล้วคนเล่า ผู้ก่อการร้ายคนแล้วคนล่า รวมถึงสถานที่ต่างๆ และเราจะตอบโต้อย่างสาสมหากพวกเขาเหล่านั้นยังคุกคามและโจมตีอิสราเอลต่อไป"
เลอร์เนอร์บอกอีกว่า "เรามีความพร้อม หากจำเป็นที่จะต้องสู้ศึกสองด้าน เรามีศักยภาพมากพอ เราสามารถรับมือการสู้รบอีกหลายๆด้านเช่นกัน ผมขอแนะนำเลบานอนควบคุมและป้องกันอย่าให้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์โจมตีประชาชนของเรา"
คำเตือนดังกล่าวจากกองทัพอิสราเอลมีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในบริเวณพรมแดนด้านที่ติดกับประเทศเลบานอน หลังจากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้เปิดฉากโจมตีข้ามพรมแดนเข้ามาในฝั่งอิสราเอล คู่ขนานไปกับการก่อเหตุของกลุ่มฮามาส
โดยเมื่อวานนี้ กองทัพอิสราเอลเปิดเผยว่าได้สังหารกลุ่มติดอาวุธ 4 คน จากเลบานอน ที่พยายามฝ่าแนวกั้นพรมแดน เข้ามาฝังระเบิดในฝั่งอิสราเอล
ขณะที่กลุ่มฮิซบอลเลาห์เปิดเผยว่ามีแนวร่วมถูกสังหารไป 5 คน แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มติดอาวุธที่กองทัพอิสราเอลพูดถึงหรือไม่
สำหรับการยิงปะทะกันที่พรมแดนระหว่างอิสราเอลและเลบานอน แม้จะยังจำกัดวงในรัสมี 4 กิโลเมตรของแต่ละฝั่ง และอยู่ในพื้นที่ที่แทบไม่มีประชาชนอาศัยอยู่ แต่สถานการณ์ความตึงเครียดได้เพิ่มความกังวลว่าพื้นที่นี้อาจเป็นชนวนที่นำไปสู่สงครามลุกลามทั่วภูมิภาค โดยมีประเทศอื่นๆ เข้าร่วมด้วย ทั้งสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของอิสราเอลและอิหร่าน ที่หนุนหลังกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
‘กรุณพล’ แจงส.ส.คุกคามทางเพศช้า ดึงคนนอกเพิ่มเชื่อถือ อัดเฟคนิวส์ อี่ยวยาเสพติด
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4237527
‘กรุณพล’ แจงส.ส.คุกคามทางเพศช้า เหตุดึงคนนอกเพิ่มความเชื่อถือ อัดเฟคนิวส์ อี่ยวยาเสพติด
วันที่ 18 ตุลาคม เวลา 09.45 น. ที่รัฐสภา นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงควาคืบหน้าในการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี ส.ส.ของพรรค ถูกกล่าวหาคุกคามทางเพศว่า ต้องให้ความยุติธรรมด้วย เนื่องจากโทษที่จะได้รับค่อนข้างสูงมาก การสืบหาข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากตัดสินผิด หรือตัดสินตามกระแสสังคม จะเท่ากับหมดอนาคตทางการเมืองตลอดชีวิต เพราะฉะนั้น กรรมการบริหารพรรคจำเป็นต้องแสวงหาข้อเท็จจริง ทั้งฝั่งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง
ส่วนการเรียกผู้ร้องเข้ามาให้ถ้อยคำค่อนข้างใช้เวลานาน เนื่องจากผู้ร้องรอเพื่อน เอกสารและหลักฐาน อีกทั้งยังต้องมีการเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนฝ่ายกรรมการวินัยซึ่งเป็น ส.ส. ที่อยู่ในคณะกรรมการนั้น ก็มีงานสภาที่ต้องทำค่อนข้างมาก และยังมีฝ่ายที่เป็นคณะกรรมการภายนอก การนัดเวลาในการมาเจอจึงไม่ตรงกัน ทำให้มีการเลื่อนนัดไปเรื่อยๆ แต่ใกล้จะเสร็จแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีการเลื่อนไปเรื่อยๆ จะทำให้กรอบเวลาถูกขยายต่อไปอีกหรือไม่ นายกรุณพล กล่าวว่า ขณะนี้พรรคได้ตั้งคณะทำงานพิเศษขึ้นมา เพื่อทำให้จบเรื่องนี้ได้เร็วที่สุด รวมถึงการทำให้คณะทำงานมีความน่าเชื่อกับสังคมเพิ่มขึ้น เนื่องจากกระแสสังคมค่อนข้างหนักมาก เราจึงให้บุคคลภายนอกเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อทำให้ข้อครหาหมดไปอย่างชัดเจน เพราะหากใช้เพียงคณะกรรมการในพรรคอาจทำให้เกิดการตั้งข้อสงสัยได้
เมื่อถามต่อว่า สามารถเปิดเผยรายชื่อของคณะกรรมการทั้งหมดได้หรือไม่ นายกรุณพล กล่าวว่า เราเพิ่งเริ่มตั้งคณะกรรมการได้เพียงสองสามวัน ยังไม่สามารถเปิดชื่อได้ เพราะหลายฝ่ายต้องการเวลาในการพิจารณาว่า จะสามารถเข้ามาร่วมงานกันได้หรือไม่ เพราะเราได้ทาบบาทบุคคลที่จะอยู่ในสัดส่วนสตรี นัดกฎหมาย สิทธิต่างๆ เข้ามา
เมื่อถามถึงกรณีบุคคลคนที่ 4 ซึ่งยังไม่ปรากฏชื่อ มีการเปิดเผยว่าอาจเข้าข่ายมีคดียาเสพติด ร่วมกับการคุกคามทางเพศด้วย นายกรุณพล กล่าวว่า คดียาเสพติดเป็นข่าวโคมลอย เป็นเฟคนิวส์ เพราะมีแต่คำกล่าวหาว่า ส.ส.ของก้าวไกลติดยา หากเข้าไปดูในเพจที่เป็นผู้เริ่มต้นกล่าวหา ในปี 59-60 ตนยังไม่ทราบเลยว่าเป็นใคร ตอนนั้นเรายังอยู่ในรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่เลย พรรค ก.ก.ยังไม่เกิดขึ้น ตนว่าเป็นเรื่องไร้สาระมากๆ
โดยกรณีของบุคคลที่ 4 เกิดจากการที่เมื่อพรรคก้าวไกลมีข่าว จึงมีบัตรสนเทศส่งมาที่พรรค เรายังไม่ที่ทราบว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร เพราะไม่มีการบอกตัวตนของผู้ร้อง รวมถึงไม่มีการระบุชื่อของผู้ที่ถูกร้องด้วย เราจึงขึ้นเป็นตุ๊กตาไว้ แต่โอกาสที่จะมีต่ำ ย้ำว่ากรณีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และไม่มียาเสพติดในพรรคแน่นอน
เมื่อถามถึงกรณีล่าสุดที่ถูกกล่าวหาว่ามีทีมงานของพรรคใน จ.สกลนคร ทำร้ายร่างกายผู้หญิง นายกรุณพล กล่าวว่า ต้องดูว่าเป็นทีมงานของ สส.หรือของพรรค และทำร้ายร่างกายในรูปแบบใด ตนคิดว่าข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏ เป็นไปได้ทั้งทะเลาะวิวาท เป็นได้ทั้งการทำร้ายร่างกายจริงๆ เป็นได้ทั้งข่าวที่ไม่มีมูล ซึ่งคงต้องใช้เวลาในการสืบสวนของเท็จจริง
นายกรุณพล กล่าวว่า ทุกกระแสที่พรรค ก.ก.เพลี่ยงพล้ำ จะมีคนพยายามเตะตัดขา ทำให้ความน่าเชื่อถือของพรรคน้อยลง แต่ยังคงยืนยันว่าเราชัดเจน จริงจัง ตรงไปตรงมา อะไรที่ไม่ถูกต้องหรือผิดกฏหมาย พรรค ก.ก.พร้อมที่จะนำเข้าสู่กระบวนการของกฎหมายอย่างชัดเจนและไม่มีการหมกเม็ด เพราะเราไม่มีนโยบายหรืออุดมการณ์ที่จะปกป้องคนผิดหาก ยิ่งหากคนผิดนั้นเป็นคนของพรรคก้าวไกล
เมื่อถามว่า หากไปตรวจสอบพรรคการเมืองอื่นจะถูกตั้งคำถามหรือไม่ นายกรุณพล กล่าวว่า จะถูกตั้งคำถามอย่างแน่นอน แต่มองว่าการตั้งคำถามนั้นก็จะต้องแยกเป็นกรณี เพราะหลายครั้งก็จะเห็นว่าหากเราตรวจสอบรัฐบาลจะมีเสียงกลับมาว่าให้ไปตรวจสอบตัวเองก่อน อย่าเอาความผิดพลาดของพรรค ก.ก.มาเป็นกรอบป้องกันการตรวจสอบความถูกต้องของรัฐบาลหรือพรรคร่วมรัฐบาล เพราะสิ่งที่เราทำนั้น ไม่ใช่ตีแล้วจะถอย ถ้าตีแล้วเรายอมรับสิ่งที่เราทำผิด แต่สิ่งที่คุณทำทุจริต พรรค ก.ก.ก็พร้อมจะตรวจสอบในฐานะฝ่ายค้านเชิงรุกอยู่แล้ว
“ส.ส.โตโต้” แฉชาวบ้านร้องตลาดนัดแฝงบ่อนพนันเขตบางนา
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_628821/
“ส.ส.โตโต้-ก้าวไกล” เปิดหลักฐาน ชาวบ้านร้องเรียน มีตลาดนัดแฝงบ่อนการพนันพื้นที่เขตบางนา โวยแจ้งหน่วยงานรัฐแล้ว แต่ไม่คืบหน้า อาจมีผู้อิทธิพลหนุนหลัง
นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. (พระโขนง-บางนา) พรรคก้าวไกลแถลงข่าวพร้อมเปิดหลักฐานเพิ่มเติมถึงกรณีข้อเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่เขตบางนาว่า มีตลาดนัดแฝงบ่อนการพนันอยู่ในพื้นที่ สร้างความเดือดร้อน หลอกลวงประชาชน แม้ได้พยายามแจ้งไปยังหลายหน่วยงานรัฐ แต่เรื่องกลับไม่คืบหน้า พร้อมตั้งข้อสังเกตอาจมีผู้อิทธิพลหนุนหลังหรือไม่ เพราะประชาชนในพื้นที่จะทราบดีว่า ตลาดดังกล่าวจะจัดขึ้นทุกๆ เดือน ครั้งหนึ่งราว 10 วัน ซึ่งจะหมุนเวียนเปลี่ยนพื้นที่จัดไปเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะในเขตบางนา
ก่อนยืนยันว่า ตนได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังทุกสำนักในพื้นที่แล้ว โดยเริ่มจากเมื่อเดือนกรกฎาคม ขณะนั้นตลาดไปจัดที่ซอยอุดมสุข 11 ได้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานเขตบางนา แต่ได้คำตอบกลับมาว่า “ตลาดกำลังขออนุญาตแต่ยังไม่ได้อนุญาต” ซึ่งในความเป็นจริง หากยังไม่ได้อนุญาต ตลาดจะเปิดได้อย่างไร และทราบต่อมาว่าทางสำนักงานเขต ได้ทำการเปรียบเทียบปรับไปแล้ว เป็นจำนวนเงินวันละ 500 บาท แต่ปรับจากเหตุสร้างความเดือดร้อนรำคาญเท่านั้น ไม่ใช่การปรับตามข้อกฎหมายการขออนุญาตตั้งตลาด
นายปิยรัฐ เปิดเผยด้วยว่า วันที่ 7 สิงหาคม ตนยังได้ทำหนังสือไปที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เพื่อทวงถามแนวทางการจัดการ ซึ่งจนถึงวันนี้ตนยังไม่ได้หนังสือตอบกลับมาเลย ตนจึงต้องนำเรื่องนี้มาอภิปรายในสภาฯ เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งก็นึกว่าเรื่องทุกอย่างจะเบาบางลง แต่ปรากฏหลังจากนั้นวันที่ 13 ตุลาคม กลับยังมีการเปิดตลาดนี้ขึ้นอีก
ประชาชนเลยร้องเรียนเข้ามาอีกครั้ง พร้อมโดนตั้งคำถามทำตนเสียหายว่า ตนรู้เห็นด้วยหรือไม่ เพราะร้องเรียนมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ได้รับการแก้ไขเลย พร้อมยกข้อกฎหมายตั้งคำถามไปยัง กทม. ว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่ด้วยหรือไม่ อีกทั้งตลาดนี้ไม่ถูกกฎหมายอย่างแน่นอน เพราะกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เปิดร้านค้าบังหน้า ส่วนด้านในเป็นสุ้มการพนันโดยมีหน้าม้ายืนเรียกลูกค้าอยู่
ส่วน สน.บางนา หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจจะอ้างว่า ไม่พบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ก็คงเป็นเรื่องปกติ ตำรวจก็มักจะไม่เจออะไร ในสิ่งที่ตำรวจไม่อยากเจอ ก่อนเล่าย้อนไปในวันที่ได้ไปยืนปราศรัยหน้าตลาด ตนได้ติดต่อไปยังผู้กำกับตั้งแต่เวลา 19.18 น. ปรากฏเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงเวลา 20.18 น. ซึ่งใช้เวลานานมากทั้งที่ สน. อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ถึง 2 กิโลเมตร แถมไฟในตลาดยังดับอีก 2 ครั้ง ทุกอย่างในตลาดเคลียร์หมดแล้ว
ทั้งนี้ จำนวนความเสียหายหลังประชาชนร้องเรียน นายปิยรัฐ ระบุ หากรวมทุกกรณีเกือบหนึ่งล้านบาท แต่จะเป็นคดีความหรือไม่ ก็แล้วแต่ทางผู้เสียจะดำเนินการ ซึ่งหลายคนก็ไม่กล้า เพราะถูกถ่ายรูป ข่มขู่ ส่วนการดำเนินการหลังจากนี้ได้คุยกับทางพรรค เบื้องต้นในวันพฤหัสบดีที่ 19 ตุลาคมนี้ จะตั้งกระทู้ถามสดไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหวังว่าจะเข้ามาตอบด้วย รวมถึงอาจนำเรื่องเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ ด้วย
ส่วนกรณีที่ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาระบุ ให้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมได้นั้น นายปิยรัฐ กล่าวว่า ตนได้ส่งเรื่องไปที่กระทรวงมหาดไทยแล้ว ซึ่งก็ยังไม่มีความคืบหน้า แต่หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ตนไม่มีปัญหา พร้อมให้ความร่วมมือ