ย้อนเหตุวุ่น! หน้าศาลอาญา ‘ศปปส.’ หวิดซัด ‘บัสบาส’ ตะโกนด่าม็อบ #ปล่อยเพื่อนเรา
https://www.matichon.co.th/politics/news_4233988
 
 
ย้อนเหตุวุ่น! หน้าศาลอาญา ศปปส.หวิดซัด บัสบาส ตะโกนด่าผู้ชุมนุมอิสระ ‘ปล่อยเพื่อนเรา’

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม สืบเนื่องการทำกิจกรรมเรียกร้องปล่อยตัวนักโทษทางการเมือง ที่หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งมี นายมงคล ถิระโคตร หรือ บัสบาส ผู้ต้องหา ม.112 ร่วมปักหลักอดอาหารเรียกร้องปล่อยผู้ต้องหาทางการเมืองที่ถูกคุมขัง โดยไม่ได้รับสิทธิการประกันตัว เป็นเวลากว่า 10 วัน
 
โดยช่วงค่ำวานนี้ (15 ต.ค.) โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ไอลอว์ (iLaw) เปิดเผยถึงเหตุชุลมุน ระหว่างกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) กับกลุ่มประชาชนอิสระ เรียกร้องปล่อยเพื่อนเรา หลังจากที่ นายมงคล เปิดเผยว่ามีคนขโมยเงินและสิ่งของ จึงปีนขึ้นไปบนป้ายศาลอาญาเพื่อเรียกร้องให้นำมาคืน ส่งผลให้กลุ่ม ศปปส.เกิดความไม่พอใจ
 
“พื้นที่หน้าศาลอาญามีคนกลุ่มเล็กๆ ไปร้องเพลงเรียกร้อง #ปล่อยเพื่อนเรา แทบทุกวัน โดยบาส มงคล จำเลย ม.112 ปักหลักอดอาหารเรียกร้องให้ปล่อยเพื่อนกว่า 10 วันแล้ว
 
บาสบอกว่าเงินและของถูกคนเอาไป เรียกร้องให้เอามาคืน จึงปีนขึ้นไปบนป้ายศาลอาญา ทำให้กลุ่ม ศปปส. ไม่พอใจและจะมาทำร้าย” ไอลอว์ ระบุ
 
โดยเวลา 18.10 น. กลุ่ม ศปปส. มาจอดรถหน้าศาลอาญา จากนั้น นายอานนท์ กลิ่นแก้ว แกนนำศปปส. พร้อมพวก สวมใส่เสื้อสีฟ้า ลงจากรถมาปาสิ่งของใส่ นายมงคล พร้อมตะโกนให้ลงมาจากป้าย ก่อนส่งเสียงโวยวายให้ตำรวจจับ นายมงคล
 
“มีทำท่าปรี่เหมือนจะเข้าไปทำร้ายคนที่อยู่บริเวณนั้น ตะคอกใส่กล้องสื่ออิสระ มีตำรวจ สน.พหลโยธิน มาคอยกั้น บอกให้ใจเย็นๆ โดยไม่ได้จับกุมใคร” ผู้สังเกตการณ์จากไอลอว์ เผย
 
นอกจากนี้ ไอลอว์ ยังเปิดเผยคลิปเหตุการณ์ช่วงเวลาประมาณ 18.20-18.25 น. เมื่อกลุ่ม ศปปส. ยืนยันให้นายมงคล ลงมาจากป้ายศาลอาญา ในขณะที่ นายโชคดี ร่มพฤกษ์ หรือ อาเล็ก กลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร ประกาศขอเก็บของ 30 นาที
 
“ชายเสื้อฟ้าก็ปรี่เข้าไปชี้หน้าจะทำร้ายอาเล็ก โดยมีตำรวจในเครื่องแบบช่วยกันรั้งตัวไว้” ไอลอว์เผย
 
ต่อมาเวลา 19.00 น. หนึ่งในผู้สังเกตการณ์จากไอลอว์ รายงานว่า นายมงคล ได้ปีนลงจากป้ายศาลอาญา ก่อนข้ามรั้วไปอยู่ในรั้วศาลอาญา ซึ่งกลุ่ม ศปปส. ตะโกนแสดงความไม่พอใจว่า นายมงคลเหยียบรูปภาพ อย่างไรก็ดี หนึ่งในผู้สังเกตการณ์เปิดเผยว่า 
 
ในความเป็นจริง นายมงคลนั่งอยู่บนป้ายศาลอาญา ซึ่งรูปนั้นอยู่บนป้าย สูงกว่าตำแหน่งที่นายมงคลนั่ง

https://twitter.com/iLawFX/status/1713521796044222567
 

---

ชัยธวัช เคลื่อนไหว หลัง ‘ปิยบุตร’ ติง ‘ก้าวไกล’ แก้ความรุนแรงทางเพศช้า ยันน้อมรับทุกคำวิจารณ์
https://www.matichon.co.th/politics/news_4233968

ชัยธวัช เคลื่อนไหว หลัง ‘ปิยบุตร’ ติง ‘ก้าวไกล’ แก้ปัญหาความรุนแรงทางเพศช้า ย้ำน้อมรับทุกคำวิจารณ์ คอยเตือนสติยังไม่ดีพอ ปลุกมีพลังเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองก้าวหน้า
 
จากกรณีที่ ส.ส.และอดีตผู้สมัครพรรคก้าวไกล (ก.ก.) หลายรายถูกกล่าวหาในประเด็นการคุกคามทางเพศ กระทั่ง นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า มีข้อเขียนถึงพรรคก้าวไกล พร้อมติงการกล่าวถึงที่น้อยและช้ามาก รวมถึงฝากข้อเสนอแนะถึง ส.ส. ผู้สมัคร ทีมงานทุกจังหวัด พนักงานพรรคด้วยนั้น

ล่าสุด คืนวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยทางเฟซบุ๊กว่า 
 
ผมขออนุญาตรวบยอดขอบคุณทุกคนที่ส่งคำอวยพรและกำลังใจมาให้ในหลายช่องทางนะครับ ต้องขออภัยอย่างสูงที่ไม่สามารถจะตอบข้อความของทุกท่านได้หมดด้วยตนเอง สิ่งไหนที่ผมและพรรคก้าวไกลยังบกพร่องอยู่ พวกเราน้อมรับทุกคำวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งต้องถือว่าเป็นเสียงที่คอยเตือนสติว่าเรายังทำได้ไม่ดีพอ
 
“สุดท้าย ผมขอให้ทุกท่านมีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง มีความหวังและพลังที่จะเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองของพวกเราให้ก้าวหน้า-ก้าวไกลไปด้วยกันครับ” นายชัยธวัชระบุ
 
https://www.facebook.com/ChaithawatTulathon/posts/pfbid02CHJ9d9bKnRKDdcxZhrmjZeSsVjPm1Ev2mj9dKr5tvEmEMD7k786p6HP5tfMHuqAwl
 

---

“โตโต้” หวั่นคนมีสีเอี่ยวตลาดนัดเถื่อน หลังแจ้ง 3 หน่วยงานรัฐไม่คืบ ลั่นวันนี้ชี้ชะตา
https://www.matichon.co.th/politics/news_4233833

“โตโต้” หวั่นคนมีสีเอี่ยวตลาดนัดเถื่อน หลังแจ้ง 3 หน่วยงานรัฐไม่คืบ ลั่นวันนี้ชี้ชะตา
 
เมื่วันที่ 16 ตุลาคมนายปิยรัฐ จงเทพ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล เปิดเผยถึงกรณีได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่ามีตลาดนัดแฝงบ่อนการพนันอยู่ในพื้นที่ สร้างความเดือดร้อน หลอกลวงประชาชน แม้ได้พยายามแจ้งไปยังหลายหน่วยงานรัฐ แต่เรื่องกลับไม่คืบหน้า
 
นายปิยรัฐ กล่าวว่า ตนเคยพูดและตั้งคำถามในสภาฯ เมื่อปลายเดือนกันยายน เรื่องการจัดให้มีตลาดนัดที่แฝงด้วยกิจกรรมการละเล่นที่มีการพนัน หลอกล่อโดยใช้หน้าม้ามาหว่านล้อมให้ประชาชนเล่นแล้วเสียเงิน หลายคนสูญเสียหลักแสนบาท กลายเป็นหนี้สิน แต่สุดท้ายเรื่องไม่มีความคืบหน้า ตลาดนัดแบบนี้ยังกลับมาเปิดอีก โดยลักษณะของตลาด จะเปิดเป็นประจำ 10 วันต่อเดือน อาศัยวันสำคัญๆ เช่นเดือนส.ค. อ้างวันแม่แห่งชาติ เดือนต.ค.อ้างวันนวมินทรมหาราช ไปสิ้นสุดในวันปิยมหาราช 23 ต.ค.

ก่อนหน้าที่จะพูดในสภาฯ ได้เคยแจ้งเรื่องนี้ต่อหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องมาแล้ว 3 แห่ง ได้แก่
(1) สถานีตำรวจนครบาลบางนา ในฐานะสถานีตำรวจในพื้นที่
(2) สำนักงานเขตบางนา ในฐานะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นผู้ออกใบอนุญาตให้มีการตั้งตลาดนัด จึงได้ทราบว่าเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไม่ได้มีการออกใบอนุญาต แต่ออกเพียงใบเปรียบเทียบปรับแค่วันละ 500 บาท ปรับแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่ไม่ดำเนินการลงโทษมากกว่านี้
(3) ศูนย์ดำรงธรรม ทำเรื่องไปแต่ไม่มีการตอบรับกลับมา ทำให้ในที่สุดต้องไปตั้งคำถามในสภาฯ
 
จึงเป็นสาเหตุที่เมื่อวานนี้ (15 ต.ค.) ตนต้องไปตั้งโต๊ะด้านหน้าตลาด เพื่อประกาศเตือนประชาชนที่จะเข้าไปใช้พื้นที่ตลาด ให้ระมัดระวังการเข้าไปร่วมการละเล่นดังกล่าว รวมถึงได้พาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนไปแจ้งความแล้วด้วย
 
“คิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของคนไม่กี่คน แต่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล มีอำนาจ คนมีสี” นายปิยรัฐกล่าว
 
นายปิยรัฐ กล่าวอีกว่า ตลาดนัดที่ตนพูดถึงนี้ คนที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าและคนจัด ไม่ได้เป็นคนในพื้นที่ แต่มาสร้างปัญหาในพื้นที่ ทำให้เกิดผลกระทบหลายด้าน เช่น เสียงรบกวน เพราะบางนา-พระโขนง ไม่ใช่เขตชานเมืองเหมือนในอดีต ปัจจุบันมีคอนโด หมู่บ้านจัดสรร เกิดขึ้นจำนวนมาก รวมถึงปัญหาการจราจรที่ไม่มีที่จอดรถ เลยจอดกันริมถนน ปัญหาขยะและน้ำเสียจากตลาด ที่ไม่มีการบำบัด ทำให้เป็นมลพิษ รวมถึงปัญหาการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม
 
จึงต้องตั้งคำถามถึงสำนักงานเขตบางนา ที่อ้างว่าไม่มีใบอนุญาตเลยต้องเปรียบเทียบปรับ ทั้งที่จริงๆ อำนาจในทางปกครองของเจ้าหน้าที่ ไม่ได้มีแค่การเปรียบเทียบปรับ แต่จะไม่อนุญาตให้ตั้งตลาดนัดเลยก็ยังได้

ทั้งนี้ ปัญหาตลาดที่ไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้อง เกิดขึ้นหลายเขตในกทม. หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป อาจเกิดเหตุการณ์คล้ายที่เขตประเวศซึ่งเคยเป็นข่าวดัง เมื่อมีตลาดที่เกิดขึ้นโดยไม่ถูกต้อง มีรถไปจอดขวางประตูหน้าบ้านของประชาชน ทำให้มีการเอาขวานมาจามรถจนเป็นประเด็น ต้องปิดตลาดนั้นในภายหลัง
 
นายปิยรัฐกล่าวว่า ดังนั้นวันนี้จะเป็นวันชี้ชะตา ว่าเสียงของตนจะดังไปถึงเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมากน้อยแค่ไหน ข้อแรก ตลาดนัดนี้จะยังมีอยู่หรือไม่ ข้อสอง ถ้าตลาดนัดยังมีอยู่ จะมีกิจกรรมแอบแฝงที่เป็นการพนันอีกหรือไม่