เราอายุ17คะเราเติบโตมาในครอบครัวที่เรียกได้ว่าค่อนค้างดีเลยแหละตอนเด็กแม่เราต้องไปคุยธุรกิจกับพ่อค่อนข้างบ่อยยายเลยเอาเราไปเลี้ยงยายแถวๆชานเมืองพอเข้าโรงเรียนประถมก็ไปอยู่กับย่าและพ่อแม่ช่วงเวลานี้คือ ทำให้หนูแทบเกลียดความทรงจำนี้ที่สุด ย่า หนูทำเหมือนหนูเป็นที่ระบายอารมณ์เวลาเจออะไรมาก็ระบายให้หนูฟังนานาศัพท์ซึ่งคำพูดที่แกพูดออกมา มันเป็นคำเชิงลบซะส่วนใหญ่เช่น นี้มันโง่ โง่ทั้งครอบครัว พ่อแม่มันไม่ได้เรื่อง
เป็นแบบบนี้เกือบจะทุกวันยกเว้นเเต่ เขาจะไม่อยู่บ้านแล้วหนูก็ทนฟังมาทุกวัน บางทีหนูก็ไม่ไหวขึ้นมานอนในห้องเเกก็ซํ้าเติมหนูอีกว่าพอกุพูดแล้วเดินหนียายมันเลี้ยงมาเเบบนี้ไงถึงไม่มีมารยาท จนตอนนี้หนูอายุ17ก็ยังเป็นแบบบนี้อยู่ วันนี้หนูทนไม่ไหวกับคำพูดนั้น เหตุเกิดจาก หนูไม่ไปดูกิจการในร้านเพราะเห็นว่ามีลูกน้องอยู่แล้ว2-3คน ร้านมี3สาขาซึ่งมีคนคอยคุมอยู่ตลอดหนูอายุแค่16-17ก็ยังทำอะไรไม่ได้มากอยู่แล้ว ย่าหนูก็ด่าเลย ว่า ทำไมมันโง่อย่างนี้ อนาคตจะเอาอะไรเเดก เลี้ยงยังไงให้เป็นควาย มันด่ามากกว่านี้อีกคะ จนหนูทนไม่ไหวก็เลยด่ากลับไปเป็นชุดเหมือนกัน ทนมานานแล้ววเหมือนกันคะจนมันทนไม่ไหว ปกติหนูไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็นจนครั้งนี้มันสุดแล้วจริงๆแต่ย่าหนูก็ยังไม่มีทีท่าจะเสียใจเลย ควรทำยังไงดีคะกับครอบครัวแบบนี้
ทุกคนเคยมีคำพูดฝังใจไหมคะ
เป็นแบบบนี้เกือบจะทุกวันยกเว้นเเต่ เขาจะไม่อยู่บ้านแล้วหนูก็ทนฟังมาทุกวัน บางทีหนูก็ไม่ไหวขึ้นมานอนในห้องเเกก็ซํ้าเติมหนูอีกว่าพอกุพูดแล้วเดินหนียายมันเลี้ยงมาเเบบนี้ไงถึงไม่มีมารยาท จนตอนนี้หนูอายุ17ก็ยังเป็นแบบบนี้อยู่ วันนี้หนูทนไม่ไหวกับคำพูดนั้น เหตุเกิดจาก หนูไม่ไปดูกิจการในร้านเพราะเห็นว่ามีลูกน้องอยู่แล้ว2-3คน ร้านมี3สาขาซึ่งมีคนคอยคุมอยู่ตลอดหนูอายุแค่16-17ก็ยังทำอะไรไม่ได้มากอยู่แล้ว ย่าหนูก็ด่าเลย ว่า ทำไมมันโง่อย่างนี้ อนาคตจะเอาอะไรเเดก เลี้ยงยังไงให้เป็นควาย มันด่ามากกว่านี้อีกคะ จนหนูทนไม่ไหวก็เลยด่ากลับไปเป็นชุดเหมือนกัน ทนมานานแล้ววเหมือนกันคะจนมันทนไม่ไหว ปกติหนูไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็นจนครั้งนี้มันสุดแล้วจริงๆแต่ย่าหนูก็ยังไม่มีทีท่าจะเสียใจเลย ควรทำยังไงดีคะกับครอบครัวแบบนี้