สวัสดีครับ เมื่อเดือนตุลาคม เดือนแห่งเทศกาล Halloween กับ ศุกร์ 13 วันศุกร์ที่บางคนอาจจะเชื่อว่ามีอาถรรพ์มาบรรจบกัน เป็นโอกาสเหมาะที่จะขุดเอา "หนังผี ปีศาจ" มารวมกันเล่นๆ โดยหนังที่เกี่ยวกับปีศาจจะไม่รวมพวกสัตว์ประหลาด สิ่งนอกโลกนะครับ มาดูกันว่า "สิบหนังผีในดวงใจ" ของผมมีเรื่องอะไรบ้าง
The Exorcist (1973) แน่นอนว่าเรื่องแรกคงเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้ เรื่องนี้ฉายก่อนผมจะเกิดเสียอีกกว่าจะได้ดูเรื่องนี้ก็ผ่านไปหลายปี ถ้าจำไม่ผิดผมดูเรื่องนี้ในรูปแบบวีดีโอ หนังโดยรวมว่าด้วยการไล่ผีเป็นหลัก แทบไม่มีฉาก jump scare ไม่มีเสียงดนตรีโฉ่งฉ่างแบบหนังผีสมัยใหม่ ถ้าดูหนังผีสมัยใหม่เยอะๆแล้วกลับไปดูเรื่องนี้อาจจะรู้สึกว่าไม่ได้น่ากลัวอะไร เพราะมันไม่มีความสมจริงเอาซะเลย ก็แหงล่ะ เอฟเฟคแบบยุค 70 จะมาสู้สมัยนี้ได้ยังไง
ความเจ๋งของหนังเรื่องนี้สำหรับผมคือปีศาจที่เข้า Regan นางเอก มันช่างเกลียดหลวงพ่อ เย้ยหยัน ต่ำทรามได้แบบสุดๆ หลายฉากยังเป็นฉากโปรดของผมจนทุกวันนี้เช่น ฉาก Regan แทงอวัยวะเพศตัวเองด้วยไม้กางเขน(ไม่เคยเห็นผีหรือปีศาจในหนังเรื่องอื่นทำแบบนี้) ฉากเดินสะพานโค้งลงบันไดที่ฝรั่งเรียกว่า "Spider Walk" และแน่นอนว่าฉากหมุนหัวกลับมาด้านหลัง หมุนสองครั้งด้วยถ้าจำไม่ผิดหมุนให้แม่ดูครั้งหนึ่ง แล้วก็หมุนให้พระดูอีกครั้งหนึ่ง
The Exorcist เปิดโลกหนังผีของผมเลยตอนที่ดูครั้งแรก เมื่อก่อนผมไม่ชอบดูหนังผี กว่าจะดูเรื่องนี้จบก็ดูบ้างทิ้งบ้างไปหลายรอบเท่าที่จำได้ผมดูหนังเรื่องนี้เป็นหลักเดือนเลยครับกว่าจะดูจนจบ หนัง 120 นาทีดูได้เป็นเดือนคุ้มจะตาย
Hellraiser (1987) เรื่องนี้ผมดูในรูปแบบวีดีโออีกเหมือนกันและกว่าจะดูจบก็หลักเดือนอีกเหมือนกัน ความต่างของเรื่องนี้กับ The Exorcist คือ Hellraiser แหวะกว่าเยอะ เป็นหนังประเภทสยองขวัญ ชวนให้คลื่นไส้ ฉากแรกก็ฉีกหนังฉีกเนื้อกันแล้ว เนื้อเรื่องสำหรับเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย แค่ใครเก็บกล่องสี่เหลี่ยมมีลายแปลกๆได้แล้วถูไปถูมาแล้วกันทำให้กลไกของมันทำงานได้ คนนั้นจะถูกลากลงนรก...แค่นี้เลย
ความเจ๋งของหนังเรื่องนี้อยู่ที่เหล่า Cenobites ซึ่งมีหลายตนและหัวหน้าของกลุ่มมีชื่อเล่นว่า "Pinhead" ซึ่งในหนังปีศาจตนนี้ไม่มีชื่อเรียกแต่คนดูเรียกกันว่า "หัวตะปู" หรือ Pinhead จนกลายเป็นสัญลักษณ์ เหล่า Cenobites แต่ละตนมีลักษณะแตกต่างกันไปตามความดิบเถื่อนในจิตใจตอนเป็นมนุษย์ แต่ทั้งหมดมาในชุดหนังสีดำ และการเปิดอวัยวะตรงนั้นตรงนี้ บางตนเจ๋งดีอย่าง Pinhead, Chatter แต่บางตนก็ "คิดได้ไง" อย่าง Dreamer ในภาค 3 ที่เป็นผู้หญิง หน้าโดนเกี่ยวดึงยืดออก คอถูกเปิดแล้วมีบุหรี่ปักอยู่ตรงกลาง...อะไรเนี๊ยะ
เท่ป่ะล่ะ...ยืนรวมกันอย่างกับชาวร๊อค Hellraiser เปิดโลกอีกด้านของหนังผีปีศาจสำหรับผม ตอนดูทำใจรับไม่ค่อยได้ครับมันแหวะมากๆ แต่พอกลับมาดูตอนหลังและได้ดูเบื้องหลัง แนวความคิดและการทำเอฟเฟคของปีศาจแต่ละตัวแล้วก็ทึ่งในความสามารถของศิลปินสมัยนั้น(และความอดทนของนักแสดงที่ต้องแต่งเป็น Cenobites)
The Conjuring (2013) กว่าจะถึง The Conjuring ผมก็ผ่านการดูหนังผีปีศาจมาแล้วไม่น้อยเช่น Casper, Ghost Buster นั่นทำให้ภูมิต้านทานความน่ากลัวของหนังผีของผมดีขึ้น แต่ The Conjuring ก็ทำให้ผมสะดุ้งและแอบเบือนหน้าหนีอยู่หลายฉาก และหนังเรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมชื่นชอบฝีมือการทำหนังผีของ Jams Wan และตามดูหนังของเขาแทบทุกเรื่อง
เรื่องราวในหนังไม่ซับซ้อน ครอบรัวหนึ่งย้ายมาอยู่บ้านใหม่แล้วก็เริ่มเกิดเรื่องแปลกๆในบ้าน จากนั้นก็เริ่มเกิดเรื่องแปลกๆกับคนที่มาอยู่และแรงขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายความรักของแม่ชนะทุกสิ่ง(แต่แม่น่วมใช้ได้)
ผมชอบหนังเรื่องนี้ตรงลูกเล่นของการหลอกของปีศาจในเรื่องและจังหวะการ Jump Scare ของหนังที่บางทีนึกว่าจะจั๊มพ์ก็ไม่จั๊มพ์ พอไม่คิดว่าจะจั๊มพ์ก็จัมพ์ซะอย่างนั้น ฉากโปรดของผมเช่นฉากการเล่นซ่อนหาปรบมือ ฉากรอเร็นตกไปชั้นใต้ดินแล้วมีขาห้อยลงมา และฉากที่ผมชอบมากๆคือฉากผ้าปลิวจากราวตากผ้าไปชั้น 2 มันง่ายแต่ไม่รู้สิ...เจ๋งดี
The Conjuring 2 (2016) ตามเรื่องตะกี้มาติดๆ เป็นหนังที่ Jump Scare กันบันเทิงมากและผีแม่ชี Valak ในเรื่องนี้ก็เท่สุดๆ เป็นหนังที่ใส่อารมณ์การสืบสวนสอบสวนเข้าไปหน่อย จริงๆแล้วโดยภาพรวมมันคือหนังผีเข้าและไล่ผีไม่ต่างจาก The Exorcist มากนักแต่พอยุคสมัยเปลี่ยนไป เทคนิค เอฟเฟคต่างๆก็พัฒนาขึ้น
เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อนเช่นกันว่าด้วยครอบครัวหนึ่งที่ลูกสาวไปเล่นผีถ้วยแก้วแล้วก็เกิดอาการแปลกๆหลังจากนั้น คนมาสอบสวนก็หาว่าเด็กแสดงกว่าจะรู้ว่าผีเข้าจริงก็เล่นเอาเด็กแย่เหมือนกัน
เรื่องนี้มีหลายฉากที่ชอบเช่น ฉากลูกสาวชี้นิ้ว "แม่ นั่นใครน่ะ" และเหตุการณ์หลังจากนั้น ฉากตำรวจและเก้าอี้ในห้องทานข้าว ฉากแม่ดุลูกแล้วผีก็เอาตู้อัดประตูให้แม่ดูเป็นขวัญตา
Paranormal Activity (2009) หนังประเภทกล้องวงจรปิดที่ผมว่าเจ๋งทีเดียว ก่อนหน้านั้นมี The Blair Witch Project ที่ออกฉายตอนปี 1999 มันก็น่ากลัวดีอยู่เพราะตอนดูเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง(จากการปั่นของผู้สร้างหนัง) แต่ถ้าเฉพาะตัวหนังผมชอบเรื่องนี้มากกว่า
หนังว่าด้วยครอบครัวหนึ่งย้ายเข้าบ้านใหม่(นั่นแน่) ซึ่งแน่นอนว่ามีปัญหาแน่ๆแต่ไม่รู้ว่าอะไรเลยไปซื้อกล้องวงจรปิดมาติดแล้วก็เริ่มเห็นอะไรแปลกๆที่เกิดขึ้นในบ้านและแน่นอนว่ามันแรงขึ้นเรื่อยๆ
ความเจ๋งของเรื่องนี้คือผมจำฉากโปรดไม่ได้เลยครับ แต่จำบรรยากาศและความรู้สึกตอนดูได้มันน่ากลัวตรงบรรยากาศและพอเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดผมก็เริ่มระแวงกับอะไรที่มองไม่เห็น เป็นหนังไม่โฉ่งฉ่างบางคนอาจจะรู้สึกเนือยๆด้วยซ้ำ...แต่สำหรับผมเรื่องนี้ทำบรรยากาศได้หลอนเลยครับ
Juon (2002) หนังเรื่องนี้เปิดโลกหนังผีญี่ปุ่นสำหรับผม ที่จริงมี The RIng อีกเรื่องแต่ผมชอบเรื่องนี้มากกว่า ความแตกต่างระหว่างผีญี่ปุ่นกับผีฝรั่งคือบรรยากาศ ผมว่าผีฝั่งเอเชียจะสร้างบรรยากาศความหลอนได้เก่งกว่าผีฝรั่ง และบรรยากาศในเรื่อง Juon นี่ก็...อื้อหือ
เรื่องราวของหนังว่าด้วยครอบครัวหนึ่ง คุณผู้ชายผู้นำครอบครัวฆ่าภรรยา ลูกและแมวทิ้งหลังจากจับได้ว่าเมียตัวเองปันใจ หลังจากนั้นคุณผู้ชายก็โดยผีเมียตัวเองฆ่าตายส่งผลให้บ้านมีคำสาป ใครก็ตามที่เข้ามาอาศัยในบ้านนี้จะพบกับความหลอนและถูกบ้านนี้สูบทุกรายไป
ฉากโปรดของผมเช่น ฉาก "Nissan Honda Mitsubishi Subaru"...เดี๋ยวๆ นั่นมัน Scary movie เอาใหม่ ฉากผีผ้าห่ม รู้แหละว่ามีอะไรในผ้าห่มแน่ๆแต่หน้าขาวๆตาแป๋วๆนั่น...อื้อหือ ฉาก Izumi โดนผีจับหัว และฉากสระผม
Shutter (2004) หนังผีไทยที่ผมชอบที่สุดจนถึงตอนนี้ หนังมีความเป็นไทยเพราะหนังพูดภาษาไทยผีก็พูดภาษาไทย (ใช่สิ) พอเป็นหนังไทยมันเลยใกล้ตัวขึ้น บรรยากาศความหลอนและ Jump scare ใช้ได้เลย
เนื้อเรื่องว่าด้วยคู่รักชายหญิงขับรถไปเหยียบใครก็ไม่รู้แล้วหนีไป จากนั้นก็เจอเรื่องแปลกๆ แล้วปริศนาต่างๆก็กระจ่างขึ้นเรื่อยๆและความหลอน ความโกรธแค้นของผีก็มากขึ้นด้วย ผมชอบที่หนังผูกอาการบาดเจ็บบางอย่างของพระเอกเอาไว้ตั้งแต่หลังรถชนแล้วก็มาเฉลยตอนท้าย
ผมชอบหลายฉากของหนังเรื่องนี้เช่น ฉากผีตะกายขึ้นเตียง ฉากรูดปึกภาพถ่ายแล้วเป็นภาพเคลื่อนไหว และแน่นอนว่าฉากผีขี่คอ คุณเฟี้ยวฟ้าว(ยังชื่อนี้อยู่หรือเปล่า) เล่นเรื่องนี้ได้สุดยอดเลยครับไม่นึกว่าคนบุคลิกฮาๆแบบนี้จะเล่นบทผีได้อภิมหาน่ากลัว
โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต (2008) เรื่องที่ 8 แล้วครับ หนังเรื่องนี้ทำผมกลัวการเข้าโรงหนังไปพักหนึ่ง จริงๆแล้วก็เป็นหนังผีแบบไทยๆที่มักจะมีปมมากกว่าหนึ่งปมแล้วก็หลอกให้คนดูเชื่อว่าแก้ปมจบแล้วแต่แท้จริงแล้วไม่จบ
เรื่องราวว่าด้วยพนักงานโรงหนังที่แอบถ่ายหนังเอาไปขายตลาดมืด แล้วก็ไปเจอเรื่องประหลาดๆจนแฟนเก่าบอกว่าอาจจะเป็นเพราะหนังสร้างจากเรื่องจริงผีเลยโกรธที่ทำผิดกฎหมาย(อันนี้คิดเอง) แต่แท้จริงแล้วนั้น...
ผีชบาในหนังหลอนใช้ได้เลยครับยิ่งเป็นบรรยากาศในโรงหนังยิ่งทำให้ผมรู้สึกมีส่วนร่วมกับหนังจนกลัวการเข้าโรงหนังไปพักหนึ่งอย่างที่บอก ฉากโปรดเช่น...เอ่อ นึกไม่ออก เป็นอีกเรื่องที่ผมไม่ได้มีฉากประทับใจอะไรมากนักแต่ชอบที่บรรยากาศโดยรวมมากกว่า ถ้าเอาฉากที่จำได้เลยคือฉากที่เฉลยว่าผีชบาคือใคร มันไม่ได้น่ากลัวครับแต่น่าสงสารมากกว่า
อารมณ์ อาถรรพ์ อาฆาต (2002) เรื่องสุดท้ายแล้ว หนังสามชาติ ไทย เกาหลี ฮ่องกง สมัยนั้นมีหนังหลายเรื่องที่ชอบเล่าเรื่องเป็นส่วนๆแบบนี้อย่าง ผีสามบาท สี่แพร่ง ห้าแพร่ง แต่ผมชอบเรื่องนี้มากที่สุด
เรื่องราวแบ่งเป็น 3 เรื่อยย่อย เรื่องแรก "ความทรงจำ" จากเกาหลีว่าด้วยชายคนหนึ่งอยู่ในอพาร์ตเมนท์กับแฟนแล้ววันหนึ่งแฟนก็หายตัวไป ส่วนคุณผู้ชายก็เจอปัญหาความจำเสื่อมแล้วมักจะฝันเรื่องหลอนๆ แล้วก็ตัดไปเป็นผู้หญิงที่ตื่นมาที่ไหนก็ไม่รู้และหาทางกลับบ้าน เรื่องต่อมา "กงกรรมกงเกวียน" เกี่ยวกับครูคณะหุ่นเชิดที่อิจฉาเพื่อนที่ดังกว่าเอาแอบขโมยหุ่นเชิดไปลอกแบบแล้วสร้างหุ่นมาแสดงแทนแล้วก็เป็นเรื่อง เรื่องที่สาม "จะกลับมา" เรื่องของตำรวจเมียตายแล้วย้ายไปอยู่อพาร์ตเมนท์เก่าๆ และรู้จักกับเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามที่มีท่าทางแปลกๆและยิ่งแปลกกว่านั้นเมื่อได้รู้ความจริง
หนังเรื่องนี้โดยเฉพาะเรื่องสุดท้ายของฮ่องกงนี่ไม่หลอนเลยครับ แต่เศร้ามาก โดยรวมเรื่องความหลอนอาจสู้เรื่องอื่นๆไม่ได้แต่ฉากโปรดประจำเรื่องก็ไม่แพ้เรื่องอื่นเช่น ฉากเจาะหัว ฉากเมียครูรำตอนกลางคืน อันนี้หลอนใช้ได้เลย
สองเรื่องนี้แถม ไม่ใช่หนังแต่เป็นละครตอนกลางคืน ผมจำอะไรเกี่ยวกับ 2 เรื่องนี้ไม่ได้เลยนอกจากความน่ากลัว จำได้ว่าตอนนั้นแอบดูเพราะฉายค่อนข้างดึกและแม่ไล่ให้ไปนอน แม่ชอบดูผมก็แอบดูจากห้องนอนแล้วก็นอนไม่หลับ
พอแล้วครับ เดี๋ยวจะหลอนไป ที่จริงมีอีกหลายเรื่องที่เป็นเรื่องที่ชอบแต่ถ้าถามว่าชอบหนังผีเรื่องไหนบ้างทั้งหมดนี้คือเรื่องแรกๆที่เข้ามาในหัวครับ ใครชอบหนังผีเรื่องไหนบ้าง มาคุยกันครับ
Friday the 13th กับ หลากหลายหนังผีในดวงใจ
The Exorcist (1973) แน่นอนว่าเรื่องแรกคงเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้ เรื่องนี้ฉายก่อนผมจะเกิดเสียอีกกว่าจะได้ดูเรื่องนี้ก็ผ่านไปหลายปี ถ้าจำไม่ผิดผมดูเรื่องนี้ในรูปแบบวีดีโอ หนังโดยรวมว่าด้วยการไล่ผีเป็นหลัก แทบไม่มีฉาก jump scare ไม่มีเสียงดนตรีโฉ่งฉ่างแบบหนังผีสมัยใหม่ ถ้าดูหนังผีสมัยใหม่เยอะๆแล้วกลับไปดูเรื่องนี้อาจจะรู้สึกว่าไม่ได้น่ากลัวอะไร เพราะมันไม่มีความสมจริงเอาซะเลย ก็แหงล่ะ เอฟเฟคแบบยุค 70 จะมาสู้สมัยนี้ได้ยังไง
ความเจ๋งของหนังเรื่องนี้สำหรับผมคือปีศาจที่เข้า Regan นางเอก มันช่างเกลียดหลวงพ่อ เย้ยหยัน ต่ำทรามได้แบบสุดๆ หลายฉากยังเป็นฉากโปรดของผมจนทุกวันนี้เช่น ฉาก Regan แทงอวัยวะเพศตัวเองด้วยไม้กางเขน(ไม่เคยเห็นผีหรือปีศาจในหนังเรื่องอื่นทำแบบนี้) ฉากเดินสะพานโค้งลงบันไดที่ฝรั่งเรียกว่า "Spider Walk" และแน่นอนว่าฉากหมุนหัวกลับมาด้านหลัง หมุนสองครั้งด้วยถ้าจำไม่ผิดหมุนให้แม่ดูครั้งหนึ่ง แล้วก็หมุนให้พระดูอีกครั้งหนึ่ง
The Exorcist เปิดโลกหนังผีของผมเลยตอนที่ดูครั้งแรก เมื่อก่อนผมไม่ชอบดูหนังผี กว่าจะดูเรื่องนี้จบก็ดูบ้างทิ้งบ้างไปหลายรอบเท่าที่จำได้ผมดูหนังเรื่องนี้เป็นหลักเดือนเลยครับกว่าจะดูจนจบ หนัง 120 นาทีดูได้เป็นเดือนคุ้มจะตาย
Hellraiser (1987) เรื่องนี้ผมดูในรูปแบบวีดีโออีกเหมือนกันและกว่าจะดูจบก็หลักเดือนอีกเหมือนกัน ความต่างของเรื่องนี้กับ The Exorcist คือ Hellraiser แหวะกว่าเยอะ เป็นหนังประเภทสยองขวัญ ชวนให้คลื่นไส้ ฉากแรกก็ฉีกหนังฉีกเนื้อกันแล้ว เนื้อเรื่องสำหรับเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย แค่ใครเก็บกล่องสี่เหลี่ยมมีลายแปลกๆได้แล้วถูไปถูมาแล้วกันทำให้กลไกของมันทำงานได้ คนนั้นจะถูกลากลงนรก...แค่นี้เลย
ความเจ๋งของหนังเรื่องนี้อยู่ที่เหล่า Cenobites ซึ่งมีหลายตนและหัวหน้าของกลุ่มมีชื่อเล่นว่า "Pinhead" ซึ่งในหนังปีศาจตนนี้ไม่มีชื่อเรียกแต่คนดูเรียกกันว่า "หัวตะปู" หรือ Pinhead จนกลายเป็นสัญลักษณ์ เหล่า Cenobites แต่ละตนมีลักษณะแตกต่างกันไปตามความดิบเถื่อนในจิตใจตอนเป็นมนุษย์ แต่ทั้งหมดมาในชุดหนังสีดำ และการเปิดอวัยวะตรงนั้นตรงนี้ บางตนเจ๋งดีอย่าง Pinhead, Chatter แต่บางตนก็ "คิดได้ไง" อย่าง Dreamer ในภาค 3 ที่เป็นผู้หญิง หน้าโดนเกี่ยวดึงยืดออก คอถูกเปิดแล้วมีบุหรี่ปักอยู่ตรงกลาง...อะไรเนี๊ยะ
เท่ป่ะล่ะ...ยืนรวมกันอย่างกับชาวร๊อค Hellraiser เปิดโลกอีกด้านของหนังผีปีศาจสำหรับผม ตอนดูทำใจรับไม่ค่อยได้ครับมันแหวะมากๆ แต่พอกลับมาดูตอนหลังและได้ดูเบื้องหลัง แนวความคิดและการทำเอฟเฟคของปีศาจแต่ละตัวแล้วก็ทึ่งในความสามารถของศิลปินสมัยนั้น(และความอดทนของนักแสดงที่ต้องแต่งเป็น Cenobites)
The Conjuring (2013) กว่าจะถึง The Conjuring ผมก็ผ่านการดูหนังผีปีศาจมาแล้วไม่น้อยเช่น Casper, Ghost Buster นั่นทำให้ภูมิต้านทานความน่ากลัวของหนังผีของผมดีขึ้น แต่ The Conjuring ก็ทำให้ผมสะดุ้งและแอบเบือนหน้าหนีอยู่หลายฉาก และหนังเรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมชื่นชอบฝีมือการทำหนังผีของ Jams Wan และตามดูหนังของเขาแทบทุกเรื่อง
เรื่องราวในหนังไม่ซับซ้อน ครอบรัวหนึ่งย้ายมาอยู่บ้านใหม่แล้วก็เริ่มเกิดเรื่องแปลกๆในบ้าน จากนั้นก็เริ่มเกิดเรื่องแปลกๆกับคนที่มาอยู่และแรงขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายความรักของแม่ชนะทุกสิ่ง(แต่แม่น่วมใช้ได้)
ผมชอบหนังเรื่องนี้ตรงลูกเล่นของการหลอกของปีศาจในเรื่องและจังหวะการ Jump Scare ของหนังที่บางทีนึกว่าจะจั๊มพ์ก็ไม่จั๊มพ์ พอไม่คิดว่าจะจั๊มพ์ก็จัมพ์ซะอย่างนั้น ฉากโปรดของผมเช่นฉากการเล่นซ่อนหาปรบมือ ฉากรอเร็นตกไปชั้นใต้ดินแล้วมีขาห้อยลงมา และฉากที่ผมชอบมากๆคือฉากผ้าปลิวจากราวตากผ้าไปชั้น 2 มันง่ายแต่ไม่รู้สิ...เจ๋งดี
The Conjuring 2 (2016) ตามเรื่องตะกี้มาติดๆ เป็นหนังที่ Jump Scare กันบันเทิงมากและผีแม่ชี Valak ในเรื่องนี้ก็เท่สุดๆ เป็นหนังที่ใส่อารมณ์การสืบสวนสอบสวนเข้าไปหน่อย จริงๆแล้วโดยภาพรวมมันคือหนังผีเข้าและไล่ผีไม่ต่างจาก The Exorcist มากนักแต่พอยุคสมัยเปลี่ยนไป เทคนิค เอฟเฟคต่างๆก็พัฒนาขึ้น
เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อนเช่นกันว่าด้วยครอบครัวหนึ่งที่ลูกสาวไปเล่นผีถ้วยแก้วแล้วก็เกิดอาการแปลกๆหลังจากนั้น คนมาสอบสวนก็หาว่าเด็กแสดงกว่าจะรู้ว่าผีเข้าจริงก็เล่นเอาเด็กแย่เหมือนกัน
เรื่องนี้มีหลายฉากที่ชอบเช่น ฉากลูกสาวชี้นิ้ว "แม่ นั่นใครน่ะ" และเหตุการณ์หลังจากนั้น ฉากตำรวจและเก้าอี้ในห้องทานข้าว ฉากแม่ดุลูกแล้วผีก็เอาตู้อัดประตูให้แม่ดูเป็นขวัญตา
Paranormal Activity (2009) หนังประเภทกล้องวงจรปิดที่ผมว่าเจ๋งทีเดียว ก่อนหน้านั้นมี The Blair Witch Project ที่ออกฉายตอนปี 1999 มันก็น่ากลัวดีอยู่เพราะตอนดูเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง(จากการปั่นของผู้สร้างหนัง) แต่ถ้าเฉพาะตัวหนังผมชอบเรื่องนี้มากกว่า
หนังว่าด้วยครอบครัวหนึ่งย้ายเข้าบ้านใหม่(นั่นแน่) ซึ่งแน่นอนว่ามีปัญหาแน่ๆแต่ไม่รู้ว่าอะไรเลยไปซื้อกล้องวงจรปิดมาติดแล้วก็เริ่มเห็นอะไรแปลกๆที่เกิดขึ้นในบ้านและแน่นอนว่ามันแรงขึ้นเรื่อยๆ
ความเจ๋งของเรื่องนี้คือผมจำฉากโปรดไม่ได้เลยครับ แต่จำบรรยากาศและความรู้สึกตอนดูได้มันน่ากลัวตรงบรรยากาศและพอเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดผมก็เริ่มระแวงกับอะไรที่มองไม่เห็น เป็นหนังไม่โฉ่งฉ่างบางคนอาจจะรู้สึกเนือยๆด้วยซ้ำ...แต่สำหรับผมเรื่องนี้ทำบรรยากาศได้หลอนเลยครับ
Juon (2002) หนังเรื่องนี้เปิดโลกหนังผีญี่ปุ่นสำหรับผม ที่จริงมี The RIng อีกเรื่องแต่ผมชอบเรื่องนี้มากกว่า ความแตกต่างระหว่างผีญี่ปุ่นกับผีฝรั่งคือบรรยากาศ ผมว่าผีฝั่งเอเชียจะสร้างบรรยากาศความหลอนได้เก่งกว่าผีฝรั่ง และบรรยากาศในเรื่อง Juon นี่ก็...อื้อหือ
เรื่องราวของหนังว่าด้วยครอบครัวหนึ่ง คุณผู้ชายผู้นำครอบครัวฆ่าภรรยา ลูกและแมวทิ้งหลังจากจับได้ว่าเมียตัวเองปันใจ หลังจากนั้นคุณผู้ชายก็โดยผีเมียตัวเองฆ่าตายส่งผลให้บ้านมีคำสาป ใครก็ตามที่เข้ามาอาศัยในบ้านนี้จะพบกับความหลอนและถูกบ้านนี้สูบทุกรายไป
ฉากโปรดของผมเช่น ฉาก "Nissan Honda Mitsubishi Subaru"...เดี๋ยวๆ นั่นมัน Scary movie เอาใหม่ ฉากผีผ้าห่ม รู้แหละว่ามีอะไรในผ้าห่มแน่ๆแต่หน้าขาวๆตาแป๋วๆนั่น...อื้อหือ ฉาก Izumi โดนผีจับหัว และฉากสระผม
Shutter (2004) หนังผีไทยที่ผมชอบที่สุดจนถึงตอนนี้ หนังมีความเป็นไทยเพราะหนังพูดภาษาไทยผีก็พูดภาษาไทย (ใช่สิ) พอเป็นหนังไทยมันเลยใกล้ตัวขึ้น บรรยากาศความหลอนและ Jump scare ใช้ได้เลย
เนื้อเรื่องว่าด้วยคู่รักชายหญิงขับรถไปเหยียบใครก็ไม่รู้แล้วหนีไป จากนั้นก็เจอเรื่องแปลกๆ แล้วปริศนาต่างๆก็กระจ่างขึ้นเรื่อยๆและความหลอน ความโกรธแค้นของผีก็มากขึ้นด้วย ผมชอบที่หนังผูกอาการบาดเจ็บบางอย่างของพระเอกเอาไว้ตั้งแต่หลังรถชนแล้วก็มาเฉลยตอนท้าย
ผมชอบหลายฉากของหนังเรื่องนี้เช่น ฉากผีตะกายขึ้นเตียง ฉากรูดปึกภาพถ่ายแล้วเป็นภาพเคลื่อนไหว และแน่นอนว่าฉากผีขี่คอ คุณเฟี้ยวฟ้าว(ยังชื่อนี้อยู่หรือเปล่า) เล่นเรื่องนี้ได้สุดยอดเลยครับไม่นึกว่าคนบุคลิกฮาๆแบบนี้จะเล่นบทผีได้อภิมหาน่ากลัว
โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต (2008) เรื่องที่ 8 แล้วครับ หนังเรื่องนี้ทำผมกลัวการเข้าโรงหนังไปพักหนึ่ง จริงๆแล้วก็เป็นหนังผีแบบไทยๆที่มักจะมีปมมากกว่าหนึ่งปมแล้วก็หลอกให้คนดูเชื่อว่าแก้ปมจบแล้วแต่แท้จริงแล้วไม่จบ
เรื่องราวว่าด้วยพนักงานโรงหนังที่แอบถ่ายหนังเอาไปขายตลาดมืด แล้วก็ไปเจอเรื่องประหลาดๆจนแฟนเก่าบอกว่าอาจจะเป็นเพราะหนังสร้างจากเรื่องจริงผีเลยโกรธที่ทำผิดกฎหมาย(อันนี้คิดเอง) แต่แท้จริงแล้วนั้น...
ผีชบาในหนังหลอนใช้ได้เลยครับยิ่งเป็นบรรยากาศในโรงหนังยิ่งทำให้ผมรู้สึกมีส่วนร่วมกับหนังจนกลัวการเข้าโรงหนังไปพักหนึ่งอย่างที่บอก ฉากโปรดเช่น...เอ่อ นึกไม่ออก เป็นอีกเรื่องที่ผมไม่ได้มีฉากประทับใจอะไรมากนักแต่ชอบที่บรรยากาศโดยรวมมากกว่า ถ้าเอาฉากที่จำได้เลยคือฉากที่เฉลยว่าผีชบาคือใคร มันไม่ได้น่ากลัวครับแต่น่าสงสารมากกว่า
อารมณ์ อาถรรพ์ อาฆาต (2002) เรื่องสุดท้ายแล้ว หนังสามชาติ ไทย เกาหลี ฮ่องกง สมัยนั้นมีหนังหลายเรื่องที่ชอบเล่าเรื่องเป็นส่วนๆแบบนี้อย่าง ผีสามบาท สี่แพร่ง ห้าแพร่ง แต่ผมชอบเรื่องนี้มากที่สุด
เรื่องราวแบ่งเป็น 3 เรื่อยย่อย เรื่องแรก "ความทรงจำ" จากเกาหลีว่าด้วยชายคนหนึ่งอยู่ในอพาร์ตเมนท์กับแฟนแล้ววันหนึ่งแฟนก็หายตัวไป ส่วนคุณผู้ชายก็เจอปัญหาความจำเสื่อมแล้วมักจะฝันเรื่องหลอนๆ แล้วก็ตัดไปเป็นผู้หญิงที่ตื่นมาที่ไหนก็ไม่รู้และหาทางกลับบ้าน เรื่องต่อมา "กงกรรมกงเกวียน" เกี่ยวกับครูคณะหุ่นเชิดที่อิจฉาเพื่อนที่ดังกว่าเอาแอบขโมยหุ่นเชิดไปลอกแบบแล้วสร้างหุ่นมาแสดงแทนแล้วก็เป็นเรื่อง เรื่องที่สาม "จะกลับมา" เรื่องของตำรวจเมียตายแล้วย้ายไปอยู่อพาร์ตเมนท์เก่าๆ และรู้จักกับเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามที่มีท่าทางแปลกๆและยิ่งแปลกกว่านั้นเมื่อได้รู้ความจริง
หนังเรื่องนี้โดยเฉพาะเรื่องสุดท้ายของฮ่องกงนี่ไม่หลอนเลยครับ แต่เศร้ามาก โดยรวมเรื่องความหลอนอาจสู้เรื่องอื่นๆไม่ได้แต่ฉากโปรดประจำเรื่องก็ไม่แพ้เรื่องอื่นเช่น ฉากเจาะหัว ฉากเมียครูรำตอนกลางคืน อันนี้หลอนใช้ได้เลย
สองเรื่องนี้แถม ไม่ใช่หนังแต่เป็นละครตอนกลางคืน ผมจำอะไรเกี่ยวกับ 2 เรื่องนี้ไม่ได้เลยนอกจากความน่ากลัว จำได้ว่าตอนนั้นแอบดูเพราะฉายค่อนข้างดึกและแม่ไล่ให้ไปนอน แม่ชอบดูผมก็แอบดูจากห้องนอนแล้วก็นอนไม่หลับ
พอแล้วครับ เดี๋ยวจะหลอนไป ที่จริงมีอีกหลายเรื่องที่เป็นเรื่องที่ชอบแต่ถ้าถามว่าชอบหนังผีเรื่องไหนบ้างทั้งหมดนี้คือเรื่องแรกๆที่เข้ามาในหัวครับ ใครชอบหนังผีเรื่องไหนบ้าง มาคุยกันครับ