JJNY : 5in1 สาวอิสราเอลกล้าหาญ│ญาติแรงงาน วอนช่วยเหลือ│ก้าวไกลซัดไร้หน่วยงาน│ปปช.เกาะติด│“ธปท.”หวั่นสงครามยืดเยื้อ

สาวอิสราเอลกล้าหาญ วางแพลนซุ่มโจมตี จับอาวุธบุกสู้ฮามาส ช่วยชาวบ้าน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7911443
 
 
ฮีโร่หญิง! สาวอิสราเอลกล้าหาญ วางแพลนซุ่มโจมตี จับอาวุธบุกสู้กลุ่มฮามาส เพื่อช่วยชาวบ้านให้ปลอดภัย
 
ฮามาส องค์กรติดอาวุธปาเลสไตน์เปิดฉากการโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่สังหารพลเรือนหลายร้อยคน แต่ยังจับตัวประกันหลายสัญชาติไปยังฉนวนกาซา
 
ล่าสุด สำนักข่าวอิสราเอลกำลังยกย่องวีรสตรีสุดกล้าหาญที่ไม่เกรงกลัวอันตรายวางแพลนป้องกันช่วยประชาชนจากกลุ่มฮามาสได้หวุดหวิด โดยอินบาร์ ลีเบอร์แมน สาวชาวอิสราเอลวัย 25 ปี ผู้ประสานงานด้านความปลอดภัยในพื้นที่คิบบุตซ์ทางตอนใต้ของอิสราเอล ซึ่งเธออยู่รอบ ๆ ฉนวนกาซามาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2022
 
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา อินบาร์ ได้ยินเสียงปืนและระเบิดดังขึ้นในคิบบุตซ์ เมื่อผู้ก่อการร้ายเปิดฉากโจมตีอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งเสียงดังกล่าวแตกต่างจากเสียงที่ได้ยินระหว่างการโจมตีด้วยจรวดตามปกติในคิบบุตซ์
 
อินบาร์จึงรีบเปิดคลังอาวุธ แจกจ่ายปืนให้กับทีมรักษาความปลอดภัยทั้ง 12 คน, จัดหน่วยฉุกเฉิน, เตรียมแผนงานเพื่อปกป้องคิบบุตซ์ เธอวางกำลังหน่วยคิบบุตซ์นิกของเธอไว้ในตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ทั่วนิคม และวางแพลนซุ่มโจมตีบนรั้วที่ทำให้กลุ่มมือปืนไม่ระวัง พร้อมประสานการตอบโต้อย่างเด็ดขาดท่ามกลางการโจมตีที่กำลังดำเนินอยู่
  
แม้ว่าเธอจะได้รับคำสั่งให้เป็นเตรียมเป็นหน่วยสำรองเท่านั้น แต่อินบาร์กลับตัดสินใจอย่างรอบคอบ เป็นเหตุให้ผู้ก่อการร้ายทั้งหมดที่มาถึงคิบบุตซ์ถูกสังหารบนรั้ว ซึ่งเธอสังหารผู้ก่อการร้ายที่รุกคืบเข้ามา 5 คนด้วยตัวเธอเอง ในขณะที่คนอื่น ๆ บุกยิงอีก 20 คนในระยะเวลาสี่ชั่วโมงจึงสามารถช่วยชีวิตของกลุ่มชาวบ้านได้
 
ผู้ประสานงานด้านวัฒนธรรมกล่าวกับสำนักข่าวว่า “มันน่าทึ่งมาก สามีของฉันเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยสำรองที่ทำงานเพื่อป้องกันการบาดเจ็บล้มตาย พวกเขาได้ยินเสียงปืนและติดต่อกับสมาชิกคนอื่น ๆ ในหน่วยเตรียมพร้อม
 
พวกเขาเข้าใจว่า ได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อม แต่อินบาร์ตัดสินใจว่าจะไม่รอและกระโดดลงมือปฏิบัติจริง ในความเป็นจริง การที่พวกเขาทำตั้งแต่เนิ่น ๆ  สามารถป้องกันการบาดเจ็บล้มตายได้หลายสิบคน” เธอกล่าวเสริม
 
ขอบคุณที่มาจาก Maariv Nypost



ญาติแรงงานไทย ทำงานอิสราเอล วอนช่วยเหลือ หลังมีคลิปถูกจับตัว แต่ไม่มีรายชื่อในบัญชีคนไทย
https://siamrath.co.th/n/484141

สถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกองกำลังกลุ่มฮามาส ที่ยังเกิดขึ้นต่อเนื่องยังส่งผลกระทบต่อพี่น้องแรงงานจังหวัดน่าน  ซึ่งก่อนหน้านั้น ได้รับยืนยันว่าเสียชีวิต 1 ราย  ได้แก่นายธวัชชัย (เช้ง) แซ่ท้าว บ้านเลขที่ 45 หมู่ที่ 7 ตำบลป่ากลาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน   และที่ยังติดต่อต่อไม่ได้อีก 1 ราย ได้แก่นายศรายุทธ ปั้นกิจวานิชเจริญ  อายุ 33 ปี   หมู่ 6 ต.ป่ากลาง อ.ปัว
 
ล่าสุด ญาติของ นายบรรณวัชร หรือ ลี  แซ่ท้าว แรงงานไทยวัย 27 ปี บ้านเลขที่ 181 หมู่ที่ 7 บ้านปางแก ตำบลทุ่งช้าง อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน ที่เดินทางไปขายแรงงานที่ประเทศอิสราเอล  วิงวอนขอให้ช่วยเหลือสามี หลังติดต่อไม่ได้ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม และพบมีคลิปภาพเผยแพร่ว่าถูกจับตัวไป
 
โดย นางสาววิชญาดา แซ่ย่าง ภรรยาของ นายบรรณวัชรฯ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า  เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนเองกับสามี คือ นายลี ได้วีดีโอคอลพูดคุยกัน  โดยยังได้ขอคุยกับลูกๆ โดยเฉพาะคนที่ 3 ที่เพี่งคลอด ขณะที่ไปทำงานที่อิสลาเอล  อายุ ได้ 1 เดือนกับ 8 วัน ยังไม่เคยได้อุ้มลูก เห็นเพียงผ่านวีดีโอคอล และรูปถ่าย  จากนั้นได้ของพูดคุยกับแม่และพ่อ และก็คุยกับตน จากนั้นอยู่ดีๆ สัญญาณก็ถูกตัดไป ตนพยายามติดต่อกลับไปก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย   
 
จนเมื่อวานเพื่อนที่ทำงานได้ติดต่อมา เล่าเหตุการณ์ว่า หลังจากสัญญาณถูกตัด กองกำลังติดอาวุธได้บุกเข้ามาในแคมป์คนงานแล้วกราดยิง ไม่เลือกหน้า นายลีได้วิ่งไปปิดประตูห้องแต่ถูกยิงเข้าบริเวณสีข้างของลำตัว แล้วถูกลากขึ้นรถไป ไม่ทราบชะตากรรม    พร้อมกับส่งคลิปที่มีการเผยแพร่ โดยในภาพมีสามีตนเองถูกกลุ่มติดอาวุธควบคุมตัวไว้รวมกับคนอื่นๆ ตนอยากขอวิงวอนให้หน่วยงานภาพรัฐช่วยติดตามด้วยเนื่องจากนายลีเป็นเสาหลักของครอบครัว   มีหนี้สินเยอะจากการประกอบอาชีพในพื้นที่ที่ไม่พอกับรายจ่าย และหนี้ที่เกิดจากค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานอีกแสนกว่าบาท และกำลังไปทำงานได้ 9 เดือนเท่านั้น หนี้สินก็ยังใช้ไม่ได้ 
 
พร้อมกับโทรวีดีโอคอลหาเพื่อนแรงงาน ที่รอการช่วยเหลืออยู่เช่นกัน เพื่อยื่นยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสามีตนเอง  ด้าน นายบี (นามสมมุติ ขอปิดบังในหน้าและชื่อสกุลสถานที่ตั้ง) แรงงานจากจังหวัดเชียงรายได้วีดีโอคอลเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า (เสียงวีดีโอคอล) ว่า เห็นนายบรรณวัชร ถูกจับตัวไป  ซึ่งขณะนี้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ตนนั้นก็ไม่ทราบ เพราะตนเองก็ยังคงรอความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทยอยู่เช่นกัน  
 
อย่างไรก็ตามวันนี้ 11 ต.ค.  นายกฤชเพชร เพชระบูรณิน   รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน  นำส่วนราชการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.น่าน  หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัด    ได้เข้าเยี่ยมครอบครัวผู้สูญเสีย เพื่อให้กำลังใจ และให้คำแนะนำแนวทางการช่วยเหลือตามระเบียบราชการ
 
ขณะที่ นายศิลปไชย แซ่โซ้ง  กำนันตำบลป่ากลาง  อ.ปัว จ.น่าน   ได้ฝากให้ภาครัฐเร่งช่วยเหลือแรงงงานไทย ซึ่งขณะนี้มีหลายรายอยากกลับประเทศไทย แต่ยังไม่กล้าตัดสินใจ ยังทนอยู่  เนื่องจากกังวลปัญหาหนี้สินที่มีอยู่ โดยเฉพาะหนี้สินที่เกิดจากเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ที่ยังไม่หมด และยังกังวลว่ากลับมาจะมีงานทำหรือไม่ รวมไปถึงหากสถานการณ์สงบแล้วจะสามารถหากจะกลับไปทำงานต่างประเทศได้อีกหรือไม่ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกหรือไม่  อยากวอนให้เร่งให้คำตอบที่ชัดเจน เพื่อที่พี่น้องแรงงานจะได้กล้าตัดสินใจกลับบ้านก่อนเพื่อความปลอดภัย


 
สส.ก้าวไกล ซัดไร้หน่วยงานเหลียวแลแรงงานอิสราเอล ลั่นมีปัญหาส่งแรงงานไปได้ก็ต้องนำกลับมาได้
https://www.pptvhd36.com/news/การเมือง/207850

ประชุมสภา สส.แห่หารือสถานการณ์แรงงานในอิสราเอล เพื่อไทยแนะรัฐบาลสื่อสารมาตรการช่วยเหลือแรงงานเป็นระยะ ขณะก้าวไกลซัดไร้หน่วยงานเหลียวแล ลั่นมีปัญหาส่งแรงงานไปได้ก็ต้องนำกลับมาได้
 
ที่รัฐสภา วันนี้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้นประธานสภาได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือเรื่องต่างๆ โดย น.ส.ชนก จันทาทอง  สส. หนองคาย พรรคเพื่อไทย หารือ ถึงปัญหาแรงงานได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่อิสราเอลว่า ตนเองได้รับเรื่องร้องเรียนจากแรงงานจำนวนมาก ทั้งที่ถูกจับตัวและได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ทราบชะตาชีวิต ขณะที่ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานที่ได้ให้ข้อมูลตัวเลขแรงงานไทยที่ไปทำงานในอิสราเอลมากถึง 25,000 คน  

ในจำนวนนี้เป็นแรงงานที่มาจากภาคอีสานถึง 19,000 คน น.ส.ชนก กล่าวว่าคนไทยที่ไปทำงานที่อิสราเอลเป็นคนยากจน กู้หนี้ยืมสินเพื่อส่งตัวเองไปประเทศกลุ่มเสี่ยง เพื่อหาเงินหารายได้กลับมาส่งเสียครอบครัวที่เมืองไทย ตนจึงอยากเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
   
1. ช่วยสื่อสารเป็นระยะๆถึงมาตรการการช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอล
2. รัฐบาลมีความช่วยเหลือเยียวยาแรงงานไทยที่เสียชีวิต รวมถึงแรงงานที่ต้องตกงานและอพยพกลับมายังประเทศไทย เพื่อเป็นการปลอบขวัญครอบครัวและลดความกังวลของแรงงานไทยในอิสราเอล
 
ขณะที่ นายณัฐพงษ์ พิพัฒน์ชัยศิริ สส.อุดรธานี พรรคก้าวไกล กล่าวว่า อุดรธานีเป็นจังหวัดที่ส่งแรงงานออกไปเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ มีแรงงานอุดรธานีที่ยังตกค้างอยู่ที่อิสราเอลกว่า 4,000 กว่าคน ซึ่งเป็นแรงงานที่ไปตามระบบและถูกต้องตามกฎหมาย แรงงานจึงคาดหวังว่าภาครัฐและภาคเอกชนที่ส่งแรงงานออกไปจะมีความรับผิดชอบดูแลให้ชีวิตและทรัพย์สินปลอดภัย แต่น่าเศร้า เพราะ สส.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากญาติผู้ใกล้ชิดผู้ประสบเหตุว่ายังไม่มีหน่วยงานไหน หรือองค์การใดยื่นมือเข้าไปช่วยอย่างชัดเจน ตนจึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานและภาครัฐที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคเอกชนบริษัทจัดหางาน ถ้ามีปัญญาส่งคนเหล่านี้ไปทำงาน เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นก็ต้องมีปัญหานำกลับมา ถ้าไม่มีก็ขอให้ถอดใบอนุญาตผู้ประกอบการดังกล่าว ที่สำคัญคนกลุ่มนี้ก่อนจะออกไปทำงานคนเหล่านี้เป็นเกษตรกรหาเช้ากินค่ำ และไม่รู้ว่าประเทศที่ไปมีความเสี่ยงขนาดไหน แรงงานหลายคนที่ร้องเรียนเข้ามาไม่กล้ากลับ เพราะกลัวว่ากลับมาแล้วจะไม่มีงานทำมาใช้หนี้ใช้สิน 



ปปช.เอาจริง ตั้งกก.เกาะติด โครงการเงินดิจิทัล1หมื่น ฮึ่ม เตือนไม่ฟังต้องรับผิดชอบ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7911442

ป.ป.ช. เอาจริง! ตั้งคณะกรรมการเกาะติด โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ฮึ่ม เตือนแล้วไม่ฟัง ถ้ามีปัญหา ครม.ต้องรับผิดชอบ
 
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า ในการประชุม ป.ป.ช. วันที่ 11 ต.ค. ที่ประชุม ป.ป.ช. มีมติให้สำนักงาน ป.ป.ช. ตั้งคณะกรรมการพิจารณาศึกษาโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
  
โดยให้เชิญนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน ด้านเศรษฐศาสตร์ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาร่วมเป็นคณะกรรมการ เพื่อศึกษารายละเอียดโครงการดังกล่าวว่า มีข้อน่าห่วงใย หรือความสุ่มเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดปัญหาการทุจริตหรือผลกระทบด้านเศรษฐกิจในระยะยาว ตามที่มีนักวิชาการและอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยท้วงติงมาหรือไม่
 
ขณะนี้อยู่ระหว่างการให้สำนักงาน ป.ป.ช. ไปพิจารณาจะเชิญบุคคลใดบ้าง มาร่วมเป็นคณะกรรมการชุดดังกล่าว เพื่อสรุปความเห็นโครงการดังกล่าว และให้ข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาล แต่ยังไม่ได้ระบุกรอบเวลาชัดเจนจะใช้เวลาศึกษานานเท่าใด
 
ด้าน นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการป.ป.ช. เปิดเผยว่า สำนักงาน ป.ป.ช. อยู่ระหว่างการพิจารณาจะเชิญผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านใดบ้าง มาร่วมเป็นคณะกรรมการศึกษาโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยยังไม่ระบุตัวบุคคลชัดเจนจะเชิญใครมาบ้าง
 
คณะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่วิเคราะห์และเฝ้าระวังโครงการดังกล่าวว่า มีความน่าห่วงใยหรือความสุ่มเสี่ยงในด้านใดบ้าง เพราะตามมาตรา 32 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ให้อำนาจ ป.ป.ช. ให้คำแนะนำหน่วยงานรัฐและรัฐบาล เพื่อให้วางมาตรการป้องกันการทุจริตหรือข้อน่าห่วงใยที่อาจเกิดขึ้นกับการดำเนินโครงการต่างๆ ที่มีความสุ่มเสี่ยงได้
 
เบื้องต้นในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ป.ป.ช.จะรวบรวมประเด็นที่มีข้อถกเถียง และเชิญผู้มีความรู้ ผู้ทรงคุณวุฒิมาศึกษาร่วมกันว่า โครงการมีความสุ่มเสี่ยง หรือข้อควรระวังในการดำเนินการหรือไม่ จากนั้น ถ้ามีข้อห่วงใยจะเสนอความเห็นไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ปรับปรุงการปฏิบัติราชการ
 
เหมือนกับโครงการจำนำข้าว ที่ ป.ป.ช. เคยตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ หาก ป.ป.ช. มีข้อเสนอแนะหรือข้อท้วงติงแจ้งไปยังครม.แล้ว หากครม.ไม่ปฏิบัติตามแล้วเกิดความเสียหายขึ้นมา ก็ต้องรับผิดชอบ เพราะถือว่าเตือนแล้ว แต่ไม่ฟัง เมื่อเกิดปัญหาต้องรับผิดชอบ” เลขาฯ ป.ป.ช. กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่