ตาแห้ง…. โรคที่ใครๆ ก็เป็น

โรคตาแห้ง ปัจจุบันนี้ ร้อยละ 90% คนทุกคนมักจะเป็นโรคนี้ค่ะ เนื่องจากอุปกรณ์ดิจิตอล ต่างๆ เข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของการเกิดโรคตาแห้ง  ทั้งการทำงาน การพักผ่อน และงานอดิเรกของใครหลายๆ คน มักจะใช้งานอุปกรณ์ดิจิตอลเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น มือถือ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต ไอแพด เป็นต้น 
         การใช้งานอุปกรณ์ดิติจิตอลเหล่านี้ ถ้าจดจ่อกับการใช้งานมากๆ เราจะลืมกระพริบตา และเจอแสงจากหน้าจอเป็นระยะเวลานานๆ  เมื่อลืมกระพริบตา และจ้องมองจอนานๆ สุดท้ายจะเกิดอาการตาแห้งในที่สุดค่ะ 
อาการตาแห้งมักจะมีอาการ แสบตา เคืองตา น้ำตาไหล ซึ่งบางคนก็ไม่รู้ตัวว่ามีอาการตาแห้งเหล่านี้เกิดขึ้น  หรือไม่ได้สนใจว่าอาการที่เป็นอยู่นั้นเป็นอาการตาแห้ง และบางคนรู้ตัวว่ามีอาการแต่อาจจะไม่ได้สนใจเลยก็มีค่ะ 
 

โรคตาแห้ง สำคัญต่อดวงตาของเรามากๆ เลยนะคะ
         โรคตาแห้งเกิดจากผลิตน้ำตาน้อย มาหล่อเลี้ยงที่ดวงตาของเราไม่พอ หรือน้ำตาผลิตมาปกติ แต่ผลิตออกมาแล้วไม่มีประสิทธิภาพทำให้ระเหยไว จนหล่อเลี้ยงดวงตาไม่พอ  จนเกิดตาแห้งในที่สุด 
         อาการของตาแห้ง 
           -แสบตา
           - เคืองตา 
           - น้ำตาไหล 
           - สู้แสงไม่ได้ 
           - บางคนถึงขั้นตาแดงแล้วน้ำตาไหลร่วมด้วย 
           - หรือรุนแรงจนปวดตา และตามัวไปเลยก็ได้ค่ะ 

โดยอาการที่กล่าวมา เป็นอาการตาแห้ง ซึ่งจะนำไปสู้โรคตาต่างๆ มากมายเช่น 
           -  เยื่อบุตาขาวอักเสบ
           -  กระจกตาเป็นแผล (ส่งผลทำให้ตามัว และอาจจะมองไม่เห็นได้ในที่สุด)
สาเหตุของตาแห้งเกิดจาก?
           1. พฤติกรรมการใช้ชีวิต และการทำงาน.      
                การใช้งานอุปกรณ์ดิจิตอลต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ มือถือ แท็บเล็ต ไอแพด ค่อนข้างเยอะ และใช้งานเป็นระยะเวลานานๆ การจ้องมองอุปกรณ์เหล่านี้ เป็นระยะเวลานานๆ ทำให้เราลืมกระพริบตา ทำให้น้ำตาระเหยไว  และเกิดอาการตาแห้ง

           2.การใช้คอนแทคเลนส์ 
               คอนแทคเลนส์ จะมีค่าอมน้ำอยู่ในตัวเลนส์ เมื่อไรก็ตามที่คอนแทคเลนส์แห้ง คอนเแทคเลนส์จะดูดน้ำจากตาของเราเพื่อไปกักเก็บไว้ในตัวคอนแทค จึงทำให้เราเกิดอาการตาแห้ง และนอกจากนี้คอนแทคเลนส์ จะเปรียบเสมือนเป็นพลาสติกแปะที่กระจกตาของเรา ทำให้กระจกตาถูกบัง ออกซิเจน และสารอาหาร เข้าสู่ดวงตา ทำให้เกิดโรคตาแห้ง  ดวงตาขาดออกซิเจนและขาดสารอาหารได้

            3.ยาบางชนิด  
                การกินยาบางชนิด ออกฤทธิ์ส่งผลทำให้ตาแห้งร่วมด้วย เช่น ยาแก้แพ้ ยาคุมกำเนิด และยาสเตียรอย 

           4.ลักษณะงานที่ทำ 
               เช่น งานต้องออกกลางแจ้ง ต้องเจอฝุ่นละออง และมลพิษต่างๆ  ฝุ่นละอองเม็ดเล็กๆ สามารถเข้าตาและอุดตันที่ต่อมไขมันที่มีหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของการผลิตน้ำตา ทำให้ผลิตน้ำตาได้ไม่ดี ส่งผลให้เกิดอาการตาแห้งได้ 

เราสามารถดูแลรักษาอาการตาแห้งได้ดังนี้
            1.ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 
               โดยการลดระยะเวลาการใช้งานอุปกรณ์ดิจิตอลต่างๆ หรือถ้าหากเราจำเป็นต้องใช้งานต้องคอยพักสายตาระหว่างการใช้งาน ด้วยใช้กฏ 20-20-20 rule 
กฏ 20-20-20 rule  คือ ต้องพักสายตาทุกๆ 20 นาที เป็นเวลา 20 วินาที โดยการมองออกไปข้างนอก ไกล ๆ ที่ 20 ฟุตๅ

 

             2.ใส่แว่นตา
                ใส่แว่นตาเพื่อปกป้องดวงตาจากมลภาวะต่างๆ เมื่อต้องออกกลางแจ้ง เช่น ลม ฝุ่น ควัน แสงแดด หรือใส่แว่นป้องกันแสงสีน้ำเงิน เมื่อต้องทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ มือถือ แท็บเล็ต ไอแพด 

             3.เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับดวงตา 
                โดยการหยอดน้ำตาเทียม จะต้องเลือกความเข้มข้นของน้ำตาเทียมให้เหมาะกับความแห้งของตาเราที่เป็นอยู่นะคะ ถ้าเราตาแห้งมากๆ ให้เลือกน้ำตาเทียมที่มีความเข้มข้นสูง แนะนำเป็นน้ำตาเทียมรายวัน เนื่องจากไม่มีสารกันเสียผสมค่ะ 

             4.เข้ารับการรักษาอาการตาแห้ง 
                 การรักษาอาการตาแห้งที่รักษาตั้งแต่ต้นเหตุของอาการนี้  จะเป็นการรักษาแบบวิธี การทำ  Eye Spa ค่ะ 
                 Eye Spa เป็นการรักษาตาแห้งตั้งแต่ต้นเหตุของการเกิดอาการตาแห้ง ด้วยวิธีการทำความสะอาดต่อมไขมันที่เปลือกตา เพื่อให้ต่อมไขมันมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น จะส่งผลให้น้ำตามีประสิทธิภาพตามมา และลดอาการตาแห้งที่เกิดขึ้นได้ค่ะ 

      ถ้าเราเป็นตาแห้งแล้วไม่ได้รับการดูแลรักษา อาการตาแห้งเหล่านี้จะรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของเรา และการทำงานของเราด้วย เพราะฉะนั้นมาดูแลสุขภาพดวงตาของเรากันนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่